Group Blog
สิงหาคม 2553

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
เตือนภัยด้วยความรัก เรื่องเล่าจากประสบการณ์ อันไร้สติ

สวัสดีจ๊ะลูกๆวันนี้เป็นวันที่เท่าไหร่น้า อ๋อ 21สิงหาคม 2010 นี่เอง
สาวน้อยของหม่าม้า ก็ 4 ขวบกว่านิดๆหนุ่มน้อยก็ 2ขวบหกเดือนนิดๆ
อื้ม หลับกันหมดแล้วชิเนอะ หันไปมองหน้าเด็กๆ แล้วอื้มมมเวลาผ่านไปเร็วดีแฮะ แป๊บๆเอง



เตือนภัยด้วยความรักเรื่องเล่าจากประสบการณ์ อันไร้สติของเตี่ยกับหม่าม้า ทำให้เข้าทางโจรจนได้



เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเวลาประมาณ เที่ยงคืนกว่าเกือบตีหนึ่ง เตี่ยกับหม่าม้าอยู่ในเส้นทางขากลับจากทำธุระ บนถนนเส้น 345 ทางก่อนข้ามสะพานแยกบางคูวัด เตี่ยก็ขับรถมาด้วยความระวังเพราะวันนั้นเนี่ย มีพั้นช์ๆนอนหลับติดรถไปด้วยความเร็วที่เตี่ยขับตอนนั้นก็ประมาณ 60-80กม/ชมซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เร็วเลยจากความเร็วปกติของเตี่ย เราขับอยู่ช่องทางซ้ายเพราะว่ารถเราเป็นรถกะบะ แต่อยู่ดีดี ก็มีรถเก๋งคันนึงวิ่งเข้ามาเบียดเราจะให้เราเข้าเส้นซ้ายอีกให้ได้ เราก็ไม่อะไร มองซ้ายซิว่างมั้ยว่างปุ๊บก็เบี่ยงให้เค้าไป ในเวลานั้นเนี่ยเรามองแน่ใจแล้วนะว่ามันว่างแต่กลับมีรถเก๋งHonda City รุ่นก่อนเปลี่ยนโฉมสีบรอนซ์ทอง เบียดเข้ามาด้วยความเร็วมากเลย เราสองคนก็ไม่รู้นะว่าโดนรถเราหรืออะไร รึเปล่า แต่ว่าในตอนนั้นก็เริ่ม ตกใจแล้วล่ะ ยังไม่จอดรถในทันทีหรอกนะวิ่งรถต่อไปเรื่อยๆ แต่รถคันนั้นก็มากระพริบไฟถี่ให้เราจอดรถ



วินาทีนั้นหม่าม้าบอกเตี่ยว่าเตี่ยเค้าตามมาเหรอ จะบอกเตี่ยแล้วแหละว่าอย่าจอดแต่ก็ไม่ทันได้บอก เตี่ยจอดรถให้แล้วก็ลงไปดูรถเราก่อนเลยว่ารถเป็นอะไรมั้ยแต่รถเราก็เนียนมากเลยไม่มีรอยอะไรในตอนนั้นเท่าที่เราเห็นกันได้เจ้าของรถคันนั้นเดินเข้ามาถามว่า พี่ขับรถยังงัยอ่ะ พี่มาดูรถผมซะก่อนเตี่ยก็เดินไปดู แล้วก็ขอโทษขอโพยเค้า แล้วก็บอกว่า เดี่ยวเรียกประกันให้นะพี่ผมมีประกัน หม่าม้าตอนนั้นก็นั่งอยู่ในรถ (มือถือก็ไม่ได้จ่ายตังค์ เซงจริงๆเลย )เห็นแล้วรู้เลยว่าท่าไม่ดี แต่เอาว่ะลงไปช่วยเตี่ยก่อนเข้าไปรถเค้าเป็นรอยทั้งแถบเลย เราก็แอะใจแระ เฮ้ยยยแล้วทำไมรถเราไม่มีรอยก็ไม่ว่าอะไรนะตอนนั้น บอกเลย เดี่ยวเรียกประกันให้ แต่เจ้าของรถคันนั้นเค้าไม่ยอม



เค้าบอกว่าเนี่ยผมรีบ รีบจะไปดูคนป่วยที่ ลพบุรี ขอเลยล่ะกัน 3,200บาท



หม่าม้าตอบทันทีเลยว่าไม่มี เราไม่มีเงินสดติดตัวขนาดนั้นหรอกคุณ



เค้าก็บอกว่าอ่ะงั้นพี่จะช่วยผมเท่าไหร่ล่ะ



เราก็อึ้งไปนิดนึงตอบไปว่าถ้าจะเอาเงินสดเลยตอนนี้มีแค่ ห้าร้อย เท่านั้นแหละ (สถานการณ์อย่างนี้คือ โดนปล้นแล้วล่ะอ่ะถ้ารอประกันไม่ได้เห็นว่านานเกิน งั้นเรียกตำรวจแล้วกัน ตำรวจเร็วดี



จบประโยคนี้ของหม่าม้าเท่านั้นแหละชายคนนั้นอารมณ์ขึ้นทันทีเลย



พี่ใหญ่มาจากไหนเหรอพี่คิดว่าผมไม่รู้กฎหมายเหรอ



เอ้าเรียกตำรวจก็ไม่ได้ว่าใหญ่ตรงไหนด้วยเล่า จะได้เครียๆให้มันจบๆไปงัยใครผิดใครถูกก็ว่ากันไป ได้จบๆกัน (เวลานัน้ก็ไม่กล้าหยิบมือถือออกมานะกลัวมันจะเอาไปด้วย)



มันไม่ยอมขึ้นมาเลยว่าอินี่นิ แล้วชี้หน้าหม่าม้า ถ้ากุไม่เห็นว่าเมิงเป็นผู้หญิงนะกุชกหน้าเมิงไปแล้ว



เอ้าใครจะไปยอมหม่าม้าก็ชี้หน้ากลับสิ แล้วเมิงล่ะเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาชี้หน้าคนอื่นผิดถูกก็เรียกตำรวจมาเลยดิ



มันก็ว่าก็เมิงชนรถกุอ่ะไหนลองให้กุขับชนรถเมิงม่างมั้ย



เวลานั้นมันจะเข้ามาชกหม่าม้าแล้วลักษณะตอนที่คุยทำท่าเหมือนจะชักอะไรออกมา ขณะนั้นเด็กคนที่นั่งมากับมันด้วยเดินออกมาจากรถแล้วรั้งตัวมันไว้เตี่ยเองก็อุ้มหม่าม้าแทบลอยเลย แล้วเตี่ยก็บอกว่าพี่ครับผมขอโทษแทนเมียผมด้วยครับผมมีอยู่ห้าร้อยจริงๆพี่รับไปเถอะครับให้เรื่องมันจบๆไปเวลานั้นเตี่ยต้องขอโทษมันสามสี่รอบได้เพื่อที่จะไม่ให้มันมาชกหม่าม้า

มันก็ยังจะไม่ยอมนะด่าตามหลังมาเลย แต่ก็รับเงินขึ้นรถไป (คิดดูรถพังทั้งแถบคนปกติเอาเหรอห้าร้อยบาท)

ตอนเราขับรถออกไปมันก็ ยังจะขับรถเข้ามาใกล้ๆ ทำเหมือนท้าทายเรา
อื้มได้ขึ้นรถแล้ว สติกลับมาแล้วหม่ม้าบอกเตี่ยว่าไปป้อมตำรวจที่ใกล้ที่สุดเดี่ยวนี้เลย แล้วมองเลขทะเบียนมันแต่พยายามเพ้งเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเป็นตัวเลขซะที



ก็ขับรถไปจอดป้อมหน้าปากซอยบ้านเราซอยใจเอื้อ พระตำหนักจักรีบงกช เล่าให้พี่ตำรวจฟัง พี่ตำรวจบอกว่า โดนประจำเลยถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ว่ายังไงใครผิดใครถูกให้ขับรถเข้าหาตำรวจอย่างเดียวเลยมีอะไร เคลียร์กันที่โรงพักไม่ต้องไปกลัว แล้ว ถึงจอดรถก็ห้ามลงจากรถพี่ตำรวจจะวออ แจ้งให้แต่คงจับอะไรมันไม่ได้แล้วล่ะ มันเลี้ยวไปทางเส้นปทุมฯแล้วและที่สำคัญ พี่ตำรวจบอกว่าเราไม่มีเลขทะเบียนสกัดจับมันยากมากด้วย (เอ้าก็มองไม่เห็นจริงๆอ่ะพี่ มันมัวมากเลย ถ้าอย่างนี้เนี่ยสกัดรถที่ไม่มีเลขทะเบียนก็น่าจะได้นี่นา)



ไม่เป็นไรทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่มานั่งเจ็บใจ นั่งคิดว่าสมัยเรียนขับรถกลางคืนไปเที่ยวก็ออกบ่อย ระวังตัวตลอด เจอคล้ายๆอย่างนี้ก็ไม่เคยจอดรถหรือลงไป เครียอะไรอย่างนี้เลย น่าจะเตือนจะบอกเตี่ยได้ ทำไมไม่บอกทำไมไม่พูดว่าไม่ให้จอดจะโทษเตี่ยคนเดียวก็ไม่ได้เพราะว่า เตี่ยเป็นเด็กต่างจังหวัด ไม่รู้เท่าทันแน่นอนความไว้ใจคน ความเชื่อใจคน กรุงเทพกับแปดริ้วมันต่างกันใจเตี่ยก็คงคิดเหมือนปกติที่ว่า อ่ะ เราทำรถเค้าจริงมั้ย ถ้าจริงเราจะชดใช้ให้ประมาณนั้น แต่กับหม่าม้าเองอ่ะไม่เหมือนกัน แอะใจแล้ว ว่าต้องท่าไม่ดีแน่นอนดั้นลงไปสมทบช่วยคุยซะงั้น ทำไมไม่โทรแจ้งตำรวจเลยหรือบอกให้มันขับตามมาเอาตังค์ที่บ้าน แต่ขับไปป้อมตำรวจก็ได้



เจ็บใจตัวเองมากเลยความระวังตัวมันหย่อนยาน เจอแต่สิ่งที่ดีดี ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับตัวเองแล้วตัดสินใจจอดรถ เหตุการณ์ที่น่าจะรอด ดั้นไม่รอดซะงั้น ทางออกที่เคยรู้ดี ทำไมไม่คิดได้ ขาดสติรึว่าอะไรน้า โทษใครไม่ได้ ได้แต่เจ็บใจตัวเอง



ทางแก้ที่นึกออกหลังจากได้สติลแล้วหลากหลายทางมากเลย
1. ไม่จอดรถวิ่งเข้าบ้านเลย หรือไม่ก็วิ่งเข้าหาตำรวจเลย
2. ถ้าจอดรถแล้ว ไม่ต้องคุยมาก โทรเรียกประกันทันทีหรือไม่ก็ตำรวจไปเลยเพราะประกันกับตำรวจมีค่าเท่ากัน
3. พลาดคุยกับมันไปแล้วก็ แกล้งบอกไปเลยว่าเดี่ยวขอไปกดเอทีเอมก่อนนะ ให้ขับตามมาก็ได้
4. หรือไม่ก็คุยกับมันว่า ขับตามมาเอาตังค์ที่บ้านนะพี่บ้านอยู่ใกล้แค่นี้เอง ถัดไปสองสามหลัง
5. ใครชนใครกันแน่ มันพุ่งเข้ามาไม่ใช่เหรองัยเราแค่เบี่ยงออกไปเองนะ



อื้มนู๋ๆทั้งสองคนของหม่าม้า อย่าขาดสติอย่างนี้นะลูก พระคุ้มครองให้นู๋ปลอดภัยมีสติมากกว่าหม่าม้า คิดให้ได้ ตัดสินใจให้ได้ ทันท่วงทีนะลูก หม่าม้ากับเตี่ยรักพวกนู๋ทั้งสองคนมากนะลูก เวลานั้นเตี่ย กระซิบบอกหม่าม้าว่าคุณยอมมันไปเถอะห้าร้อย เราเสียเปรียบมันแล้ว พั้นช์ๆอยู่ในรถนะคุณ



สุดท้ายนี้เตี่ยค่ะหม่าม้าขอโทษด้วยนะที่ตั้งสติไม่ทัน ไม่อย่างนั้น เราคงไม่เจอแบบนี้คนพวกนี้คงไม่มีโอกาสมาทำอย่างนี้กับเราได้ขอโทษด้วยนะที่เตี่ยต้องพูดขอโทษคนอย่างนั้น เพื่อความปลอดภัยของลูกเมียรักเตี่ยที่สุดเลย



ขอขยายความหน่อย เหตุการณ์คือ เหมือนจะเป็นการทำงานเป็นทีมโดยให้รถคันหนึ่งทำที่วิ่งไล่เราให้ลงด้านเลนซ้ายแล้วรถด้านซ้ายมืออีกคนก็ไม่หลบอีกทั้งเร่งความเร็วตีคู่เรามา โดยให้เกิดอุบัติเหตุจริง แล้วก็วิ่งไล่ตามมาเรียกเราให้หยุดด้วยกระกระพริบไฟสูงใส แล้วเมื่อจอดลงไปเราเป็นเจ้าของรถก็ลงไปดูรถเราก่อนว่าเป็นอะไรบ้าง

เค้าจะทำท่าทีเข้ามาถามว่าเป็นอะไรทะเลาะอะไรกันมา หรือเปล่าเหมือนจะเป็นคนดีให้เราวางใจแล้วเรียกเราไปดูที่รถเค้านะเป็นรอยบุบ จากการชน กระจกรถห้อยถ้าเป็นรถคุณคงต้องรอเรียกประกันล่ะ แต่นี้ลงมาตีราคาเสร็จแล้วบอกว่าต้องไปเยี่ยมญาติ ที่ ตจว เช้าจะกลับมาทำงานเวลาที่เกิดเหตุมันก็จะเที่ยงคืนแล้วไม่รู้มันคิดยังไงว่าจะไปเยี่ยมยังไงหลังเที่ยงคืนแล้วจะกลับมาทำงานเช้า เรามันก็มึนฟังตามแต่ไม่คิดตามมันเป็นไปไม่ได้ คนบ้าอะไรทำได้ หลังจากนั้นบอกเรียกประกัน ไม่เอาบอกว่าผมต้องรีบไป แล้วเหมาราคาที่ 3200 บอกเจอกันครึ่งทาง พี่จะให้เท่าไรว่ามาเลยน้ำใจนะ คิดดูซิเหมือนเป็นอะไรที่พูดประจำเลย มาคิดดูอีกที่นะ บอกว่าไม่มีเงินสด มันก็บอกไม่เชื่อเรียกง่าย มันจะเอาแต่เงิน บอกให้เรียกตำรวจ มันก็แสดง สันดานโจรบอกพี่ใหญ่มาจากไหน ผมก็รู้กฎหมาย คือเราคงรู้ไม่เท่ามันอ่ะมันคงทำทุกคืนแต่ยังไม่โดนจับได้เสนียดสังคม ท่าทางและวาจาเริ่มออก ถ้าเราไม่ให้เงินสดมันไม่จบมีผู้ชายอยู่ในรถอีกคนกดโทรสับมือถือเหมือนพยายามติดต่อใครบ้างคนซ้ำร้ายทางเดินกลับรถมันก็ยืนบังอยู่ เราก็มีลูกอยู่บนรถดีนะที่มันไม่รู้แถมยังเป็นผู้ชายที่สันดานเลวมากๆ เมื่อไม่ได้ก็ว่า ทั้งที่เราพูดคุยด้วยดีๆมาชี้หน้า มาต่อว่า ภรรยาผมว่าถ้าไม่ใช่ผู้หญิงเป็นผู้ชายกูชกไปแล้ว คือต้องยอมรับนะครับต้นตระกูลหรืออะไรไม่ทราบที่ทำให้คุณมีนิสัยหยาบคายและสันดานเช่นนี้ถ้าเราเป็นฝ่ายเข้าไปต่อว่าและใช้คำหยาบคาย เราคงไม่กล้าเอาความจริงพวกนี้มาโพสหรอกจากการประเมิน มีเงินสดติดตัวอยู่ 500 บาทพูดตัดบทมี แค่ 500 เอาไหมมันเอารถมีรถทั้งแถบกระจกข้างหลุด มันเอา เอาก็เอาได้ไม่ต้องเจอกันอีก เมื่อให้แล้วใช่ว่าจะจบ ยังมีมาพูดว่า อีก เราอย่างนี้อย่างนั้น มาชี้หน้าภรรยาผมอีก นี้นะเหรอสันดานผู้ชายที่ดี ไม่ใช่คนดีแน่นอนผมเลยต้องแยกภรรยาออกมาให้ห่างเพราะเสี่ยงต่อการโดนทำร้ายร่างกายแล้ว ณ ตอนนี้หากเกิดอะไรขึ้น เราอาจเสียรถยนต์ที่ใช้ทำมาหากิน และโดนทำร้ายร่างกายที่แย่ที่สุดลูกเรานอนหลับอยู่ในรถ เลยต้องทำให้เรื่องยุติเร็วสุด ขอโทษ ขอโทษเพื่อได้แยกจากกัน

ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้พบเหตุการณ์แบบนี้นะให้ไปที่ป้อมตำรวจไม่ต้องรออะไรไม่ต้องลง ไปอยู่ที่คนเยอะแล้วค่อยเจรจาคำที่ว่าชนแล้วหนี ขับรถไปไกลจากที่เกิดเหตุเกิน100 เมตร ถือว่าชนแล้ว หนีนั้นที่มันอ้างบอกเลยครับว่า ตำรวจไม่เอามาเป็นความ เพราะ ถือเป็นยามกลางคืนที่เปลี่ยวถ้าเราไม่หนีแต่ขับรถนำไปจอดที่ป้อม ตำรวจไม่ถือว่าเราหนี เราถูกนะครับย้ำเรายังถูกอยู่ ไม่ต้องคิดว่าชนแล้วหนีตามขี้ปากไอ้พวกรู้กฎหมายเหมือนกันแต่เอามาอ้าง เพื่อกระทำการอันเป็นมิชาชีพ หรอกนะครับถามตำรวจมากับตัว สรุปเกิดอะไรขึ้นไปป้อมแล้วค่อยลงรถ ไม่งั้นจะเจอเหมือนผม




ขอเอาประสบการณ์ขอคนบ้านนอกที่คิดว่าชนแล้วต้องรับผิดชอบคนอื่น คงดีหมด ไม่ต้องคิด ตำรวจครับ ที่เพิ่งของการเกิดสิ่งที่อาจเป็นอันตรายกับคุณและครอบครัว เป็นคนเห็นแก่ตัวครับแล้วไปหาตำรวจ ปลอดภัยที่สุด!!!




Create Date : 21 สิงหาคม 2553
Last Update : 16 ตุลาคม 2557 14:48:43 น.
Counter : 1107 Pageviews.

1 comments
  
เป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวเหมือนกันนะค่ะ สมัยนี้จะทำอะไรต้องระวังตัวตลอด
ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงขับรถคนเีดียวยิ่งต้องระวังค่ะ กลางคืนไม่ว่ารถจะเป็นอะไร
ถ้ายังขับไปได้ก้อให้ขับไปเถอะค่ะ อย่าจอดรถและลงจากรถเด็ดขาด
ไม่งั้นอาจถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ ผู้คนสมัยนี้ไม่มีศีลธรรมกันเยอะ อย่าไปหาความ
เห็นใจ ความยุติธรรมจากโจรที่ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยค่ะ พยายามมีสติ
อย่าตกใจ แล้วเราจะคิดแก้ไขปัญหาได้เองค่ะ ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:13:12:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mama Pirch Punch
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]