Singapore Day 3.2 : พาดูปลาสีสวยใต้ทะเล Sentosa

Singapore : ❀- -❀- -❀- -❀

Singsapore ที่รัก Day 3.2 : Sentosa S.E.A. Aquarim ❀- -❀- -❀- -❀

“วันนี้พาไปดูป.ปลาตากลม แมงกะพรุนทำรัง..เอ๋..” ︷εїз︷ (◕‿◕✿)

- - - ✿ " พาไปดูปลาใต้น้ำ Aquarium ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โอ้วว น่าตื่นเต้นจัง " ✿- - -

บรรยากาศทั่วๆไป – Asmosphere

ต่อจากบล๊อกที่แล้ว เมื่อลงรถไฟฟ้า ให้ไปลงที่ Harbour Front ทางออก E

ณ ห้าง Vivo City หลังจากหาข้าวกลางวันกินกันแล้ว

ทางเข้าจะอยู่ชั้น 3

การซื้อตั๋วค่ารถไฟ Sentosa Express 4sgd/person

เราซื้อผ่านตู้สีๆนั่นอ่ะค่ะ เราใช้วิธีการเดิมคือ ส่งเลขากลุ่มออกไปทำหน้าที่ อิอิ สะดวกและรวดเร็วสุดๆ

อันนี้เป็นราคาค่าตั๋วในสถานนีต่างๆ ของเราซื้อแล้ว (ในบล็อก Singapore Day2) อันนี้เอามาให้ดูเพื่อเทียบราคา

เราได้ตั๋วรถไฟฟ้า Sentosa Express มาแล้วจร้า ไปๆ พร้อมออกเดินทาง

ก่อนจะออกเดินทาง ขออธิบายข้อมูลนี๊สเนิง

มันจะมีทั้งหมด 4 สถานี ตรงนี้เราเรียกว่า
1.) สถานี Sentosa Staion อยู่ใน ViVo City
2.) สถานี Water Front Station จะมี Universal พรุ่งนี้ค่อยพาไปน่ะ เอาทีละที่ (เที่ยววันเดียวไม่หมดอ่ะ)
3.) สถานี Imbiah Staton ไม่ค่อยมีไรน่ะ ส่วนใหญ่เป็นการจัดสวนน้ำ
4.) สถานี Beach Station จะมีชายหาด Siloso, Palawan และ TanJong Beach

ระหว่างทางลงรถไฟ ก็เห็นโฆษณาตัวนี้

คุ้นหน้าหนูอิม อิม ม่ะ

กว้างดีไหม สามารถเดินข้ามโบกี้สบายมาก

ตอนนี้เราอยู่ที่ Water Front Station กันค่ะ มุ่งหน้าไป Beach Station

เราเลือกที่จะลงที่ สถานีชายหาดกัน
ไปทางไหนดีน้อ.. ขวาร้าย ซ้ายดี งั้น เลี้ยวซ้ายตามมา
หาด พัลละวัน (ชื่อแอบตลกดี) อ่ะลองดู

เดินออกมาก็เดินเล่นเดินดูแถวๆนั้น

บรรยากาศทั่วๆไป

beach ^_^

กิจกรรม

ในนั้นก็จะมีที่ให้เลือก ว่าอยากจะทำกิจกรรมอะไร

มีบินได้กับ I-Fly เล่นรถรูจ ฯลฯ

พวกเราเดินเล่นที่ชายหาด

สนุกกัน

นานๆเราจะได้ออกมาเล่นน้ำทะเลเสียที

หลังจากที่เรียนจบก็แยกย้ายกันไป

บาร์เล็กๆริมหาด
โมจิโต้ 10 ดอล คูณ 25 = 250 บาท

เห่อะๆๆคาดว่าคงได้แก้วเล็กจิ๋ว

She can..

เล่นทะเลกัน

คือที่เกาะเซนโตซ่านี้มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลไปไงก็ไม่หมด สุดลูกหูลูกตา

กระหายน้ำ เลยจัดเกลือแร่เย็นๆคนละขวด

เราเลยรอรถ free shuttle ดีกว่า รอตั้งนานแน่ะ

สีสันสวยงาม ทะเลสะอาดเชียว แต่ก็น่ะ ทะเลที่ทำขึ้นมา หาดนี้ชื่อหาดพันละวันค่ะ เราไม่ได้ลงไปเล่นน้ำอาบแดดกัน เพราะเราเน้นทำเวลา กลัวไปที่อื่นไม่ทัน

หาดพัลละวัน

บรรยากาศบ้านริมน้ำ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่พักนักท่องเที่ยวหรือจำลองให้ดูวิถีชีวิตชาวประมง

ต่อไป เราจะไปอีกสถานีน่ะ Water Front จร้า เย้

Lake of Dream เป็นทะเลสาบแห่งความฝัน
เนี่ยะ บรรยากาศช่วงกลางวัน ไม่ค่อยสวยเน่อะ
จะเป็นสวนน้ำ จะสวยมากๆช่วงกลางคืน แต่ตอนนี้พาเดินไม่ไหวค่ะ แอบเข้าที่ร่มดีกว่า

วิ่งจุ๊ดผ่านด้านหน้าของ Water Front

วิ่งหลบแดด ไปตรงนั้นกัน

(เอามือถือถ่าย กะ ใช้กล้องถ่าย นี่แอบแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด)

ณ จุดนี้ เราเข้ามาแอบหลบแดดร้อนๆอยู่ที่
Maritime Experiential Museum @ Aquarium (MEMA)
พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร
เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์การเดินเรือค้าขายของประเทศในแถบทวีปเอเชีย
ภายในมีการจำลองท่าเรือขนส่งสินค้า และจะได้พบกับเรือขนส่งสินค้าขนาดเท่าของจริงๆ !!
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเรื่องราวของ"เรือเดา Dhow"
ซึ่งเป็นเรือของขวัญที่ได้รับจากรัฐบาลโอมานในช่วง ศตวรรษที่ 9 เรียนรู้วิธีการต่อเรือเดา และวิธีการล่องเรือไปค้าขายระหว่างสิงคโปร์และโอมาน โดยใช้เพียงแค่ลมและการดูดาวในการเดินทาง !!
และอย่าลืมไปทดลองใช้ kamal ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการนำทางของชาวอาหรับโบราณ (อันนี้ไม่ได้ไปเล่นน่ะ)
พร้อมกับดูของหายากกว่า 400 ชิ้นที่โรงภาพยนตร์ Typoon จะให้อีกอารมณ์หนึ่งของการเรียนรู้ โดยจะเป็นการพาคุณขึ้นไปกับเรือสำเภาจีนที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่พายุ แล้วท้ายที่สุดจะพาทุกๆคนจมลงไปใต้ท้องสมุทรข้างๆกับซากเรือ น่าตื่นเต้นมาก
(*ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือนำเที่ยว Best of Singapore)

ภาพนี้ชวนให้นึกถึงตอนน้ำท่วมโลกแล้วเอาสาระพัดสัตว์ขึ้นเรือใหญ่ไปด้วยกัน (อินซ่ะ)
ตามมาๆ ตอนนี้จะพาเดินเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์

วัฒนธรรมต่างๆในสิงคโปร์

วิธีการจับสัตว์น้ำ

สวยไหม แต่ภายในค่อนข้างมืด
เวลาถ่ายรูปออกมาสีก็ไม่สวยเหมือนได้เห็นกับตาน่ะ
เข้าไปก็จะเจออุโมงค์ใต้น้ำ

ตรงพื้นก็เป็นกระจก มองทะลุลงไปด้านล่างได้ด้วย
เพื่อนบอกว่า Siam Ocean World ดูสวยกว่า ต้นไม้น้ำปะการังดูเยอะกว่า ที่นี่ สงสัยปลาแทะเล็มกินหายไปหมด อิอิ ลองเอามาให้พิจารณาจ้า

พอเข้าไปก็จะเจอตู้ปลาขนาดกลาง จัดโชว์ปลาหลากหลายสายพันธ์ ปลาตู้นี้แปลกดี มันว่ายแบบตั้งๆ เอ๊ะ หรือว่ามันแอบหลับหว่า...ฮ่าๆๆ

มุมนี้เป็นกิจกรรมให้สัมผัสกลับ สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ปลาดาว หอยเม่น ปลิงทะเลไรงี้ บรื๋ออออ ไม่กล้าจับอ่ะกลัว
สงสารมันด้วย นักท่องเที่ยวทุกคนไปจับมัน มันคงชอกช้ำน่าดู

ปะการัง

เอ๋..ตัวอะไรซ่อนอยู่

ปะการังของจริงป่ะนี่ สีมันแจ๊ดมาก

แมงกะพรุนสีขาว
พอโดนแสงสีก็จะได้ภาพออกมาแบบนี้ค่ะ
นั่งถ่ายกว่าจะได้สีที่สวยถูกใจก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง
ถ้ามากะทัวร์คงทำไม่ได้แบบนี้

แม่แมงกะพรุนกะลูกๆ น่ารักจัง

ห๊าาา นั่งเกาะตู้อยู่นาน เพลินจัง

ตู้นี้เป็นแมงกะพรุนหางยาว
นึกถึงการ์ตูนเรื่อง Nemo เน่อะ
(แอบคิด มันจะหางพันกันเองบ้างไหม หรือว่า มันมีหวีส่วนตัว ฮ่าๆๆ)

นอกจากนี้ ก็มีนิทรรศการย่อยๆเรื่องสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำขอเชิญพบกับพรีเซนต์เตอร์สุดสวยค่ะ

เย้ ได้นั่ง มาเลเซีย วอเตอร์ มอนิเตอร์ ค่ะ
ขอร้องอย่าแปลเป็นไทย ฮ่าๆๆ

มีหอย

ท่ายากวันนี้ ขี่ปลากระเบน

อู๊...รู้สึกเหมือนกันไหม
ฟันคมไปป่ะ? ปลาปิรันย่าจ๋า

ปะการัง และ ปลาสีสวย

อุปกรณ์ตกแต่งผม บลอนดี้ อิอิ

ป.ปลาตากลม
ตลกไอ้ตัวล่างซ้ายอ่ะ มันเอาครีบเดินๆตามพื้นทราย

ปลาการ์ตูนจิกๆ ปะการังใหญ่เลย น่ารักมาก
ปลาตัวล้างซ้ายมันแอบแพทอยู่ในปะการัง
ส่วนปลาขวาล่างดูช่างกลมกลืนกะปะการังจัง

ปะการังสีสวย กว่าจะถ่ายได้ ปลาก็วิ่งๆไปมา
ถ้าใช้ความเร็วต่ำนี่เสร็จเบย
อันนี้ใช้มือถือถ่าย กล้องแพทตัวเล็กถ่ายแล้วไม่ชัด

สวยจัง

เดินๆต่อไปได้แล้วตี้ มัวแต่นั่งดูปลาเพลิน

โอ้ว ว๊าวว..สวย สุดยอด อลังการจัง
ที่นี่ได้รับการบันทึกในกีนเนสบุ๊คด้วยค่ะว่าเป็น
The World's Largest Aquarium and World's Largest Acrylic Viewing Panel !!

คำเดียวเลย ตะลึง!!
ตรงนี้มันเป็นห้องกว้างๆ เคยมีการเดินแบบระดับโลกด้วย โห..ถ้าบ้านเรามีงี้บ้างคงดี นอนเกาะตู้เลย
ว่าแล้ว กลุ่มเราก็นำทัพสาวๆไปยืนเกาะหน้าตู้
ปลาตัวเล็กตัวใหญ่ว่ายไปมา
ยืนดูไปสักพัก(เดินเล่นแบบแคทวอล์ค)
ชักเมื่อยแฮ่ะ...เริ่มนั่ง

สักพักเริ่มนอน...ฮ่าาา

ว๊าา..คงต้องออกจากที่นี่แล้วล่ะค่ะ
ไม่งั้นก็นอนมันที่นี่แหล่ะ คิคิ
เดินต่อไป เอ๊ะ!!

ปูแอบมอง

สีสวยๆ

จัดตู้ปลา

หอยและน้องกุ้งแอบมองเรา
ปลาสีสวย

แง่ง..แฮ่..จะขู่ชั้นทำไมแว๊
ไม่กล้าจับตู้เลย กลัวโดนกัด

เดินมาดูอีกตู้เนิง
อ่าว..เจ้าปลาไหลซุกซน ติดอยู่ตรงซอกโอ่ง ขวาล่าง
แอร๊ยย แล้วจะมีใครช่วยมันได้ไหมเนี่ยะ
เห็นนอนดิ้นๆอยู่ตั้งนาน (ยืนเฝ้ามัน)
ได้ฤกษ์ออกจากที่นี่กันแล้วสิน่ะ ไม่อยากไปเลย

ภาพสุดท้ายกับซากเรือ ตอนสองทุ่ม (อยู่ตั้งแต่บ่าย) เขาก็เริ่มจะปิดและล่ะ เราก็ควรจะออกกันได้แล้ว

ออกมาและล่ะ
อากาศข้างนอกยังร้อนอบอ้าวเช่นเดิม

อ่าา..จำได้ไหม ตอนกลางวันรูปไปสวยเหมือนตอนนี้
Lake of Dream ยามค่ำคืน สวยดี

ชวนฝันม่ะ

เบลอ เพราะรีบ กลัวเขาปิดประตู อิอิ
เด๋วพาลงไปดูบ่อนคาสิโน Singapore Casino อีกสักแปร๊บ
อ่าว พท.บล็อกใกล้จะเต็มอีกและ จะพยายามอัดข้อมูลให้น่ะ

ตามมาๆ อยากรู้อยากเห็น

เย้ ถึงแล้ว เตรียมตัวกำลังจะเข้าไป

ตึ่งงง...มีเรื่องแล้ว!! อดเข้าเบย
ที่เขาเขียนมานี่ผิดหมดทุกกฎ

ยืนหง๋อยอยู่หน้าคาสิโน คนต่างชาติอ่ะเข้าฟรี แต่คนสิงคโปร์ถ้าจะเข้าต้องเสียค่าเข้าด้วย แหม๋อุตส่าห์มาเป็นคนต่างชาติและ อดจนได้ ไม่ได้อยากจะเล่นน่ะ แต่อยากไปดูบรรยากาศด้านในว่าเหมือนคาสิโนประเทศอื่นๆที่เคยไปมารึเปล่า

ฝั่งตรงข้ามเป็นฮอล์สำหรับจัดงาน
เราก็เลยเดินออกมาเดินเล่นข้างบน ไม่ได้เข้าไปดูอะไรด้านใน เดินไปเรื่อยๆ..

จ๊ะ!! เห็นสิงโตสีชมพูตัวใหญ่เบ้อเริ่มเลย
พวกเรารีบวิ่งเข้าไปดูกัน

กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ถ่ายรูปอีกแล้ว
สวยกว่าตอนกลางวันหลายเท่าเลย
เอาไงดี เลขากลุ่มชักจะงอแงเดินไม่ไหวและ แต่เรายังบ้าพลังลากรองเท้าแตะอย่างเมามันส์ เดินลุยน้ำเล่นน้ำตกไรไป เอ๊ะ..มันมีบันไดนี่นา เพื่อจะขึ้นไปดูวิวข้างบนได้ แห่ะๆๆ มาถึงขนาดนี้และเลยขึ้นไป ดีน่ะที่มันเป็นบันไดเลื่อนด้วย

รูปด้านบนนี้ถ่ายตอนลงน่ะอย่าเพิ่ง งง อิอิ

ทาดา...ในที่สุด
เราก็ขึ้นไปกันจนถึงยอดจนได้
ถึงแว๊วว The Merlion

ตัวนี้ตัวใหญ่กว่าตัวมะวานที่พาไปดูมา
สูง 37 เมตรแน่ะสามารถเข้าไปข้างในก็ได้ ชั้น 12 สามารถมองเห็นวิวรอบตัว 360 องศา ส่วนชั้น 9 ตรงที่ปากมันอ้าอยู่ ก็มองได้ ชั้นล่างจะมีเรื่องราวของเมอร์ไลอ้อนอยู่และตัวละครแห่งท้องทะเลในเทพนิยาย และร้านขายของที่ระลึก
(ข้อมูลจากหนังสือเที่ยว Best of สิงคโปร์)

ดูวิวยามดึกนี่มันสวยจริงๆเลย ลมโชยเบาๆ
เราก็เดินเล่นบนยอดเขากันต่อ (บ้าพลังไปไหน)

มาถึงตรงนี้ Tiger Sky Tower
ค่าเข้าไป ก็ 15 ดอล เราไม่ได้เข้าไปหล่ะ ก้าวขาแทบจะไม่ไหวแล้ว ตอนแรกคิดๆ เอ๊ะ มันจะร่วงลงมาเปล่าแบบเครื่องเล่นหวาดเสียวอ่ะ ชั้นไม่ไหวจะเล่นแล่ว
แต่พออ่านข้อมูลมันคือที่ดูวิวมุมสุง สูงประมาณ 131 เมตรมีลายเสือด้วยแต่ในรูปมันมืดแล้วมองไม่เห็น มันจะหมุน(เบาๆ) 360 องศา โดยข้างในจะเหมือนจานบินเลย ไม่เอาอ่ะ ไปหมุนกะชิงช้าสวรรค์กะ Singapoer Flyer มาแล้วไงเปลือง
เดินผ่าน Image of Singapore ด้วย แต่มันปิดแล้วเดินผ่านเฉยๆ

ลงมาเดินผ่านลานขายของชำ โห ละลานตา

เดินผ่านร้านขายลูกอม ท๊อฟฟี่ ขนมหวาน
"ร้าน Candylicious"
สาวๆรีบกรูกันไปโดยไม่ได้นัดหมาย

น่ารักอ่ะ กรี๊ดๆๆ

มีพวงกุญแจ มีไอติมหลากรสขาย สีสวยน่าทาน
(ทานไหมล่ะ..โปรดดูราคาก่อนฮาๆๆ)
ก็แล้วแต่น่ะ ถ้ากินได้ก็จัดไปแต่เราเน้นเที่ยวแบบประหยัดสุดๆ (ไม่เชื่อลองดูราคาในบล็อกสุดท้ายสิ)
สุดท้ายแล้วก็ถึงเวลาอันควร ต้องกลับบ้านล่ะ
ผ่าน ViVo City อีกเช่นเคย
แวะกินข้าวที่เดิมแหล่ะประหยัดสุดๆแล้ว
Food Republic เจ้าเก่า ร้านรวงก็เริ่มจะปิดแล้วนี่ปาไปสี่ทุ่มครึ่งและ เที่ยวเพลินไปหน่อย

อาหารมื้อนี้ อย่างหิวอ่ะ (จานนี้ไม่ค่อยถูกใจมีแต่ผัก)

หมี่ฮูน

ของทอดแบบรวมมิตร

ตบท้ายด้วยขนมหวาน
รสชาติแปลกๆแฮ่ะ มันทำมาจากแป้ง
ข้างในมีไส้มะพร้าวและไส้ถั่วหวานๆ เอาไปนึ่งจนสุก บ้านเราก็มีน่ะแต่เราไม่เคยกินอ่ะ
ก็นั่งรถไฟฟ้ากลับหอพักกัน

ก่อนกลับก็ซื้อบะหมี่และโจ้กสำเร็จรูปมาด้วยซื้อ1 แถม1
เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน ซื้อที่เซเว่นใกล้ๆหอพักอ่ะค่ะ
ก่อนเข้าห้องแอบไปส่องห้องพักรวม 4 เตียงของ ผช ข้างห้อง คิคิ (ซนตลอด)

สุดท้ายแล้ว..(จบซ่ะทีวันนี้)

วิธีการลดอาการบวมของเท้า แบบ Backpacker
ง่ายๆเลย ยกเท้าก่ายกำแพงไว้แบบเน้
เห้ยย มันเหนื่อยแต่ก็มีความสุขน่ะกับการได้มาเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้ อิอิ ฝันดี คร๊อก...
อ่าว เงียบ..ไม่พูดไม่จา...สลบ...

⋰⋱⋰⋱⋰⋱⋰⋰⋱⋰⋱⋰⋱⋰⋰⋱⋰⋱⋰⋱⋰⋰⋱⋰⋱⋰⋱⋰⋰⋱⋰⋱⋰⋱⋰⋰⋱⋰⋱⋰⋱⋰

สรุป ค่าใช้จ่ายของวันนี้ ดังนี้ (Thanks SaSaKo for Info)

ขอจบรีวิวตัวใหญ่ๆขยายม่านตาเพียงเท่านี้ Thanksfor visiting my blog ka.
สามารถ เข้ามาเม้าส์เข้ามาเม้นต์กันได้น่ะเพื่อได้ไอเดียไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง ไม่มากก็น้อย

ด้วยรักและคิดถึง – With Love and Happiness,

ปล.ที่เขียนนี่ไม่ได้รับค่าคอมหรือค่าจ้างใดๆเขียนเพื่อเอามาแชร์ไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคุณในการสรรหาสิ่งดีให้กับงานของคุณ
Pl. This blog is without extra pay from any company or hotel.
I just want to share this useful information for your sufficient work. :)

( /) ❤
( . .)/
c(”)(”)

- - - ✿ แพทตี้-Patty ✿ - -

Create Date : 09 ธันวาคม 2556 Last Update : 10 ธันวาคม 2556 14:57:11 น. Counter : 2208 Pageviews.		3 comments
Share Tweet