เมษายน 2560

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
[HongKong 3rd Times] กระทบไหล่ Benedict Cumberbatch ครั้งแรกในชีวิต (5)




ในที่สุดก็มาถึงวันที่จะต้องไปฝ่าฟัน อุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมา ยังไงวันนี้ก็ต้องเจอพี่เบนให้จงได้!! ตื่นแต่เช้า...เอ่อ...เช้าที่ว่านี่ก็เกือบๆ 7 โมงแล้วแหละ อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จก็ลงไปเช็คเอ้าท์โรงแรมไว้ก่อน เพราะวันนี้หลังจากเสร็จงาน Premiere ก็จะต้องรีบบึ่งไปสนามบินขึ้นเครื่องกลับไทยทันทีในไฟลท์ตี 1 เพราะฉะนั้น ยังไงก็ต้องไปถึงสนามบินช้าที่สุดคือเที่ยงคืน ด้วยความที่ไม่เคยตามดาราฮอลลีวูดในงาน Premiere มาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าลักษณะงานเป็นยังไง ใช้เวลานานแค่ไหน แต่คิดว่างานคงเสร็จไม่เกิน 4 ทุ่ม ซึ่งตารางงานที่ออกมาคืองานจะเริ่ม 1 ทุ่มตรง คิดว่ายังไงก็ทันแน่ๆ 

จริงๆ วันนี้ทั้งวันเราตั้งใจยกให้พี่เบนอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ได้ยืนแถวหน้าสุดของรั้วก็จะไม่มีทางได้ลายเซ็นหรือจับมือเลย ซึ่งดาราแต่ละคนที่มาก็คือตัวใหญ่อ่ะ หนังก็บล็อกบลัสเตอร์ แฟนคลับต้องเป็นล้าน ยิ่งสถานที่จัดงานไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร ถ้าไปช้าชีวิตพังหมดแน่ๆ 
หลังจากเช็คเอ้าท์ เราก็ออกจากโรงแรมมา 8 โมงเช้า รีบจ้ำไปศูนย์วัฒนธรรมฮ่องกงเพื่อพบว่า.............แดดเปรี้ยงมาก ร้อนแบบตากผ้าแห้งภายในไม่กี่ชั่วโมง นี่ขนาดใช้ชีวิตอยู่กับแดดในประเทศไทยมาหลายสิบปียังแทบจะแห้งคาถนนแหน่ะ และที่สำคัญคือ....ไม่มีแฟนคลับมานั่งรอเลยสักกะคน โถ...พี่เบน พ่อดาราฮอลลีวูดของน้อง


เห็นรั้วริมพรมแดงด้านในมั้ยคะ...นั่นแหละค่ะ เป้าหมายของเรา ตรงนั้นคือสตาฟฟ์เปิดให้เราเข้าไปนั่งรอได้

ตอนไปถึงคือยังไม่เห็นใครมารอ เลยตัดสินใจกับพี่ฝนว่าไปหาซื้ออะไรกินกันดีกว่า อย่างน้อยๆมีอะไรรองท้องไว้ก่อนก็ดี เราเดินย้อนกลับเข้าไปในศูนย์วัฒนธรรมฮ่องกงเพื่อฝากท้องไว้ที่สตาร์บัคส์ แต่พอออกมาอีกทีก็เริ่มมีแฟนคลับชาวจีนมาจับจองที่ริมรั้วไว้แล้ว แต่เราก็ยังไม่หลุดรั้วที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรก นั่งไปนั่งมาก็เจอคนไทยมาตามพี่เบน 7-8 คนได้ นั่งกันตั้งแต่เช้ายันเย็น ผลัดกันลุกไปซื้อของกินเข้ามาตุน คุยกันประหนึ่งเหมือนรู้จักกันมานาน แต่ความจริงคือเพิ่งเจอกันเมื่อชั่วโมงก่อนเองอ่ะ ยิ่งสายแดดยิ่งแรง ดีที่แต่ละคนพกร่มกันมา ก็กางกันแดดกันไป 

ความประทับใจอย่างหนึ่งของสตาฟที่นี่คือโคตรจะคนดีอ่ะ ระหว่างที่นั่งรองานเริ่ม เราก็ระแวงกันไปว่าเขาจะมาไล่ที่รึเปล่า ตรงนี้นั่งได้มั้ย อยู่ดีก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาหน้าบึ้งมาก แต่ละคนคือคิดว่าโดนไล่แน่ๆ ถ้าออกจากตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปนั่งที่ไหน แล้วคือแฟนคลับจีนข้างๆ เขาก็คุยกันเป็นภาษาจีน พูดอิ้งค์ก็ไม่ได้ สื่อสารกันไม่ได้อีก แต่สตาฟที่เดินมาคือนางมายื่นขวดน้ำให้ โอ้โห...ประทับใจมาก คราวนี้เข็นมาเป็นลังเลย สงสัยกลัวเป็นลมเพราะขาดน้ำตายกัน แล้วคือน้ำเปล่าที่ฮ่องกงแพงมาก ขวดนึงเกือบ 40 บาทได้ กราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ค่ะ *กราบเบญจางคประดิษฐ์* 



อตกบ่ายคนก็เริ่มมารอเยอะขึ้น จนล้นไปทางเดินข้างศูนย์วัฒนธรรมฮ่องกงแล้ว เรานั่งไปก็ลุ้นไปว่าเมื่อไรแดดจะร่ม ระหว่างนั้นแฟนจีนข้างๆก็เปิดมือถือดูไลฟ์สัมภาษณ์ของนักแสดง Dr.Strange กัน ซึ่งแฟนไทยไม่มีใครรู้อะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างเป็นภาษาจีนหมดจ้า ได้แต่แอบชะเง้อดูคนข้างๆ จนกระทั่ง 5 โมงเย็น คนเริ่มลุกขึ้นยืน จอด้านหลังเวทีก็เริ่มเปิดตัวอย่างหนังเรียกเสียงกรี๊ด แต่คนไทยคือไม่หือไม่อือ ขอนั่งต่อไปเงียบๆ เพราะรู้ว่ากรี๊ดสร้างกระแสทั้งนั้น แต่นั่งกันต่อไม่นานก็ต้องลุกขึ้นยืนเพราะด้านหลังเริ่มเบียดเข้ามา ถ้าไม่ยืนก็คงโดนเหยียบกันหมดแน่ 
ผ่านไปอีกชั่วโมงสตาฟก็เริ่มมาเดินลอกแผ่นพลาสติกบนพรมออก แถมยังแจกโปสเตอร์หนังแผ่นเท่าฝาบ้านเอาไว้ให้นักแสดงเซ็นอีกต่างหาก โอ๊ยยยย....รักมาก รักฮ่องกงที่สุด นี่มันดินแดนสายเปย์แฟนคลับชัดๆ 

จากตอนแรกที่บอกว่างานจะเริ่มประมาณ 1 ทุ่ม งานก็เลทไปจนเกือบ 2 ทุ่มก็ยังไม่เริ่มสักที จนกระทั่ง SOL จบแหละ งานถึงจะเริ่ม จริงๆ แล้วอาจจะเป็นการตั้งใจเปิดงานหลังจบ SOL ตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้ เริ่มต้นงานพิธีกรสองคนขึ้นมาพูดบนเวที ซึ่งแน่นอนว่าเราฟังไม่ออกเพราะนางคุยกันเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง 

และแล้วก็ถึงเวลาแห่งการรอคอยกว่า 10 ชั่วโมงของเรา รถลีมูซีนคันแรกเทียบท่าพรมแดง และ Kevin Frige โปรดิวเซอร์ และผู้บริหาร Marvel Studio ก็เดินลงมาจากรถจ้า ตอนแรกเหมือนนางยังงงๆ ไม่รู้จะเดินไปไหน หยุดยืนถ่ายรูปเสร็จก็เดินผ่านหน้าเราไปเลย ไม่สนใจโปสเตอร์กับปากกาที่ยื่นให้สักกะนิด เสียใจมาก
ถัดจากพี่เควิน ก็ตามด้วย Scott Derrickson ผู้กำกับ Dr.Strange หลายคนอาจจะคุ้นชื่อผู้กำกับคนนี้จากหนังแนวสยองขวัญ (ในทวิตเตอร์นางก็มักจะทวิตรูปผี รูปอะไรที่น่ากลัวหน่อยๆ อยู่เป็นประจำ) Dr.Strange เลยเป็นที่จับตาของหลายๆคนว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้จะออกมาในแนวไหน ซึ่งหลังจากฉายไปแล้วก็ไม่ทำให้คนผิดหวังกันเลย เพราะ Special Effect สุดยอดจริงๆ แถมยังทำรายได้ทะลุ 700 ล้าน แซงหน้า Iron man ไปเลยจ้า 




ตอนที่พี่สก็อตเดินลงมาจากรถนางก็ดูงงๆไม่แพ้เควิน ไม่รู้จะไปทางไหนดี จริงๆนางก็เดินผ่านเราไปแล้ว แต่อยู่ดีๆก็เดินวกกลับมาคว้าปากกาไปเซ็นโปสเตอร์ให้เฉยเลย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปคุณเควินมา เพราะตอนนั้นมัวแต่กรีดร้อง

รถลีมูซีนคันต่อไปมาเทียบท่า ซึ่งแน่นอนว่าคือแม่ทิลด้านั่นเอง นางเดินลงมาจากรถพร้อมด้วยท่า mini heart แถมยังเดินมาตรงหน้าที่แฟนไทยอย่างเราๆ ยืนกรีดกัน อยู่ดีๆแม่ก็ยกมือมาไหว้เฉยเลย แฟนไทยตรงนั้นคืองงหนักมาก คือนางรู้ว่าเราเป็นไทยแฟนรึเปล่า จนหลังจบงานก็มานั่งคุยกันว่ามีใครตะโกนไทยแลนด์อะไรรึเปล่า ทุกคนก็บอกว่าเปล่า งงกันไปตามๆกัน 


ราว่าทิลด้านางสวยแบบ Unisex มากๆ คือแต่งหญิงก็สวย แต่งชายก็หล่อ ดูในเรื่องนางไม่มีผมยังสวยอ่ะ หน้าเก๋มาก แม่ก็คือแม่อ่ะค่ะ

ขณะที่เรากำลังกรีดร้องกับแม่ทิลด้าซึ่งกำลังเซ็นโปสเตอร์ให้ สายตาก็เหลือบไปเห็นพี่เบน ยืนแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับฝั่งตรงข้ามที่ไม่ได้เข้ามาในงาน หูยยยยย ออร่าเด้งมาก กรีดร้องกันไม่เป็นภาษาคนเลยจ้า พี่เบนแกเดินเซ็น เดินจับมือกันแบบทั่วถึงมาก จนกระทั่งพี่เบนเดินมายืนอยู่ตรงหน้า โลกหยุดหมุนกันเลยจ้า



หน้าพี่เบนคือใสมาก ไหนคะริ้วรอย ที่เห็นในซีรีส์คือ CG ป่ะคะ อยากถามมาก ณ ตอนนั้นคือภาพตัดแล้วค่ะ นอกจากหน้าพี่เบนก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

พูดถึงอีเว้นท์งานเปิดตัวภาพยนตร์ของที่ฮ่องกงก็ค่อนข้างจะแตกต่างจากของไทยนิดหน่อย ตัวนุ้ยเองทำงานอยู่ในวงการสื่อสารมวลชน ไปร่วมงานเปิดตัวหนังทั้งไทยและเทศบ่อยมาก ส่วนใหญ่ตาม sequence ของงานจะเริ่มจากพิธีกรขึ้นพูดบนเวที เปิดตัวอย่างหนังเรียกน้ำย่อยอะไรก็ว่ากันไป จากนั้นนักแสดงก็ขึ้นสัมภาษณ์บนเวที ถ่ายภาพรวม และลงมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวไมค์รวม,ไมค์เดี่ยวเสร็จสิ้นเป็นอันจบงาน แต่ของที่ฮ่องกงไม่เลย หลังจากนักแสดงเดินพรมแดงเสร็จ แต่ละคนก็จะทะยอยเดินไปให้นักข่าวที่อยู่หลังรั้วด้านในสัมภาษณ์ไมค์เดี่ยวทีละช่อง กินเวลาเป็นชั่วโมงได้ หลังจากนั้นนักแสดงค่อยขึ้นให้สัมภาษณ์กับพิธีกรบนเวที จุดพลุ จุดไฟ ถ่ายรูปรวมก็เป็นอันเสร็จพิธี จบงานตอนเกือบๆสี่ทุ่มได้ ตามกำหนดเวลาที่วางเอาไว้เป๊ะๆ ซึ่งหลังจบงาน นุ้ยกับพี่ฝนก็ร่ำลาแฟนไทยที่มาร่วมชะตากรรมกันในวันนี้ 

สิ่งที่ทำให้นุ้ยตัดสินใจมางาน Premere Red Carpet ครั้งนี้นอกจากอยากเจอพี่เบนตัวเป็นๆ แล้วใจจริงก็อยากรู้การทำงานของต่างประเทศว่าจะเป็นยังไง แตกต่างจากที่ไทยมากรึเปล่า ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน รวมถึงทริปนี้เป็นแค่ทริปน้ำจิ้ม...เพราะกลางปีจะมีงานเปิดตัวหนัง Spider Man : Home Coming ที่น้องทอมแสดง งู้ยยยยยย ไหนจะหนัง Thor : Ragnarok อีก ทั้งพี่คริสแฮม พี่ทอมฮิ ดีดดิ้น กรีดร้องตามประสา Marvel Fangirl ถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ไปในตัว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปจัดที่ประเทศไหน ก็รอลุ้นกันต่อไป....ขอบคุณทริปฟ้าผ่า ฟ้าแลบครั้งนี้ที่มอบประสบการณ์ดีๆให้จ้า



โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นที่ได้มา ณ ปัจจุบันก็ยังไม่ได้หากรอบมาใส่เลยสักที 

ปล. ลายเซ็นแม่ทิลด้าประหนึ่งลงยันต์เลยค่ะ 



Create Date : 26 เมษายน 2560
Last Update : 27 เมษายน 2560 1:07:25 น.
Counter : 996 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีน้อยพุงพลุ้ย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]