เมษายน 2556

 
1
2
3
4
5
6
7
8
12
13
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
17 เมษายน 2556
All Blog
Super Show5 @Korea Part5

2013.03.27


The last day in SEOUL



วันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว หลังจากเมื่อคืนวางแพลนไว้หาแผนที่ไปงานอีทึกรับรางวัลทูตอะไรสักอย่างของกองทัพเรียบร้อย ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำแต่งตัว เช็คความเรียบร้อยของกระเป๋า ก่อนจะลงไปกินข้าวเช้าแล้วกลับมาหิ้วกระเป๋าไปเช็คเอ้าท์ แต่ก็ฝากข้าวของทั้งหมดไว้ก่อน เพราะกว่าเครื่องจะออกก็ทุ่มครึ่ง นุ้ยก็กะว่าจะไปสนามบินสักสี่โมง



งานของอีทึกเริ่ม 10 โมงเช้า แต่นุ้ยนั่งรถไฟใต้ดินไปถึงสถานีโบราแมตอน 9 โมงนิดๆ เดินไปเดินมากว่าจะหาทางเข้าเจอ วนไม่รู้กี่รอบ พอไปถึงหน้าทางเข้าก็หง่าง เพราะมันเงียบมากกกกกกก ไม่มีคนเลย 




เดินวนไปวนมาอยู่หน้าทางเข้า ไม่มีวี่แววสักทีเลยทำใจกล้าเดินเข้าไปถามคุณทหารที่ยืนอยู่ข้างหน้า พูดไม่รู้เรื่องสักอย่าง บอกแต่ว่า Official place นุ้ยก็เข้าใจว่าแบบสถานที่ราชการห้ามเข้ารึเปล่า หรือยังไง ก็เลยถอยออกมาดีกว่า


แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือมารู้ทีหลังว่ามีแฟนคลับต่างชาติ (จีน,ญี่ปุ่น,สิงคโปร์) เข้าไปในงานได้ ซึ่งคนที่เข้าไปก็ได้ลายเซ้นต์ของอีทึกกับซังซูด้วย เจ็บปวดอ่ะ ทำไมตอนไปถามไม่เห็นบอกล่ะว่าเขาอยู่ที่ไหนยังไงกัน *นั่งพับเพียบร้องไห้*



เดินผิดหวังกลับไปควังฮวามุนอีกครั้ง ในที่สุดก็ได้ซื้อ Ceci ปกซูจีสักที แต่เล่มจะหนาไปไหน หนักประมาณ 2 กิโลได้ และที่สำคัญมียองอุนอยู่ 7 หน้า.......เพื่ออะไร?........




พอออกจากควังฮวามุนก็เลยไปเดินชองเกชอน เดินข้ามฝั่งจากสถานีรถไฟใต้ดินก็เจอเลย




น้องหอยสัญลักษณ์ของชองเกชอนค่ะ



เชื่อมั้ยว่านี่เป็นครั้งแรกของนุ้ยเลยที่มาเดินที่นี่ = = เพลียป่ะล่ะ มาเกาหลี 3 ครั้งแล้วเพิ่งเคยมา จริงๆถ้ามาช่วงเดือนเมษาน่าจะสวยกว่านี้ ตอนนี้ต้นไม้ยังไม่ออกดอกออกใบ



น้ำใสมาก แหงสิ...ก็น้ำประปานี่ เดิมทีเป็นคลองบำบัดน้ำเสียใต้ทางด่วน แต่ก็มีการรื้อแล้วทำใหม่จนกลายเป็นแลนด์มาร์ค 





เดินไปได้นิดหน่อยก็เจอหลุมนี้กลางน้ำ ตอนแรกก็สงสัยเลยเดินไปชะโงกดูเห็นเหรียญเต็มปากบ่อเลยถึงบางอ้อว่า หลุมนี้มีไว้ให้โยนเหรียญลงไป




ป้ายบอกว่าถ้าอธิฐานแล้วโยนเหรียญลงหลุมก็จะทำให้สิ่งที่ขอเป็นจริง.....เงินรายได้ทั้งหมดนำไปบริจาคให้กับคนยากจน




ระหว่างนั้นก็มีคนมาโยนเหรียญลงหลุมเป็นระยะๆ




แต่เดี๋ยวก่อน!!! ถ้าใครไม่มีเหรียญเชิญทางนี้ค่ะ มีตู้ให้แลกเหรียญด้วย โหววววววว




ที่ชองเกชอนมีทั้งหมด 22 สะพาน แต่ละสะพานก็จะมีชื่อ และจุดเด่นต่างกันไป ยิ่งตอนกลางคืนบางช่วงสะพานก็จะมีการแสดงแสงสีด้วย



แต่สำหรับนุ้ยเดินได้แค่โมจอน-กโย สะพานแรกก็ยกธงขาวละ เพราะลมแรงมาก ตีเข้าหน้าตลอดเวลาจนน้ำมูกไหลแบบไม่รู้ตัว ไหนๆมาเกาหลีทริปนี้ตระเวนกินลาเต้ร้านคุณผู้ชายเกือบครบหมดแล้ว จะไม่ไปโคนาบีนส์ก็กระไรอยู่ เพราะฉะนั้นก็ Let's go ค่ะ




นั่งรถไฟใต้ดินสายสีส้มไปสถานีอัปกูจองทางออก 2 เดินประมาณเหงื่อไหล 3 หยดก็ถึง จริงๆจะนั่งรถเมล์ต่อก็ได้ แต่นุ้ยไม่เคยขึ้นก็เลยไม่อยากเสี่ยงดีกว่า เดี๋ยวจะเลยไปไกล



เดินไปเรื่อยๆถ้ารู้สึกว่าทำไมยังไม่ถึงสักที นั่นแปลว่าใกล้ถึงละ = =  พอข้ามถนนตรงสี่แยกใหญ่ๆแล้วเดินเจอ Caffe Pascucci เมื่อไรก็เลี้ยวเข้าซอยได้เลย 



ร้านโคนาบีนส์อยู่ทางด้านซ้ายมือ 





โคนาบีนส์เป็นร้านร่วมสร้าง(?)ระหว่างอีทึก ซองมิน และคยูฮยอน ซึ่งบรรดาแม่ๆขอทั้ง 3 คนจะสลับสับเปลี่ยนเข้ามาดูแล แล้วแต่ว่าจะโชคดีได้เจอคุณแม่ของใคร แต่ปกติแล้วซองจิน น้องชายของซองมินจะเข้ามาบ่อยสุด



เมนูที่สั่งคือ กรีนทีลาเต้กับเครปเค้ก



ตอนที่กำลังสั่งออเดอร์อยู่ก็มีคนเดินเข้ามาทัก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น 2 คนที่นุ้ยเจอที่ร้าน Mouse Rabbit เขาก็เลยชวนไปนั่งด้วยกันเพราะโต๊ะเต็มเกือบหมด



นั่งไม่นานก็งานเข้า เพิ่งรู้ว่า Super Junior M จะกลับจากฉางชาวันนี้ เครื่องลง 4 โมงเย็น.......



ก้มมองนาฬิกาก็เกือบบ่าย 2 โมง รีบจ้วงกินเครปเค้กให้ไวเลย ก่อนออกจากร้านก็แวะเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาก็เจอกับคุณแม่ของซองมินพอดี คุณแม่กับคุณลูกนี่น่ารักมุ้งมิ้งเหมือนกันเลย = =



ที่นั่งประจำของซองจินคือหน้าห้องน้ำ = = น่ารักมุ้งมิ้งทั้งครอบครัว



ระหว่างเดินกลับไปสถานีรถไฟใต้ดินอัปกูของก็แวะซื้อคอนซีลเลอร์ของ Canmake ที่ตามหามานาน และก็ได้เจอกับโค้กรสเชอร์รี่ 




แต่คำแรกที่กินเข้าไปคือ......เชอร์รี่อยู่ไหนฟะ?



ภายในสถานีรถไฟใต้ดินอัปกูจอง เราก็จะได้ตื่นตาตื่นใจกับป้ายโฆษณาคลินิคศัลยกรรม บางรูปนี่คือแบบ ใช่คนเดียวกันเหรอวะ? โดยเฉพาะทางออกที่ 4 


แต่ก็น่าแปลกที่แม้ว่าคลินิคศัลยกรรมในเกาหลีจะเป็นที่นิยมยังไง คนที่ไปทำส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าออกมาพูดแบบเต็มปากเต็มคำว่า "ฉันทำมานะคะ" จริงๆฝั่งตรงข้ามเป็นคลินิคศัลยกรรมชื่อ Dream Hospital อะไรสักอย่าง เขาว่ากันว่าดาราส่วนใหญ่มาทำกันที่นี่ แต่นุ้ยไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะว่ามันติดสะพานข้ามแยก = =



ประตูทางเข้าก็ลึกลับมากใช่ว่าเดินเข้าไปแล้วจะเจอร้านเลย ไม่รู้ต้องเดินเข้าไปลึกอีกเท่าไร



รีบกลับมาเอากระเป๋าที่เกสต์เฮ้าท์แล้วออกมายืนรอรถ Airport Bus ยืนจนขาแข็ง ปกติไม่เคยมาสาย แต่รอบนี้อาจอชิผิดเวลานะคะ รู้มั้ยว่าหนูรีบอยู่ 


สรุปว่าอาจอชิมาช้าจากเวลาตามป้ายไปเกือบ 10 นาที แล้วความซวยก็ตกอยู่กับผดส.สิคะ.... คราวนี้อาจอชิซิ่งแบบไม่กลัวรถข้างๆลงมายิงทิ้งเลยจริงๆ




ระหว่างทางก็ถ่ายรูปวิวเล่นๆ




อันนี้น่าจะเป็นคยองบกกุงมั้ง... ไม่แน่ใจเหมือนกัน




มหาวิทยาลัยยอนเซ มหาวิทยาลัยเอกชนเก่าแก่และมีชื่อเสียง 1 ใน 3 ของกลุ่ม SKY**




พอขึ้นไฮเวย์ได้ทุกอย่างก็โล่งละ อีก 20 นาทีเจอกันที่อินชอน = =


ถึงสนามบินอินชอนเวลาสี่โมงครึ่งเป๊ะ วิ่งไปที่ประตูขาออก คนก็เริ่มมายืนรอเยอะแล้วเหมือนกัน

รอสักพักพ่อคุณทั้ง 6คน ก็ออกจากเกท ตอนนี้แหละที่เริ่มวุ่นวาย เพราะทุกคนพากันแตกฮือ วิ่งตาม




นุ้ยก็กระชับกล้องในมือให้มั่น



แต่ทุกอย่ามันเกิดขึ้นเร็วมาก แล้วคือกล้องก็เพิ่งได้มาใหม่ กดชัตเตอร์ไปไม่ถึงสิบครั้งด้วยซ้ำ พอเจอผู้ชายทุกอย่างก็เลยมึนและเบลอไปหมด คือกล้องมันยังไม่ชินมือ (แก้ตัวชัดๆ) พอกดแล้วมันก็ไม่โฟกัส พอจะให้โฟกัส ผู้ชายก็ไม่อยู่แล้ว = =






คือมันเบลอจนไม่กล้าจะเอารูปลงคอมเลยแหละ

เพราะฉะนั้น อย่าฝากความหวังไว้ที่กล้องตัวเอง ดูรูปจากสำนักข่าวดีกว่าเนอะ 55555








พอรับผู้ชายเดินทางกลับเกาหลีเสร็จ ก็เจอกับเฮลรี่ เพื่อนชาวเวียดนามอีกครั้ง เนื่องจากนางก็มารับผู้ชายที่สนามบินเหมือนกัน ยังมีเวลาเหลืออยู่นิดหน่อยก็เลยไปนั่งกินลาเต้กันที่ Caffe Pascucci ในสนามบินหลังจากเช็คอิน โหลดกระเป๋า คืนโทรศัพท์ที่เค้าเตอร์เรียบร้อย 



นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เฮลรี่ก็ถามถึงใบ Event ที่ได้มาตอนไปยืนต่อแถวซื้อของหน้าคอนเสิร์ต เพ่ิงรู้ว่าเอาใบนั้นไปแลก Photo Card ที่ Everysing ในสนามบินได้ นุ้ยก็เลยควานหาทั่วกระเป๋า ก่อนจะเข้าเกทก็เลยแวะไปแลกการ์ดสักหน่อย



ไปถึงเขาก็จะให้กรอกชื่อ อายุ และประเทศ จากนั้นก็ตัดคูปองออกไป....น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปแลกการ์ดที่ Everysing เมียงดงกับคังนัม



แท่น แท๊นนน~~

นุ้ยได้การ์ดคุณคนเล็กมาค่ะ 




จากนั้นก็โบกมือลาเฮลรี่ เดินเข้าเกท กว่าจะผ่านตม.ได้ก็ 1 ทุ่มละ แล้วคือ เครื่องออกทุ่มครึ่ง แต่เกทปิดทุ่มสิบนาที........


ว่าจะแวะซื้อกิมจิฝากที่บ้านในดิวตี้ฟรีก็ไม่ทันสักอย่าง วิ่งเข้ารถไฟไปอีกเทอมินอลนึงก็จะหมดเวลาแล้ว


ลุ้นมากแต่สุดท้ายก็มาถึงเกทได้ทันเวลา เหงื่อแตกครั้งแรกตั้งแต่มาเกาหลีเลย = =



โบมือลาเกาหลีครั้งที่ 3 ทริปที่ฟินเวอร์ๆ 




ปล. ล่าสุดไปเจอหนังสือท่องเที่ยวเล่มนึงน่าสนใจมาก เพราะว่าเป็นหนังสือแปล คนเขียนเป็นคนเกาหลีซึ่งเคยทำงานเป็นผู้จัดการดาราแต่ตอนนี้ลาออกไปใช้ชีวิตที่ไต้หวัน 

เพราะฉะนั้น ในหนังสือเขาก็จะแนะนำสถานที่ที่ดาราส่วนใหญ่ชอบไป......



เพราะฉะนั้นเกาหลีทริปหน้า...นุ้ยจะตามรอยหนังสือ Seoul Insider!!!! 5555555

แต่เมื่อไรยังไม่รู้นะ.......... = =




Create Date : 17 เมษายน 2556
Last Update : 17 เมษายน 2556 21:10:49 น.
Counter : 1858 Pageviews.

4 comments
  
Thank you very much
โดย: Kai (nookookai8 ) วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:16:56:22 น.
  
ตามอ่านมาตั้งแต่ part 1 ไปคนเดียวเก่งมากเลยคะ
ว่าจะลองไปเองตอนอังกอร์คอนดู
โดย: pepperoho IP: 118.173.200.87 วันที่: 28 เมษายน 2556 เวลา:23:45:04 น.
  
อ่านตั้งแต่พาสแรก อ่านไปลุ้นไป อ่านไปอ่านมาถึงได้รู้ว่าเมนเดียวกัน ^0^ ยิ่งอ่านยิ่งฟิน ^^ ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวดีๆที่เอามาแบ่งปันกัน
โดย: paoom IP: 58.97.124.196 วันที่: 5 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:57:56 น.
  
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ เก่งด้วยที่ตะลุยเดี่ยวเลย ปลายปีนี้พี่มีทริปไปเกาหลีค่ะ ตอนแรกรู้สึกกังวลกับการเป็นผู้หญิงเดินทางเข้าเกาหลีคนเดียว แต่พอได้อ่านแล้วรู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะค่ะ
โดย: เมนซองมิน IP: 101.108.84.161 วันที่: 8 สิงหาคม 2556 เวลา:4:46:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีน้อยพุงพลุ้ย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]