มีนาคม 2557

 
 
 
 
 
 
2
3
4
6
7
8
9
11
12
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Hello HongKong ตอนที่ 7 : บ๊ายบายฮ่องกง
บ๊ายบายฮ่องกง


รถบัสจอดที่ Exchange Square อีกทีก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสอง นุ้ยเลยเดินเล่นแถวๆ Central สักพักให้หายมึน แล้วนั่งรถไฟใต้ดินไป Tsim Sha Tsui ต่อ เพราะว่าจะไปหาอะไรกิน และก็เดินหาซื้อของฝากด้วย


แน่นอนว่านุ้ยฝากกระเพาะไว้ที่ Yoshinoya เหมือนเดิม เพราะหวังจะแก้แค้นอีกครั้งด้วยการสั่งชาบูหม้อไฟ แต่ก็นั่นแหละ...ไม่มีเหมือนกัน สุดท้ายก็จบลงที่ข้าวหน้าไก่และไข่ลวก ซึ่งก็มีเรื่องหน้าแตกจนได้ คือเวลาสั่งอาหารจะได้ใบเสร็จแล้วก็ไปยืนรอที่เค้าเตอร์ข้างๆ คือนุ้ยก็ไม่รู้ไง คือสั่งเสร็จเดินมาเค้าเตอร์ข้างๆมันมีชุดที่สั่งไปเมื่อกี้พอดี เลยเดินไปหยิบ ในใจก็คิดว่า 'เฮ้ย ดีว่ะ สาขานี้สั่งปุ๊บได้ปั๊บ' แต่พอเอามือแต่ที่ถาดเท่านั้นแหละหนุ่มหน้าตี๋ก็ปรี่เข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าของทันที ณ จุดนั้นความหิวมันบังตา นุ้ยก็ไม่ยอมสิคะ นางก็เถียงว่าของนาง เลยก้มดูรหัสในใบเสร็จ แหม อยากจะหัวเราะดังๆ.... ให้มันกลบความอายของตัวเอง คือมันไม่ใช่ของนุ้ยแหละ ได้แต่หน้าแตกเพล้งแล้วขอโทษเขาไป เขินนะนั่น พอเซ็ทที่นุ้ยสั่งออกมาอีกชุดเลยก้มดูให้แน่ใจว่าใช่แน่ๆ ไม่มีใครออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของอีก ก็ได้เวลาลุยละ





หลังกินสร็จ จากนั้นก็ได้เวลาเดินเล่นไปเรื่อยๆ นุ้ยไล่เก็บสารพัดห้างแถบจิมซาจุ่ย เดินเข้าเดินออก และอยากจะบอกว่าเป็นวันแรกที่ได้เจอกับแสงแดด คือสามวันที่ผ่านมาไม่มีแดดเลย อากาศอึมครึม ขมุกขมัวตลอดเวลา แม้ว่าจะมีแดด แต่ก็ยังหนาวอยู่ 




ทนเดินได้ไม่นานก็ต้องวิ่งหลบในสตาร์บัคอยู่ดี ความจริงแล้วแอบเข้าไปส่องด้วย ได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่นมีขายแก้วฤดูใบไม้ผลิ เป็นกลีบซากุระร่วงโรย แต่น่าเสียดายที่ฮ่องกงยังไม่มี คือก็ไม่รู้หรอกว่าที่ฮ่องกงมันจะมีมั้ย แต่ที่แน่ๆ ในไทยมีขายแล้วนะคะ 




พอตั้งสติได้ก็เลยไปเดิน SASA ฆ่าเวลา อยากได้น้ำหอมนะ แต่ในกระเป๋าไม่สามารถยัดลงได้อีกแล้ว ถือขึ้นเครื่องก็ไม่ได้ ต้องตัดใจอย่างเดียว


ตอนที่เดินเล่นอยู่ใน SASA สายตาก็เหลือบมองเห็นชะตากรรมของหนุ่มผู้โชคร้ายสองคน เดาจากท่าทางแล้วน่าจะมานั่งรอแฟนสาวช็อปปิ้งอยู่ โถๆๆๆๆๆๆ




ตั้งใจว่าจะกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม 6 โมงเย็นแล้วค่อยไปขึ้น Airport Bus A21 ไปสนามบิน แต่เนื่องจากเดินจนเริ่มปวดขาแล้วเลยเปลี่ยนใจกลับโรงแรมตอน 5 โมงและไปสนามบินเลย เผื่อเวลาไว้ช็อปปิ้งในเกทแล้วกัน เพราะของฝากก็ยังไม่ได้ซื้อ ระหว่างทางก็ได้แต่ถ่ายรูปเล่นๆ ในขณะที่คนบนรถส่วนใหญ่เฝ้าพระอินทร์กันเรียบร้อย











ใช้เวลาแค่ไม่นานก็ถึงสนามบิน แต่ยืนเช็คเค้าเตอร์เช็คอินแล้วปรากฏว่ายังไม่เปิด สายตาเหลือบเห็นที่ชั่งน้ำหนักเลยลากกระเป๋าไปลองชั่งบ้าง เนื่องจากสายการบิน Emirates ให้น้ำหนัก 30 กิโลกรัม คิดในใจว่ายังไงก็ไม่เกินแน่ๆ แต่ก็อยากรู้ว่าขากลับจะทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากี่กิโลฯ ทันทีที่ลากกระเป๋าไปไว้ตรงตราชั่งก็ช็อคค่ะ....... ตัวเลขมันดีดไป 42 กิโลฯ คุณพระ!!!!! บ้าไปแล้ว ในสมองนี่คำนวนเงินที่จะต้องจ่ายค่าน้ำหนักจนหน้าซีด ทุกอย่างต้องผิดพลาดแน่ๆ เลยลากกระเป๋าออกมาแล้วเอาชั่งใหม่ ซึ่งรอบสองน้ำหนักมันดีดเพิ่มไป 46 กิโลฯ!!!! แต่อยู่ๆก็ก้มมองที่ชั่ง เลยเพิ่งรู้ตัวว่านุ้ยยืนเหยียบบนที่ชั่งอยู่ ได้แต่ยืนเขินอยู่คนเดียว ชั่งครั้งสุดท้ายน้ำหนักอยู่ที่ 21 กิโลฯถ้วน โล่งอก




ความจริงแล้ว Emirates Airline ส่งอีเมลมาให้ Online Check in ตอนตี 1 แอบดีใจเพราะตอนขามาไม่ได้ทำ Online Check in แล้วต้องไปต่อแถวที่สนามบิน ซึ่งคนเยอะมาก ได้บทเรียนจากตอนขามา ขากลับก็เลยไม่เอาละ ทำ Online Check in ไปเลยดีกว่า แต่พอกดตามลิ้งค์ที่ส่งมาแล้วปรากฏว่า... เช็คอินไม่ผ่านเพราะต้องทำ Online Check in ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนบินเท่านั้น....... ปลวกนะคะ ไฟลท์กลับนุ้ยสามทุ่ม แต่ส่งเมลมาตอนตีหนึ่ง.... ต้องการอะไรคะ? มันก็เช็คอินไม่ได้ น้ำตาจะไหล ต้องไปต่อแถวที่สนามบินเอง


แต่พอไปถึงสนามบินปรากฏว่าไม่ค่อยมีคนเท่าไร หรือเป็นเพราะนุ้ยไปเร็วก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น ยกโทษให้นะคะ


หลังจากจัดการโหลดกระเป๋าอะไรเรียบร้อยแล้วต่อไปก็ได้เวลาเอาบัตร Octopus ไปคืนที่เค้าเตอร์ที่ซื้อตอนขามานี่แหละ เราก็จะได้เงินที่เหลืออยู่ในบัตร พร้อมทั้งค่ามัดจำบัตรอีก 50 HKD คืน แต่ถ้าคืนก่อน 3 เดือน จะโดนหักเงิน 9 HKD


ภาระกิจอีกอย่างหนึ่งที่สนามบินของนุ้ยคือการละลายเงิน HKD ที่เหลือติดตัวอยู่ 200 กว่าเหรียญ ฟังดูสวยและรวยมาก แต่จริงๆแล้วเปล่าหรอก คือตอนแลกไปเรทเงินมันขึ้น แต่อีตอนจะกลับนี่เรทเงินลงฮวบๆ แอบสำรวจมาว่าที่สนามบินมี Disneyland Shop อยู่ เลยกะว่าหาอะไรลงท้องก่อน แล้วค่อยไปซื้อมิกกี้เม้าส์ เดินสำรวจร้านอาหารในเกทมีให้เลือกเยอะแยะ และคนก็เยอะแยะยั้วเยี้ยเหมือนกัน สุดท้ายก็ได้ชุดนักเก็ตไก่จากแมคโดนัลด์มารองท้อง เพราะคนต่อแถวน้อยที่สุดและใช้เวลาในการรอสั้นที่สุด


ขณะกำลังนั่งรูดแท็บเล็ตอย่างเพลิดเพลิน แต่อยู่ดีๆเสียงเตือนแบตเตอรี่ก็ดัง... เหอๆ แบตหมดค่ะ มีสายชาร์ตอยู่กับตัว แต่หัวปลั๊กกับพาวเวอร์แบงค์อยู่ในกระเป๋าซึ่งโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องไปแล้ว.........


โบกมือลาโลกโซเชียลทั้งหมดทั้งมวลค่ะ บ๊ายบาย....


แต่เดี๋ยวก่อน ไม่มีโซเชี่ยลแล้วอย่าคิดว่าจะไม่มีอะไรทำ เพราะดิวตี้ฟรีมีทุกอย่าง.... ค่ะ จากนี้ก็เดินช็อปปิ้งมันส์เลยค่ะ รูดปื้ด รูดปื้ด ก่อนมาสนามบินไปเดินหาซื้อของฝากแต่ไม่รู้จะซื้ออะไรดี เพราะส่วนใหญ่ก็มีในไทยหมด มีคนแนะนำว่าให้ซื้อของฝากเป็นพวกขนมอะไรแบบนี้ 




และที่ติดท็อปชาร์ตเหลือเกินก็คือ โคลอนทาร์ตไข่ กับเพรสรสหูฉลาม แต่คือนุ้ยก็เดินตามหาหลายที่แต่ไม่เจอ เลยลองเดินดูในดิวตี้ฟรี ปรากฏว่าเยอะแยะเลย อย่างโคลอนทาร์ตไข่ที่ซื้อมา 1 กล่องใหญ่ราคา 88 HKD เกือบ 400 บาท แต่ข้างในมี 12 กล่องเล็ก แจกจ่ายได้ทั่วถึงดี สอยโลดดดดด




เดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูอีกทีความซวยเริ่มมาเยือน เพราะเลยเวลาบอร์ดดิ้งแล้ว คือตอนนั้นไถรถเข็นประหนึ่งรถ F1 เลยทีเดียว คุณแอร์ฯเห็นนุ้ยวิ่งหน้าตื่น นางก็วิ่งหน้าตื่นออกมาหา พร้อมตรวจบอร์ดดิ้งพาสกับพาสปอร์ตไปด้วย แหม่…. Final Call ยันวินาทีสุดท้ายจริงๆ


ปิดท้ายด้วยอาหารบนเครื่องแบบธรรมดา เพราะเข็ดจากอาหารทะเลขามาฮ่องกงแล้ว แต่ก็อยากจะบอกว่า อาหารขากลับก็แย่ไม่ต่างจากขามา คือขากลับเป็นข้าวกับอกไก่ราดซอสเกรวี่... ซึ่งมันมีกลิ่นเครื่องเทศที่นุ้ยไม่ค่อยชอบอยู่ด้วย สรุปก็กินไปได้นิดเดียว ส่วนสลัดผักไม่ต้องพูดถึง เพราะนุ้ยไม่เกินผักสด เค้กมะม่วงกล้วยก็รสชาติเหมือนเคี้ยวฟองน้ำ ไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่ามะม่วงและกล้อยเลย สิ่งที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้คือขนมปังปาดชีส




โบกมือลาฮ่องกง นี่เป็นอีกทริปนึงที่นุ้ยประทับใจมากๆ แม้ว่าก่อนจะมาก็คิดว่าฮ่องกงคงไม่มีอะไร และไม่เข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงชอบไปฮ่องกงกันจัง ซึ่งพอได้ลองมาสัมผัสฮ่องกงด้วยตัวเองแล้ว มันก็ไม่มีอะไรอย่างที่คิดตอนแรกนั่นแหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกว่าอยากจะกลับไปอีก....




ฮ่องกงนี่มันฮ่องกงจริงๆนะ...




See you next time, HK…..




END




Create Date : 14 มีนาคม 2557
Last Update : 14 มีนาคม 2557 23:50:58 น.
Counter : 2155 Pageviews.

1 comments
  
ตามเที่ยวด้วยคนค่า
โดย: mariabamboo วันที่: 15 มีนาคม 2557 เวลา:13:44:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีน้อยพุงพลุ้ย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]