กรกฏาคม 2560

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
::บันทึกการเดินทาง:: Hello Osaka! Let’s go to Universal Studio Japan


::บันทึกการเดินทาง:: Hello Osaka! Let’s go to Universal Studio Japan



เนื่องจากแพลนในวันนี้คือจะไป Universal Studio Japan กัน เพราะฉะนั้นก็ตั้งนาฬิกาปลุกกันไว้ตั้งแต่ 7 โมง เพื่อออกจากที่พักไม่เกิน 9 โมง เพราะต้องไปต่อสู้กับผู้คนมากมายมหาศาลที่เครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey สุดฮิต เพราะโซน The Wizarding World of Harry Potter เพิ่งจะเปิดที่ USJ ได้ไม่นาน เลยทำให้โซนนี้เป็นเป้าหมายแรกของทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาติไหนๆ ก็ตาม และแม้ว่าประตูสวนสนุกจะเปิดตั้งแต่ 9 โมง แต่เนื่องด้วยความเมื่อยล้าสะสมมา ทำให้เราทั้งสี่คนลืมตาตื่นกันตอน 8 โมง และงัดตัวเองออกจากที่พักได้ตอน 10 โมงตรง ขอบคุณค่ะ....


ในที่สุดเราก็ไปถึง Universal Studio Japan กันตอนเกือบเที่ยงเพราะลืมลงไปเปลี่ยนขบวน เกือบหลงไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ซึ่งพอออกจากสถานียังไม่ได้ทันเสียบบัตรเข้าไปในสวนสนุก ทุกคนก็จับมือกันเสียเงิน 1,700¥ ให้กับที่คาดผมที่ Shop ด้านนอกแล้วจ้า นอกจากนี้เรายังเสียเวลากับการถ่ายรูปที่ลูกโลก Universal ไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ไหนๆ ก็มาช้ากว่าเวลาที่วางเอาไว้ ตอนนี้ก็เลยไม่มีใครคิดจะรีบกันละ





บัตร Universal Studio Japan สามารถมาซื้อที่ซุ้มขายตั๋วด้านหน้าได้ สำหรับบัตรผ่านแบบ 1day pass ราคา 7,600¥  แต่ถ้าใครขี้เกียจต่อแถว หรือกลัวเสียเวลาเพราะคนเยอะก็สามารถซื้อกับเอเจนซี่ที่ไทยได้เลย ราคาไม่แตกต่างกันมาก อาจจะถูกกว่าหรือแพงกว่าก็ขึ้นอยู่กับค่าเงินเยนในเวลานั้น ซึ่งนุ้ยเองก็ไปซื้อกับ HIS ในราคา 2,450 บาท จริงๆ ตอนที่ไปโชคร้ายเป็นช่วงที่เรทเงินแพงพอดี อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 0.34xx




อีกเรื่องหนึ่งที่หงุดหงิดใจคือ ก่อนออกจากที่พักเรานั่งเช็คสภาพอากาศกันว่าอากาศจะเป็นยังไง ฝนจะตกมั้ย ปรากฎว่าอุณหภูมิลดลงจากเดิมอีก แต่ละคนก็คิดว่างานนี้ได้หนาวกันปากสั่นแน่นอน เพราะสวนสนุกมันอยู่นอกเมือง ลมต้องแรง อากาศต้องหนาวกว่าที่พี่กูเกิ้ลบอกมา ทุกคนก็เลยคว้าเสื้อโค้ทตัวที่หนาที่สุดออกมาท้าลมหนาวกัน

ตัดภาพมาที่แดดแรงมาก ลมก็ไม่ค่อยแรงอย่างที่คิด แต่เสื้อโค้ทเราจัดเต็มมาก ถ้าถอดก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนก็ต้องทนใส่กันไป เหงื่อจะออกก็วันนี้แหละค่ะ




กว่าจะตั้งสติว่าต้องมุ่งหน้าไปโซน The Wizarding World of Harry Potter ก็พักใหญ่เลยทีเดียว อย่างแรกที่ต้องทำหลังจากผ่านเข้าประตูมาคือไปหยิบแผนที่ ยืนวางแผนกันว่าต้องไปตรงไหนก่อน พอเอาเข้าจริงก็หลงอีก หาแฮร์รี่ไม่เจอ เดินหลงทิศวนไปวนมาจนเจอกับรถของพ่อรอนในป่าต้องห้ามเท่านั้นแหละ สมองสั่งการให้ตื่นเต้นเลยทีเดียว

จากหนังสือที่เคยอ่านครั้งแรกตอนป.5 เป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้นุ้ยหมกตัวอยู่ในห้องสมุดตั้งแต่ได้อ่าน จนกระทั่งดูหนังจบทั้ง 7 ภาค 8 ตอน เรียกว่าโตพร้อมกับนักแสดงในเรื่องเลยแหละ แล้ววันนึงสิ่งที่เคยได้อ่านและอยู่ในจินตนาการมันออกมาเป็นรูปเป็นร่างที่จับต้องได้ มันเป็นความประทับใจเหมือนได้ย้อนกลับไปตอนที่ได้อ่านแฮร์รี่ครั้งแรก




ถัดจากป่าต้องห้ามเราก็จะเดินไปเจอกับ Hogsmeade Village มีรถไฟด่วนฮอกวอตส์จอดให้ถ่ายรูปพร้อมกับนายสถานีด้วย ซึ่งโซนนี้จะเป็นโซนขายของโดยเฉพาะ อยากจะวิ่งไปกรี๊ดแบบขาไม่ติดพื้น แต่เรามีเป้าหมายสำคัญนั่นก็คือ Harry Potter and the Forbidden Journey ที่อยู่ในปราสาทฮอกวอตส์ จะมาเสียเวลากับกิเลสข้างทางไม่ได้เด็ดขาด 






ดูลาดเลาอยู่หน้าปราสาทแล้วคนก็เดินเข้าไปต่อแถวเรื่อยๆ ดูด้วยสายตาแล้วไม่น่าจะเยอะเท่าไร แต่พอเดินเข้าไปข้างในเท่านั้นแหละ หูยยยยย นี่มันเขาวงกตชัดๆ ข้างหน้ามีทางออกมั้ยคะ แถวคือขดไปขดมายิ่งกว่าสายหูฟัง iPhone พันกันอีกค่ะ ยืนรอกันไป 2 ชั่วโมง กว่าจะได้เข้าไปในปราสาท แต่พอเข้าไปแล้วความเมื่อยนี่เริ่มหายไปเลยเพราะความตื่นเต้น ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฮอกวอตส์จริงๆ


แถวยังคงขยับกันต่อเนื่อง พนักงานก็เดินแจกแผ่นชี้แจงว่าห้ามเอาของติดตัวไปสักชิ้นเดียว โดยข้างในจะมีล็อกเกอร์ให้ฝากของแล้วเอากุญแจล็อกเกอร์ห้อยติดตัวเอาไว้ ซึ่งอิล็อกเกอร์เนี่ยมีเป็นพันตู้ได้มั้ง จากจุดฝากของจนถึงหน้าเครื่องเล่นใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ผ่านทั้งห้องทำงานของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ และสุภาพสตรีอ้วนเข้าไปในห้องนั่งเล่นของกริฟฟินดอร์ นี่ถ้าคอสเพลย์เป็นนักเรียนฮอกวอตส์มาด้วยคงฟินยิ่งกว่านี้




Harry Potter and the Forbidden Journey เป็นเครื่องเล่น 4D ที่ตื่นตาตื่นใจมาก ดีจนไม่รู้จะบรรยายยังไง คือที่นั่งจะเป็นเก้าอี้ห้อยลงมา นั่งได้ที่ละ 4 คน จำลองสเหมือนว่าเรากำลังขี่ไม้กวาดอยู่ สักพักแฮร์รี่ก็จะมาชวนเราบินไปที่ปราสาทเล่นควิดดิชไล่จับลูกสนิช จากนั้นก็เหมือนกับประมวลเนื้อเรื่องจากแฮร์รี่ทุกภาค มีทั้งศิลาอาถรรพ์, บาซิลิกซ์, อาราก๊อก, ผู้คุมวิญญาณ, โวลเดอร์มอร์ จบแล้วก็อยากจะเล่นอีกรอบ แต่พอหันกลับไปเห็นแถวก็หดหู่หัวใจ

จากนั้นนุ้ยกับพี่รถเมล์ก็ไปเล่นเครื่องเล่น Flight of the Hippogriff ที่อยู่ด้านนอกปราสาทต่อ ซึ่งเครื่องเล่นนี้เป็นรถไฟเหาะรูป Hippogriff แต่พี่บัวและแสตมป์ขอบาย นุ้ยเลยไปลุยกับพี่รถเมล์สองคน ระหว่างต่อแถวเราก็จะผ่านกระท่อมของแฮกริดด้วย ต่อแถวแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้เล่น และออกมาแบบงงๆ เหมือนจะหวาดเสียวแต่ก็ไม่สุด เสียแรงอุตส่าห์แหกปากกรี๊ดจนชาวต่างชาติที่นั่ง Hippogriff ตัวหน้าหันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย โห่...ไม่เข้าใจเลยว่าเรากรี๊ดบิ้ลท์อารมณ์อยู่




พอเล่นเสร็จก็ไม่รู้ว่าพี่บัวกับแสตมป์ไปเดินที่ไหนกัน แต่ระหว่างนั้นบนเวทีมีโชว์ Frog Choir จากนักเรียนฮอกวอตส์ทั้ง 4 บ้าน ก็เลยไปเดินดูแป๊บนึงแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามาที่นี่ต้องจัดบัตเตอร์เบียร์มากระแทกปาก! Kiosk ที่ขายบัตเตอร์เบียร์ก็โล่งเป็นใจมาก ตอนสั่งก็จะมีให้เลือกว่าจะเอาแบบร้อนหรือเย็น ใส่แก้วพลาสติกธรรมดา หรือแก้วเบียร์ แต่นี่ขี้เกียจหิ้วแก้วกลับเลยเลือกแบบแก้วพลาสติกธรรมดาราคา 600¥ ส่วนพี่บัวเลือกแบบเป็นแก้วเบียร์ราคา 1,100¥





หลังจากนั้นก็ได้เวลาสำรวจ Hogsmeade Village จ้า ขาไม่ติดพื้นแล้ว ไม้กายสิทธิ์ละลายตามากๆ แบบธรรมดาราคา 4,500¥ ไม้กายสิทธิ์แบบกดแล้วมีไฟราคา 4,700¥ ส่วนพวกเสื้อคลุม ผ้าพันคอ เสื้อสเวตเตอร์ของบ้านต่างๆ ก็ราคาแรงอยู่ แอบคำนวนคร่าวๆ ว่าถ้าซื้อครบเซ็ทจะตกเป็นเงินไทยหมื่นกว่าบาท.... กราบลา ณ ตรงนี้ค่ะ ส่วนของที่คนนิยมซื้อเป็นพวกกุญแจที่ระลึกต่างๆ กับพวกสมุดอะไรแบบนี้ ใจจริงอยากได้สมุดเหมือนกัน แต่ด้วยความขี้เกียจถือ และแถวที่จ่ายเงินยาวมากกกกกกก ก็เลยคิดว่าเอาไว้ก่อน และจบที่ไม่ได้แวะกลับมาที่โซนนี้อีก *ร้องไห้หนักมาก*









Create Date : 22 กรกฎาคม 2560
Last Update : 23 กรกฎาคม 2560 20:39:04 น.
Counter : 457 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีน้อยพุงพลุ้ย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]