+++++ อย่างไรถึงเรียกว่า...อ้วนนนน +++++
มาออกกำลังกายกับหมูอ้วนกันหน่อยนะค๊า
คอมพ์พี่หมีโดนไวรัสเล่นงานค่ะ ใช้การไม่ได้เลยหายไปหลายวัน
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนนะคะว่าตัวเราจัดอยู่ในพวกอ้วนขนาดไหน
การวินิจฉัยโรคอ้วน
1.ใช้ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)
BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม ) หารด้วย ส่วนสูง ( เมตร )ยกกำลังสอง
BMI < 18.5 = ผอม 18.5 - 24.9 = ปกติ 25 - 29.9 = น้ำหนักเกิน 30 - 34.9 = อ้วนระดับ 1 35 - 39.9 = อ้วนระดับ 2 > 40 = อ้วนอันตราย
2. วัดเส้นรอบเอว ( Waist circumference ) เป็นการวัดไขมันในช่องท้อง สำหรับคนไทย
ชาย เส้นรอบเอวมากกว่า 90 ซ.ม. ( 36 นิ้ว ) หญิง เส้นรอบเอวมากว่า 80 ซ.ม. ( 32 นิ้ว )
อัตราส่วนต่อรอบสะโพก ( Waist / Hip Ratio )เป็นตัวชี้นำถึงความเสี่ยงต่อโรคของคนอ้วน W / H ในเพศชาย มากว่า 1.0 = อ้วนลงพุง ในเพศหญิง มากว่า 0.8 = อ้วนลงพุง
3.การวัดไขมันใต้ผิวหนัง ( Skinfold thickness )
ส่วนใหญ่วัดบริเวณใต้ท้องแขน ( Triceps ) และ สะบัก ( Subscapular ) skinflod
ชนิดของความอ้วน
1.อ้วนลงพุง มีอัตราส่วนเอวต่อรอบสะโพก ( W / H ) มากว่า 1.0 ในเพศชาย และ W / H มากว่า 0.8 ในเพศหญิง
2.อ้วนบริเวณสะโพก มีอัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก ( W / H )น้อยกว่า 0.8 ในเพศหญิง และ W / H )น้อยกว่า 1.0 ในเพศชาย
3.อ้วนทั้งตัว
**** ถ้าใครคิดมวลกายไม่ถูก ก็ทิ้งน้ำหนักและส่วนสูง ไว้นะคะ เดี๋ยวพี่หมีคิดให้แล้วจะตามไปบอกค่ะ ****
บล็อคหน้าเรามาคุยกันว่าถ้าจะลดอ้วนทานอาหารได้วันละกี่แคลอรี่ และอาหารแต่ละประเภทให้พลังงานเท่าไร
จากนั้นก็จะเป็นรายการอาหารที่พี่หมีทานระหว่างลดน้ำหนัก 10 วันลดไป 4กิโลกรัมค่ะ
เพื่อนๆคนไหนสนใจ ลงชื่อไว้เลยนะคะ อัพบล็อคแล้วพี่หมีจะไปตามค่ะ
ขอขอบคุณโครงการ ลดอ้วน ลดโรค ของโรงพบาบาลเลิดสินค่ะ
Create Date : 09 สิงหาคม 2551 |
|
31 comments |
Last Update : 10 สิงหาคม 2551 8:25:51 น. |
Counter : 875 Pageviews. |
|
|
|
ดี.แวะมาส่งความคิดถึงยามค่ำค่ะพี่หมี