บันทึกลูกปิ๊ง 1-4
บันทึกน้องปิ๊ง

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2553 เวลา 01.00 น.
คุณแม่ไปป์ตื่นขึ้นมา รู้สึกว่ามดลูกบีบตัว พอจะนอนหลับต่อ ก็ทำไม่ได้
เพราะมดลูกบีบตัวเป็นระยะๆๆ น่าจะทุกๆ 15-20 นาที
คุณแม่ไปป์เริ่มใจไม่ดี อาการอย่างนี้จะใช่อาการเจ็บเตือนก่อนคลอดรึเปล่า
แต่ยังไม่มีเลือดออกมา
เอ นอนไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมานั่ง ตอนนั้นเวลาประมาณ 03.00 น.
ปลุกป๊าดีกว่า เผื่อต้องไปโรงพยาบาลได้แล้ว
ว่าแล้วลองไปดูก่อน ถ้าไม่ใช่ค่อยกลับบ้าน
ไปถึงโรงพยาบาล 04.55 น. คุณหมอเวรตรวจว่า ปากมดลูกเปิดแล้ว 5 ซม. เตรียมคลอดได้ ไม่ต้องกลับบ้าน
เย้ย ก็คุณแม่นัดคุณหมออดิเทพว่าจะผ่าคลอดในวันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ค. 53
ถ้าลูกปิ๊งจะคลอดวันที่ 2 พ.ค. 53 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์แล้วคุณหมอจะมาทำคลอดได้รึเปล่า
ร.พ. ปิด คุณหมอก็หยุด ใจไม่ดีแล้ว ตึกตักๆๆๆ
คุณหมอเวรโทรหาคุณหมออดิเทพเพื่อแจ้งอาการ
ซึ่งคุณหมออดิเทพบอกว่า รอดูถ้าปากมดลูกเปิดเร็วเปิดดี ให้ลองคลอดเอง
คุณแม่อยากจะกรี๊ด เป็นลม ความกลัวมาเป็นริ้วๆๆเล้ย
เข้าไปนอนรอดูอาการ ห้องของ ร.พ. สวยดี ใหม่มาก บรรยากาศดีดีดี
แต่มดลูกก็บีบตัวถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ 7 นาทีแล้ว
เวลา 7.30 น. คุณหมอสาวสวยมาตรวจ แจ้งว่าปากมดลูกเปิด 8 ซม. แล้ว
จะโทรรายงานคุณหมออดิเทพ ผลว่าคุณหมอให้ลองคลอดเอง
คุณแม่ถามคุณหมอสาวสวยว่า ถ้าคลอดเองแล้วคลอดไม่ออกจะทำยังไงอ่ะคะ
ได้คำตอบว่า เราจะใช้เครื่องดูดลูกปิ๊งออกมา
คุณแม่ตัดสินใจได้ทันทีว่า ขอผ่าคลอดเลยค่ะ เพราะว่าทำไมยังไม่มีปวดท้องอยากเบ่งเลย สงสัยไม่มีลมเบ่ง คุณแม่แก่แล้วอ่า
ใจก็กลัวลูกจะถูกดูดออกมา เพราะมีคุณป้าที่ทำงานบอกว่า เด็กบางคนถูกดูดออกมาไม่ใช่แค่หัวเบี้ยวแต่พิการตลอดชีวิต ไม่เอา ไม่เอา น่ากลัว
คุณหมอสาวสวยเลยโทรไปแจ้งคุณหมออดิเทพว่าคนไข้ต้องการผ่าคลอดคร๊า
ในที่สุด คุณแม่ไปป์ถูกเตรียมตัวเพื่อผ่าตัด
เริ่มจากโกนขนหน้าท้อง และสวนอุจจาระ
นอนบนเตียง มีสายน้ำเกลือที่แขนขวา
ถูกเปลี่ยนชุดก่อนเข้าห้องผ่าตัด
พอเข้าไปในห้องผ่าตัด คุณแม่จะเป็นลม น่ากลัวที่สุด แงแงแง
อารมณ์คือ กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
ทำไงได้ พอถึงหน้าห้องผ่าตัด คุณวิสัญญีแพทย์ น่ารักสวยใจดีที่สุด
มาพูดคุย ก่อนทำการบล็อกหลังให้
การบล็อคหลังไม่เจ็บเลยจ้า เพราะฉีดยาชากับพ่นยาชาก่อน
แต่ความกลัวขึ้นสมองยังอยู่
จากนั้นก็มีการสวนปัสสาวะ น่ากลัวๆๆ คิดแล้วยังสยอง
แม้จะบล็อกหลัง แต่ก็รู้สึกว่ามีคนจับโน่นนี่ ขา เขย่าท้อง แต่แค่เราขยับไม่ได้และไม่รู้สึกเจ็บแค่นั้นเอง
พอบล็อกหลังเสร็จ ได้ยินเสียงคุณหมออดิเทพบอกว่า
ขอดูหน้าก่อน ใช่คนไข้คุณหมอรึเปล่า เดี๋ยวผ่าผิดตัว
คุณหมออารมณ์ดี น่ารักเช่นเคย แต่คุณแม่ไปป์กลัวมาก
ความดันลดต่ำลงเรื่อยๆ ต้องใส่ออกซิเจน คุณหมอช่วยกันให้ยาเต็มไปหมด
แป๊ปเดียวได้ยินว่า ลูกคลอดแล้วนะคะ
เพศหญิง เวลา 8.50 น. จ้า
จากนั้นคุณหมออดิเทพก็ทำไร ที่ท้องกึกกักๆๆๆ คงเก็บลำไส้ เย็บมดลูก
ยัดกลับคืนในท้อง เย็บหน้าท้องอีก โอ๊ยๆ
มีคนมาทำความสะอาดตัว แต่คุณแม่บังคับขาไม่ได้ ไม่ต่างจากศพที่ถูกโยกไปมาแล้วแต่จะเช็ดยังไง
สักพักเดียว รู้สึกว่าแน่นหน้าอก จะอาเจียน ไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ออก เหมือนไม่มีอากาศเลย ภาวะเช่นนี้อาจเนื่องมาจากคุณแม่กลัวมาก และมีภาวะเลือดจางมากในระหว่างตั้งครรภ์จ้า ได้ยินเสียงคุณวิสัญญีแพทย์คนสวยใจดีบอกว่า
คุณแม่ดูลูกก่อนค่ะ ขาวจังเลย หอมลูกก่อนน๊า อ่ะลูกหอมคุณแม่ด้วย
ตอนนั้นคุณแม่หายใจไม่ได้แล้วหล่ะจ๊ะ นึกว่าจะตายซะแล้วหล่ะ หนาวมากด้วย
เสียงสั่งยาเต็มไปหมด ห้องผ่าตัดดูวุ่นทีเดียว จากนั้นได้ผ้าห่มไฟฟ้ามาโปะตัวอีกเป็น ชม. คุณแม่ตัวสั่นไปหมด ต้องมีคุณพยาบาลกดตัวไว้กับเตียง
ผ่านไป ชม.กว่า คุณแม่ถูกเข็นออกมาจากห้องคลอด
เจอป๊าของลูกวิ่งตามเตียงคุณแม่มา และบอกคุณแม่ว่า
ไม่เอาแล้วเนาะ มีลูกคนเดียวพอ ดูป๊าของลูกจะสงสารคุณแม่มาก เนื่องจากคุณแม่จะท่าทางไม่ไหวจริงๆอ่ะจ๊ะ
พอถูกส่งไว้ที่เตียง ป๊าบอกว่าขอไปดูลูกปิ๊งก่อน แล้วกลับมาเล่าให้คุณแม่ฟังว่าลูกต้องเข้าตู้อบอยู่ 1 ชม. เหมือนกัน เพราะมีภาวะตัวเย็นจ๊ะ
นอกนั้นไม่มีไร ปกติดี เย้ดีใจจัง

สรุปว่า การคลอดน้องปิ๊ง คือ
น้องปิ๊ง เกิดวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. 53 ตามปฏิทินจีนเป็นวันธงไชย เวลา 8.50 น.
น้ำหนัก 3,440 กรัม ความยาว 52 ซม.
Apgar Score นาทีที่ 1 ค่าเท่ากับ 8 + นาทีที่ 5 ค่าเท่ากับ 9
เข้าตู้อบ 1 ชม. เพราะมีภาวะตัวเย็น
ไม่มีภาวะเบาหวาน
ผ่าคลอดที่ ร.พ.รามาธิบดี โดยคุณหมออดิเทพ
แล้วเรื่องวุ่นๆก็เกิดตามมา เมื่อเราสามคนพ่อแม่ลูก มือใหม่สุดๆ
ต้องช่วยกันลี้ยงน้องปิ๊ง เหนื่อยมากมาย
เครื่องปั๊มนม Medelar Freestyle เตรียมไปพร้อม แต่กระตุ้นไม่ได้ ใช้ลูกกระตุ้นดีกว่าเยอะเลยจ้า
อยู่โรงพยาบาล 5 วัน 4 คืน ได้นอนแค่ 45 นาทีเท่านั้นเอง
ลูกร้องมากมายจ้า ร้องจนคุณพยาบาลบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมใจนะคะ
กลับบ้านคงต้องเหนื่อยแล้วหล่ะค่ะ

ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี คุณพยาบาลใจดีมาก ช่วยเหลือทุกอย่าง
คุณหมออดิเทพก็ใจดีที่สุดเลย
ที่นี่มีการสอนทฤษฎีเรื่องการเลี้ยงบุตร โดยเอา DVD การศึกษา มาให้ดู 3 แผ่น
จากนั้นก็มีการสอนอาบน้ำ ให้นมแม่ภาคปฏิบัติ
สอนการห่อตัวลูก และสอนอะไรต่างๆที่มีประโยชน์มากจ้า
แล้ววันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ค. 53 เราสามคนพ่อแม่ลูกก็ได้ฤกษ์กลับบ้านซะทีจ้า

กลับบ้านมา ยุ่งเหยิงกว่าเดิม ของที่ว่าเตรียมไว้พร้อมกลับยังขาดไป
อาทิ
1.นมผง เพราะน้ำนมแม่มีไม่พอ
2.จุกนม เพราะขวดที่ซื้อไว้ Evenflow Camera ลูกดูดแล้วไหลแรงมาก แหวะหมด ใช้ได้เฉพาะพีเจ้นขวดแก้วใบเล็ก จุกไซส์ S
3.ยาประสะน้ำนม (พรุ่งนี้ถึงจะได้ แม่สั่งซื้อแล้ว ตราพาราแม่เลื่อน)- ตั้งแต่คลอดจนถึงวันนี้ทานโมทิเลียม เอ็ม 10 mg วันละ 3 เม็ด ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น แต่น้ำนมก็ยังมาน้อยอยู่ ไม่พอเพียงกับความต้องการลูกรักเล้ย
4.เสื้อที่ใส่แล้วสะดวกต่อการให้นม (ตอนนี้เอาเสื้อนอนป้าๆที่มีซิบด้าหน้ามาใช้ก่อน ป๊าซื้อเสื้อคอกระเช้าสีหวานมาให้อีก 4 ตัว)
5.ผ้าอนามัยแบบห่วง เตรียมไว้ 20 ชิ้น เอาเข้าจริง ใช้ไป 40 ชิ้น (ร.พ. ให้มาอีก 20 ชิ้น)
6.ชุดลูกที่เตรียมไว้มากมายหลวมแทบทุกชุด ต้องใส่เสื้อโหลซึ่งหลวมน้อยที่สุด

ป๊าของลูกต้องยุ่งแทบทุกวัน เพราะต้องมาช่วยกันเลี้ยงลูกช่วงกลับจากทำงานจ้า
และต้องวิ่งไปห้างเพื่อซื้อของที่ยังขาดไปด้วย

การเลี้ยงลูกยังเป็นไปอย่างทุกลักทุเล ลองผิดลองถูก
ใช้เวลาให้นมลูกประมาณ 2-3 ชม. อุ้มไว้ตลอด
จะรับโทรศัพท์ก็ไม่ได้ ไม่มีมือ ไม่มีเวลาคุย เพราะลูกจะสำลัก
พอลูกหลับ (แป๊ปเดียว) ก็ต้องรีบทานอาหารอีก
การเลี้ยงลูกช่างยากจริงๆเลย ยากกว่าอะไรทั้งหมด
เพราะป๊ากับแม่มือใหม่ พอมีไรก็เปิดตำราเอา

ช่วงแรกเจ็บแผลผ่าตัดมาก แต่ก็ยังต้องอุ้มลูกมาให้นม สุดยอดมากเลย
น้ำตาตกวันละหลายครั้ง มีป๊าคอยโอ๋ มันเจ็บแผลนี่นา
เมื่อวาน วันที่ 11 พ.ค. 53 เป้นวันเกิด ก็ยังต้องวุ่นเลี้ยงลูกทั้งวัน
ไม่ได้คุยกับเพื่อนสักสายเลย
พอตกค่ำ ป๊ามีsurprise ปัดโธ่ กลายเป็นเค้กไอติม ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหน
ป๊ายังน่ารักเสมอ ขอบคุณสำหรับความรักมากมายที่มีให้คุณแม่กับน้องปิ๊ง
รู้ว่าป๊าเหนื่อยมากที่สุดจ๊ะ จุ๊บๆๆ

โอ๊ย กว่าจะเขียนจบ เปิดคอมฯทิ้งไว้เช้าเสร็จก็ 4 โมงเย็น
แอบมาเขียนตอนลูกหลับ
เพื่อแชร์ประสบการณ์ที่พบให้คุณแม่มือใหม่รุ่นต่อไปจ๊ะ
บ้ายบาย
แล้วจะเอารูปมาลงให้ชม
เป็นซีรีส์เล้ย ผ่านไป 10 วัน มี 500 ภาพแล้ว
ป๊าของลูกปิ๊ง เห่อลูกจัง 555

บันทึกน้องปิ๊ง 2
(เขียนวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553 เริ่มเขียนเวลา 15.00 น.-เขียนเสร็จ 20.30 น. เพราะเขียนได้ไม่กี่บรรทัดน้องปิ๊งก็ร้องต้องเดินไปอุ้มไปโอ๋ เปิดคอมฯไว้เลย
ว่างนิดว่างหน่อยก็มาเขียนจ้า)

ได้มีโอกาสเขียนบันทึกไดอารี่น้องปิ๊งครั้งที่ 2 กว่าจะหาเวลาได้แสนยากเหลือเกินจ้า
อยากเขียนเก็บไว้
*ให้ลูกอ่านเล่นนะจ๊ะ
*ให้เพื่อนรักและพี่รักได้อ่านชีวิตอนิจจังของไปป์ แม้จะรับโทรศัพท์ไม่ได้ ไม่มีเวลาได้โทรกลับ ช่วงนี้คงได้แอบมานั่งเขียนไดอารี่ ให้รู้ว่าตอนนี้ไปป์เป็นไงบ้าง
หากปรับตัวได้ เลี้ยงลูกชำนาญขึ้นแล้ว จะไปหยิบโทรศัพท์มานั่งกดหาทุกคนเลยจ้า
คิดถึงมากๆเลยนะจ๊ะ
*เป็นที่ระลึกหรือระทึกก็ไม่รู้ให้คุณแม่รุ่นหลังๆอ่านเพื่อแชร์ประสบการณ์คุณแม่มือใหม่ ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ว่าสนุกสนานขนาดไหนจ้า

ตอนนี้ลูกปิ๊งมีอายุ 21 วันแล้วรึเปล่าจ๊ะ ลูกเกิดวันที่ 2 พ.ค. อ่ะนิ

น้ำหนักน้องปิ๊งกะน้ำหนักคุณแม่ไปป์
เมื่อวานซืน ป๊าจับลูกปิ๊งชั่งน้ำหนัก ได้ 4.2 กก.แล้วจ๊ะ (น้องปิ๊งหนัก 3.44 กก.วันคลอด
และลดลงเหลือ 3.2 กก.วันที่ออกจาก ร.พ. –คือวันที่ 6 พ.ค. 53 ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทารกจะน้ำหนักลดลงในช่วงหลังคลอด เนื่องจากช่วงคลอดทารกจะมีการบวมน้ำ)
วันนี้คุณแม่กังวลเรื่องอาการแหวะนมของลูกปิ๊งเลยจับชั่ง น้ำหนัก 4.4 กก.แล้ว เฮ้อ ยังไงก็ยังน้ำหนักไม่ลด ก็ยังพอลุ้นไปได้

ส่วนคุณแม่ไปป์ เมื่อวานวันเสาร์ที่ 22 พ.ค. 53 คุณแม่ชั่งน้ำหนักแล้วเหลือ 50 กก.จ๊ะ
(น้ำหนักคุณแม่ไปป์ก่อนท้อง 48.5-49.5 กก. อยู่ประมาณนี้ พอวันที่คลอดลูกปิ๊ง น้ำหนักคุณแม่ไปป์เหลือ 61 กก. วันนี้ผ่านมา 21 วัน น้ำหนักลดไปอีก 11 กก. เหลือ 50 กก.แล้ว
หน้าและแขนขาคุณแม่ไปป์จากที่บวมโตเพราะน้ำคั่ง ก็หดเหลือเล็กนิดเดียว ยังเหลือแต่มดลูกที่ตรงท้องยังบวมอยู่ กดแล้วแข็ง น่ากลัวเป็นลูกๆเต้นตุบๆ ขนาดประมาณมะพร้าวน้ำหอมลูกเล็กๆจ้า หวังว่าจะหดไปโดยเร็ว อิอิอิ เดี๋ยวเดือนหน้าอยู่ไฟคงดีขึ้นจ้า)

การดำเนินชีวิตโดยรวม
คุณแม่ไปป์ยังยึดตำราโบราณรุ่นคุณยาย ห้ามขึ้นบันไดหลังคลอดบุตร 1 เดือน เพราะจะส่งผลต่อมดลูก เวลาแก่ตัวลงจะลำบาก ก็เลยยังไม่ได้ขึ้นห้องนอนเลยจ้า
ยังยึดยุทธภูมิติดพื้นดิน อาศัยปรับห้องนั่งเล่นมาเป็นห้องเลี้ยงลูกไปเลย 1 เดือนแรก
ห้องนั่งเล่นพอมาต้องอยู่เป็นห้องนอน ความรู้สึกก็แปลกดีเนาะ
โต๊ะที่มีถูกนำมาวางเครื่องนึ่งขวดนม กระติกน้ำร้อน โคมไฟ
โซฟาถูกนำมาปรับเป็นเตียง แถมยังมีเตียงเด็กวางเกะกะอยู่อีก 2 เตียง
แถมมีคอมพิวเตอร์ 1 ตัว ซึ่งคอมฯที่มีในห้องนี้ไม่ได้ต่อกับอินเตอร์เน็ตเหมือนคอมฯในบ้าน ป๊าคิมเลยไปซื้อแอร์การ์ดมาใส่ไว้กับคอมฯในห้องนี้ให้ แต่ว่าเน็ตเต่ามากไม่สะดวกเลย

คุณแม่ไปป์เลยเขียนบันทึกนี้ลงในโปรแกรม Word และหากมีเวลาค่อยนำไปเติมในไดอารี่ของขวัญรักที่เขียนประจำจ้า

และด้วยความที่อากาศร้อนเหลือเกิน คุณแม่ไปป์เลยใช้เครื่องปรับอากาศเปิดไปทั้งวันทั้งคืน คิดว่าพอขึ้นบันไดได้จะได้ไม่ต้องทารุณแอร์ห้องนี้ให้ทำงานหนักแบบนี้อีกแล้ว
เดี๋ยวแอร์จะพังซะก่อน หากขึ้นบันไดได้กลางคืนได้ขึ้นไปนอนบนห้องนอน
ช่วงกลางวันได้ลงมาอยู่ห้องนี้หน่ะจ๊ะ แอร์ได้เปิด 2 เครื่อง เครื่องละ 12 ชม.
ตอนนี้เครื่องเดียว 24 ชม. เลย




การนอน
เตียงลูกปิ๊งมีอยู่ 2 เตียง คือ
*เตียงเด็กอ่อน มีมุ้งด้วย
*เตียง BrownFarm ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 7 ขวบ
คุณแม่ไปป์เลยจับน้องปิ๊งนอนเตียงเด็กอ่อนไปก่อน
น้องปิ๊งไม่ชอบนอนเตียงเด็กอ่อน แต่ชอบมานอนเตียงกับคุณแม่ไปป์ นอนข้างๆกัน
ทำให้ลูกปิ๊งนอนได้นานกว่าในยามค่ำคืน
ปัญหาลูกนอนผวา
ด้วยความที่น้องปิ๊งชอบนอนยกมือสองข้างขึ้นเหนือศรีษะ แมนขนาด
ทำให้ลูกผวา ร้องไห้ตลอด เลี้ยงยากมากจ้า
ตอนนี้คุณแม่พยายามเก็บแขนลูกลงผ้าห่อตัว ซึ่งลูกปิ๊งก็ดื้อมาก ไม่ยอม ดิ้นพลาดๆเลย เอาแรงที่ไหนมาน๊อ บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า เด้ทารกต้องห่อตัวเสมอ ไม่งั้นร้องไห้ คนเลี้ยงจะหัวฟูได้ กว่าจะรู้ก็หัวฟูทีเดียว

ส่วนคุณแม่ไปป์เองไม่อยากขนเตียงลงมาจากห้องนอน จะซื้อใหม่ก็ใช้แค่เดือนเดียว
เลยนำโซฟามาปรับให้เป็นเตียงนอนไปก่อน (เอาที่นอนมาวางบนโซฟาซะเลย)
แต่ว่ายังไม่ได้เอาผ้าปูที่นอนมาปู คือความจริงเอามาปูแล้วหนนึง แต่น้องปิ๊งอึใส่อ่ะ เลยถอดไปแล้วขี้เกียจมาใส่อีกรอบ อิอิอิ
ส่วนโซฟาอีกตัวเป็นโซฟาเบด ก็นอนสบาย สรุปว่าเรามีโซฟามาประยุกต์เป็นเตียงได้ 2 เตียง อิอิอิ

การกิน
น้องปิ๊งชอบนมแม่ที่สุด และดูดนมขวดไม่เป็นเลยจริงๆ
คงเป็นเพราะที่โรงพยาบาลรามิบดี เสริมนมให้แบบจิบจากแก้ว
พอมื้อไหนที่นมแม่ไม่พอ เกิดปัญหาใหญ่ทุกที เพราะการให้น้องปิ๊งดูดนมจากขวดยากมาก ลูกจะดุดแรงเหมือนดูดจากเต้า ทำให้น้ำนมทะลักจากจุกแม้จะใช้จุกไซส์ S แล้วก็ตาม

*ตอนนี้ที่เกิดปัญหาใหญ่ คือ แม้หลังการดื่มนม จะจับน้องปิ๊งนั่งลูบหลังให้เรอประมาณ 15 นาที น้องปิ๊งยังแหวะนมออกมามากมายแทบทุกมื้อ คงต้องปรึกษาคุณหมอ
เพราะกลัวว่าอาจมีความผิดปกติใดหรือไม่ ทำไมลูกถึงแหวะนมในปริมาณมากทุกมื้อ
จะได้รับนมบ้างไหม น่าสงสารมาก ปัญหานี้ทำให้ต้องใช้เวลาในการให้นมแต่ละครั้งอย่างน้อย 2 ชม. ปวดแขนมาก ถ้าน้องปิ๊งแหวะ ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด บางครั้งแหวะนมแม่ 2 รอบ เสริมนมผงก็แหวะนมผงอีก ใช้เวลาไป 3 ชม. ก็บ่อย คุณแม่ไปป์จะหาเวลาอาบน้ำยังไม่ได้เลย

เห็นลูกแหวะแล้วเครียดมาก กลัวจะไม่ได้รับอาหาร สงสารลูก ปวดหัวมาก เวลาให้นมที ลุ้นกว่าสอบวิชายากๆเป็นร้อยเท่า ทำไมน๊อ การเป็นคุณแม่ที่ดีถึงยากเช่นนี้
ถ้าให้ลูกใช้นมผงไปเลย ก็ทำใจไม่ได้ อยากให้ลูกได้วิ่งที่ดีที่สุด ยังไงก็ต้องพยายามให้นมแม่ให้มากที่สุดและนานที่สุด แม้จะต้องใช้เวลาในการให้นมนานมากและยากมากก็จะพยายาม

ส่วนการกินของคุณแม่ไปป์ อาศัยทานข้าวที่กับที่บ้าน รีบทานมากมาย เพราะพันธกิจเลี้ยงน้องยังต่อเนื่องยาวนาน ฉะนั้นเวลาทานข้าว เวลาอาบน้ำ เวลาสระผมในแต่ละวันจะไม่แน่นอน แล้วแต่ว่าสบโอกาสช่วงไหนเท่านั้น การเลี้ยงลูกคนเดียวโดยไม่มีใครช่วย จึงเป็นเรื่องที่ต้องอดทนมากมาย เพราะต้องรอให้น้องหลับถึงจะเป็นเวลาทานข้าว เวลาอาบน้ำ พักผ่อนของคุณแม่ ซึ่งไม่สามรถกำหนดได้ หรือบางวันอาจไม่มีเวลาให้คุณแม่ได้เงยหน้าเลยก็เป็นได้ (โทรศัพท์ไม่เคยได้คุย เน็ตที่เคยคุยกับเพื่อนๆคุณแม่ก้ไม่ได้เข้า
พอเลี้ยงลูกจบ ลูกปิ๊งต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่แล้ว เพราะเพื่อนคุณแม่คงเลิกคบคุณแม่หมดแล้วหล่ะจ๊ะ เหมือนคนบ้ารับโทรศัพท์ยังไม่ได้ ก็เวลาทานข้าวยังหาไม่ได้เลย แงแงแง)



ปัญหาเรื่องน้ำนมแม่ไม่พอ
หลังการผ่าตัดคลอด คุณแม่พยายามใช้เครื่องปั๊มนมที่ซื้อมา ยี่ห้อ Medelar รุ่น Freestyle ที่ว่าสุดยอด เหมือนเด็กดูดที่สุด ปรากฏว่าปั๊มได้ 1 หยด แม่เจ้า ทำไงหล่ะ
คุณแม่ไปป์เลยทานโมทิเลียม เอ็ม ก่อนอาหาร มื้อละ 1 เม็ด 10mg เช้า กลางวัน เย็น
และทานยาประสะน้ำนมพาราแม่เลื่อน 5 เม็ด ก่อนอาหารเช้าเย็น
และทานแต่น้ำอุ่นเสมอ
หลังการให้นมทุกมื้อ จะทานน้ำอุ่น 1 แก้ว
อาหารเสริมก็เป็นพวกนม แบรนด์ โปรตีนแอมเวย์
ในที่สุดน้ำนมก็มา หลังจากที่คุณแม่ไปป์ทุ่มทุนสร้างขนาดนั้น
ความจริงตอนนี้น้ำนมก็มามากแล้ว แต่ปัญหาคือน้องปิ๊งยังแหวะออกมาหมด ทำให้ไม่สามารถผลิตนมได้ทันทีในมื้อที่น้องปิ๊งแหวะ ยังคงต้องเสริมนมผงอยู่จ๊ะ นานๆที
เพราะคุณแม่พยายามเหลือเกินที่จะให้นมแม่ เหนื่อยๆๆ ให้นมแม่ข้างนึงใช้เวลา 30 นาที ปวดแขนที่สุด เครียดด้วย กลัวลูกแหวะ บางทีให้เสร็จแล้ว 2 ข้าง แหวะหมด
จิตตกเลย นั่นหมายถึงที่ผ่านมาสูญเปล่า เสียน้ำนมหมด เอาใหม่อีก ซึ่งก็ไม่รู้จะแหวะหมดอีกไหม

นมผงที่ใช้เสริม คือ
NAN H.A.1 หมดไป 1 กระป๋อง 400g ตอนนี้เหลืออีก 1 กระป๋อง แต่อุจจาระเหลว
เลยมาก็ลอง Similac ซึ่งน้องปิ๊งก็ยังดูท้องอืดมาก แน่นท้องและถ่ายบ่อยๆ
กะว่าจะลองใช้ Dumex Natural Shield เพื่อนบอกว่า ร.พ. ที่น้องปิ๊งคลอดใช้ยี่ห้อนี้ เผื่อลูกจะไม่แหวะ ไม่แน่นท้อง สงสารลูกมากๆเลย

เขียนมาถึงตอนนี้ใช้เวลาหลายชั่วโมง คือ เปิดคอมฯทิ้งไว้เลย พอน้องปิ๊งงีบ 5 นาทีก็มาเขียนเติม นี่ลูกปิ๊งก็ร้องตั้งแต่บ่าย 3 มาถึงทุ่มนึงแล้ว แงแงแง เหนื่อยมากมาย
ป๊าคิมช่วยเลี้ยงไม่ได้เพราะกำลังไม่สบายกลัวจะติดลูก เป็นอันว่าคุณแม่ไปป์โซโล่ประจำ
ในชีวิตของคุณแม่ไม่เคยเหนื่อยและพยายามเท่านี้มาก่อน เครียดแล้วน๊า เหอๆๆ

บันทึกน้องปิ๊งตอนที่ 3** ต่อจากบันทึกไดอารี่น้องปิ๊งตอนที่ 2 **
(เขียนวันอาทิตย์ที่ 30- วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553
-ตอนนี้ลูกปิ๊งมีอายุ 29 วันแล้วจ๊ะ )

น้ำหนักน้องปิ๊งกะน้ำหนักคุณแม่ไปป์
เมื่อวาน ชั่งน้ำหนักน้องปิ๊งได้เท่ากับ 4.4 กก. น้ำหนักของลูกไม่ขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วเลย อาการน่าเป็นห่วงมากมาย คุณแม่จะพาลูกไปฉีดวัคซีนวันพฤหัสที่ 3 มิ.ย. 53 แล้วก็จะได้พบคุณหมอเด็ก จะได้เรียนปรึกษาคุณหมอเลย สงสัยว่าปัญหาน้ำหนักไม่ขึ้น อาจเนื่องมากจากปัญหาการแหวะนมหลังดูดนมเสร็จทุกมื้อแน่ๆเลยจ๊ะ

ส่วนคุณแม่ไปป์ชั่งน้ำหนักแล้วได้เท่ากับ 51 กก.จ๊ะ
(ชั่งหลังอาหารมื้อเย็น วันที่ 30 พ.ค. 53)
มดลูกยุบลง ทำให้หน้าท้องยุบลงไปอีก แต่ยังไม่ยุบพอจะเปรี้ยวใส่กุงเกงขาสั้นได้ สงสัยต้องรออยู่ไฟ และไปดูดไขมันก่อน เหอๆๆ แผลเริ่มดีขึ้น การเจ็บแผลลดลงไปมาก
แต่ยังรู้สึกอยู่ว่าไม่เหมือนตอนก่อนผ่าตัด ถ้ากดก็เจ็บจ๊ะ รอบแผลยังเจ็บอยู่ และรู้สึกว่ามดลูกก็ยังเจ็บอยู่ด้วยจ้า

การดำเนินชีวิตโดยรวม
*ห้ามขึ้นบันไดหลังคลอดบุตร 1 เดือน ใกล้วันที่ 2 มิ.ย. 53 ก็จะขึ้นบันไดได้แล้วหล่ะ
เสมือนหลุดจากคุก อิอิอิ ชีวิตคงใกล้กลับมาแล้ว
*มีคอมพิวเตอร์ 1 ตัวในห้อง ซึ่งซื้อแอร์การ์ดมาใส่ไว้ทำให้เน็ตเต่ามากไม่สะดวกเลย วันนี้จะร้องให้ป๊าไปต่อ Hi –speed มาให้ด้วย อิอิ แผลเริ่มดีขึ้น คุณแม่ไปป์ชักอยากท่องเน็ตบ้างแล้ว – update สรุปว่าต่อสัญญาไม่ได้ เพราะต้องต่อคราวละ 1 ปี เป็นอย่างน้อย ทีนี้อีกไม่นานคุณแม่กับน้องปิ๊งก็จะย้ายกลับบ้านป๊าแล้วเนาะ ไม่คุ้มค่าปรับ ใช้เน็ตไปดีกว่าจ๊ะ
*น้องปิ๊งมีปัญหาแหวะนม แต่ 1 วันที่ผ่านมา ไม่ร้องงอแงมากเท่าเดิม แต่เมื่อคืนลูกตื่น 4 ครั้ง ร้องหิวนม ทำให้วันนี้คุณแม่ไปป์ง่วงจังจ้า

*ช่วงนี้ยังคงมีปัญหาใหญ่ เรื่องการแหวะนมของน้องปิ๊ง เพราะแม้ว่าหลังการดื่มนม
จะจับน้องปิ๊งนั่งลูบหลังให้เรอประมาณ 15 นาที - 1 ชม.แล้ว น้องปิ๊งยังแหวะนมออกมามากมายแทบทุกมื้อ คงต้องปรึกษาคุณหมอหล่ะจ๊ะ ลูกชอบสะอึก ระบบการกลืนและทางเดินอาหารอาจยังไม่เข้าที่ดี

ปัญหาเรื่องน้ำนมแม่ไม่พอ
ตอนนี้น้ำนมมามากขึ้น พอที่จะเลี้ยงน้องปิ๊งแล้ว
คือลองปั๊มดู จะได้ครั้งละไม่ต่ำกว่า 6 ออนซ์
แต่คุณแม่ไปป์ยังทานโมทิเลียม เอ็ม ก่อนอาหาร มื้อละ 1 เม็ด 10mg เช้า กลางวัน เย็น
และทานยาประสะน้ำนมพาราแม่เลื่อน 5 เม็ด ก่อนอาหารเช้าเย็น
ตามด้วยยาจีนที่ป๊าซื้อมาให้ทานก่อนอาหารเช้าเย็นครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ
(ยาจีนนี้ทานแล้วรู้สึกว่า น้ำนมมาเยอะเลยจ้า แถมเขียนข้างขวดไว้ว่าใช้เพื่อแทนการอยู่ไฟไปก่อนได้ด้วย ดีจัง)

พันธกิจใน 2 สัปดาห์ต่อไป
1.พาน้องปิ๊งไปฉีดวัคซีน คุณแม่ไปป์ตั้งใจจะซื้อแพคเกจครบชุด มีไวรัสโรต้ากับไอพีดีด้วยจ๊ะ จะต้องไปฉีดวันพฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. 53 นี้แล้วน๊า
2.พบคุณหมอเพื่อตรวจหลังคลอดบุตร
3.อยู่ไฟสัก 7 วัน ไม่ไหว ร่างกายทรุดโทรมเหลือเกิน (ถ้าน้องปิ๊งโตกว่านี้นิดนุง คุณแม่ไปป์ได้นอนพัก คงหายหล่ะจ๊ะ)
4.ถ้าเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว คงหาเวลานอนพักชาร์จร่างกาย แล้วก็โทรหาเพื่อนพี่น้อง เพราะไม่ได้คุยกับใครเล้ยมาจะครบเดือนแล้ว แสงทีวียังไม่เคยได้เห็น เพลงที่ชอบฟังเป็นชีวิตจิตใจก็ไม่มีอารมณ์จะเปิด ทั้งๆที่ในห้องก็มีทั้งโทรทัศน์ วิทยุ เครื่องเล่นDVD ชีวิตมีแต่เลี้ยงลูก ทานข้าว อาบน้ำ แล้วก็งีบหลับแบบจิ๊ดๆ มา 29 วันเต็มๆ (มีแต่ลูกเท่านั้นจริงๆ)

บันทึกน้องปิ๊งตอนที่ 4** ต่อจากบันทึกไดอารี่น้องปิ๊งตอนที่ 3 **
(เขียนวันอังคารที่ 1 มิ.ย. 53 และพุธที่ 2 มิ.ย. 53 )

พัมนาการน้องปิ๊ง
1.น้องปิ๊งชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ – พอร้องไห้ปุ๊ป อิแม่มานต้องร้องเพลงไปเรื่อย เท่าที่จะร้องได้ จนเสียงแหบไปข้างนึง เพราะน้องปิ๊งชอบฟังเพลงมาก ได้ยินเพลงจะไม่ร้องไห้
เวลาหลับจะหลับนานแต่ต้องเปิดเพลงประกอบตลอดเวลา ห้องนี่ยังกะโรงละคร อายไหมหล่ะ ใครเข้ามา เจออิแม่มานร้องเพลงอยู่ ยังกะหนังอินเดีย วิ่งไปร้องเพลงไป เฮ้อ ตลกรึเศร้าก็ยังมะรู้
2.น้องปิ๊งชอบสำรวจโลก- น้องปิ๊งชอบมองนั่นนู่นนี่ตั้งแต่อายุๆไม่ครบ 7 วันเย้ย ยิ่งเวลานอนตอนกลางคืนต้องนอนกับคุณแม่ไปป์ เตียงเดียวกัน ข้างๆกัน มองคุณแม่ไปป์ตลอดเวลาจนกว่าจะพี้หลับ เวลาคุณแม่ไปป์จะลุกไปฉี่ต้องย่อง อยากได้หุ่นมานอนข้างๆ she แทนตัวเองเหลือเกิน เมื่อยมาก ต้องนอนกอดกันทั้งคืนทุกคืน มะไหว เมื่อยมาก ถ้า she เหลือบตามาเห็นว่าข้างๆว่างเปล่าหล่ะเป็นบ้านแตก ร้องปรี๊ดๆๆ กว่าจะนอนได้อีกคงยาว งานหนักแน่
3.น้องปิ๊งนอนคว่ำแล้วตลก เพราะ she ยืดขา ทำท่าจะคลาน ยกคอได้แล้ว แถมเวลา she ไม่พอใจหล่ะก้อ เตรียมตัวเจ็บได้เย้ย เพราะ she แข็งแรงเหลือเกิ้น ดิ้นทีกระจุยเย้ย คนอุ้มจะสลบ คุณยายก็ไม่ไหวไปคนแล้ว she พลังเยอะเกิ้น

น้ำหนักน้องปิ๊งกะน้ำหนักคุณแม่ไปป์
วันนี้ยังไม่ได้ชั่งทั้งแม่ลูก อิอิอิ
Update วันพุธที่ 2 มิ.ย. 53 – น้องปิ๊งหนัก 4.7 กก. ผ่านมาตั้งสัปดาห์น้ำหนักขึ้นแค่ 2 ขีด น้อยกว่าเกณฑ์คุณอะไรดะๆของหนังสือญี่ปุ่น เหอๆๆ



การดำเนินชีวิตโดยรวม
*ห้ามขึ้นบันไดหลังคลอดบุตร 1 เดือน ใกล้วันที่ 2 มิ.ย. 53 เหลืออีก 1 วันเท่านั้นก็จะขึ้นบันไดได้แล้วหล่ะ เย้
*เบื่อคอมฯจริง เน็ตเต่ามากมาย เข้าเว็บพันทิปไปโพสต์ไม่ได้เล้ย
*น้องปิ๊งมีปัญหาแหวะนมเหมือนเดิม ให้นมแต่ละทีเหน็ดเหนื่อยยังกะปีนภูกระดึง 555

ปัญหาเรื่องน้ำนมแม่ไม่พอ
ทานนมแม่ไปด้วย ถ้าไม่พอก้อเสิมนมผง แต่น้องครั้งมาก เพราะอิแม่มานพยายามสุดริด 555

พันธกิจ
*ฉีดวัคซีน แพคเกจครบชุด มีไวรัสโรต้ากับไอพีดีด้วยจ๊ะ แพงชมัดเย้ย
*พบคุณหมอเพื่อตรวจหลังคลอดบุตร จะโดนตรวจไรบ้างน๊อ น่ากลัว เบื่อการหาหมอแล้วอ่า
*อยู่ไฟ มีคนบอกว่าถ้าอยุ่ไฟตั้งแต่ครบเดือนระวังแผลปริ เพราะผ่าคลอด จริงป่าวหว่า ฟังแล้วสะหยอง 555
*โทรหาเพื่อนเลิฟพี่รักน้องรัก (หลังจากหาเวลานอนพักชาร์จร่างกายได้ เมื่อไหร่หล่ะหนอยังไม่รู้เลย อิอิอิ)



Create Date : 03 มิถุนายน 2553
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 10:43:39 น.
Counter : 1778 Pageviews.

1 comments
  
มาแอบศึกษาบทบาทคุณแม่มือใหม่ พึ่งผ่าตัดคลอดเหมือนกันค่ะ แต่ออกจากรพ.มาก็ขึ้นลงบันไดแล้วอ่ะ กัวมีปัญหาจากแผลภายในเหมือนกันค่ะ ตอนนี้หายเจ็บแผลรึยังคะ ลูกมีปัญหาเรื่องเรอเหมือนกันเลย แต่แหวะนมไม่มาก แล้วจะแวะมาอ่านเรื่องราวของน้องอีกนะคะ
โดย: Oujang วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:15:54:33 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ของขวัญรัก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



หัวใจผูกพัน รักกันตลอดไป http://psgallery.hi5.com
http://psgallery.hi5.com
มิถุนายน 2553

 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
3 มิถุนายน 2553
All Blog