Rome, Italy

เมื่อได้รู้ว่าตารางบินจากเกาหลีเปลี่ยนมาเป็น Rome Italy ก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะขี้เกียจบินเกาหลีแล้ว เป็น 10 ชั่วโมง เน่าตายคาเครื่อง ถึงในใจจะบอกว่าเบื่อยุโรปแล้ว แต่พอรู้ว่าได้ไปโรม ก็คิดว่า Colosseum ที่แค่เคยเห็นอยู่ในรูป เดี๋ยวก็จะได้ไปเห็นแล้วนะ ก็เลยแอบตื่นเต้นขึ้นมา
ขาไปได้เป็ Galley Operator หรือคนครัวนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นคนครัวเครื่องใหญ่ รู้สึกตื่นเต้นมาก สองครั้งที่แล้วเป็นเครื่องเล็ก แล้วก็เป็นครัวเล็กตรงกลางหรือที่เรียกว่า Mid Galley ครั้งนี้ได้ทำข้างหลังหรือ AFT Galley ตื่นเต้นมาก เพราะครั้งแรกเจอเพื่อนคนไทยคอบช่วย ครั้งที่ 2 เจอเพื่อนคนโรมาเนีย ชีน่ารักมาก เหวี่ยงๆ ใส่คนอื่น แต่เราเป็นแบบ Best Partner เลยทีเดียว ครั้งนี้ เจอโรมาเนีย โคตรเหวี่ยงง ไม่สนใจ ปากก็ถามว่าให้ช่วยอะไร แล้วก็ไม่เห็นช่วย เราทำอยู่คนเดียว แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าคล่องขึ้นแล้ว พอได้ ผู้โดยคงไม่รู้หรอกว่าแค่กินอาหารในถาดๆ บนเครื่อง มันยากขนาดไหน มันมีอะไรมากกว่านั้น ต้องมีการ Break Seal เช็ค Stock นับ Catering แล้วกว่าแต่ละ Cart จะแล่นออกไปได้ พวกเรานี่แหละเป็นคนเตรียม มันไม่ได้ว่าอยู่ดีๆ Ground Staff หรือ Catering จัดมาให้ เราต้องมานั่งจัดนั่งแบกกันเอง แต่ละ Service บินแต่ละ Route ความสั้นยาวของชั่วโมง การจัด Cart Top และ Service ก็จะต่างกัน ยุ่งยากมาก แล้วแต่ละอย่างหนักๆ ทั้งนั้นที่ต้องแบก ต้องมีการเปิดบาร์ ปิดบาร์ ทำ Inventory มี Catering Count แล้วที่ลำบากคือ Special Meal เช่น ไม่เอาน้ำตาล ไม่มีถั่ว เอาแต่ผลไม้ อาหารมุสลิม อาหารฮินดู มังสวิรัติทั่วไป มังสวิรัติแบบเอเชีย ฯลฯ พูดไม่หมด เมื่อวานเพิ่งกลับจากไฮเดอราบัด เจอ Special Meal เข้าไป 50 meals จะบ้าตาย แต่ดีที่ไม่ใช่ Galley แต่เวลาออกไปทำ service ก็ยากอยู่ดี เพราะผู้โดยย้ายที่กันหมด เสิร์ฟไม่ถูกเลยทีเดียว เฮ้อ คิดแล้วเหนื่อย บางทีก็ชอบทำในครัวเพราะไม่ต้องออกไปเจอผู้โดย แต่วันไหนทำแกลลี่ สลบกลับมาทุกครั้ง
ลงเครื่องที่โรม ตามคาด ก็สลบไปเลย แต่ทำไงได้ ต้องออกไปเที่ยว พวก อ.ร.บ. (อาราบิก) เค้าจะไปกันตอนเที่ยง พวกเราไม่ค่ะ ไฟท์ จะไปกันเก้าโมง ซึ่งลงเครื่องมาเจ็ดโมง โอเค ไม่พักแล้ว ไปเลยดีกว่า มีสิงคโปร์ อียิปต์ แล้วก็คนจีนไปด้วยกัน มาถึง ได้ห้องช้า เลยได้บุฟเฟ่ต์ฟรี เห็นเบคอนแล้ววิ่งเข้าใส่ ตามคาด อร่อยมากกกก แถมมีกาแฟสด เลยซัด Latte Macchiato ไปสองแก้ว อ๊ากกกก ว่าแล้วก็อยากกินอีก เมื่อวานไปสั่งที่สตาร์บั๊ค รสชาติแบบ เอิ่ม... สตาร์บัคที่ไหนก็เป็นแบบนี้ ไม่อร่อยสุดๆๆ!!

เข้าเรื่องโรมกันเลยแล้วกัน พักที่โรงแรม Sheraton Roma ห้องก็เก่าๆ แต่ก็พอได้ ซุกหัวนอน แถมได้บุฟเฟ่ต์ฟรีอีก อิอิ



เสร็จแล้วลงมาขึ้น Shuttle Bus ของโรงแรมไปลงที่กลางเมืองกันเลย เกือบไม่ทันแล้ว วิ่งสุดฤทธิ์ ไม่รู้ว่าต้องซื้อตั๋ว เดินไปขึ้นหน้าซื่อ เลยวิ่งกลับมาซื้อตั๋วกันไม่ทันเลยทีเดียว ขึ้นไปแล้วก็นั่งหลังสุด เลยได้วิวสวยๆ มาแบบนี้ สวยมากชอบๆ



ลงรถกันมาที่กลางเมือง อากาศดีท้องฟ้าสวยงาม ตอนแรกเช็คมาว่าฝนจะตกแต่ก็ไปตกตอนค่ำๆ ก็เลยโชคดีมาก ลงมาก็เจอกับสิ่งอลังการ สถาปัตยกรรมยุโรปตามเรื่อง



เจอร้านเล็กๆ ตามทางขายของที่ระลึกเลยสอย Magnet มา 2 อันตามคาด อีกไม่นานคงเต็มตู้เย็นแล้วของห้องเรา 3 คน



ก่อนจะเจอโคลอสเซียม ก็เจอ Monumento a Vittorio Emanuel II ก่อน



บรรยากาศโดยรอบ







มาถึงแล้ว Colosseum คนเยอะมากอย่างกะปลวก แต่ตลอดทางเดินก็จะมีร้านขายของ ร้านอาหาร บรรยากาศก็น่ารักๆ แต่ที่ตลกคือแขกขายผ้าเต็มถนนไปหมดเลย เอามาขายพวกเราบอกว่าผ้าจากอินเดียเลยนะเลยสวนไปว่า เอิ่ม...ไอ่พวกพวกนี้ไออ่ะ มาจากแหล่ง เห็นทุกวันจนเบื่อแล้ว ฮ่าๆๆๆ และนี่ก็คือโคลอสเซียมค้าบ



ถ่ายรูปกันจนมือหงิกเลยทีเดียว แต่เอามาให้ดูแค่นี้ก่อน ขี้เกียจอัพโหลด ฮ่าๆๆๆ
ต่อไปก็ไปนั่งกินพิซซ่ากินไอติมกันที่ร้านแถวนั้น ไอติมมิ้นท์อร่อยดี ส่วนไอ่สาวจีนซัดไวน์เลยทีเดียว เห็นหน้าเจี๋ยมเจี้ยมๆ มันบอกว่า เวลาเสิร์ฟไวน์ผู้โดย มันอยากคว้ามากินมาก ฮ่าๆๆๆ

นี่คือเพื่อนอียิปต์ สวยมาก สวยเหมือนดารา เหมือน celeb เลยเอารูปมาฝาก



ต่อมาอยากจะไปกันมาก สถานที่นี้ชื่อเล่นว่าน้ำพุเทรวี่ คือสามารถโยนเหรียญแล้วขอพรได้ 1 ข้อ แต่พลาด ดันขอเป็นภาษาไทย คงไม่สมหวังแล้วมั้ง สวยมาก เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดเลย นักท่องเที่ยวเยอะมากตามเคย







จุดหมายต่อไปนั่งบัสกันไปมั่วๆ วาติกัน ในที่สุดก็หาเจอ ชื่อเต็มๆ ว่า St.Pietro Basilica (ถ้าอธิบายมั่งขอโทษด้วย เพราะมั่วจริงจัง ไปถึงกันก็บุญแล้ว) โอ้แม่เจ้า โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่โตมโหฬารจริงๆ ใหญ่จริงใหญ่จังดูในรูปอาจจะเล็กนะ นักท่้องเที่ยวเป็นแสน ถ้าเก็บค่าเข้าชมคงสร้างได้อีกโบสถ์นึงเลยทีเดียว



สวยงามมาก เค้ามีทำพิธีกันด้านในด้วย



แล้วทริปนี้ก็จบลงพร้อมพิซซ่าตอนค่ำๆ พร้อมกับฝนตกปรอยๆ เหนื่อยแทบขาดใจกันเลยทีเดียว แต่โรมก็ถือเป็นเมืองที่สวยงามมาก คุ้มค่ากับการเหนื่อย แล้วก็สอยหน้ากากเวนิสมาอีก 1 กัน ห้องไม่มีที่จะไว้ของแล้ว



สุดท้ายนี้ บ๊ายบาย ... โรม

Create Date : 23 ตุลาคม 2553		5 comments
Last Update : 23 ตุลาคม 2553 0:55:36 น.
Counter : 2021 Pageviews.
Share Tweet