บอกลานิสัยทำ...สุขภาพเสีย
ดื่มกาแฟแทนน้ำ
เคยเห็นใช่ไหมคะอาการที่ว่านี้ ตื่นเช้าขึ้นมาแทนที่จะลุกขึ้นมาล้างหน้าเรียกความ สดชื่น กลับเดินตรงไปต้มน้ำชงกาแฟ เสียนี่ แท้จริงแล้วกาแฟจัดเป็นสารเสพย์ติดชนิดหนึ่ง (คาเฟอีน) ถึงแม้ จะเป็นสารเสพย์ติดชนิดอ่อนก็ตาม ทว่าหากบริโภคในปริมาณมากก็สามารถเสพย์ติดได้
สูบบุหรี่ทุกครั้งที่ (คิดว่า) เครียด
ต้องขอบอกว่าเป็นความคิดและค่านิยมที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะ นอกจากที่รู้กันอยู่แล้วว่า สารนิโคตินในบุหรี่เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคมะเร็งปอด มะเร็งมดลูก การแก่ก่อนวัย และ อีกหลายต่อหลายโรค ทั้งบุหรี่ยังทำให้บุคลิกและภาพลักษณ์ดูไม่ดีอีกด้วย
ดื่มน้ำน้อย
เป็นอุปนิสัยที่เป็นปัญหาระดับชาติ เหตุผลสนับสนุนที่ ยอดฮิตที่สุดก็คืองานยุ่ง ไม่มีเวลา แต่รู้ไหมว่าการที่เราทำงานในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ ผิวและดวงตาก็สูญเสียความชุ่มชื่นพอแล้ว ยิ่งดื่มน้ำน้อยก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้งเข้าไปอีก
งดอาหารเช้า
1 วันมี 3 มื้อ ซึ่งมื้อที่ไม่ควรงดเป็นอย่างยิ่งคือ มื้อเช้า ลองคิดดูว่าภายใน 1 วัน เราต้อง ใช้พลังงานกี่ชั่วโมงกว่าจะเข้านอน โดยเฉพาะสาวๆ ที่กำลังควบคุมอาหารด้วยแล้ว หากงดอาหารเช้าจะทำ ให้บริโภคอาหารเย็นมากขึ้น ซึ่งช่วงเย็นนั้นร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากเท่าไร จึงทำให้เกิดไขมัน ส่วนเกินขึ้น
แฮงเอาท์
เป็นเสมือนวันนัดหมายของเหล่าคนทำงาน ที่จะออกมาปลดปล่อยความตึงเครียดที่สะสมมา ทั้งสัปดาห์ จะดริงค์หรือแดนซ์ก็ตามสะดวกโยธิน แต่รู้ไหมว่าการที่ร่างกายเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาแล้ว ทั้งวัน ก็ควรจะได้พักผ่อนมากกว่าจะต้องถูกใช้งานต่อจนมืดค่ำ (บางครั้งก็ยันเช้า)
แอลกอฮอล์ใครว่าเก๋
หยุด! ค่านิยมที่คิดว่าการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์จึงจะทำให้เข้าสังคมได้ไป เลย เพราะแอลกอฮอล์นั้นจะ เข้าไปทำลายสมองและเซลล์ต่างๆ ในร่างกายอย่างช้าๆ จนทำให้เกิดอาการปวด ศีรษะในตอนเช้าอย่างรุนแรง หรือที่เราเรียกกันว่าอาการแฮงค์นั่นเอง
เข้านอนเช้าอนามัยเกิน
ไม่มีคำว่าเกินไป สำหรับการพักผ่อนหลังจากที่ร่างกายทำงานมาแล้วทั้งวัน ซึ่งเวลาที่เหมาะแก่การพักผ่อนที่สุด คือช่วงก่อน 4 ทุ่ม เพราะร่างกายจะทำการผลัดเซลล์ในช่วงเวลานี้
ห่างเหินการออกกำลังกาย
ปัจจุบันอัตราของคนที่ออกกำลังกายมีน้อยจนแทบนับได้ แค่เดินขึ้นลง บันได 2 - 3 ชั้น ยังอาศัยลิฟท์กันเลย รู้ไหมว่าการเคลื่อนไหวร่างกายหรือการออกกำลังนั้น ร่างกายจะหลั่งสาร เอนดอร์ฟินทำให้รู้สึกสดชื่นมีความสุข ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น
ห่างไกลการพบแพทย์
อย่าคิดว่าการไปตรวจสุขภาพเป็นเรื่องเกินความจำเป็น หรือเป็นเรื่องฟุ่มเฟือย เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ร่างกาย เรามีความสมบูรณ์พร้อมแค่ไหน บางคนกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินกว่าจะแก้ ไขได้
ปฏิวัติสู่การเป็นคนใหม่
ถ้า เห็นแล้วว่าเราได้ทำร้ายสุขภาพของตัวเองไปมากเพียงใด ก็ลองหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแย่ๆ เหล่า นั้น ให้กลายเป็นคนใหม่ที่มีสุขภาพดีกว่าเดิมกันเถอะ
. นอกจากกิจวัตรทั่วไปที่ทำเป็นประจำยามเข้าห้องน้ำในช่วงเช้าแล้ว ควรเพิ่มการขับถ่ายไปด้วย เพราะ นอกจากจะช่วยป้องกันปัญหาท้องผูกแล้ว ยังทำให้ขับของเสียและความร้อนออกจากร่างกายอีกด้วย
. ดื่มน้ำสะอาด 1 แก้ว ในช่วงเช้า เพื่อล้างสิ่งตกค้างในร่างกาย ส่วนสาวๆ คนไหนที่ต้องการมีผิวพรรณที่ สดใส ควรดื่มน้ำส้มสด 1 แก้ว เพราะวิตามินซีในส้มจะช่วยในการบำรุงเซลล์ผิว
. สำหรับบรรดาคอกาแฟทั้งหลาย ควรบริโภคไม่เกิน 1 - 2 ถ้วยต่อวัน และหลังจากดื่มแล้ว ก็ควรจะรีบ แปรงฟันทันที เพราะสารคาเฟอีนในกาแฟจะทิ้งคราบเกาะอยู่ตามฟัน ทำให้สีฟันหมองและเสื่อมลง
. ควรรับประทานอาหารทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารเช้าอันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ ส่วนมื้อกลางวันและมื้อ เย็นควรลดปริมาณลงตามความเหมาะสมในการใช้พลังงาน
. อย่าลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร แทนที่จะผอมกลับส่งผลให้ร่างกายขาดภูมิต้านทาน และยังไม่ทำให้น้ำ หนักไม่ลดอีกด้วย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญนั่นเอง ควรเปลี่ยนมาเลือกบริโภคอาหารที่ อุดมด้วยเส้นใยอย่างผักใบเขียว และผลไม้จะดีกว่า นอกจากจะมีแคลอรีต่ำแล้ว ยังช่วยเรื่องระบบการเผาผลาญ และยังไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณที่บริโภคไปอีกด้วย
. ถ้าเป็นไปได้ลองลดการบริโภคข้าวขาว หรือข้าวขัดสี มาเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือแทน เพราะในข้าว กล้องจะมีไฟเบอร์ที่ช่วยย่อยมาก กว่าข้าวขัดสีที่มีแต่แป้ง
. ก่อนจะเข้าห้องน้ำควรล้างมือก่อน 1 ครั้ง เนื่องจากทางการแพทย์ ได้ทำการวิจัยว่า การที่เราไม่ล้างมือ ก่อนทำธุระในห้องน้ำ ทำให้มีเปอร์เซ็นต์การเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าคนที่ล้างมือ
. วันไหนที่ร่างกายรู้สึกล้าเกินกว่าที่จะไปสังสรรค์ต่อ ก็ไม่ควรฝืน เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าควร พักผ่อนได้แล้ว การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ยังเป็นวิธีที่ดีในการรักษาสมดุลของธาตุในร่างกาย
. ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การออกกำลังกายที่สุด คือช่วงเช้าหลังตื่นนอน เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเผาผลาญได้ดี ที่สุด
. นอกจากวิธีที่กล่าวมาทั้งหมด สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 - 2 ครั้ง จะช่วยทำ ให้รู้ว่าสุขภาพของเราในตอนนี้เป็นอย่างไร อย่างน้อยก็สามารถแก้ไขหรือป้องกันก่อนการเกิดโรคได้
ที นี้รู้หรือยังว่าการเป็นสาวสังคมในเมืองใหญ่ ไม่ได้หมาย ความว่าต้องตะลุยปาร์ตี้เพียงอย่างเดียว แต่ยัง ต้องฉลาดในการดูแลตัวเองด้วยถึงจะแจ๋ว
In the know !
ถ้าหน้าที่การงานของคุณต้องนั่งอยู่กับที่ตลอดวัน ลองหาโอกาสลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย หรือเดินไปมาใน ออฟฟิศสัก 5 - 10 นาที จะดีกว่า
ไม่ ควรบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและเกลือมากเกินไป เพราะน้ำตาลมีส่วนเร่งให้เกิดอัตราการเป็นมะเร็ง มากขึ้น ส่วนเกลือจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจวาย
คุณ ยายวัย 100 ปี บอกเคล็ดลับในการมีอายุยืนว่า �ฉันว่าเราไม่ควรกังวลอะไรมาก เพราะกว่า 95% คน เรามักกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และอีก 5% คุณเองก็ไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องที่เป็นกังวลได้อยู่แล้ว�
ควรเคี้ยวอาหาร 15 - 20 ครั้ง ก่อนกลืน จะช่วยทำให้ง่ายแก่การย่อยและการเผาผลาญ