|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
จดหมายรักฤดูใบไม้ผลิ
13 มีนาคม 2006 3 Parrish View Quayside นิวคาสเซิล
สวัสดีนิมที่รัก คุณคงสงสัยว่าผมหายไปไหนมาจึงไม่ได้เขียนจดหมายหาคุณเสียนานที่จริงแล้วผมไม่ได้หายไปไหนหรอกเพียงแต่ว่าผมมีความจำเป็นบางอย่าง นั่นแหนะอย่าเพิ่งขมวดคิ้วซิครับผมรู้นะว่าคุณต้องมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มหน้าแน่เลย ผมทำงานหนักมากครับช่วงคริสมาสที่ผ่านมาคุณก็รู้ตั้งแต่ผมได้งานใหม่ที่ไม่ใช่งานที่บริษัทของพ่อผม
ผมอยากจะบอกคุณเหลือเกินว่าช่วงคริสมาสที่ผ่านมาผมทำงานหนักมากแค่ไหนผมทำงานหนักพอๆกับเด็กที่เก็บแก้วในผับที่ผมรับผิดชอบอยู่เลยคุณคงงง ว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ คุณรู้ไหมที่ผมหายหน้าไปสามเดือนเต็ม โดยที่ไม่ได้เขียนจดหมายถึงคุณน่ะเพราะว่าผมได้งานใหม่เป็นผู้จัดการผับใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองครับ คุณตื่นเต้นกับผมไหม
คุณจำได้ไหมว่าคุณพูดกับผมเสมอว่าผมน่ะเอาแต่เมาเหล้าไม่เห็นจะยอมทำอะไรจนคุณไล่ให้ผมไปทำงานบริษัทของพ่อผมทั้งๆที่ผมไม่อยากไปเลยแต่ผมก็เข้าใจเจตนาของคุณดีว่าคุณอยากจะให้ผมมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
วันนี้ผมเลยอยากจะบอกคุณว่าผมเริ่มมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้วนะครับนิม คุณจึงเป็นคนแรกที่ผมอยากจะบอกว่าผมทำได้แล้วครับ ผับที่ผมเป็นผู้จัดการอยู่เป็นผับกึ่งไนท์คลับครับอยู่ใจกลางเมือง คุณจำที่ผมเคยเล่าเรื่องและถ่ายรูปเมืองที่ผมอยู่ส่งไปให้คุณได้ไหมครับ จตุรัสที่มีกระโจมยิปซีที่คุณชอบหนักหนาบอกว่าดูเหมือนกระโจมคาวบอยแต่คนในกระโจมหน้าตาเหมือนพวกเวลส์
ตรงนั้นแหละครับอยู่ใกล้กับที่ทำงานของผมเลยผมเคยเล่าให้คุณฟังว่าเจ้าของกระโจมเป็นยิปซีชาวเวลส์สามแม่ลูกไงครั้บที่ตั้งกระโจมทำนายดวงชะตากระโจมนี้อยู่มานานแล้วราวๆสิบปีเห็นจะได้ทำไมผมรู้น่ะหรือครับ คุณอ่านแล้วอย่าขำนะ ผมมีความลับอย่างหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกคุณ ความจริงแล้วผมเคยเข้าไปให้เค้าทำนายนะซิครับ
มันอาจจะเป็นเรื่องตลกสำหรับคุณแน่เลยครับเมื่อสิบปีที่แล้วราวๆต้นฤดูใบไม้ผลิ ที่ 18 ของผม ผมโดนเพื่อนสาวฉุดเข้าไปให้หมอดู ดู นะซิครับเพราะว่าเพื่อนผมคนนี้เค้าชอบดูหมอครับยิปซีคนแม่บอกผมว่าภายในปีนั้นผมจำพบสาวในดวงใจ ผมสีเข้ม อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากผม มีชื่อขึ้นต้นด้วย เอ็น(N) ผมจำได้ว่าเพื่อนสาวของผมน่ะตาโตเลยครับเพราะว่าเค้ารู้ว่าผมน่ะชอบผู้หญิงผมทองครับ ตอนนั้นในใจผมคิดถึงแต่ นาเดีย นูร์ แล้วก็อีกหลายๆชื่อที่ขึ้นต้นด้วย เอ็นแล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่เจอใครครับ จนผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
แล้ววันนั้นเมื่อสิบปีที่แล้ววันที่ผมเห็นคุณก้มๆเงยๆดูเจ้าดอกเด๊ฟโฟดิวที่ไฮท์ปาร์ค จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เพราะว่าเจ้าชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนที่คุณใส่วันนั้นหรอกครับที่สะดุดตาผม แต่มันเป็นผมสีดำสนิทที่สะท้อนกับแสงแดดอ่อนๆยามบ่ายต่างหากที่ทำให้ผมไม่อาจจะละสายตาจากคุณไปได้
คุณรู้ไหมตอนนั้นผมต้องแอบนั่งลงตรงม้านั่งไม่ห่างจากที่คุณยืนอยู่เท่าไหร่แล้วทำเป็นก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ที่บังเอิญหยิบมาฟรีจากรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ในใจผมน่ะเหรอครับมันกำลังเถียงกันครับว่าผมควรจะเข้าไปทักคุณดีหรือไม่ หรือ ผมจะแอบนั่งดูคุณเงียบๆไปเรื่อยๆ คุณรู้ไหมในท้องของผมมันเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่เต็มไปหมด มันบินกันจนท้องผมปั่นป่วนไปหมดเลยครับ
เสียงหัวเราะของคุณดังสดใสกังวาลชัด เมื่อยามที่คุณพูดคุยกับเพื่อนของคุณ ตอนนั้นผมคิดว่าคุณคงจะชอบดอกไม้มากแน่ทีเดียวเพราะผมเห็นประกายตาของคุณส่งประกายวิ๊บวั๊บ เวลาที่คุณหันไปมองดอกไม้ตรงหน้า ความจริงผมเองก็คิดว่าคุณในวันนั้นสดใสพอๆกับเจ้าดอกเด๊ฟโฟดิวที่คุณชอบนั่นแหละ คุณห้ามว่าผมนะ ก็ วันนั้น คุณใส่ชุดสีเหลืองอ่อน เข้ากับ สีของดอกไม้จริงๆนี่ครับ
คุณคงสงสัยละซิ ว่าวันนี้ผมเป็นอะไรทำไมผมถึงได้ขุดเรื่องเก่าขนาดนี้มาพูด ไม่มีอะไรมากครับก็เพราะว่าวันนี้ จู่ๆผมก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เราพบกันครั้งแรก คุณน่ะซุ่มซ่าม ทำกระเป๋าเงินหล่น จำได้ไหมครับ ถ้าวันนั้นผมไม่ได้เดินตามคุณไปห่างๆ จนเกือบจะถึงป้ายรถเมล์ แล้ว ถ้าคุณไม่ได้รีบวิ่งไปขึ้นรถเมล์จนไม่ทันระวังตัว แล้วทำกระเป๋าสตางค์หล่น ถ้าไม่มีวันนั้น มันก็คงไม่มีผมกับคุณในวันนี้แน่นอน นิรมิตรา พงษ์สกุล 17 Schafer house Drummond street London
เห็นไหมผมยังจำได้เลยที่อยู่ของคุณ ก็ เพราะว่าเจ้ากระดาษที่คุณสอดไว้ในกระเป๋านั่นแหละ ผมยังจำหน้าตาของคุณวันที่ผมไปกดกริ่งบ้านคุณได้เลย คุณน่ะเปิดประตูแค่แง้มๆให้ผมได้เห็นนิดเดียวเอง คุณกลัวผมตั้งแต่แรกเห็นเลยผมจำได้ ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ตัวโตเท่ายักษ์และก็ไม่ได้มีรอยสักเต็มตัวเต็มแขนดูเหมือนพวกนักเลงเสียหน่อย สวัสดีค่ะ เอ่อ คุณ คือ คนที่เก็บกระเป๋าสตางค์ของฉันได้ใช่ไหมคะ เสียงพูดของคุณตะกุกตะกักจนผมคิดเอ็นดูคุณเป็นเอเชียคนแรกที่ผมได้มีโอกาศพูดคุยด้วย ผม แมทครับ บังเอิญผมเดินตามหลังคุณตอนคุณจะขึ้นรถเมล์แล้วผมเห็นกระเป๋าสตางค์คุณหล่นเลยเก็บมา ผมขอโทษนะครับที่เปิดดูเพราะผมจนปัญญาที่จะวิ่งตามรถเมล์คันที่คุณนั่งจริงๆ
เสียงหัวเราะกังวาลใสเหมือนแก้วดังขึ้นหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้นผมอยากจะบอกคุณว่าเสียงหัวเราะของคุณมันสดใสเหมือนในวันที่ผมเจอคุณวันแรกไม่มีผิด
คุณยังจำได้ไหมว่าคุณยิ้มรับผมทุกครั้งที่ผมไปกดกริ่งบ้านคุณพร้อมกับช่อดอกเด๊ฟโฟดิวที่ผมซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ต จนบางครั้งผมคิดว่าคุณคงจะยิ้มรับเจ้าดอกเด๊ฟโฟดิวมากกว่ายิ้มรับผมเสียอีก ผมก็น้อยใจเป็นนะครับ ว่าคุณน่ะสนใจเจ้าดอกสีเหลืองๆนั่นมากกว่าผมเสียอีก
คุณเคยบอกผมว่าที่คุณชอบดอกเด๊ฟโฟดิวเพราะว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ คุณไม่ชอบหน้าหนาว เพราะว่ามันหดหู่ ผมก็เห็นด้วยกับคุณหน้าหนาวมันหนาวเหน็บจับใจแล้วผมจะบอกคุณได้เลยว่าหน้าหนาวที่ผ่านมาของผมมันหนาวจับใจมากกว่าปีไหนๆเลยครับมันไม่อบอุ่นเหมือน หน้าหนาวปีแรกที่ผมกับคุณรู้จักกันปีนั้นที่เรานั่งฟังเพลง ของนอร่า โจน ด้วยกันไงครับ
Are you lonesome tonight, Do you miss me tonight? (คุณรู้สึกเหงาไหมค่ำคืนนี้ แล้วคุณคิดถึงฉันไหมในค่ำคืนนี้)
หน้าหนาวปีที่ผ่านมาผมนั่งฟังเพลงนี้คนเดียวครับ ผมตอบคำถามของเพลงได้เลยครับว่า ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน ผมคิดถึงคุณจับใจ เพราะคุณทำให้ผมไม่ชอบฤดูหนาวเพราะผมจะคิดถึงคุณมากเป็นพิเศษ แล้วก็เพราะคุณทำให้ผมรักฤดูใบไม้ผลิ เป็นชีวิตจิตใจ ทุกปีผมจะต้องไปเดินเล่นในไฮท์ปาร์คและกลับไปนั่งที่จุดเดิมที่ผมแอบนั่งมองคุณในตอนนั้น อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไป แม้แต่เจ้าม้านั่งตัวเดิมก็ถูกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ห้าปีที่เราได้รู้จักใช้เวลาร่วมกันคุณมีผมในยามที่คุณสุข และ ทุกข์เรามีกันในเวลาที่มีเสียงหัวเราะและร้องไห้ ห้าปีแล้วนะครับที่เราไม่ได้เจอกัน มันนานเหลือเกินสำหรับผมเมื่อห้าปีที่แล้วที่คุณจะต้องเดินทางกลับเมืองไทย ผมจำได้ว่ามันเป็นวันที่คุณสูญเสียบุคคลที่คุณรักไปถึงสองคน คุณร้องไห้และไม่ได้นอนทั้งคืน ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณ ผมบอกคุณตรงๆเลยว่าผมไม่เคยเห็นดวงตาคู่โตสดใสของคุณ หม่นหมองขนาดนี้มาก่อนผมอยากจะกอดคุณเอาไว้แน่นๆถ่ายทอดความรักที่ผมมีทั้งหมดเพื่อจะไปทดแทนสิ่งที่คุณสูญเสียไปแต่ผมก็รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ ใจของผมมันแทบสลายลงเมื่อคุณลุงคุณป้าของคุณมารับคุณกลับเมืองไทย ผมรู้ว่าคุณไม่ได้อยากจะกลับไป
นิมครับคุณคงไม่คิดละซิว่า เรารู้จักกันมาสิบปีแล้วครับ คุณจำได้ไหมว่า อีก สามวัน จะเป็นวันครบรอบที่ผม ไปกดกริ่งบ้านคุณไงครับ ผมความจำดีนะ คุณว่าไหม ผมเคยบอกคุณว่าถ้าผมมีเงินมากพอเมื่อไหร่ผมจะไปหาคุณ ถ้าผมมั่นคงเมื่อไหร่ผมจะไปหาคุณ ผมบอกคุณเสมอใช่ไหมที่รัก
วันนี้ผมมีบ้านเป็นของตัวเอง เป็นชื่อของผมครับ ถ้าคุณมองที่อยู่ข้างบนดีๆคุณจะแปลกใจว่ามันไม่ใช่ที่อยู่เดิมที่ผมเขียนจดหมายหาคุณเสมอๆ
ผมซื้อห้องชุดริมแม่น้ำไทน์ด้วยเงินของผมเองครับ ห้องชุดนี้มีสองห้องนอนครับ แต่คุณรู้ไหมว่าสิ่งพิเศษของห้องชุดนี้คืออะไร มันคือ ระเบียง ที่ยื่นออกไปแล้วมี กระถางดอกเด๊ฟโฟดิวตั้งเรียงกันเต็มระเบียงนะซิครับ ผมตั้งใจปลูกเอาไว้โดยเฉพาะเลย คุณอยากมาเห็นไหมครับ ผมว่าคุณต้องชอบแน่ทีเดียว
ผมอยากจะบอกคุณว่าความจริงบ้านของผมยังแต่งไม่เสร็จมันยังขาดอะไรอีกหลายอย่าง มันขาดความสดใส สดชื่น ขาด คุณ เพราะคุณคืนความสดใส และแสงสว่างในชีวิตของผม
นิมที่รักคุณจะมาเป็นแสงสว่างในชีวิตของผมได้ไหมครับ
ผมจะรอคำตอบของคุณนะครับ
รัก
แมท
ปล.จดหมายฉบับนี้ไม่มีตราไปรษณียากรณ์นะครับเพราะว่าผมคงจะเป็นคนถือมันมาให้คุณเองอย่าตกใจถ้าจะเป็นผมคนเดิมที่กดดริ่งบ้านคุณเหมือนในวันที่เราพบกันครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้วไม่ต้องกลัวครับผมมีเจ้าช่อดอกเด๊ฟโฟดิวมาให้คุณเหมือนเดิมพิเศษก็เพียงแต่เจ้ากล่องเล็กๆที่ผูกติดกับช่อดอกไม้นั่นแหละครับที่ผมจะให้คุณเป็นพิเศษ คุณลองเปิดกล่องแล้วค่อยให้คำตอบผมก็ได้ครับ
Create Date : 31 มีนาคม 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 31 มีนาคม 2549 10:02:11 น. |
Counter : 636 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พี่หน่อย IP: 203.155.153.110 31 มีนาคม 2549 10:22:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: กระจ้อน 31 มีนาคม 2549 13:38:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: T_Ang 2 เมษายน 2549 1:49:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Newcastle upon Tyne United Kingdom
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เมื่อคนเราไม่ใช่คนวิเศษ แต่เราทำตัวเราให้มีคุณค่าโดย การที่รู้จักตัวตนที่แท้จริง และก็ยอมรับมันโดยไม่ละอาย แล้วเราจะสามารถเชิดหน้า ได้อย่างสบายใจ
|
|
|
|
|
|
|