...ปล่อยให้รักมันลวงตาต่อไป
Group ตัวอย่าง
<<
สิงหาคม 2554
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
24 สิงหาคม 2554
Invictus : อาวุธที่ชื่อ "การให้อภัย"
Invictus : อาวุธที่ชื่อ "การให้อภัย"
Throne of Blood : ความกลัวในหมอกควันคำทำนาย
The Social Network : ระหว่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ โนบิตะ ใครน่ารักกว่ากัน
อินทรีแดง : คนชนบท ผู้เสียสละ(เพื่อใคร)
โลกแห่งการก่ออาชญากรรมของ คริสโตเฟอร์ โนแลน
ครูบ้านนอก : เรื่องเล่าที่อยากให้เข้าหูผู้ที่มีความต้องการเกินความพอเพียง
Cloverfield : สัตว์ประหลาดป่วนกรุง
The Hurt Locker : ยาเสพติดชื่อ ความรุนแรง
Up in The Air : ความสัมพันธ์ผ่านสื่อ
ภาพยนต์ที่(เกือบ)ทุกคนในครอบครัวต้องดู
Rashomon : ความจริง
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ และความรักเมืองกรุงแบบ เฉิ่ม
Almost Famous : รัก ใน ร็อก
พลเมืองจูหลิง : เสียงที่ไม่เคยได้ยิน
นางไม้ : เรื่องเล่าจากเมืองสู่ป่า
Be With Me : ภวังค์รัก...
Star Trek : ผู้ชายเจ้าอารมณ์ที่ชื่อ สปอร์ค
Wall E : คน(และหุ่นยนต์บุญชู)เหงาเขาทำกัน
The Curious Case of Benjamin Button : ข้อดีของการมีชีวิต
The Air I Breathe : เรายังคงหายใจ
Always : สังคมชนบทและความหมายของครอบครัว
มหาลัยเหมืองแร่ : ดินแดนแห่งความเหงา
City of God : สิ่งที่เลือกถือ
Seasons Change : ตัวแทนเด็กไทยชื่อ ป้อม
21 Grams : เรื่องของผู้สูญเสีย
Little Miss Sunshine : เรื่องของเด็ก
สายลับจับบ้านเล็ก : คะแนนที่เคยให้
Autumn Spring : การให้อภัย...
เพื่อนสนิท : เหตุผลมันไม่จำเป็น
Seven Samurai : เจ็ดเซียนซามูไร(ธรรมดา)
ระหว่างInfernal Affair และ The Departed
The Godfather :อีกมุมหนึ่งของคนมีอำนาจ
Invictus : อาวุธที่ชื่อ "การให้อภัย"
มีฉากหนึ่งที่ ฟรองซัว ฟีนาร์ (แมตต์ เดม่อน) ยืนมองท้องฟ้ายามเย็นริมหน้าต่างกระจกบานเลื่อน แล้วตั้งคำถามขึ้นมาว่า ถ้าคุณโดนจับขังคุก 30 ปี...คุณจะยังอภัยให้คนที่จับคุณเข้าคุกได้อีกเหรอ
หากมองแต่หน้าหนัง Invictus แล้วอาจทำให้ใครหลายคนคิดว่านี่คือหนังกีฬารักบี้เรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่จริงๆแล้วผลงานของปู่คลินท์ อีสวูดเรื่องนี้กลับพูดถึงเรื่อง การปรองดอง ของคนในอัฟริกาใต้ ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากการปล่อยตัว เนลสัน แมนเดลา (มอร์แกน ฟรีแมน) ในปี 1999 ก่อนจะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเวลาต่อมา
การปรองดองของคนต่างสีผิวในหนังนั้นไม่ใช่การนั่งประชุมโต๊ะยาวแล้วหันหน้าจับมือให้สื่อมวลชนเห็น แต่เป็นการจุดไฟแห่งศรัทธาให้เกิดขึ้นเพื่อให้คนต่างสีผิวเหล่านั้นส่งใจไปที่สิ่งนั้น
หากเปรียบประเทศอัฟริกาใต้เป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งในหนัง ก็คงเปรียบได้กับทีมรักบี้ของประเทศที่กำลังทำผลงานแย่ลงทุกวัน และหากจะสร้างความเชื่อในการปรองดองต้องสร้างจากสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้น และทีมรักบี้นั่นเองที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่แมนเดลาเลือกที่จะจุดศรัทธา
แต่จุดที่สำคัญที่สุดก่อนจะเชื่อมความแตกแยกเข้าด้วยกัน นั่นคือการที่แมนเดลายกโทษและให้อภัยศัตรูที่ทำกับเขา และถ้าจะเปลี่ยนทัศนคติของคนในชาติให้ดีขึ้น จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นที่ตัวแมนเดลาเอง
เมื่อช่วงปีที่ประเทศไทยเรามีความขัดแย้งกันรุนแรงนั้น มีนักวิชาการหลายคนพูดถึง แมนเดลาโมเดล ซึ่งผมก็มิอาจทราบได้ว่ามันจะใช้ได้ผลกับประเทศไทยของเราที่การเมืองคือผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ นอกจากนี้แล้วเงื่อนใขในความขัดแย้งระหว่างอัฟริกาใต้ประเทศของเรายังต่างกันอีกด้วย
แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถนำจากแมนเดลามาใช้ได้นั้นคือ การให้อภัยศัตรู แม้มันจะเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ถ้าทำได้เราก็จะรู้ว่า ไฟศรัทธา ที่จะนำพาประเทศเราให้รุ่งเรืองได้ในอนาคตคืออะไร เหมือนอย่างที่แมนเดลาทำคือเริ่มจากตัวเขาเอง
Create Date : 24 สิงหาคม 2554
Last Update : 24 สิงหาคม 2554 15:50:52 น.
9 comments
Counter : 6528 Pageviews.
Share
Tweet
การให้อภัยเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดแล้วเนอะ มันเป็นการทำบุญอีกวิธีหนึ่งที่ดีเชียวนะ
ปล.ผู้หญิงทุกคนนิสัยเหมือนกันหมดเลยเนอะ เปรียบเทียบ เปรียบเปรยไม่ได้เลย ของจะขึ้น
โดย:
ชิโยจัง
วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:17:36:00 น.
โดยเนื้อแท้ท่านประธานาธิบดี Nelson Mandela
เป็นคนดีอย่างที่หนังนำเสนออย่างนั้นหรือเปล่าคะ
คือไม่เคยอ่านอัตชีวประวัติและติดตามข่าวของท่านมาก่อนเลยค่ะ
แต่ในหนังได้แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นคนดี มีวิสัยทัศน์ ให้โอกาสคน และขยัน
ประทับใจที่ว่าทีมสปริงบอร์คเป็นทีมชาติที่คนผิวดำไม่เคยเชียร์
แต่ท่านประธานาธิบดีก็ทำให้ทุกคนกลับมาร่วมมือร่วมใจกัน
เชียร์ทีมชาติของตนโดยไม่คำนึงถึงสีผิวได้ในที่สุด
เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง แม้ว่าบางช่วงจะอืดไปหน่อยทำให้ง่วงนอนได้
โดย: มะนาวเพคะ IP: 182.53.42.189 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:17:47:46 น.
เขียนรีวิวดีจังเลยครับ
ผมชอบหนังแนวๆนี้อยู่แล้วด้วย
เห็นแว๊บๆมีให้ยืมที่ฟิตเนต ต้องไปเอามาดูซะหน่อย
โดย: septu (
Septu
) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:20:17:01 น.
การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือให้อภัยตนเองจริงๆ ครับ
น่าดูนะครับ ชอบการให้อภัย
แนะนำเล่ม ปัญญาญาณแห่งการให้อภัย ของท่านทะไล ลามะ ครับ
โดย: คนขับช้า IP: 27.130.172.57 วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:6:03:11 น.
สวัสดีค่ะ ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ ขอบคุณที่สรุปเรื่องราวให้อ่านก่อน
ช่วงนี้กำลังบ้าดู 24 อยู่ค่ะ วันนี้จบแผ่นสุดท้าย season 8 แล้วค่ะ ...วันนี้ได้เห็นสิ่งดีๆ ในหนังคือการให้อภัย และการมีจิตสำนึกที่ดีของคนที่มีอำนาจด้วยค่ะ
โดย:
Maew-Tua-Lek
วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:0:41:05 น.
ยากให้เราทุกคนนำสิ่งนี้ไปใช้กันทุกคนครับ เพราะว่าเหมือนคำสอนของพระพุทธเจ้าคือการให้อภัยคือจุดดับของปัญหา สุดยอดครับท่านนักเขียน
โดย: คมสันต์ IP: 58.10.146.32 วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:13:01:32 น.
30 ปี แต่ยังให้อภัยได้ สุดยอดเลยครับ
โดย:
คนขับช้า
วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:12:20:00 น.
การอภัยเป็นเรื่องสำคัญจริงๆครับ
โดย:
REX-REX
วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:16:02:35 น.
ยังไม่ได้ดูเลยครับเรื่องนี้
โดย:
คนขับช้า
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:32:36 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
komyooth
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ผมชอบดูหนังที่มีพลังทำให้ผมไปคิดต่อได้ แม้บางเรื่องอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีเลิศก็ตาม
komyooth
land_scape_man
แม่ไก่
จัสมิน
ลูกข้าราชการ
lovelyging
little nurse
Ghoeby
Litchi
leehyohee_gimji
อ้อแอ้.. สาววิศวะตามหารักแท้
ลั่นทมขาว
ราศีตุลย์
aorming
Tid Lom Ka
แม่ออมบุญ
Nanatakara
แมวโหด
atom_kj
Webmaster - BlogGang
[Add komyooth's blog to your web]
Bloggang.com
ปล.ผู้หญิงทุกคนนิสัยเหมือนกันหมดเลยเนอะ เปรียบเทียบ เปรียบเปรยไม่ได้เลย ของจะขึ้น