...ปล่อยให้รักมันลวงตาต่อไป
Group ตัวอย่าง
<<
กุมภาพันธ์ 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
1 กุมภาพันธ์ 2553
Rashomon : ความจริง
Invictus : อาวุธที่ชื่อ "การให้อภัย"
Throne of Blood : ความกลัวในหมอกควันคำทำนาย
The Social Network : ระหว่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ โนบิตะ ใครน่ารักกว่ากัน
อินทรีแดง : คนชนบท ผู้เสียสละ(เพื่อใคร)
โลกแห่งการก่ออาชญากรรมของ คริสโตเฟอร์ โนแลน
ครูบ้านนอก : เรื่องเล่าที่อยากให้เข้าหูผู้ที่มีความต้องการเกินความพอเพียง
Cloverfield : สัตว์ประหลาดป่วนกรุง
The Hurt Locker : ยาเสพติดชื่อ ความรุนแรง
Up in The Air : ความสัมพันธ์ผ่านสื่อ
ภาพยนต์ที่(เกือบ)ทุกคนในครอบครัวต้องดู
Rashomon : ความจริง
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ และความรักเมืองกรุงแบบ เฉิ่ม
Almost Famous : รัก ใน ร็อก
พลเมืองจูหลิง : เสียงที่ไม่เคยได้ยิน
นางไม้ : เรื่องเล่าจากเมืองสู่ป่า
Be With Me : ภวังค์รัก...
Star Trek : ผู้ชายเจ้าอารมณ์ที่ชื่อ สปอร์ค
Wall E : คน(และหุ่นยนต์บุญชู)เหงาเขาทำกัน
The Curious Case of Benjamin Button : ข้อดีของการมีชีวิต
The Air I Breathe : เรายังคงหายใจ
Always : สังคมชนบทและความหมายของครอบครัว
มหาลัยเหมืองแร่ : ดินแดนแห่งความเหงา
City of God : สิ่งที่เลือกถือ
Seasons Change : ตัวแทนเด็กไทยชื่อ ป้อม
21 Grams : เรื่องของผู้สูญเสีย
Little Miss Sunshine : เรื่องของเด็ก
สายลับจับบ้านเล็ก : คะแนนที่เคยให้
Autumn Spring : การให้อภัย...
เพื่อนสนิท : เหตุผลมันไม่จำเป็น
Seven Samurai : เจ็ดเซียนซามูไร(ธรรมดา)
ระหว่างInfernal Affair และ The Departed
The Godfather :อีกมุมหนึ่งของคนมีอำนาจ
Rashomon : ความจริง
ตั้งแต่เด็กผมจะได้ยินคำว่า โลกาภิวัตน์ (Globalization) ทุกครั้งที่เข้าเรียนวิชาสังคม และรู้สึกว่าคำๆนี้ได้เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกรวมไปถึงหมายของ ความจริง ด้วย ซึ่งต่างคนต่างมี ความจริง เป็นของคนเอง บางครั้งก็เป็นความจริงที่เกิดจากเหตุผลที่เป็นจริง แต่หลายครั้งมันก็เป็นความจริงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหวังผลบางประการ
ครั้งแรกที่ผมได้ดูหนังเรื่อง Rashomon ผลงานมาสเตอร์พีชปี 1950 สุดลุ่มลึกของ อากิระ คุโรซาว่า ปูชนียะบุคคลคนนึงของวงการภาพยนตร์โลก ตอนนั้นสังคมไทยยังคงดำเนินไปเหมือนที่มันเคยเป็น แต่ตอนนี้สังคมที่เคยรู้จักได้เปลี่ยนไป เมื่อโลกาภิวัฒน์ได้นำพาเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกคนต่างมีพื้นที่ของตนมาด้วย พื้นที่ที่ทุกคนมี ความจริง ที่ต้องการจะพูด
ในเรื่อง Rashomon เป็นเรื่องของตัวละครสามตัวที่มาประเหตุการณ์ร่วมกัน หนึ่งตัวเป็นโจรป่าที่ขึ้นชื่อเรื่องการข่มขืนหญิงสาว และอีกสองตัวเป็นคู่สามี-ภรรยาที่เดินทางเข้ามาในป่าแห่งหนึ่งจนตัวภรรยานั้นถูกโจรป่าข่มขืน แต่คำถามของหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากนั้นเมื่อตัวละครทุกตัวมาขึ้นศาล ต่างคนต่างมี ความจริง มาพูดซึ่งทุกเรื่องล้วนต่างกันอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นยังมี ความจริง จากผู้ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่โกหกเมื่ออยู่ต่อหน้าศาล
คำถามที่เกิดขึ้นกับใครหลายๆคนคือ แล้วเรื่องใดเล่า...เป็นเรื่องจริง ในเมื่อทุกเรื่องที่เล่ามานั้นต่างเป็น ความจริง ที่สนับสนุนกับความชอบธรรมของตนเองและแต่ละคนต่างเป็นผู้ถูกกระทำ
แล้วในยุคนี้ที่ทุกคนต่างสร้างพื้นที่ให้ตนเองได้ด้วยวิธีต่างๆ ทุกพื้นที่ต่างก็เป็นที่ที่ทุกคนเอา ความจริง ที่ผ่านตรรกะของตนมาเผยแพร่ ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคงเป็นวงการการเมืองและวงการบันเทิงที่ต่างฝ่ายต่างมี ความจริง ออกมาแฉกันยุ่งไปหมด เมื่อเราอยู่ในฐานะผู้รับสารเราก็มีเพียง วิจราณญาณ เป็นตรรกะคอยกรองความจริงเข้าไปในระบบจัดเก็บข้อมูล ซึ่งจากประสบการณ์ของแต่ละคนก็ส่งผลถึงการกรอง ความจริง ของแต่ละคนด้วย
และในยุคนี้ที่มีการต่อสู้ทางข้อมูลข่าวสารกันอย่างรุนแรงโดยเฉพาะทางฝั่งการเมือง ผู้ที่ใคร่กระหายข่าวสารคงต้องใช้เครื่องมือคัดกรอง ความจริง อย่างหนักพอสมควร
ปล.ตอนนี้ผมเห็นมีดีวีดีหนังเรื่องนี้ขายตามร้านทั่วไป ลองหาดูนะครับ
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2553 13:57:13 น.
11 comments
Counter : 1308 Pageviews.
Share
Tweet
5 5 5
โดย:
ชิโยจัง
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:02:50 น.
ขอบคุณนะที่แวะไปเยี่ยม ความรักกับข้าวบูด
ทำให้รู้สึกดีขึ้นนะเนี่ย
โดย: kanchanasuwan IP: 125.26.149.47 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:50:29 น.
เป็นหนังที่น่าทึ่งมากครับ แม้มาดูในทุกวันนี้
โดย:
Nanatakara
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:52:28 น.
อ่าว ทำไมถึงเอียน อวตารอะค่ะ
ก็หนังสนุกดีนะค่ะ
ว่าแต่ช่วงนี้กำลังทำอะไรอยู่หรอค่ะ
โดย:
little nurse
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:09:23 น.
แล้วเรื่องใดเล่า...เป็นเรื่องจริง เด้วจะไปหาดูค่ะ*-*
ตีหนึ่งห้าสิบนาที ได้อ่านคอมมเม้นของ จขบ. นี้แล้วขอบคุณมากค่ะ วันนี้ตั้งใจจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์บนดาดฟ้า
*-*
โดย:
แมวโหด
วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:51:45 น.
ง่วง งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
โดย:
ชิโยจัง
วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:04:48 น.
"Rashomon" ชื่อนี้เคยได้ยินอยู่เหมือนกัน
เพิ่งรู้ว่ามีเรื่องราวเช่นนี้เอง
เข้ากับยุคการเมืองวิบัตินี้จิงๆ
โดย:
runch
วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:46:11 น.
สวัสดีค่ะ
ออ อย่างนี้นี่เอง
เพิ่งเข้าใจในความคิดคุณค่ะ
อืม แต่ความชอบของแต่ละคนจะต่างกัน
ว่าแต่ ถ้าจะให้ไปดูหนัง ฉากรุนเเรงคงไม่ไหว
กลัวว่าจะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวอะค่ะ
โดย:
little nurse
วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:29:53 น.
ว่าถึงพื้นที่ความจริง
ผมว่าทุกคนต่างก้มีความจริงที่ตัวเองนึกและศรัทธา
แต่จะเป็นความจริงสูงสุด รึเปล่านั้นก็บอกไม่ได้
เพราะสังคมที่จะร่วมกันได้ ล้วนต้องประนีประนอม
หาความจริงร่วมกึ่งกลางเท่านั้น
แต่ในราโชมอน ความจริงถูกลดค่า
ด้วยความที่เป็นโจร ที่ทำลายทุกๆความจริง
ที่เขาได้กระทำมาเสมอนะครับ
เรามาเป็นคนดีในการเข้าพรรษานี้กันดีกว่า
โดย:
Mr.Chanpanakrit
วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:55:17 น.
ผมดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกที่โรงหนังเฉลิมเขตเมื่อสี่สิบปีกว่า และเคยดูละครเรื่องนี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีม.ร.ว.คึกฤทธิ์ แสดงเป็นคนทำช้อง(หรือสัปเหร่อก็ไม่แน่ใจ) ม.ร.ว.ถนัดศรี เป็นคนตัดฟืน พฤหัส บุญหลง เป็นพระ อาคม มกรานนท์ เป็นโจรป่า สุพรรณ บูรณพิมพ์ เป็นเมียซามูไร แล้วก็อีกคนที่แสดงเป็นซามูไร ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว
หลังจากนั้นผมก็ได้ดูหนังเรื่องนี้อีกหลายครั้งทั้งจากที่ฉายโดยสำนักข่าวสารญี่ปุ่นและในรูปของ CD
เคยได้ฟังคำวิจารณ์โดย อาจารย์ จินตนา ยศสุนทร ด้วย
ต้องขอบอกว่านี่คือหนังที่คอหนังควรหามาดูให้ได้ ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เพราะทั้งเนื้อหาสาระและเทคนิคของการใช้แสงและเงาของภาพขาวดำนั้นต้องถือว่าเป็นอมตะจริงๆ
หนังสะท้อนให้เห็นกิเลศมนุษย์ซึ่งแต่ละคนมีมากบ้างน้อยบ้าง จะหาผู้บริสุทธิ์แทบไม่ได้ ผ่านการแสดงออกของตัวละครที่เป็นต้นเรื่องอันได้แก่ ซามูไร เมีย และ โจรป่า นอกจากนั้นตัวละครที่เป็นคนตัดฟืนซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ก็มีส่วนในการเม้มเอาทรัพย์สินของผู้ตายไว้(ด้วยความจน)
ส่วนคนทำช้อง(หรือสัปเหร่อก็ไม่แน่ใจ) ก็อาจจะกล่าวได้ว่าทำหน้าที่จี้ไชหรือทะลวงเอาด้านมืดของจิตใจมนุษย์ออกมาแฉโดยไม่ยินดียินร้ายหรือจะว่าโดยสะใจก็ได้ ทำให้ผู้ดูหนังเรื่องนี้หดหู่ใจ ซึ่งหนังก็ยังให้ตัวละครที่เป็นพระออกมาสะท้อนความรู้สึกแทนผู้ดูอย่างแนบเนียนที่สุด
แต่สุดท้ายหนังกลับสร้างความหวังให้แก่ผู้ดูผ่านตัวละครที่เป็นพระคนเดิมนั่นแหละ ในทำนองว่าถ้าเรายอมรับความเป็นเพื่อนมนุษย์ ที่อาจมีดีบ้างเลวบ้าง แก้ไขสิ่งไม่ดีและส่งเสริมสิ่งดี บางทีเราก็อาจจะมีความหวังกับมนุษยชาติได้ ซึ่งสะท้อนออกในตอนจบที่พระยอมมอบเด็กทารกที่มีคนนำมาทิ้งให้แก่คนตัดฟืนรับไปเลี้ยงหลังจากที่คนตัดฟืนได้ยอมรับผิดที่ขโมยมีดสั้นของซามูไรไป ฉากสุดท้ายที่พระส่งมอบทารกน้อยให้คนตัดฟืนนั้นเป็นภาพเชิงสัญลักษณ์ของการฝากอนาคตของมนุษยชาติให้แก่ผู้คนในยุคปัจจุบันนั่นแหละ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น
หามาดูเถิดครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
โดย: สุธรรม IP: 58.8.174.157 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:23:15 น.
ดู 4 รอบแล้ว ยังซึ้งเหมือนเดิม
แต่ละคนก็มีเรื่องราวของตัวเอง
ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องก็อยากให้คนอื่นยอมรับและเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ทำ นอกจอมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เอง จิตมนุษย์นั้นมันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ชอบดูเพื่อที่ว่าจะได้เตื่อนใจให้เรายอมรับสิ่งที่แตกต่างจากเราได้ง่ายขึ้น
โดย: นินจา IP: 180.210.216.74 วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:21:22:18 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
komyooth
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ผมชอบดูหนังที่มีพลังทำให้ผมไปคิดต่อได้ แม้บางเรื่องอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีเลิศก็ตาม
komyooth
land_scape_man
แม่ไก่
จัสมิน
ลูกข้าราชการ
lovelyging
little nurse
Ghoeby
Litchi
leehyohee_gimji
อ้อแอ้.. สาววิศวะตามหารักแท้
ลั่นทมขาว
ราศีตุลย์
aorming
Tid Lom Ka
แม่ออมบุญ
Nanatakara
แมวโหด
atom_kj
Webmaster - BlogGang
[Add komyooth's blog to your web]
Bloggang.com