หลังจากไททานิค เคตและลีโอ ก็สั่งสมบารมีเรื่อยมาจากหนังเรื่องต่างๆมากมาย 

   ทางด้าน ลีโอ ได้เข้าชิง รางวัลจากหนังเรื่องต่างๆมากมาย รวมทั้ง รางวัล ออสการ์ ซึ่งที่จะหยิบมาพูดถึง คือ เรื่องที่ผู้เขียนประทับใจที่สุด 

   ภาพยนตร์เรื่อง The Aviator ซึ่งกำกับโดย มาติน สกอเซร์ซี่ ผู้กำกับคู่บุญ โดยลีโอรับบทเป็น Howard Hugh บุคคลดัง ซึ่งมีชีวิตอยู่จริง ด้วยบุคลิกของ Howard Hugh ที่เป็นคนทะเยอทะยาน มั่นใจในตัวเองสูง(มาก) และ มักจะไม่พอใจกับการผิดพลาดแม้เพียงเล็กๆน้อยๆ ทำให้เขาดูเป็นคนขี้หงุดหงิด และ ดูมีอาการทางประสาท เขากลายเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ พูดกล่าวคำซ้ำไปซ้ำมา อย่างหยุดไม่ได้ กลัวเชื้อโรคอย่างหนัก เขาทนเห็นผ้าสกปรก ที่ทิ้งไม่ลงถังขยะไม่ได้ ล้างมืออย่างหนัก จนเลือดออก ไม่กล้าจับลูกบิดประตู เพราะ กลัวเชื้อโรค และเมื่อความเครียดรุมล้อมหนัก เขาก็กลายเป็นคนบ้าไปจริงๆ เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมาเจอผู้คน ไม่ใส่เสื้อผ้า เฝ้าดูวีดีโอหนังของตัวเอง จนในที่สุด เหมือนจะสิ้นหวัง  ก็มีคนสามารถมาช่วยฉุดเข้าขึ้นมาจากขุมนรก หนังจบลง ด้วย ว่าตัวฮาเวิร์ด ถึงเขาจะดีขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะหายขาดจากโรคที่เป็นอยู่ 

บทบาทของลีโอนั้น พูดได้คำเดียวว่ายอดเยี่ยม แน่นอน บทนี้ต่างจากบทแจ๊คอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็ช่วยส่งเข้า ให้ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ จนเราที่ตอนนั้นดูแล้วบอกกับตัวเองเลยว่า ''นี่เป็นการแสดงที่ดีที่สุด เท่าที่เคยดูมา''(อย่าหาว่าเว่อร์ นะ เออ)

แน่นอนบทนี้ส่งเขาเข้าชิงรางวัล ไปพอสมควร รวมทั้ง รางวัลออสการ์ และก็ชวดไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้น เขาก็ได้เข้าชิงออสการ์อีก ในหนัง อีก 2 เรื่อง คือ The Departed และ Blood Diamond

     ส่วนทางเคตนั้น ก็ได้เข้าชิงรางวัลอีกมายมาย รวมถึงรางวัล ออสการ์ จากเรื่อง Iris , Eternal Sunshine Of The Spootless mind และ Little Children

     และที่คนพูดถึงกันมาก ก็คือ หนังชื่อยาวเรื่อง Eternal sunshine of the spotless mind  ซึ่งเนื้อเรื่องถูกใจคนดู และทำเงินได้พอสมควร ในตอนนั้น ในบรรดาผลงานเคตทั้งหมด คนมักจะพอใจ กับ บทคลีเมนไทน์ ครูชิมสกี้ ของเธอที่สุด

      ทำไมถึงเป็นแบบนั้น บทแนวนี้ไม่เอื้อต่อการเข้าชิงรางวัล เพราะ มันไม่ใช่บทดราม่า ไม่ใช่ชีวิตจริง ไม่ต้องแต่งหน้าหรือเสริมส่วน เพื่ม ลด น้ำหนัก 

       แต่คลีเมนไทน์เป็นสาวติสต์  และ เคตแสดงบทนี้ได้อย่างดีเยี่ยม หล่อน ดู ติสต์ๆ เหมือนคนเพื้ยนนิด ลักษณะ ท่าทาง รวมถึง การแสดงออกทางอารมณ์ในฉากต่างๆ  ด้วยเหตุนี้ เรื่องนี้จึงเป็นหนังในใจของแฟนคลับเคตหลายๆคน

      ทั้งสองคน ลอดแล่นอยู่ในจอเงินมานานพอสมควร สั่งสมบารมีได้พอๆกัน และแล้ว ก็ถึงเวลาที่เขาและเธอ ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง

      หนังเรื่อง Revolutionary Road กำกับโดย เดวิต เยตส์ สามีของเคต ซึ่งเคตเองเป็นตัวตั้งตัวตีของหนังเรื่องนี้ เขาเป็นคนส่งบทนี้ให้สามีกับมือ และ ยังโทรติดต่อลีโอ เพื่อนสนิท ให้มารับบทเป็นสามีของตน 

      เรื่องมีอยู่ว่า แฟรงค์ และ เอพริล วีลเลอร์ สามี ภรรยา ได้ย้ายมาอยู่ในชายเมือง รัฐ คอนเน็กติกัน บนถนน Revolutionary Road และนั่น เป็นจุดเริ่มต้น ของการแตกร้าว

      เรื่องนี้ ตัวละครต้องระเบิดอารมณ์ใส่กันแบบ เต็มที่ เต็มที่มากๆ ในขณะที่ตัวละครของเคตต้อง เก็บกด เครียด อาจถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนลีโอนั้น ต้องเครียดหนัก เพราะ ภรรยาเป็นโรคทางจิต 

       เคตกับลีโอ ระเบิดอารมณ์ใส่กัน ยังกับโกรธกันมาตั้งแต่ชาติไหนในฉากที่ต้องทะเลาะ แต่ก็ดูหวานแหวว เมื่อต้องแสดงความรัก ลึกซึ้ง เอพริล และ แฟรงค์ เหงื่อ ต่อเหงื่อ น้ำตาต่อน้ำตา ต้้องยอมรับว่าเป็นหนังที่เครียด เครียดมากจรืง

       หลายๆคนแสดงความคิดเห็นว่า เคต นั้น แสดงได้ดีกว่าลีโอ แต่เราว่า เล่นดีพอกัน ชอบตอนเขาโมโห เครียยด เหงื่อเป็นเหงือ หน้าแดงเป็นแดง หน้ายับเป็นยับ

    ส่วนเคตก็ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ซึ่งบทนี้ก็น่าพัฒนามาจากบทโรสเหมือนกัน เพราะ เอพริลก็เป็นเป็นผู้หญิงเก็บกดเหมือนโรส เพียงแต่ หนักกกว่า และการแสดงก็ทรงพลังกว่ามาก แค่เพียงนั่งหันหากล้อง มองด้วยสายตาสื่ออารมณ์เฉยๆ ก็ดูมีพลังแล้ว 

       ส่วนเรื่องรางวัล ดูเหมือนว่างานนี้เคตจะได้เปรียบกว่าลีโอเยอะ สงสัย เขาอาจไม่มีดวงดี จากการเป็น คู่ขวัญ

วันนี้ขอลงท้าย.....คุณลองนีกดูสิว่า ถ้าลีโอ เล่นหนังcommedy  เขาจะเป็นยังไง  แต่สำหรับผู้เขียน นึกภาพไม่ออกเลย พอคุณ ออกจะแสดงแต่อะไรเครียดๆ นี่ก็เป็นอีกบททดสอบนึง ที่ลีโอ ต้องผ่านไปให้ได้