Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
27 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
แบกกล้องไปฮ่องกง (1)

สวัสดีค่ะ

มาอีกแล้ว ทั้งๆที่เรื่องเก่าทั้งสองเรื่องยังไม่จบเยย (อิฉันเป็นคนจับจด ฮี่ฮี่)

มีบางความเห็นว่าอยากดูรูป
บล็อกนี้เลยเอารูปมาให้ดูอย่างจุใจ
ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องค่ะ...เพราะจำไม่ค่อยได้

ทั้งสิงคโปร์และญี่ปุ่น รูปมันกระจัดกระจายค่ะ (ญี่ปุ่น รูปยังไม่ได้อัดเลย ... เพราะเพิ่งกลับมาสดๆร้อนๆ ... แฮ่)

ทริปนี้ไปฮ่องกงในวันเกิด...ปี 2005 ค่ะ...ช้อปกระจาย
แต่ยังแอบถ่ายรูปมาให้ดูกันด้วย

แผนที่ประเทศฮ่องกงค่ะ


เดี๋ยวเล่าเกี่ยวกับประเทศเค้านิดนึงนะคะ ฮ่องกงเนี่ยแบ่งเป็นสี่เขตใหญ่ๆ คือ ฮ่องกง เกาลูน ลานเตา และ นิวเทอร์ริทอรี่

สนามบินอยู่ที่เกาะลานเตา ส่วนใหญ่ที่เราไปกะทัวร์หรือไปเที่ยวแบบนักท่องเที่ยวทั่วไปคือไปช้อปปิ้ง อะไรอย่างเงี้ย lส่วนใหญ่เราจะไปพักกันที่ฝั่งเกาลูน เพราะสถานที่ช้อปเนี่ยตั้งอยู่แถวเกาลูน ฝั่งเกาลูนถ้ามองข้ามไปจะเป็นฝั่งฮ่องกง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระดับประเทศของฮ่องกง สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งในฝั่งฮ่องกงก็มีแยะ

ดังนั้นเวลาเราลงจากเครื่องจะไปที่พัก เราจึงต้องนั่งรถข้ามเกาะกันทีเดียว

ส่วนการคมนาคมของฮ่องกงนั้นจะเป็น MTR หรือรถไฟไต้ดิน ซึ่งโยงใยเป็นเครือข่ายทั่วประเทศฮ่องกงทีเดียวค่ะ รองๆมาคงเป็นรถบัสที่วิ่งซอกซอนไปที่ที่ MTR ไปไม่ถึง (อ้าว...มันก็แน่อยู่แล้วนิ)

ฮ่องกงจะมีบัตรปลาหมึก หรือ Octopus Card เป็นบัตรเติมเงิน สามารถใช้ได้ทั้งรถไฟไต้ดิน รถเมล หรือตามร้านขายของทั่วไป โดยเขาจะหักเงินจากบัตรตามจำนวนเงินที่เราใช้ไปนั่นเอง ถ้าหมด ก็ไปเติมได้นะฮ้า ตามสถานีรถไต้ดินทั่วไป

คร่าวๆ ที่เรารู้ก็ประมาณเนี้ยแหละค่ะ...
กลัวบล็อกนี้มีแต่รูป เลยใส่ข้อมูลให้บ้าง ... เท่าที่รู้...อิ อิ

แอบกระซิบความเฉิ่มให้ฟังอีกนิด เรื่องฮ่องกง
คือเมื่อต้นปีก็มีโอกาสไปอีกรอบ..
คราวนี้พาพ่อกะแม่ไปด้วยค่ะ...
อิชั้นเตรียมทุกอย่างจนวุ่น...


เสื้อผ้าพ่อแม่...จัดให้เรียบร้อย
พาสปอร์ต...ไม่ต้องห่วง
โรงแรม...จองเรียบร้อย (ได้ราคาเป็นที่น่าพอใจ)
ทัวร์ครึ่งวัน...จองแร้ว

วันเดินทาง...ให้น้องขับรถไปส่ง
พอตอนจะ check-in หยิบพาสปอร์ตขึ้นมา....
...เวรแล้ว....
หยิบพาสปอร์ตเล่มเก่ามา......กี๊ซซซซซซซ

โธ่....ทำไม๊ ทำไม ถึงเด๋ออย่างนี้...
โทรเรียกน้องกลับมาแทบไม่ทันเชียว...
เลยให้พ่อแม่ล่วงหน้าไปก่อน...
ส่วนเรา...หงะ...ต้องรีบบึ่งกลับบ้าน เพื่อเอาพาสปอร์ต
เฮ้อ...


มาเริ่มทริปที่ไม่อัปยศกันเลยดีก่าค่ะ

เครื่องการบินไทย...ร้ากคุณเท่าฟ้า..

อันนี้บนเครื่องค่ะ...ฟ้า...ฟ้า


อาหารบนเครื่องง่ะ...ไม่พอยากระเพาะจิงๆ



อยากทานอย่างอื่น ที่ไม่ใช่อันข้างล่างเนี้ยะ ไม่อร่อยเลย



วันรุ่งขึ้นไปเที่ยวกะทัวร์ครึ่งวันนะคะ ไกด์ชื่อคุณเล้ง (ภาษาแต้จิ๋ว แปลว่ามังกร ... ถ้าจีนกลางอ่านว่า หลง)
เป็นคนไทยไปอยู่ฮ่องกงนานมาก จนพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด

รายการซิตี้ทัวร์ ไม่เรียงลำดับนะคะ
- อ่าวอะเบอร์ดีน (มองเห็นทิวทัศน์ฝั่งฮ่องกง)
- รีพัลส์เบย์ (ที่มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่)
- หมู่บ้านชาวประมง
- ร้านจิวเวอร์รี่ (ของ Jacky Chan หรือ เฉินหลงเชียวนะ)
- เดอะพีค (ดูวิวเกาะฮ่องกง แต่...ช่วงนั้นมันปิดซ่อม...เลยอด)
- ร้านดิวตี้ฟรีอะไรสักแห่งเนี่ยแหละค่ะ จำไม่ได้


อ่าวอะเบอร์ดีน

ซึ่งจะมองเห็นวิวที่ฝั่งฮ่องกงด้วย ที่มันเป็นตึกสูงๆเยอะๆริมน้ำอ่ะค่ะ

วิว


แล้วยังเป็นที่ที่มีการจุดพลุเฉลิมฉลอง ตอนที่อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีนด้วย
แถวนี้ตอนสองทุ่มยังมีการเปิดเพลงชาติ และแสดง แสงสีเสียงด้วยนะ ... แต่เราพลาดทุ๊กกกกที
เดินไปอีกนี๊ดเดียวก็จะเป็นแหล่งช้อบบิ้งที่ใหญ่เบิ้มที่เพิ่งสร้างเสร็จ Ocean Terminal ค่ะ
อ้อ..ฮ่องกงปรับปรุงริมน้ำตรงนี้ให้เป็น ถนนดาราด้วย (Avenue of Stars) มนต์เสน่ห์มายาแห่งภาพยนตร์ฮ่องกง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของฮ่องกง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ดาราภาพยนตร์ และผู้คนในวงการ ผู้สร้างปาฎิหารย์ให้บังเกิดกับวงการจอเงิน (เวอร์ซะ) มีอะไรกระจุ๊กกระจิ๊กตั้งอยู่ริมน้ำ อืม เรียกว่าอะไรล่ะ...ที่เป็นรถจำลองที่เข้าฉาก...ประมาณนี้ค่ะ


... บนพื้นถนนจะมีปั๊มมือของดาราฮ่องกงดังๆอยู่ตลอดถนนทั้งเส้นเรียบแม่น้ำ อีกฝั่งของถนนก็เป็นร้านขายของที่ระลึกด้วยค่ะ

ปั๊มมือบนพื้นพร้อมลายเซ็น (หาขอดาราที่รู้จักไม่เจอ เพราะขี้เกียจ)



อันนี้เป็นโปสเตอร์หนังฮ่องกงเก่าๆ



อันนี้เป็นรูปปั้น เจ๊หุ่นดี ชูดวงไฟ...ห่มแผ่นฟิล์ม ท่อนล่างกะท่อนบน... นัยว่าจะให้เป็นสัญลักษณ์ของที่นี้ (เดานะคะ)


หมู่บ้านชาวประมง

ไกด์เล่าว่า อาชีพชาวประมง เป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวฮ่องกง แต่เมื่อมีความเจริญก้าวหน้า พวกลูกหลานชาวประมงก็ไปประกอบอาชีพอื่นๆกัน ทำให้อาชีพนี้ใกล้สูญหายไปตามกาลเวลา ... รัฐบาลต้องการอนุรักษ์อาชีพนี้ไว้ กอร์ปกับอาแปะ อาอึ้ม ที่ประกอบอาชีพนี้ก็ไปทำอาชีพอื่นไม่ได้แล้ว (เพราะแก่เกิน)

รัฐบาลเกิดไอเดียปิ๊งขึ้นมา...ทำไมเราไม่เอาที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซะเลยล่ะ...ให้พวกนักท่องเที่ยวมานั่งเรือซักรอบ...พาไปดูวิถีชีวิตของชาวประมงของเรา...(พวกนักท่องเที่ยวน่ะ เห็นอะไรเค้าก็กรี๊ดกร๊าดกันหมดนั่นแหละ)...แล้วเก็บตังค์ซะ...เท่านี้ พวกอาแปะ อาอึ้ม อาเจ็ก ก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว

...ว่าแล้ว อิฉันก็จ่ายตังค์เพื่อล่องเรือ...ฮ่ะฮ่ะ...

เรามันเด็กริมแม่น้ำป่าสัก....จะไปตื่นเต้นอะไร๊...กับสิ่งที่รัฐบาลฮ่องกงเอามาล่อ (ไม่ตื่นเต้นหรอก ถ่ายรูปมาล้านกว่ารูปเท่านั้นเอง)

จะบอกว่าไกด์เค้าไม่บังคับนะคะ ว่าจะต้องลงเรือ ไม่ลงก็ได้ (ไปรอบสองเราก็ไม่ลง)

เนี่ยแหละ...ความแตกต่างของฮ่องกง (ตึกสูงกับเรือเก่า)


ทำไมภาพในแนวนอนมันเล็กอ่ะ งง (เราทำไรผิดเปล่า)


สภาพเรือบ้านและเรือหาปลา


ได้บรรยากาศบ้านชาวประมงจิ๊ง


น้องหมาเลี้ยงบนเรือ



น้องหมาบ้าน แต่พามาเที่ยว



ภัตตาคารจัมโบ้ลอยน้ำอันลือชื่อ


อันนี้ก็เป็นภัตตาคารเหมือนกันใช่ไหมคะ ผู่รู้ช่วยด้วยยย



Repulse Bay
อยู่ฝั่งฮ่องกง ถนนเลียบทะเลที่จะมุ่งไปสู่เจ้า Repulse Bay นี้ เป็นฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดของฮ่องกงทีเดียวค่ะ เพราะ ด้านหน้าเป็นน้ำ (ทะเล) และด้านหลังเป็นภูเขา (เอ ที่มีข่าวว่าอดีตนายกของไทยไปซื้อทาวน์เฮาส์นี่ ... ใช่แถวนี้เปล่าหว่า)

ว่ากันว่าเมื่อก่อนแถวนี้มีครูพานักเรียนมาทัศนศึกษา แล้วเด็กนักเรียนจมน้ำตาย เขาจึงสร้างเจ้าแม่กวนอิม หันหน้าไปทางทะเล เพื่อคอยปกป้องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆขึ้น และหลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นอีกเลย

ผู้คนเชื่อกันว่าพระองค์ศักดิ์สิทธิ์มาก จึงนิยมมาขอพร... ถ้ามองดีๆ จะเห็นว่า ตาของเจ้าแม่กวนอิมเหลือบลงมา ณ.จุดๆหนึ่ง บนพื้นดิน ดังนั้น เชื่อว่าถ้าจะขอพรแล้วได้ผลดีที่สุดต้องไปยืน ณ.จุดที่ตาของเจ้าแม่มองลงมา (เค้าจะทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมให้ยืน)

เจ้าแม่กวนอิมค่ะ



ดูตาท่าน


นอกจากเจ้าแม่กวนอิมแล้วเนี่ย ยังมีเทพองค์หนึ่ง (ชื่ออะไรไม่รู้อ่ะ) ซึ่งคนเชื่อกันว่า

ถ้า เอามือไปลูบหน้าท่าน เราจะเป็นคนมีหน้ามีตา
ถ้า เอามือไปลูบแขนท่าน จะมีพละกำลัง
ถ้า เอามือไปลูบกระเป๋าท่าน จะมีเงินมีทอง

ไม่แน่ใจว่าลูบครั้งเดียวหรือต้องสามครั้ง ผู้รู้ช่วยด้วยนะคะ
รูปท่านเทพค่ะ


มีอีกค่ะ (อย่านึกว่าจะจบกันง่ายๆ)

ข้างๆท่านเทพจะมีเงินเหมือนเงินตำลึงอยู่ค่ะ อันเล็กวางอยู่บนอันใหญ่ ว่ากันว่า ถ้าเราเอามือลูบเงินอันเล็กแล้วผายมือออกจากตัว และลูบเงินอันใหญ่แล้วทำทีเป็นควักเข้ากระเป๋า...เราจะมีเงินมีทองค่ะ

ถัดมาข้างหน้าจะมีสะพานไม้แบบจีนสีแดงๆ เชื่อกันว่าเป็นสะพานต่ออายุ ถ้าเราเดินข้าม 1 ครั้ง จะอายุยืนขึ้นหมื่นปี ...ม่ายช่าย...สามปี (หรือหนึ่งปีเนี่ย จำไม่ได้แระ)

แต่ห้ามเดินย้อนกลับนะค้า...เดี๋ยวเดินชนกัน...ไม่ช่าย เค้าว่ากันว่าอายุจะสั้นลง 1 ปีเชียว ...จะเดินกลับต้องเดินข้างล่างอ้อมกลับมา ใครอยากอายุยืนก็ไปต่ออายุกันได้ที่นี่

สะพานนี้ค่ะ


มีอีก ... เล่าเหนื่อยมากเลย ...
อันนี้เป็นปลาค่ะ (ไม่ใช่ปลาค้าบบ) สูงประมาณสองเมตรก่าๆ ทำปากจู๋ท้าทายอยู่ ว่ากันว่า (อีกแล้ว) ถ้าเราโยนเหรียญเข้าปากปลาได้ .... อธิษฐานอะไรจะสมความปรารถนา...จะว่าไป...ยากน้า...แต่เราโยนเข้า หลายครั้งเลยอ่ะ...โฮ๊ะ โฮ๊ะ ...ไม่อยากจาคุย...

ถ้าจะไปโยน โปรดระวังเหรียญ (ของคนอื่นๆ) ตกปุ๊ใส่หัวนะคะ จะหาว่าอิช้านไม่เตือน ... คนโยนกันเยอะมาก ... เหรียญบาท เหรียญสลึง ไทยก็เยอะ อิ อิ

ปลาปากจู๋


ได้ข่าวว่า ตอนนี้น้องปลาโดนทุบไปแล้ว ถ้าใครรู้ช่วยแจ้งด้วยนะคะ จะขอบพระคุณมากกก

ยังมีอีกค่ะ อันนี้สำคัญ (มันจะต่อเนื่องไปยังร้านขายหยกด้วย ฮ่ะ ฮ่ะ) พอเดินเข้ามาในอาณาบริเวณวัด เราก็จะเห็นรูปปั้นคล้ายๆสิงห์โต ยืนน่ารักอยู่ตรงประตู

เจ้าตัวนี้คือตัวนำโชค เขาเรียกกันว่า เผ่ยเย้า หรือ ปี่เซียะ ซึ่งเป็นเซียนโพธิสัตว์ในเทพนิยายของจีน มีมากว่าห้าพันปีเชียวน้า

เผ่ยเย้าเป็นสัตว์มงคล หน้าเป็นมังกร หัวเป็นสิงโต ตัวเป็นม้า เค้าเชื่อกันว่าผู้ครอบครอง จะได้รับโชคลาภเงินทอง รับแล้วไม่ออกไปไหนอีกตะหาก เพราะเผ่ยเย้าจะอ้าปาก แล้วไม่มีก้น (รูทวาร) ค่ะ กินอย่างเดียว ไม่ถ่าย

คนมารู้จักเผ่ยเย้าก็เพราะว่าที่เกาะมาเก๊า ที่บ่อนใหญ่ที่สุดนั้น ใน 1 เดือนจะเกิดแจ๊คพอตแตก 3 ครั้ง ทำให้บ่อนขาดทุน จึงได้เชิญซินแสที่เก่งที่สุดมาตรวจดู... ซินแสบอกว่าสิงห์โตคู่ที่อยู่หน้าบ่อนเอาไม่อยู่ต้องใช้ตัวที่เหนือกว่าคือ "ปี่เซียะ " หรือ "เผ่ยเย้า" จากนั้นมาแจ็คพอตจะแตกนานๆครั้ง ทำให้บ่อนเจริญรุ่งเรือง มีเงินเข้ามากมายทุกวัน คนจึงรู้จักเผ่ยเย้าตั้งแต่นั้นมา

"ปี่เซียะ " หรือ "เผ่ยเย้า"


หารูทวารเจอไม๊คะ


พอก่อนนะคะ...แปะรูปเหนื่อย....ว่างๆมาต่อ

ฮ่องกงน่าจะจบก่อนประเทศอื่นนะคะ (อิ อิ ... หวังว่า)



Create Date : 27 มิถุนายน 2550
Last Update : 13 กรกฎาคม 2550 21:40:20 น. 6 comments
Counter : 5561 Pageviews.

 
ตามไปเที่ยวครับ

ดูจากอาหารแล้วมันน้อยนิดจริงๆ

ผมว่าก่อนขึ้นเครื่องคงต้องลองท้องด้วยโจ๊กหรือข้าวต้มมาจากบ้าน 555



โดย: pompier วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:4:42:01 น.  

 
ผมไปเมื่อสิ้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมายังไม่ทุบครับแต่รูปที่ถ่ายมามีแต่ทึมๆ ๆไม่ค่อยสว่างเพราะว่าฝนมันตกเกือบทุกวันที่ไปเลยตามมาเก็บรูปของคุณเนี่ยะแหละ เพลินดี


โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:19:33:02 น.  

 
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2552 ได้ไปเที่ยวมา สรุปว่าปลายังไม่ได้ทุบค่ะ


โดย: fon IP: 58.8.150.215 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:10:44:19 น.  

 
อยากไปบ้าง


โดย: มอส IP: 112.142.4.98 วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:52:39 น.  

 
อยากไปจังเลยค่ะ


โดย: ฝนนี่ IP: 124.157.144.90 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:20:03:11 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ เข้ามาอ่าน ให้ความรู้่ ละเอียดดีจังเลยค่ะ ^^


โดย: ตาโตสุดสวย วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:18:14:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Piterek
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Google
New Comments
Friends' blogs
[Add Piterek's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.