Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
ไปญี่ปุ่นแบบ...ไม่ได้ตั้งใจ(1)

(จริงๆกะจะเขียนทีเดียวจนเสร็จค่อยเอาลงบล็อกทีเดียว แต่คิดว่าถ้ารอให้เสร็จแล้วจึงเอาลง คงไมม่มีโอกาสแน่ๆ เลยทยอยลงทีละตอนนะคะ)

ไม่ได้ตั้งใจจริงๆจ้ะ ทำไมน่ะเหรอคะ

ตอนแรกบริษัทจะส่งไปดูงาน (หรือเที่ยวหว่า) ที่อเมริกาเป็นเวลาประมาณสิบแปดวัน เราก็เตรียมการทุกอย่างจนเรียบร้อย เริ่มตั้งแต่ทำวีซ่า (คนที่เคยไปคงจะทราบว่ามันต้องใช้เวลาเตรียมเอกสารนาน แล้วยังจะต้องตื่นเต้นอีกล่ะ ว่าจะได้หรือไม่ได้...เพราะถ้าไม่ได้จะซวยมาก...) แต่โชคดีที่ได้วีซ่าสิบปี อิ อิ

ไหนจะต้องจัดไฟลท์ให้ตรงกัน (เนื่องจากเรามาจากทั้งไทย จีน สิงคโปร์ และเกาหลี ประเทศละคน จึงต้องจัดเวลาไฟลท์ให้เหมาะสม เพื่อเวลาเดินทางรัฐต่อรัฐจะได้นั่งเครื่องไปลำเดียวกัน และเวลามาถึงเมกากะเวลาออกจากเมกาใกล้เคียงกัน)

จองตั๋วก็ลุ้นอีกว่าจะได้หรือไม่ได้...คือตั๋วของเราอ่ะ..เฉยๆ ยังไงมันก็ต้องได้อยู่แล้ว...แต่ตั๋วของซะมีนี่สิ (ซะมีร้องตามไปด้วย ฮี่ ฮี่) ต้องจัดให้ตรงกะของเรา แต่พี่แกใช้ตั๋วฟรีของพนักงาน ดังนั้นตั๋วภายในประเทศที่เราได้จองไว้แล้วนั้น บางสายการบิน ไม่ได้เป็น Star Aliance ซะมีเลยต้องหาตั๋วที่เวลาใกล้เคียง ซึ่งนับว่ายุ่งยากพอสมควร (ยุ่งจน...ไม่เล่าดีก่า...ซะงั้น)

จนทั้งหมดทุกอย่างคอนเฟิร์ม เราก็เตรียมไปซื้อของฝากเพื่อนเรียบร้อยวันอาทิตย์ แต่ยังไม่ได้จัดเตรียมเสื้อผ้าใดๆทั้งสิ้น (กะว่าไว้รอวันศุกร์ เพราะไฟล์ทวันเสาร์..แฮ่ะ แฮ่ะ..ตื่นเต๊นนน ตื่นเต้นเนาะ)

วันอังคารหัวหน้าโทรมาบอก (คือหัวหน้าเป็นคนต่างชาติน่ะ) ประมาณว่า เค้างดการเดินทางทุกชนิดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งบริษัททั่วโลก ... หงะ ทำไมต้องเป็นกรูฟะเนี่ย โอเค โอเค ด้ายยย คือทำงานบริษัทอเมริกันมันก็เป็นอย่างเนี้ยะแหละ เข้าใจด้ายย อีกทั้งก็ยังไม่ได้จัดเสื้อผ้า ไม่เป็นไร โฮะ โฮะ (ถ้าจัดแล้วอาจมีเคือง) นึกไปนึกมา ........ อ้าว.....แล้วฝาละมีอิช้านจะทำไงฟะเนี่ย ลางานล่วงหน้าเดือนนึงตั้งสิบแปดวัน แล้วคืนวันลาไม่ได้ด้วย....กลุ้มใจอีกทีนี้

ด้วยความที่กลัวสามีโกรธ ก็เลยหาทางเลือกให้
"ไปยุโรปดีไม๊จ๊ะ (เราอยากไปปราก โรม และเวนิส มากกกก)... ไหนๆก็ลางานแล้ว และตั้งกะแต่งงานกันมา เราก็ยังไม่ได้ไปฮันนี่มูนกันเลยน๊า แล้วเราก็อยากไปยู๊โรปตั้งนานแล้ว" (ทำเสียงอ้อนนิดๆ)

"ไปทัวร์ยุโรป...เอาตังค์ที่ไหนล่ะ" ตอบกลับมาแบบเสียงเข้มๆ เราก็แป่วววว ขอกลับไปตั้งหลักอีกสักวัน (คือสามีไปทำงานหลายวันเลยไม่ได้เจอกัน ใช้โทรศัพท์อย่างเดียว)

วันพฤหัส เอาใหม่ เราเล็งแล้วว่าต้องเป็นนิวซีแลนด์ หาข้อมูลอากาศคร่าวๆ ค่าใช้จ่ายคงไม่แพงมาก นั่งเครื่องก็ไม่นานเท่าไปยุโรปด้วย อันนี้แหละเจ๋งเป้ง ว่าแล้วก็โทรหาพ่อเจ้าประคุณ

ยังไม่ทันเอ่ยอะไรเธอรีบชิงพูดก่อนว่า
"ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดีไม๊ ตั้งแต่เหนือจรดใต้เลย อยากไปนานแล้ว"

หงะ แล้วญี่ปุ่นมันถูกกว่ายุโรปหรอฟะ (อันนี้คิดในใจ)...แต่ปากมันเอ่ยออกไปว่า....

"แล้วแต่เธอละกัน" วะ ฮะ ฮะ เข้าทางโก๋ หุ หุ ... หุ หุ...

เราก็รีบแจ้นลางานกะหัวหน้า ....ขอลาสองอาทิตย์ แกอึ้งไปหนึ่งนาที แล้วบอกว่า....

"เป็นอาทิตย์เดียวได้ไหมอ่ะ"

"อืมม ไม่แน่ใจต้องขอปรึกษาสามีก่อน เพราะเขาลางานไว้สิบแปดวัน ...."

"เข้าใจเข้าใจ หวังว่าสามีเธอคงไม่โกรธเรื่องที่ไม่ได้ไปเมกานะ" (เป็นหัวหน้าที่ดีอะไรอย่างนี้ฟะ)

"แต่คุณก็รู้ใช่ไหมว่าตั้งแต่แต่งงานมาเราสองคนไม่เคยอยู่ด้วยกันทุกวันเกินสามวันเลยนะ" ขู่ซะหน่อย เพราะแต่งงานเสร็จก็มิได้ลางานไปดื่มอะไรหวานๆกะใครที่ไหนเล๊ยยย

"ใช่เรื่องครอบครัวต้องมาเป็นอันดับแรก"...หัวหน้าแกก็เข้าใจ

เล่ามาตั้งนาน สรุปว่าเราหักคอหัวหน้า ลางานได้สองอาทิตย์เต็มๆ เป็นลูกน้องที่ดีมั่กมาก .. ฮ่า ฮ่า ..

วันคุกร์ขอใบรับรองที่บริษัท วันจันทร์มารับแต่เช้าแล้วรีบไปสถานฑูตญี่ปุน ขอวีซ่า

ตอนกำลังจะเดินลงจากรถ...รองเท้าขาดอีกต่างหาก เลยต้องเดินเท้าเปล่าไป ... เราจอดรถที่โรงพักอะไรซักอย่างที่อยู่ใกล้สถานฑูต นั่นหมายความว่า จะต้องเดินไปอีกระยะทางนึงทีเดียว ... ฮ่วย ...

ถ้าใครบังเอิญไปสถานฑูตญี่ปุ่นวันนั้นแล้วเห็นยายบ้าคนนึง ใส่เสื้อเหลือง...เดินเท้าเปล่า ก็ขอจงรู้ไว้ว่า อิชั้นนั่นเองฮ่า (คนมองกันเต็มเรยยย...อายซะ)

แอบคุยกะสามีว่า...หรือพระเจ้าจะไม่ให้วีซ่ากะเรา...เพราะเกี๊ยะหลุด (รองเท้ามันก็เทียบได้กับเกี๊ยะอ่ะแหละ) มันเป็นลางไม่ดีนะตัวเอง....แทนที่จะไม่กังวล ดันกังวลไปซะอีก กลัวว่าจะไม่ได้วีซ่า

....ก้อเกี๊ยะมันหลุด....

วันพุธ (ให้สามี)ไปรับวีซ่าตอนบ่าย ตอนแรกกะจะบินคืนวันพุธเลย แต่ติดงานถึงสองทุ่ม...แย๊จัง

เลยต้องเลื่อนมาบินวันพฤหัสแทนทั้งๆที่บางโรงแรมยังไม่คอนเฟิร์ม !!!!

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนไป
- อ่านหนังสือเกียวกับประเทศญี่ปุ่น (ปรกติเป็นคนชอบอ่านหนังสือท่องเที่ยวมากกกที่สุด แต่ดั๊นนนไม่เคยอ่านญี่ปุ่นผ่านตา เพราะมันจำชื่อสถานที่ยากอ่ะ)
- กำหนดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
- จองโรงแรม
- ซื้อ JR Pass จากเมืองไทย เพราะเขาให้เฉพาะคนที่มีถิ่นพำนักอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่ซื้อได้ โดยซื้อผ่านเอเจนซี่ที่เมืองไทยแล้วนำไปแลกเป็นตั๋วจริงที่ประเทศญี่ปุ่น

สรุปแล้วเส้นทางที่เราเลือกคือ
- โอซาก้า ห้าวันสี่คืน (โดยที่ไปโอซาก้า เกียวโต และนารา)
- ฮิโรชิม่า หนึ่งคืน
- นาโงย่า หนึ่งคืน
- โอตารุ (ฮอกไกโด) หนึ่งคืน
- ซัปโปโร หนึ่งคืน
- ฟูจิ ฮาโกเน่ หนึ่งคืน
- โตเกียว สี่วันสามคืน
- นาริตะ หนึ่งคืน

รวมทั้งหมด 13 คืน 15 วันเต็ม

---ต่อตอนสองฮ่ะ---


Create Date : 24 มิถุนายน 2550
Last Update : 13 กรกฎาคม 2550 21:41:28 น. 2 comments
Counter : 644 Pageviews.

 
แวะมาทักทายครับผม
ได้รับความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณมากครับ


โดย: pompier วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:8:33:50 น.  

 


ทริปน่าสนุกมากค่ะ


โดย: Htervo IP: 84.248.28.124 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:25:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Piterek
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Google
New Comments
Friends' blogs
[Add Piterek's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.