'กลัว เมื่ออยู่คนเดียว'
ผมสะท้อนใจกับคำนี้ของเขา
ตั้งแต่รู้จักเขามาตลอดชีวิต ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากเขา
ในหัวของผมมีความคิดร้อยแปด .. เอ๊ะ ไม่สิ มันมีแค่ไม่กี่ความคิดที่วนเวียนหรอก
ล้วนเป็นความคิดที่ผมเองก็ไม่สามารถบอกเขาออกไปได้
'พักเยอะๆนะฮะ' ผมลูบหลังเขาเบาๆ ตอนไปส่งเขา
ผมเดินออกมาจากตัวตึกสูง
อากาศข้างนอกเย็นลงหลังฝนตก ลมเย็น ชื้นฝน
เงยหน้ามองท้องฟ้า ดูเหมือนว่าเมฆฝนจะหายไปแล้ว กระพริบตาถี่ๆไล่น้ำฝนที่หล่นลงมาตอนไหนนะ
ผมสูดหายใจลึกๆ ไม่แน่ใจว่าที่เจ็บลึกๆข้างใน เป็นเพราะความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกที่ต้องเห็นเขาเป็นแบบนี้ หรือว่าความรู้สึกอะไร
ไม่มีอะไรแน่นอน ..
ผมอยากตะโกนก่นด่า บัลชิท แต่.. มันคือเรื่องจริงที่ผมเองก็ต้องยอมรับมัน
ผมไม่มีปัญหากับเขาคนใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
ถ้าเขาเดินได้ช้าลง ผมก็จะผ่อนฝีเท้าลง เราจะได้เดินไปพร้อมๆกัน
ผมสงสารเขาที่ต้องอยู่กับตัวเองคนใหม่ที่ไม่ได้มีร่างกายสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกแล้ว และแม้ว่าเขาก็ดูเหมือนจะปรับอยู่กับเขาคนใหม่ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว ผมก็ยังเห็นแววตาทุกข์ใจ
ใครจะไม่ทุกข์ .. ผมหัวเราะหึ หึ ในคอ เยาะตัวเองที่คิดว่าเขาจะโอเคดีได้
เขาก็คนธรรมดาคนหนึ่ง
และความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำเก่ายังคงเกาะกินหัวใจเขา
ผมเข้าใจดี พ่อของผมก็เป็นเช่นกันในช่วงแรกๆ
เพียงแต่พ่อมีพวกเราล้อมรอบอยู่เยอะ
'แล้วจะแวะมาอีกฮะ' ผมบอกเขาอย่างนั้น เขาพยักหน้ารับ
แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง
ผมหวังแค่ว่า เขาจะหาแสงสว่างให้กับชีวิตอีกครั้งได้เจอ หลังพายุฝนนี้
ความเจ็บมันส่งต่อกันได้เป็นทอดๆ สินะ
กำลังใจก็ส่งต่อกันได้เป็นทอดๆ เช่นกัน