-1- ฉันต้องกลับไป
พี่รุจ...ที่รัก

เรียนหนักเหรอครับ ริทไม่ได้ข่าวพี่รุจหลายวันแล้วนะ โทรหาก็ไม่มีสัญญาณ ในเฟสบุ๊คกับทวิตเตอร์ก็ไม่มีข้อความใหม่ของพี่รุจเลย ยังไงก็สู้ๆ นะครับ ริทเป็นกำลังใจให้เสมอ

รักพี่รุจที่สุดในโลก

-เรืองฤทธิ์-

ป.รุจ อยากมีใครซักคนให้กอด ให้ฉันได้อุ่นใจ ไม่นอนหนาว ไม่ต้องเปล่าเปลี่ยวเกินไป...จะมีใครอยากให้ริทกอดมั๊ยน้า ^^


“เลี่ยนตายล่ะ” มือขาวเรียวกดลบอีเมล์ที่ส่งเข้ามาถึงศุภรุจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เกลียดที่สุด เรืองฤทธิ์ๆๆๆ เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับรุจซะทีนะ ยังไงก็ตาม ศุภรุจต้องเป็นของเค้าคนเดียว คนเดียวเท่านั้น

……………………………………………………………

~เกิดมาไม่เคยมีใครมารัก ก็เลยไม่รู้วิธีจะรัก ไม่เคยรู้จัก...~

“ฮัลโหล...ภาคิน พูดครับ”

“ภาคิน ฉันไม่ไหวแล้วนะ นายต้องจัดการเด็กนั่นให้ฉันนะ อย่าให้มันมาเป็นมารหัวใจฉันอีก”

“แล้วคนของคุณเค้า...”

“รุจบอกว่าไม่ได้คิด ไม่ได้ติดต่ออะไรกับไอ้เด็กนั่นแล้ว แต่มันยังตามตอแย จะติดต่อรุจให้ได้ทุกวิถีทาง ฉันไม่ยอม ยังไงฉันก็ไม่ยอม”

“แล้วเค้าทำอะไรล่ะครับ”

“มันส่งอีเมล์มาหารุจน่ะสิ ออดอ้อนพร่ำคำหวานรำพันรักอย่างนู้นอย่างนี้ ฉันอยากจะอ้วกซะให้ได้ ...ฉันไม่ไหวจริงๆ นะ ภาคิน..นายต้องช่วยฉันนะ ถ้านายไม่จัดการมันให้ฉัน ฉันจะฟ้องคุณพ่อ”

ภาคินกดวางโทรศัพท์หลังจากทนฟังเรื่องราวรักสามเส้าของสุกฤษณ์ ศุภรุจ กับเรืองฤทธิ์อยู่เกือบชั่วโมง หลายต่อหลายครั้งที่สุกฤษณ์โทรมาปรับทุกข์กับเค้าด้วยเรื่องราวเดิมๆ ศัตรูหัวใจที่ชื่อเรืองฤทธิ์

เค้าเองก็พอรู้เรื่องราวของศุภรุจกับเรืองฤทธิ์มาบ้างเหมือนกัน ทั้งคู่คบหากันมาก่อน แต่คำว่ารักของสุกฤษณ์มันยิ่งใหญ่จนเจ้าตัวไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น เมื่อรักแล้ว ก็หวังจะครอบครองศุภรุจไว้เพียงคนเดียวเท่านั้น

สุกฤษณ์เป็นลูกชายคนเดียวของพ่อบุญธรรมของเค้า ในช่วงวิกฤตของครอบครัว พ่อของสุกฤษณ์ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย รับเค้าเป็นลูกบุญธรรม ชุบเลี้ยงจนเติบโตได้มีหน้ามีตาในสังคม สิ่งใดที่ตอบแทนสองพ่อลูกนี้ได้ เค้าก็ยินดีทำเต็มที่ ถึงแม้ว่าภาคินจะไม่เห็นด้วยนักที่สุกฤษณ์ไปแย่งศุภรุจมาจากเรืองฤทธิ์ แต่บุญคุณที่ต้องทดแทน ทำให้เค้าเองก็ลำบากใจ และจำเป็นต้องมองข้ามเรื่องศีลธรรมไปบ้าง

“หรือว่า...จะได้เวลาที่ฉันต้องเคลียร์กับนายซะที”

ภาคินหยิบภาพของเรืองฤทธิ์ที่เค้าพริ้นต์ออกมาจากอีเมล์ที่สุกฤษณ์ส่งให้ ภาพของหนุ่มน้อยหน้าหวานสวมเสื้อเชิ้ตขาวกอดตุ๊กตากระต่ายสีฟ้า แววตาเขินอายเต็มไปด้วยประกายความสุข คงเป็นรูปที่เรืองฤทธิ์ส่งให้ศุภรุจแฟนหนุ่มกระมัง

“นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เจอนาย... เรืองฤทธิ์” ภาคินแอบอมยิ้มตอบให้หนุ่มน้อยในรูปโดยไม่รู้ตัว

พ่อของภาคิน และเรืองฤทธิ์ เคยเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน แต่เมื่อเจอพิษเศรษฐกิจเหตุการณ์ฟองสบู่แตกเมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว ทำให้ธุรกิจนำเข้าของพวกเค้าได้รับผลกระทบจากการลอยตัวค่าเงินบาทแบบเต็มๆ สุดจะหาทางหลีกเลี่ยง ครอบครัวของภาคินล้มละลายในทันที ภาระหนี้สินที่รุมเร้าทำให้พ่อแม่ของเค้าตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงเพื่อหนีปัญหา ภาคินรอดมาได้เพราะพ่อกับแม่ตัดสินใจส่งเค้าไปฝากไว้กับครอบครัวของหุ้นส่วนธุรกิจอีกคนคือพ่อของเรืองฤทธิ์ที่ประคองตัวผ่านเหตุการณ์วิกฤตมาได้เพราะมีธุรกิจอื่นๆ ช่วยหนุนอยู่

ครอบครัวของเรืองฤทธิ์มีพี่น้องสามคน วาโยพี่ชายคนโต มีนิสัยขี้อวด ชอบคุยโว แต่จริงๆ แล้วอ่อนแอและเห็นแก่ตัว เรืองฤทธิ์ลูกชายคนกลางที่มีนิสัยเย่อหยิ่งเอาแต่ใจ และจูเนียร์น้องชายคนเล็กที่มองโลกทุกอย่างสวยงามไปซะหมด นอกจากนี้ยังมี เซน เด็กกำพร้าญาติห่างๆ ของครอบครัวที่มีฐานะไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้านและมักจะถูกเรืองฤทธิ์ที่อายุเท่ากันคอยกดขี่อยู่เสมอ ภาคินใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเรืองฤทธิ์ตั้งแต่สิบขวบจนถึงอายุสิบห้า หลังจากนั้น พ่อของสุกฤษณ์ก็ปรากฏตัวขึ้น โดยอ้างตัวว่าเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของภาคิน และติดตามหาทายาทของเพื่อนรักมานานถึง 5 ปี แต่ได้รับการกีดกันและปฏิเสธจากพ่อของเรืองฤทธ์ว่าไม่รู้ไม่เห็น สิ่งที่พ่อของสุกฤษณ์ทนไม่ได้ คือเมื่อตามหาภาคินพบแล้ว กลับเห็นเค้าได้รับการปฏิบัติจากครอบครัวของเรืองฤทธิ์ไม่ต่างจากคนรับใช้เช่นเดียวกับเซน

ความต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเค้าเองก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับครอบครัวของเรืองฤทธิ์ ทำให้ภาคินตัดสินใจทันทีที่พ่อของสุกฤษณ์บอกว่าจะรับเค้าเป็นลูกบุญธรรม พ่อของเรืองฤทธิ์โกรธมากที่เค้าตัดสินใจแบบนั้น ด่าทอว่าเค้าอกตัญญู และไม่ยอมให้เค้ากลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก ภาคินเคยสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไม จนเค้าได้รับคำตอบจากพ่อของสุกฤษณ์ว่า ธุรกิจที่ล่มสลายของครอบครัวจนนำไปสู่การจบชีวิตของพ่อและแม่ เกิดจากการฉ้อโกงของหุ้นส่วน และพ่อของเรืองฤทธิ์กลัวว่าเค้าจะกลับมาแก้แค้น บุญคุณที่ชุบเลี้ยงเค้ามาถึง 5 ปี ทำให้ภาคินลืมความคิดที่จะแก้แค้น แต่กลับสำนึกถึงบุญคุณอยู่เสมอ เค้าเลือกที่จะไป เพราะไม่อยากเป็นภาระกับครอบครัวของเรืองฤทธิ์และหวังว่าเมื่อความเป็นอยู่ของเค้าดีขึ้นแล้วจะช่วยให้เซนได้รับโอกาสดีๆ บ้าง

~เกิดมาไม่เคยมีใครมารัก ก็เลยไม่รู้วิธีจะรัก ไม่เคยรู้จัก...~

“ฮัลโหล...ผมส่งข้อมูลของนายเรืองฤทธิ์กับครอบครัว ให้แล้วนะครับคุณภาคิน”

“ขอบใจมากนภัทร”

.............................................................................

ภาคินนั่งดูภาพถ่ายจำนวนมากมายของเรืองฤทธิ์และครอบครัว รวมถึงภาพถ่ายของเซน ที่เค้ามักจะได้เห็นอยู่เสมอๆ เพราะเซนเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เค้ายังติดต่อด้วยหลังย้ายออกจากบ้านของเรืองฤทธิ์ ภาคินรู้สึกสะดุดตากับภาพของหนุ่มน้อยน่ารักสดใส ฉีกยิ้มแก้มป่องอวดฟันขาวจนดวงตาเรียวเล็กหยี

“นี่น้องจูเนียร์โตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย” แล้วภาพแห่งความหลังของเค้าก็ผุดพราวขึ้นมา ราวกับจับต้องได้

.............................................................................

“พี่ภาคินแอบขโมยมะม่วงดิบมากินอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวพี่ริทโกรธนะ” เสียงเล็กๆ ของจูเนียร์เด็กชายวัย 9 ขวบร้องทักทันทีที่เห็นร่างผอมสูงหล่นตุ๊บลงมาจากต้นมะม่วงอกร่อง

“จุ๊ๆ น้องจูเนียร์อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวริทรู้ เราจะโดนคุณพ่อฟาดเอานะ”

“ก็พี่ริทบอกว่า ต้นนี้เอาไว้กินสุก ห้ามใครขโมยกินก่อน พี่ริทนับลูกไว้แล้ว จะไว้ทำข้าวเหนียวมะม่วงให้คุณพ่อ”

“โธ่! มะม่วงดกเต็มต้นขนาดนี้ ขืนคุณพ่อกินหมด พุงกางท้องยักษ์แน่ๆ” ภาคินทำท่าแอ่นหลังทุบสองมือลงบนท้องของตัวเอง ยกสองขาสูงสลับไปมาเหมือนท่าเดินของแป๊ะยิ้ม

“มาแล้วคร้าบ นี่พริกกะเกลือ แล้วนี่กะปิน้ำปลาหวานของโปรดพี่ภาคิน” เซนวางถ้วยแก้วเล็กๆ ลงตรงหน้าภาคินกับจูเนียร์ รับมะม่วงในมือภาคินไปปอก

“หูยยยยยย เปรี้ยวสะใจ” ภาคินเคี้ยวมะม่วงอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตายิบหยีลงเรื่อยๆ ด้วยความเปรี้ยวจนเข็ดฟัน

“ก็เนี่ย พี่ริทบอกว่า ถ้าเราแอบขโมยกินมะม่วงเปรี้ยว แล้วตาเราจะเล็กลงๆ เรื่อยๆ อีกหน่อยก็จะมองไม่เห็น” จูเนียร์ทำหน้าเหยเกนั่งมองภาคินสลับกับเซนที่กำลังอมยิ้มกับความไร้เดียงสาของจูเนียร์จนแก้มยุ้ยตาหยีเล็กลงเรื่อยๆ

“ถ้างั้นความผิดของมะม่วงจานนี้ก็ต้องหารสามแล้วล่ะ เพราะน้องจูเนียร์ก็ตาหยีเล็กลงๆ เรื่อยๆ แล้วเนี่ย” ภาคินแกล้งแหย่น้องชายตัวเล็กของเรืองฤทธิ์เล่น

“ไม่จริง เนียร์ตาโตนะ นี่ไงๆ พี่ริทก็บอกว่าเนียร์ตาโต แล้วจะมาว่าเนียร์ขโมยกินมะม่วงเปรี้ยวได้ไง” คนตัวเล็กพยายามเบิกตาตัวเองให้โตกว้างขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่ตาชั้นเดียวของเค้าจะทำได้

“ก็ยังเล็กอยู่ดี เล็กมั้ยเซน” ภาคินหันไปถามความเห็นเซน ที่เอาแต่นั่งยิ้มไม่ออกความเห็น

“เล็กครับ” เซนแอบอมยิ้มกับท่าทางของจูเนียร์ที่เริ่มเบะปาก มีแววว่าต่อมน้ำตาจะระเบิดในเวลาอีกแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น

“แต่พี่ริทบอกว่า...ฮึกๆๆ ฮือออออออ” แล้วทำนบน้ำตาของคนตัวเล็กก็พังทะลาย สองมือเล็กยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อยๆ ก่อนจะปล่อยโฮออกมาเสียงดัง

“บิงโก!! สำเร็จแล้ว วันนี้ทำเวลาเท่าไหร่เซน”

“ 2 นาที 38 วินาทีครับ เวลาดีที่สุดตั้งแต่เคยทำมาเลยครับ ทำลายสถิติสำเร็จแล้ว”

ภาคินกำหมัดชูแสดงชัยชนะกระโดดไปรอบๆ ที่แกล้งจูเนียร์ให้ร้องไห้ได้สำเร็จ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะนายภาคิน!!” เสียงแหลมสูงของเรืองฤทธิ์หยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้เพียงเท่านั้น ยกเว้นสองขาเล็กของจูเนียร์ที่วิ่งร้องไห้โฮไปหาพี่ชายหวังเป็นที่พึ่งพิง

“พี่ริทๆ ฮึกๆๆ เนียร์ตาโตนะ เนียร์ตาโต พี่ริท เนียร์ตาโต” สองมือเล็กกระตุกเสื้อพี่ชายพยายามเบิกดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาให้โตขึ้นอย่างยากลำบาก

“นายเจอดีแน่ ภาคิน ฉันจะฟ้องคุณพ่อ” เรืองฤทธิ์ชูนิ้วเรียวชี้หน้าภาคิน ถึงเค้าจะโตกว่า แต่เรืองฤทธิ์ก็ไม่กลัวเลยสักนิด เดินดุ่มๆ เข้ามาหา เทมะม่วงที่เหลือเกือบเต็มจานลงกับพื้นหญ้า

“ว่างมากใช่มั้ยเซน เก็บจานไปล้าง แล้วขึ้นไปกวาดถูห้องฉัน” เรืองฤทธิ์หันไปพาลเอากับเซน

“แต่เมื่อเช้ากวาดแล้วนะ” เซนก้มหน้าก้มตาเก็บซากมะม่วงบนพื้น รำพึงตอบอ้อมแอ้ม

“นายจะกวาดห้องฉัน หรือจะรอถูกตีพร้อมกับนายภาคิน เลือกเอา” เรืองฤทธิ์สะบัดหน้าด้วยความฉุนเฉียว จูงมือน้องชายคนเล็กเดินเข้าบ้าน เซนถือจานมะม่วงเดินตามไปเงียบๆ

“โธ่เว๊ย! คุณหนูเรืองฤทธิ์ ชี้นิ้วสั่งเอาๆ แม่งดุฉิบ....ใครได้เป็นแฟน ซวยตายห่...” ภาคินสบถอย่างหัวเสีย ที่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรเรืองฤทธิ์ได้เลย โกรธตัวเองที่ทำไมต้องยอมเด็กชายที่ตัวเล็กและเด็กกว่าเค้าถึง 4 ปี ครั้งแล้วครั้งเล่า

“คนอย่างภาคินไม่เคยยอมแพ้ใครโว๊ย! กูก็แค่ไม่อยากรังแกคนอ่อนแอกว่า กูแมนโว๊ย! กูแมน” ร่างผอมได้แต่ตะโกนในใจสุดเสียง ตีอกชกลมระบายความเซ็ง


...............................................................................................



Create Date : 22 มีนาคม 2554
Last Update : 23 มีนาคม 2554 0:07:01 น.
Counter : 213 Pageviews.

0 comments

Phoenix_x
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เราเป็นคนขี้เกียจแล้วก็ชอบนอนมากๆ
วันๆ เราไม่ทำอะไรเลย เคลื่อนไหวได้ด้วยแรงเฉื่อย

มีนาคม 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31