1. คุณพิม
1. คุณพิม


ศุภรุจนั่งกุมมือหญิงสาวที่นอนหายใจรวยริน ข้างๆ มีเด็กชายตัวเล็กนอนกอดร่างผอมบางซูบซีดไว้ เด็กน้อยเจ้าของนัยน์ตาแป๋วนิ่งเงียบ มองหน้าคนทั้งสองสลับกันไปมา

“พักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวรุจจะพาน้องไปเล่นข้างนอก” มือเล็กตบมือที่กุมอยู่เบาๆ ให้กำลังใจ แล้วเอื้อมมือคว้าแขนน้องชาย

เรืองฤทธิ์ยื้อแขนขืนตัวไว้ “คุณพิม... ริทอยากฟังนิทาน...”

ร่างซูบเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “วันนี้ไม่มีนิทาน แต่คุณพิมมีความลับจะเล่าให้ฟัง หนูริทสัญญานะว่าจะไม่งอแง ไม่ดื้อไม่ซน จะเชื่อฟังพี่รุจ”

ศุภรุจมองหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้าสร้อย พยักหน้ารับ วัยสิบสี่ปีของเค้า โตพอที่จะเข้าใจอะไรๆ ได้ดีแล้ว แต่น้องชายวัยแปดขวบ สีหน้าแววตาตื่นเต้นเขย่าแขนเร่งอยากฟังเรื่องราว ยื่นนิ้วก้อยออกไปเกี่ยวกับนิ้วของแม่และพี่ชายไว้คนละข้างตอบอย่างแข็งขัน “ริทสัญญา”

เด็กชายเอียงหูฟังเรื่องราวจากเสียงกระซิบ มือเรียวบางยกขึ้นลูบศีรษะเด็กน้อยอย่างอ่อนแรง เสียงหอบหายใจดังเป็นห้วงๆ หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้ศุภรุจที่มีสีหน้าแววตาตกตะลึง เค้าพยักหน้าช้าๆ ดึงน้องชายที่มีสีหน้างุนงงกับเรื่องที่ได้ฟังมากอดกระชับไว้แน่นกับอก ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “รุจสัญญา!!”


เสียงเคาะเบาๆ ก่อนประตูจะเปิดออก พงศกรก้าวเข้ามาในห้อง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเครียด

“รุจพาน้องไปเล่นข้างล่างก่อนนะลูก”

คุณพิมพยักหน้าช้าๆ ให้เด็กทั้งสอง มองตามจนลับตา

“ผมอยากพาคุณไปรักษาที่ต่างประเทศ หมอที่นั่นเก่ง คุณต้องหาย”

ร่างผอมบางยิ้มพลางส่ายหน้าน้อยๆ หอบหายใจถี่ขึ้น แล้วค่อยอ่อนลงเรื่อยๆ

“คุณพิม ผมขอโทษ” พงศกรซบหน้าลงกับมือของหญิงสาว ปล่อยน้ำตาไหลลงอาบมือเรียวเย็น ตัวสั่นด้วยกลั้นสะอื้น

“ให้อภัยตัวเอง ฝากหนูริทด้วยนะคะพงศกร” หญิงสาวพยายามเปล่งเสียงออกมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ พร้อมน้ำตาที่ไหลรินลงสองข้างตา

..........................................................................

“ภาคิน จะไปไหน” ร่างผอมแกร่งชะงักฝีเท้าทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกห้ามไว้ของแม่บ้านเพ็ญ
“ผมจะไปหาคุณพิม คุณรุจบอกว่าอาการไม่ดี” เด็กชายตอบโดยไม่หันมามอง ใจกระวนกระวายอยากขึ้นไปหาคุณพิม ผู้หญิงที่เค้ารักยิ่งกว่าสิ่งใด ยิ่งกว่าชีวิต

เสียงร้องไห้โฮสลับกับเสียงเรียกชื่อคุณพิมดังลั่นลงมาจากบนตึก ภาคินก้าวขาเตรียมวิ่งไปตามเสียง ก่อนจะถูกมือหนาคว้ากระชากแขนไว้ได้ทัน

“กลับไปรอที่บ้าน” แม่บ้านเพ็ญออกคำสั่งเสียงเข้ม เด็กชายหันมานัยน์ตาแดงก่ำ เธอรู้สึกเวทนาขึ้นมาจับใจ เอื้อมมือจะลูบศีรษะปลอบโยน แต่เค้าหมุนตัวกลับ ปาดน้ำตาลวกๆ มือกุมล๊อกเกตไว้แน่น หันหลังวิ่งกลับเรือนไม้หลังเล็กอย่างรวดเร็ว

แม่บ้านเพ็ญมองตามร่างที่วิ่งจากไปด้วยแววตาสมเพช ถ้าแม่ของภาคินไม่ด่วนจากไปซะก่อน เด็กชายคงไม่ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้

ภาคินเป็นลูกของพงศกรที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ การทุ่มเททำงานหนักเพื่อดำรงฐานะทางสังคม ทำให้เค้าละเลยภรรยาและลูก สุขภาพอ่อนแอที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ความน้อยใจที่แสดงออกด้วยการมึนตึงเฉยชา ระยะห่างของชีวิตคู่ ก่อความเหงาและว้าเหว่ที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ต้องห้ามระหว่างพงศกรและสาวรับใช้ในบ้านพี่เลี้ยงของศุภรุจ ความผิดพลาดที่ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบ การสูญเสียภรรยาทั้งจากเป็นและจากตาย ตอกย้ำให้เค้าคิดเสมอว่าภาคินเป็นตัวการทำให้ชีวิตคู่ของเค้าและคุณพิมต้องจบลงด้วยการหย่าร้าง และทำให้ภรรยาอีกคนแม่ของภาคินต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร

คุณพิมทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วย้ายไปทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่กับนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เธอเล่าเรื่องราวในอดีต การหย่าร้างและศุภรุจ เมื่อเค้ารับรู้เรื่องราวของเธอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป เค้าเริ่มตีตัวออกห่าง ขาดการติดต่อ และเดินทางกลับประเทศโดยไม่ร่ำลา คุณพิมโทษชีวิตในอดีตของตัวเองที่อาจทำให้เค้ารังเกียจ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอกลับพบว่าเด็กสาวยากจนชื่อส้มที่เธออุปถัมภ์ช่วยเหลือและพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเดียวกันตั้งครรภ์ ภาพหลอนในอดีตที่ถูกคู่ชีวิตนอกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าบั่นบอนสุขภาพจิตใจและร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วของเธอให้แย่ลงไปอีก คุณพิมตัดสินใจช่วยปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นและรับเรืองฤทธิ์เป็นบุตรบุญธรรมทันทีที่คลอด เด็กสาวได้รับทุนการศึกษาจากเธอให้กลับไปเรียนต่อที่ร้อยเอ็ดบ้านเกิด และนั่น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรืองฤทธิ์กับแม่ผู้ให้กำเนิดถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง

สัมผัสอ่อนโยนจากทารกน้อย ทำให้ความรู้สึกของแม่หวนมาอีกครั้ง ข่าวร้ายที่คุณพิมได้รับจากพงศกร อุบัติเหตุทางน้ำที่เกิดขึ้นกับภาคินและแม่ ร้ายแรงถึงสูญเสียชีวิต เธอเริ่มฝันถึงศุภรุจบ่อยครั้ง ความอ่อนแอที่บั่นทอนทั้งร่างกายและจิตใจประกอบกับคำมั่นสัญญาที่เค้าให้ไว้ว่าจะดูแลเธอและลูกน้อยทั้งสองศุภรุจและเรืองฤทธิ์เป็นอย่างดี ทำให้คุณพิมตัดสินใจที่จะกลับมาคืนดีกับพงศกรอีกครั้ง

..........................................................................

บ้านของพงศกร เป็นตึกสองชั้นตั้งอยู่ชานเมืองที่มีอาณาบริเวณค่อนข้างกว้าง พื้นที่หลังบ้านติดกับลำคลองสายเล็กๆ ที่เชื่อมต่อไปถึงแม่น้ำสายใหญ่ เรือนไม้ห้องแถวปลูกขนานไปกับลำคลองถูกปิดกั้นทางสายตาจากส่วนของบ้านตึกด้วยทิวไม้สูงใหญ่ ครอบครัวของเพ็ญที่พงศกรจ้างให้ไว้เป็นแม่บ้านและช่วยเลี้ยงดูภาคินอยู่หลังทิวไม้ใหญ่เหล่านั้น

“หนูริทไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก เกิดมาก็ตัวเล็กนิดเดียว เด็กไม่เคยได้กินนมแม่ ฉันขอฝากแม่บ้านเพ็ญด้วยนะ ให้เค้าผูกสัมพันธ์เป็นเพื่อนรักกับน้องกันลูกแม่เพ็ญก็แล้วกันนะ” คุณพิมฝากฝังเรืองฤทธิ์ไว้กับแม่บ้านเพ็ญก่อนจะหันไปหยอกล้อเล่นกับเด็กชายตัวอ้วนกลมใบหน้าคมเข้มที่ชื่อน้องกัน

“ว่าไงครับรูปหล่อ ป้าฝากหนูริทไว้กับน้องกันได้มั้ย ฝากด้วยนะครับ รักกันสุดฤทธิ์ รักริทเหมือนกันนะครับ”

คุณพิมพูดพร้อมกับยื่นเรืองฤทธิ์ทารกที่กำลังอ้อแอ้ไปให้เด็กชายอ้วนกลมที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ในรถเข็นตรงหน้า พลันสายตาเหลือบไปเห็นเด็กมอมแมมที่แอบมองอยู่หลังพุ่มไม้

“เอ๊ะ นั่นเด็กที่ไหน”

“ขอโทษค่ะ” แม่บ้านเพ็ญทำท่าลุกรี้ลุกรนเดินไปจูงแขนเด็กมอมแมมจ้ำอ้าวจากไป

พงศกรทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หยอกล้อเล่นกับเรืองฤทธิ์ด้วยความเอ็นดู คุณพิมยังไม่คลายความสงสัย เอ่ยปากจะถาม แต่ชายหนุ่มขัดขึ้นเสียก่อน

“ผมชอบชื่อเรืองฤทธิ์ที่คุณตั้งให้เจ้าตัวเล็กจัง ตัวเล็กน่ารัก แต่มีฤทธิ์ร้ายแรง คุณทำให้ผมคิดถึงมดตะนอยต่อยหนักเลยนะเนี่ย เอ หรือจะเล็กพริกขี้หนูดีนะ” ถึงเรืองฤทธิ์จะไม่ใช่ลูก แต่เค้าก็จะรักเด็กคนนี้ให้ได้อย่างที่คุณพิมรัก สิ่งไหนที่เป็นความสุขของเธอ เค้าพร้อมยินดีทำ พงศกรหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี แววตาซ่อนบางอย่างไว้ ที่หญิงสาวเองไม่สังเกตเห็น

..........................................................................




Create Date : 04 มีนาคม 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 0:07:21 น.
Counter : 238 Pageviews.

0 comments

Phoenix_x
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เราเป็นคนขี้เกียจแล้วก็ชอบนอนมากๆ
วันๆ เราไม่ทำอะไรเลย เคลื่อนไหวได้ด้วยแรงเฉื่อย

มีนาคม 2554

 
 
1
2
3
9
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
4 มีนาคม 2554