Steaks ที่อร่อยๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่ามาจากส่วนไหนของวัว แบบที่มีชื่อเสียง เพราะเนื้อจะนุ่มกว่า ก็เห็นจะเป็นส่วนที่เรียกว่า loin ซึ่งได้แก่ filet mignon, porterhouse, t-bone, และ top loin strip. ส่วนที่ได้มาจากส่วนอื่นๆ ของวัวก็จะราคารองลงมา ความนุ่มก็จะไม่เท่าแบบแรก แต่รสชาติจัดจ้านทีเดียวก่อนอื่นก็มาดูรูปนี้ ... มาดูว่า ชิ้นส่วนแต่ละอันมันอยู่ไหนกันบ้างก่อนนะ
Tenderloin Steakเนื้อชิ้นนี้ได้มาจากส่วนที่เรียกว่า tenderloin (เนื้อสันใน รึเปล่าหว่า) เป็นส่วนที่ราคาสูงที่สุด นุ่ม (tender) ที่สุดแล้ว เหมาะกับเอามาย่าง อบ แล้วก็ sauteed ด้วย ไม่มันมากด้วย ... อยากจะสั่ง steak แพงๆ ก็ต้องสั่ง Filet Mignon ค่ะบางทีก็เรียกว่า Filet Mignon, Tournedos, Filet Steak, Chateaubriand, Bifteck ... เสร็จแล้ว หน้าตาก็ประมาณนี้แหล่ะ อีกอัน ... อันนี้ห่อเบคอนด้วย
Porterhouse SteakSteak แบบนี้ จะตัดเอาส่วนที่เป็น tenderloin และส่วน top loin ติดมาด้วยกัน โดยจะมีกระดูกรูปตัว T ที่เรียกว่า T-bone ขั้นระหว่างเนื้อทั้งสองแบบนี้ steak ตัวนี้จะใกล้เคียงกับ T-bone steak ต่างกันตรงแค่สัดส่วนของ tenderloin กับ loin แค่นี้เอง ... ตัว porterhouse steak จะมีส่วน tenderloin มากว่า แค่นี้เองจ้า ... วิธีทำก็ จะเป็นย่าง อบ sauteed หรือ pan-fry ก็ได้ ทั้งนั้นเสร็จแล้วก็หน้าตาจิ้มลิ้มน่ากินอย่างนี้
T-bone Steakก็อย่างที่บอก ... ตัว t-bone steak ก็เป็นเนื้อที่มีส่วนของ tenderloin และ loin ปนกัน ... มีกระดูกรูปตัว T ขั้น ... และแน่นอนมีส่วนของ loin มากกว่าส่วน tenderloin ค่ะ วิธีทำก็เหมือนกับ Porterhouse steak ค่ะหน้าตาสุกๆ แล้วก็เป็นเช่นนี้
Boneless Top Loin Steakเนื้อส่วนนี้จะนุ่มมาก แล้วก็รสชาติดีมาก (หลายคนพูดว่ารสชาติดีที่สุด) เมื่อเอามา ย่าง อบ หรือ sauteed หรือ แค่ pan-fry ชื่อที่เค้านิยมเรียกกันก็มีแตกต่างกันออกไป ... เป็นต้นว่า Strip Loin Steak, New York Strip Steak, Kansas City Steak, Ambassador Steak, Boneless Club Steakm Hotel Style Steak, Veiny Steak เมื่อพร้อมที่จะจัดการ ... ก็หน้าตาเป็นแบบนี้
Bone-in Top Loin Steakอันนี้ก็คล้ยๆ กับ Boneless Top Loin Steak แต่ว่ามีกระดูกปนมาด้วย (ถึงเรียกว่า bone-in) เนื้อชิ้นนี้นุ่มมาก รสชาติดีมากพอๆ กับ Porterhouse และ T-bone ... เนื้อส่วนนี้มีแต่ loin มีกระดูกที่เรียกว่า T-bone ติดมาด้วย แต่เนื้อส่วน tenderloin ไม่ติดมาด้วย ชื่อก็ถูกเรียกกันออกไปต่างๆ นาๆ คือ Club Steak, Chip Club Steak, Country Club Steak, Delmonico Steak, Shell Steak, Strip Loin Steak เมื่อเอามาใส่จานก็ หน้าตาเช่นนี้
Rib Steakอันนี้ของโปรดเรา ... ทำไม่เหรอ ... มันไม่แพง แถมรถชาติจัดใช้ได้เลย ... เนื้อชิ้นนี้ได้มาจากส่วนที่เรียกว่า rib roast ได้มาจากส่วนเดียวกันกับ rib-eye steak แตว่ามี กระดูกปนอยู่ด้วย แค่นั้นเอง ... รสชาติดีที่สุดเมือย่างและอบ ... บางทีก็จะเรียกว่า Entrecote ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งอาจจะหมายถึง rib-eye หรือ rib-steak cut ... สำหรับเรา medium กระเดียดออกไปทาง well done นิดหน่อย ... แบบว่า กำลังนุ่ม ไม่เหนียว ฉ่ำ รสชาติจัด (แอบมีมันหน่อยๆ) ... อาหร่อยยยยยยเสร็จแล้วก็หน้าตาเช่นนี้ ... โอย อยากกินอักอีนแถมอีกอัน
Chuck Eye Steakชิ้นจะค่อนข้างเล็ก ตัดจากส่วนของวัวที่เรียกว่า chuck eye roast ... วิธีที่ดีเหมาะที่สุดคือเมื่อ braised แต่ก็สามารถเอามาย่าง หรือ อบได้ ถ้าไม่กลัวว่ามันจะสุกเกินไป บางทีก็เรียกกันว่า Boneless Chuck Slices, Boneless Chuck Fillet Steakอันนี้ไม่มีรูปแบบเสร็จเรียบร้อย
Top Blade Steakเนื้อชิ้นเล็กทีเดียว ได้มาจากส่วน top blade roast เนื้อค่อนข้างนุ่ม รสชาติดี เพราะมีมันปนอยู่ทั่วไป ราคาไม่แพงมาก เหมาะสำหรับย่างและอบเป็นอย่างยิ่ง ไม่จำเป็นต้องหมักก่อนก็ได้ เพราะรสชาติดีในตัวมันเองอยู่แล้ว ควรจะกินไม่สุกเกิน medium จะร่อยที่สุด เพราะถ้าสุกมากกว่านี้จะแข็งไม่อร่อย ... บางทีก็เรียกว่า Flatiron Steak จ้านี่ก็ไม่มีรูปเหมือนกันความจริงๆมันมีรูปเนื้อ มาจากหลายๆ ส่วน ... แต่เอาส่วนที่อร่อยๆ ก็พอแล้วเนอะ
Merry Christmas ค๊าบ เด๋วจาหาว่าหมาอย่างโชแปงเชย อิอิขอให้มีความสุขในวันหยุดคริสซามาสสสสส นี้ นะค๊าบ อิอิ (โชแปงเปนหมาปู๊ดม่ายช้าดดดดดดดดดดดด)อ้อ... โชแปงขอฝากวรรณกรรมเพื่อเยาวชนเรื่อง "โชแปงผจญภัย" ที่บล๊อกคุณ rintana ด้วยนะค๊าบ
แต่ว่าแอมม่ายกินเนื้อออออ