ผู้ชายอย่างเจตน์จะสักแค่ไหนกันน่ะ และแล้วความสงสัยนี้ของแก่นจันทน์ ก็ได้รับคำตอบตั้งแต่ยังไม่ทันได้คิดถามออกไปแบบนี้ เพราะคนที่เธอกำลังนินทา อยู่ใกล้จนเรียกได้ว่าระยะเผาขน แม้แก่นจันทน์อาจจะไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวเขาขนาดนี้เพราะเจตน์ก็ไม่ใช่อาจารย์ของเธอสักหน่อย แต่บางอย่างที่ประกอบเป็นเขา บุคลิกและสายตาของคนที่เหนือกว่าทำให้เธอตั้งปณิธานแล้วว่าขออยู่ให้ห่างไกลจากผู้ชายชื่อเจตน์ตลอดไปจะดีกว่า
ไม่อาจบอกได้ว่าเขารู้สึกเช่นไรกับอคติของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งไม่เคยรู้จักตัวตนของเขา เจตน์ ราชโยธิน แต่แก่นจันทน์ก็มีบางอย่างรบกวนจิตใจเขาตลอดมา และเขาเองก็รู้ดีว่าแก่นจันทน์พยายามทุกวิถีทางจะหนีเขา ถูกต้อง เขาเองก็ไม่มีอะไรจะต้องเกี่ยวพันกับเธอเลยแม้แต่น้อย หากไม่รู้เพราะอะไร ยิ่งแก่นจันทน์หลบหลี้เท่าไร ก็ต้องมีเหตุให้เธอได้พบกับเจตน์ทุกครั้ง แล้วมันก็ไม่ค่อยจะเป็นเรื่องดีสักเท่าไรด้วย
โลกมันจะกลมและแคบเกินไปหรือไร ท้ายที่สุด แก่นจันน์ก็ยังต้องวนเวียนอยู่ภายใต้อิทธิพลคำว่าเจตน์ แม้แต่ในยามฝึกงาน เธอได้แต่คิดว่า ชั้นชนล่างๆ อย่างนักศึกษาฝึกงานเช่นเธอคงจะไม่ต้องพบปะกับผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาแน่แท้ ทว่าคำภาวนาของเธอจะไม่สัมฤทธิ์ผลเอาเสียเลย และมันยิ่งทวีความขายหน้าในมากขึ้นเรื่อยๆ จนมันเริ่มบานปลายเป็นข่าวคราวที่ส่งผลร้ายกับแก่นจันทน์เป็นที่สุด
เจตน์รู้ดีว่าในสายตาของแก่นจันทน์ เขาเหมือนบุคคลต้องห้าม คนที่อยู่บนหอคอยสูงส่ง ไม่ควรจะเข้าใกล้ แต่แก่นจันทน์คงไม่รู้เลยว่า เขาได้มอบอะไรให้เธอ ความพิเศษที่แก่นจันทน์ไม่เคยรับรู้ เพราะเธอเฝ้าแต่หวาดหวั่นที่ต้องพบปะกับเขา คนที่แตกต่างกัน และเมื่อในยามที่แก่นจันทน์ต้องเผชิญกับลมปากของคน คนเดียวที่จะปกป้องแก่นจันทน์ได้คือเขา และเขาก็หวังว่าแก่นจันทน์จะรู้ว่าที่เขาทำไปเพราะอะไร
นี้หรือคือผลตอบแทนที่แก่นจันทน์ได้รับจากสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ ไม่กล้าอาจเอื้อม เพราะความลับเล็กๆนี้อยู่ลึกในใจและกลบทับด้วยคำว่าไม่มีวันเป็นไปได้ เธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากเจตน์เลย หากแต่สิ่งที่เขาทำมันบาดใจเธอเหลือเกิน ในยามที่แก่นจันทน์กำลังสับสนและค้นหาว่า แต่ละอย่างที่เจตน์ทำลงไปมันคืออะไร แล้วคำตอบที่ได้ยินจากปากของเขายิ่งทำให้เหมือนโลกนี้พลิกคว่ำลงไปต่อหน้า เพราะทุกอย่างคือการปกป้องจากผู้ชายที่ชื่อเจตน์
ตอนนี้แก่นจันทน์คงรู้แล้วว่า คนอย่างเจตน์ ราชโยธินสักแค่ไหนกัน และเขาคนนี้ก็ไม่อยู่สูงส่งเกินกว่าที่เธอจะคู่ควรด้วย ไม่ว่าแก่นจันทน์จะพยายามวิ่งหนีเขาสักเพียงใด เธอก็ไม่อาจหนีพรหมลิขิต ที่ผูกพันเขาไว้ให้กับเด็กสาวคนที่ตั้งป้อมกับเขาแต่แรกพบคนนี้ และที่สำคัญไม่ต่างกันคือ ผู้หญิงที่เจตน์รักก็คือแก่นจันทน์เพียงคนเดียว
เป็นแนวกึ่งๆอาจารย์ลูกศิษย์ แต่ไม่ใช่แบบพระเอกเป็นอาจารย์ตรงๆ แค่เป็นอาจารย์รับเชิญและไม่ได้สอนนางเอกด้วย และด้วยความหมั่นไส้แกมซวยนางเอกจึงนินทาเขาในระยะเผาขน เพราะอยู่ร่วมลิฟต์กันสองคน งานนี้นางเอกจ๋อยรับประทานของแท้ และด้วยความอับอาย จนพยายามจะหลบเลี่ยงพระเอกตลอด แต่ไม่พ้นคนรอบข้างที่พร่ำเพ้อแต่พระเอก จนนางเอกต้องได้ยินเรื่องของพระเอกตลอด และยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ แต่ส่วนใหญ่ นางเอกจะพกพาความซวยไปด้วย อาจจะเพราะบางอย่างในตัวของพระเอกทำให้เธอเสียศูนย์และความมั่นใจ แม้แต่ในยามไปฝึกงานก็ต้องไปฝึกงานที่บริษัทพระเอก เธอก็ได้แต่อย่าให้เจอโจทย์ระดับบิ๊กเลย แต่มันก็ไม่พ้น แถมพกพามาด้วยความขายหน้า แต่ไม่สู้เรื่องที่เกิดจากเรื่องเล็กน้อย แล้วก็ไปตีไข่ใส่สีมากมายจนนางเอกตกเป็นขี้ปากคนทั้งบาง สุดท้ายแล้วพระเอกก็ต้องหาทางแก้ไขที่ทำเอานางเอกงอนและเสียใจที่เหมือนเธอจะโดนลงโทษ แต่แท้จริงคือการปกป้องจากพระเอก และมันก็นำไปสู่การเปิดเผยความในใจของพระเอกไปด้วย สุดท้ายแล้วความรู้สึกของนางเอกที่ได้แต่แอบคิดลึกๆในใจก็จบลงด้วยความรัก
สำหรับตัวพระเอก พออ่านจบฟีน่าก็เข้าใจล่ะว่าทำไมสาวๆถึงได้ชอบพระเอก ประเภท หล่อ รวย เคร่งขรึม ภูมิฐาน สองตาไม่เคยเหลียวแลหญิงใด ดุๆกับนางเอกแต่แท้จริงแล้วแฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย คุณสมบัติแบบนี้จะไม่ให้สาวกรี๊ดได้ไง ใช่ไหมค่ะ
ในส่วนของนางเอก นักศึกษาสาวที่อาจจะไม่ได้สวยประเภทต้องเหลียวหลังมองตาม เรียนเก่ง แต่เหมือนจะแพ้ทางพระเอกยังไงไม่รู้ ที่ว่าเก่ง เจ๋ง แต่ถ้าอยู่ใกล้พระเอก มันโดนราหูอมหรือดวงข่มกันยังไงไม่รู้ แต่ก็น่ารักดีค่ะ
บอกกันตรงๆว่าปกติฟีน่าอ่านงานของกลีบลำดวนแล้วจะค่อนข้างเฉยๆค่ะ พอเล่มนี้ก็ไม่ได้คิดจะซื้ออะไร แม้จะได้ยินเสียงว่าสนุก แต่เรามีอะไรเหมือนจะไม่ใช่ทางนี้ทั้งๆที่ฟีน่าต้องชอบนิยายแนวนี้ค่ะ แต่ไหนๆก็เอาอีกสักเรื่องแล้วกัน ความรู้สึกหลังอ่านจบแล้ว น่ารักดีค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองอ่านนิยายสไตล์ป้าวลัย นวาระดีค่ะ เนื้อเรื่องใสๆ ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องของตัวอิจฉาใดๆ เพราะเรื่องทั้งหลายมาจากความรู้สึกตั้งป้อมของนางเอกทั้งนั้น หรือแท้จริงมันคือการกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองค่ะ
อ่านแล้วก็นึกถึงตอนสมัยเรียนนั่นล่ะค่ะ อาจารย์คนไหนหน้าตาดี ซึ่งมักจะเป็นอาจารย์จากข้างนอก วิชานั่นจะแบบว่านักศึกษาตั้งใจเรียนมาก ไม่โดด แอบเอาเพ้อพก ฝันไปมั่วซั่ว แต่ไม่ยักกะเจอแบบนี้เลยสักคู่ ซึ่งฟีน่าไม่แปลกใจที่สาวๆจะกรี๊ดเจตน์แบบที่เพื่อนๆของนางเอกกรี๊ด ผู้ชายแบบนี้เป็นหนุ่มในฝันมากมาย ปากดุแต่เป็นห่วงเป็นใยเราขนาดนี้ แม้จะไม่เคยเอ่ยปากประเภทเผยความนัยให้รู้สักครั้ง แต่คนอ่านรู้แล้วว่าพระเอกได้มอบอะไรที่พิเศษให้กับนางเอก อย่างที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน แม้จะยากให้แบบว่าหวานๆหน่อย แต่ก็เข้าใจว่าสถานะไม่เหมาะสม แถมพระเอกก็มาดบุคลิกนิ่งขรึมมาก่อน จะให้มาปากหวานก็คงจะไม่เข้า เจตน์จัดเป็นนิยายที่ให้โทนอบอุ่นน่ารัก เบาสบายใจไร้กังวล ทางสะดวกโยธินตลอดเวลา
ถ้าจะมีอะไรเม้นท์ ฟีน่าก็คงจะเม้นท์เรื่อง บทบรรยายนี้ล่ะคะ ฟีน่าเห็นคำในวงเล็บเยอะไปหน่อย จนเหมือนจะกลายเป็นการแซวตัวละคร นิยายมันเลยเหมือนเล่นๆไปนิดค่ะ แต่อย่างอื่นก็โอเคนะคะ ไม่มีอะไร เพราะนิยายมันสไตล์น่ารักๆ ที่ฟีน่าอ่านได้สบายๆ
ส่วนตัวแล้วจัดว่าโอเคค่ะ สนุกกว่าเรื่องก่อนๆที่เคยอ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้ถึงขนาดให้ฟีน่าขนาดลงไปสมัครสมาชิกภาพความเป็นชมรมคนรักเจตน์ได้ อาจจะเพราะในตัวนิยาย แม้จะไม่ได้เขียนในการใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่งอย่างฉัน แต่ตัวนิยายให้ความรู้สึกของนางเอกทางเดียว เธอจะว้าวุ่นสับสนใจกับการได้เจอพระเอก
แต่ในฝ่ายของพระเอก แทบไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ เหมือนครั้งแรกที่เจอกัน เขาอาจจะไม่พอใจ แล้วอะไรล่ะ หรือตรงไหนที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจมาชอบนางเอก แม้จะพอมองออกว่าปฏิกิริยาของพระเอกเริ่มเปลี่ยนไป เขาจับตามองนางเอกมากขึ้น ในนิยายก็มีได้แค่ความหมายเดียวคือสนใจ แต่ความรู้สึกอะไร ในความคิดของพระเอก ฟีน่าไม่รู้เลย มันเลยให้ความรู้สึกแบบนิยายดำเนินแบบบุรุษที่หนึ่ง แต่ไม่ได้ใช่คำว่าฉัน แต่ใช้การบรรยายความรู้สึกนางเอกฝ่ายเดียว ฟีน่าจะไม่ค่อยชอบนิยายแบบนี้เท่าไรค่ะ แต่อย่างที่บอกว่านิยายมันน่ารักดีเลยไม่มีปัญหามาก อ่านได้ไม่ซีเรียส ไม่เสียดายเงินที่ซื้อ แต่ไม่ขนาดกรี๊ดหรือบ้ามากมาย
แต่มันก็เหมาะกับรสนิยมแบบฟีน่านั่นล่ะคะ น่ารัก อบอุ่นใจ ไร้กังวล พระเอกแก่ เคร่งขรึม รักนางเอก ไม่มีตัวอิจฉาน่ารำคาญ ไม่ต้องกินน้ำตาต่างข้าว อ่านจบก็ยิ้มๆได้ในเนื้อหานิยายค่ะ ฟีน่าคงไม่ต้องบอกให้ใครมาอ่านแล้วล่ะมั๊งค่ะ เพราะคนรอบข้างอ่านกันหมดแล้วใช่ไหมค่ะ ฟีน่าก็เลยไม่รีวิวอะไรมากมาย อิๆๆ ดีค่า สบายคนรีวิวไปนิดหนึ่ง ยิ่งช่วงนี้ไปหัดถักโครเชต์แทนการอ่านนิยายเสียด้วย ถ้าอู้ไม่มารีวิวก็กำลังทำตัวเป็นแม่ผีเรือนอยู่นะคะ