ว่ากันว่ากลิ่นหอมของปาริชาตพาให้หวนรำลึกถึงอดีตชาติ หากแต่ต้นปาริชาตหน้าบ้านของปาริฉัตรกลับมิเคยผลิดอกมานานแสนนาน ราวกับรอคอยเรื่องราวบางอย่างที่จะเกิดขึ้น
ปาริฉัตรนักดนตรีสาวที่เพิ่งกลับมาจากประเทศอังกฤษ ได้กลับมาสุ่บ้านเรือนไทยที่เธอจากไปแสนนาน แต่เพียงวันแรกที่เธอกลับมาอยุ่เธอก็ได้พบภัทร ชายหนุ่มที่เธอรุ้สึกผูกพันธ์กับเขาอย่างประหลาด และยิ่งแปลกประหลาดไปกว่านั้นเมื่อความรัก ความหลังของต้นตระกูลของครอบครัวเธอยิ่งทำให้เธอรู้สึกใกล้ชิดกับภัทรมากขึ้น
เรื่องราวที่แสนเศร้าของคุณพระวิจิตรอภิมุกที่ไม่สมหวังกับแม่ลออ แม่ค้าผ้าชาวกัมพูชา รวมทั้งจิตริษยาของพุดจีน ข้าหลวงคนงาม เป็นเรื่องราวที่ยิ่งทำให้ความผูกพันธ์ความรักของปาริฉัตรและภัทรเข้าไว้อย่างหนียวแน่น
ในส่วนของพล็อตดีค่ะ แต่ว่ามีจุดให้ฟีน่าไม่แนวไปเยอะจัดไปหน่อย
ข้อแรกคือพฤติกรรมของยายนางเอก แม่เจ้า ประหนึ่งจะยกหลานสาวให้พระเอก เจอกันวันแรก ยายชวนพระเอกให้นอนบ้านด้วยกัน เข้าใจว่าสนิทกับพระเอกมากตอนนางเอกไปเรียนต่อ และเป็นห่วงว่าหลานสาวกะตนอยู่บ้านสองคน เอ๊ะไม่เป็นไร พอพระเอกบอกว่าไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ ยายก็เปิดทางประมาณวาไปเก็บเสื้อผ้ามาซิ เปิดทางจังเลยค่ายายค่า นี้ยังไม่เท่าไร ตอนเจอกับนางเอก ตะลึงงั้นประมาณว่าอดีตเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อนเข้าใจๆ แต่ยายก็แซวว่า "แอบปิ๊งหลายสาวยายเข้าแล้ว"
สองคนนี้เขาจ้องหน้ากันไม่ได้จะปิ๊งกันตลอด รอบสอง ยายก็แซวอีกว่า "ยายเรียกตั้งนานแล้ พากันเหม่ออยู่นั้น ประเดี๋ยวก็ท้องหรอก" หรือตอนสองคนนี้เล่นดนตรีด้วยกัน ยายอีกนั้นล่ะ เห็นว่ามีท่าที่ชอบกัน ก็บอกว่า สงสัยงานนี้จะได้อุ้มหลาน หรือการไล่ให้ผู้ชายไปนั่งข้างๆหลานสาวตัวเอง ทั้งๆที่ตอนแรกฝ่ายายก็นั่งอีกฝั่งหนึ่ง
ฟีน่าว่าว่าประหลาดนะคะ มันเหมือนยายนางเอก อยากได้คนนี้มาเป็นเขยจนน่าเกลียดและไม่ควรจะเป็นการกระทำของยายด้วย ถึงแม้จะรู้จักฝ่ายชายมานานแต่ยังไงก็ไม่เหมาะ ถ้าเป็นญาติฝ่ายชายพอจะเข้าใจได้บ้าง แต่นี้พอเป็นฝ่ายหญิงมันเลยดูไม่เหมาะเอาเสียเลย ฝ่ายชายเข้าจะคิดยังไง
มาต่อในความประหลาดใจ ตอนพระเอกมานอนบ้าน เสื้อผ้าไม่พอใส่ พอนางเอกเอาเสื้อผ้ามาให้ พระเอกก็ถามว่า ไม่มีลิงให้ด้วยหรือครับ อ๊ายๆ นี้คุณคะเพิ่งรุ้จักกันถามอะไรแบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย คำถามนี้ควรจะเป็นสามีภรรยาถามกันซิถึงจะเหมาะสม นี้แฟนกันก็ยังไม่ได้เป็น และในฉากนี้ ฟีน่าพระเอกเล่นแก้ผ้าส่วนล่างมาเปิดประตูรับพระเอก มันดูเหมือนไม่ให้เกียรติกันเลย ถึงแม้จะรีบมาเปิดก็เถอะ น่าจะคิดตรึกตรองเสียหน่อย
และก็มีพฤติกรรมแปลกๆอีกหลายอย่างค่ะ
และที่ประหลาดอีกอย่าง ด้วยความที่ฟีน่าบ้านิยายพีเรียดมาก ก็พอจะมีความรู้แบบงูๆปลาๆ แต่ไม่เคยได้ยินตำแหน่งพระยาการคลังเลยค่ะ เคยได้ยินแต่พระยาพระคลัง และสรรพนามเรียกผู้หญิงในยุค ร.5 ว่าแม่นาง จริงๆแล้วเราไม่รู้เรียกว่าเค้าเรียกว่าอะไรแต่มันพิลึกค่ะ เคยได้ยินแต่เรียกว่าแม่ อย่างแม่พลอย แม่มณี แม่วาด แม่เขียน แต่แม่นางนี้ไม่เคยค่ะ และเรียกแม่วาท่านแม่ ทั้งๆที่แม่มิได้เป็นหม่อมเจ้า แต่เป็นเพียงคุณหญิง ส่วนใหญ่เรียกแค่คุณแม่ก็พอแล้ว
และที่ตลกปนไม่เข้าใจคือ แม่นางพุดจีน เธอถวายตัวเป็นคุณข้าหลวงในวัง อยู่สำนักพระนางเจ้าสุขุมมาลมารศรี พระราชเทวี ฟีน่าเคยได้ยินแต่ตำหนักค่ะ มิใช่สำนัก และเรียกได้ชวนตลกมากว่าเจ้าสำนัก เอาเข้าไปหยั่งกะนิยายจีน
การกระทำของตัวละครไม่สอดคล้องกับช่วงเวลา การเป็นข้าหลวงในวังนั้นจะเข้าออกนอกออกในสบายใจตามใจฉันก็ไม่เคยเห็นแต่พุดจีนไปๆมา
ๆบ้านราวกับอยากจะออกก็ออก อยากจะเข้าก็เข้า ไม่เป็นไรเข้าใจได้ว่าเธอใหญ่ แต่การกระทำว่าไปทำตัวเป็นเจ้าของพระเอกนี้ไม่น่าจะเป็นได้ค่ะ เอาง่ายๆ แค่แม่ประยงค์คู่หมายคุณหลวงเทพ จนผิดหวังก็ยังไม่เคยได้เจอหน้าคุณหลวงเทพเลย แต่พุดจีนแทบจะมาพังเรือนฝ่ายชายได้ ตอนที่โมโหว่าทำไมไม่แต่งกับหล่อนไปคว้าแม่สาวกัมพูชามาแต่ง จะเป็นได้หรือค่ะ สาวสมัยนั้น พ่อแม่และแม่สื่อจะเป็นคนจัดการเธอคือสาวชาววังต้องเก็บตัวให้สมเป็นลูกผู้ดีมีตระกุ
ล ขืนทำอย่างนี้ ใครจะไปอยากรับไปเป็นสะใภ้
และพระเอกก็พอกัน ไปจับไม้จับมือนางเอกในวัดวาอาราม อดีตนั้นหญิงสาวและชายหนุ่มจะใกล้ขิดกันยังไม่ได้เลยค่ะ นี้เล่นมาจับมือนางเอกกลางศาลาการเปรียญ แม่เจ้าคงได้ลือกันสามคุ้งน้ำ
รถม้าก็เช่นกันฟีน่าเคยเห็นแต่เจ้านายเขาใช้กันแต่แม่หนูพุดจีนและคุณพ่ดพระยาการคลั
งเล่นนั่ง ไม่เป็นไรน่าจะมีได้ แต่ปกติเคยเห็นแต่นั่งรถลาก รถเจ๊ก แต่ฟีน่าไม่ว่ากันเพราะเราไม่ได้ศึกษามาแต่แปลกใจนิดหน่อยค่ะ
แต่อย่างน้อยคนแต่งก็ทำการบ้านมาเรื่องผ้าไทย ผ้าเขมรเยอะค่ะ ถือว่าใช่ได้ในจุดนี้
แต่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องมีจุดสะดุดจนอารมณ์ไม่ลื่นไหลค่ะ เลยไม่อิน การตัดไปมาระกว่างอดีตและปัจจุบันยังไม่รื่นพอค่ะ และที่สำคัญการแสดงออกถึงความรักของสองคนนี้ยังไม่เห็นเด่นพอแค่ประมาณว่าอดีตเคยรัก
กันมาก่อน ชาติดนี้รักกันง่าย แต่ความจริงควรจะแสดงให้เราเห็นว่าเขาผูกพันธ์กันเพราะปัจจุบันมากกว่าอดีตค่ะ