ถ้าไม่เพราะทุกอย่างที่ตอกย้ำเขมมิกเสมอมาว่าไม่มีรักแท้บนโลกนี้ แผนร้ายๆที่เอาไว้พิสูจน์ใจผู้ชายซี่งไม่วันซื่อสัตย์คงไม่เกิดขึ้น แต่เขมมิกไม่เคยจะสนใจหากใครจะมองว่าเธอร้ายกาจสักเพียงใด และในที่สุดความแสบสันต์ของแท้ก็เข้าตาใครบางคนอย่างไม่รู้ตัว คงไม่มีใครบนโลกนี้จะเหมาะกับงานนี้อีกแล้วเท่าเขมมิก ผู้หญิงที่มีเครื่องการันตีการเป็นมือที่สาม แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขมมิกไม่ได้อยากเป็นเช่นนั้นเลย เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่อยากจะพบรักแท้สักวันพิแสงไม่ใช่หมูที่จะให้ใครมาเคี้ยวหรือหลอกตุ๋นได้ง่ายๆ แค่แว้บเดียวเขาก็รู้ดีว่า แม่สาวชาวกรุงอย่างเขมมิกคนนี้ไม่ได้มีเจตนาบริสุทธิ์อย่างที่บอกไว้แน่นอน แต่ในเมื่อเธอพร้อมใจจะปากแข็ง ยืนกรานเรื่องโกหกพกลมที่ฟังยังไงก็ไม่ขึ้นอยู่ดี พิแสงก็พร้อมจะให้เขมมิกได้รับรู้รสชาติของการโดนตลบหลัง เอาคืนแบบนิ่มๆ แต่เจ็บทรวงไม่น้อย ยิ่งโกหก ยิ่งทำให้ตัวเองยุ่งเหยิง แต่นั่นไม่เท่ากับการที่ได้พบพิแสงครั้งนี้ ปลุกบางอย่างที่เขมมิกอยากจะลืมเลือน แม้อยากจะหันหลังให้กับทุกสิ่ง แต่เมื่อเธอเลือกจะทำแล้ว ก็คงจะยากที่กลับตัว แค่ตัวเธอคงไม่เท่าไร หากความหวังที่มีต่อแม่ คนที่เธอรักที่สุด ผลักดันให้เขมมิกยอมกล้ำกลืนอดีต แล้วมุ่งหน้าทำภารกิจพิชิตใจพิแสงให้จงได้ แม้มันจะต้องเอาชนะใจเขาพอๆกับเอาชนะใจหมูทั้งฟาร์มก็เถอะความรู้สึกที่แสนสับสนนี้คืออะไร เขมมิกเนี่ยนะ จะเป็นผู้หญิงที่ทำให้ใจเขาปั่นป่วน ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความน่าสงสัยและมีแต่ความไม่ไว้วางใจ กลับทำให้คนดิบ ห่ามและไม่เอาใครอย่างเขาหวั่นไหวไปกับเธอได้ แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พิแสงก็ต้องยอมรับว่า เขามองเห็นได้ลึกลงไปว่า ตัวตนที่แท้จริงของเขมมิกคือใคร เปลือกที่ห่อหุ้มเธอไว้ ไม่ใช่เขมมิกที่เจ้าเล่ห์แสนกล แต่เธอคือผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาที่สุด และที่น่าตกใจ เขมมิกคือปริศนาบางอย่างที่รบกวนใจของเขามาเนิ่นนานความรักและความหวังจะได้มีความสุขกับคนที่รัก คงจะไม่มีวันเป็นจริงไปได้ ในเมื่อเธอก้าวเข้ามาในนี้ด้วยแผนการร้ายบางอย่าง แม้อยากจะบอกให้พิแสงได้รับรู้ แต่หัวใจของเขมมิกกลับไม่กล้าพอ เธอไม่อยากได้รับสายตาที่หมดสิ้นความรักจากผู้ชายที่เธออยากฝากชีวิตที่เหลือไว้ แต่จะทำอย่างไรเพราะสุดท้ายแล้ว ไม่มีมีคำว่ารักนิรันดร์อยู่ระหว่างเธอกับเขาได้เลย รัก คำเดียวก็อาจจะไม่ช่วยอะไร หากความจริงที่เขมมิกซ่อนไว้เผยออกมาสักวัน และเมื่อวันนั้นมาถึง แค่เจ็บก็คงไม่พอจะอธิบายทุกอย่าง แหลกสลายต่างหากคงจะใช่ แม้แต่คำรักก็ไม่อาจรักษามันไว้ได้ไม่นึกว่ารักจะมีพลานุภาพได้ขนาดนี้ แม้พยายามจะปฏิเสธและเพียรบอกตัวเองว่า ไม่ควรสนใจกับเขมมิก แต่ยิ่งปฏิเสธความรักเท่าไร พิแสงก็ไม่เคยตัดหัวใจออกจากผู้หญิงคนเดียวที่เขารักได้ และเมื่อได้รู้ว่า เขาอาจจะไม่มีวันได้รักเธออีกต่อไป อะไรก็คงไม่สำคัญอีกแล้ว สิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดคือ การได้รักเธอเท่านั้น การได้โอบกอดเธอไว้ในวงแขน ปกป้องและดูแลเขมมิกไว้ด้วยความรักที่เขามีต่อเธอ
เรื่องราวของนางเอกที่มีภูมิหลังครอบครัวแตกแยก ซ้ำร้ายคนที่รักก็มาตีจาก ยิ่งตอกย้ำให้เธอไม่เชื่อในความรัก เมื่อเธอได้รับการจ้างพิเศษด้วยค่าจ้างสูงลิบ เพื่อทำตัวเกือบจะเป็นมือที่สาม แม้จะไม่อยากทำแต่ความจำเป็นบังคับ นางเอกจึงยอมรับทำ โดยไม่รู้ว่างานนี้มันไม่หมูอย่างที่คิด เพราะพระเอกรู้ทันแทบจะทุกแผนการของนางเอก ดักหน้าดักหลังเจ้าหล่อนได้ตลอดเวลากับแผนร้ายๆนั่น ซ้ำยังทำให้นางเอกไม่สามารถหนีไปไหนได้ จำต้องยอมทำตามที่พระเอกเอาไว้แก้เผ็ดเธอ แต่ยิ่งกลั่นแกล้งเท่าไรก็ยิ่งใกล้ชิดกัน และนั่นทำให้นางเอกได้รู้ความจริงบางอย่างที่เธอดิ้นรนให้หลุดจากมันตลอดเวลา แต่จะหันหลังกลับก็ไม่ได้ จึงต้องมุ่งหน้าลุยเท่านั้น พอๆกับพระเอกที่ยิ่งใกล้ก็ยิ่งหวั่นไหว และยิ่งมั่นใจกับบางอย่าง ทุกอย่างก็เหมือนจะราบรื่นดี แต่ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ นางเอกมาพร้อมกับแผนบางอย่างที่เธอต้องทำ แม้จะรักพระเอกแค่ไหน แต่เมื่อเธอไม่ได้มาให้เขารัก ก็ต้องร้ายให้เขาเกลียด และทุกอย่างก็สำเร็จ ความรักก็จบลงพร้อมภารกิจ แต่กลับทำให้พระเอกและนางเอกช้ำใจกันไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็กลับมาลงเอยกันได้เพราะอะไรก็ไม่สำคัญเท่าความรัก เวลาของคนเราก็มีเพียงน้อยนิด หากรักใครก็อย่าถือทิฐิมากเกินไป
ก็อย่างที่บอกค่ะว่าเป็นเล่มที่สองของคุณปิ่นปินัทธ์ เล่มนี้โทนเนื้อเรื่องจะต่างไปจากรักฤาฯ อย่างเห็นได้ชัดเจน นางเอกจะโก๊ะ เปิ่น รั่ว ซ่าส์ บ้ากว่าเล่มแรกมากๆ พอๆกับพระเอกที่จะไม่ได้เนี้ยบเป็นนักธุรกิจอย่างพี่มาร์ก เพราะพิแสงแม้จะมีครอบครัวทำธุรกิจแต่เขากลับรักการอยู่ในฟาร์ม ในสวนเสียมากกว่า ความห่าม ความเถื่อน ความดิบของพิแสงจึงมีมากกว่าหลายเท่า
พระเอกเรื่องนี้ขอบอกว่าแกช่างปากร้ายเอาการเลยค่ะ อาจจะหาความโรแมนติกไม่ค่อยจะเจอด้วยซ้ำไป แต่ก็ดีที่เขาเป็นคนรักที่ทำในสิ่งที่เลือกแล้ว ใครๆก็บังคับเขาไม่ได้ แม้เส้นทางนั้นจะมีแต่คนบอกว่าโง่ ว่าเหนื่อย ทำไปทำไม แต่เมื่อเขารักแล้วเขาก็จะทำมันด้วยความรัก พิแสงอาจจะไม่เหมือนพระเอกนิยายที่เป็นเกษตรกรคนอื่นเท่าไร ที่จะมีมุมโรแมนติกบ้าง เพราะอ่านมาก็หาไม่เจอได้น้อยจริงๆ สงสัยจะอยู่กับหมูมากไปนิดหนึ่ง แต่ก็เป็นคนจริงจัง ตรงไปตรงมาดี แม้จะมีแอบน่าโมโหบ้างเป็นระยะๆก็ตาม
ส่วนนางเอกอย่างเขมมิก เป็นสาวสู้คนอันดับหนึ่งจริงๆ อารายจะอึด อดทน ยาฆ่าหญ้าก็คงเอาไม่อยู่จริงๆ แต่ว่าภายในเขมมิกกลับซ่อนความอ่อนแอและปมในใจบางอย่างเอาไว้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงเข้มแข็งหรอก ก็ยังโหยหาการได้เป็นคนรัก ฟีน่าชอบเขมมิกมากเลยนะคะ จะว่านับถือในความเข้มแข็งของเธอก็ว่าได้ สวยแถมเหยียบขี้ไก่ฝ่ออีกต่างหาก ภายนอกเหมือนคนสวย เริ่ด เชิดหยิ่งแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เธอเป็นคนเข้ากับคนง่าย ปรับตัวเก่ง ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองมากๆ แต่จุดด้อยที่กลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายตัวเธอเองคือ การเลือกจะฝ่ายตัดสินใจว่าผู้ชายทุกคนบนโลกนี้ไม่มีใครซื่อสัตย์กันหมด ตรงนี้ล่ะคือจุดที่ทำให้เธอด้อยไปนิดหนึ่ง
อ่านจบแล้วเป็นยังไง ก่อนจะบอกอะไร ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ที่เล่มนี้จะโดนเทียบกับรักฤาเล่ห์ลวง เพราะการจับตามันมาก ความสำเร็จจากเล่มแรกเป็นบรรทัดฐานเลยค่ะ เมื่อเล่มแรกดี ความคาดหวังในเล่มต่อมาจะสูงมากๆ กลับมาต่อที่ความคิดว่าชอบไม่ชอบ สำหรับฟีน่าโอเคในส่วนต่างๆค่ะ แต่ยังมีบางอย่างติดอยู่ในใจ
เมื่อเรื่องนี้จัดไว้เป็นนิยายที่ออกแนวโรแมนติกเกือบจะคอมเมดี้แล้วในใจฟีน่าเพราะยังมีจุดซีเรียสให้เห็นในบางฉาก ก็ถือว่าโอเคค่ะ ฟีน่าจะมองแต่ในมุมนี้ไม่เอาไปเปรียบกับเล่มแรกนัก เพราะโทนเรื่องและการดำเนินเรื่องต่างกัน
ในแง่ของการดำเนินเรื่อง โอเคเลยนะคะ การนำเสนอเรื่องราวของฟาร์มหมู ความรู้ต่างๆ แปลกใหม่ดีค่ะ ฟีน่าไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้รู้จากในเล่มนี้ ปกติมีหน้าที่กินเท่านั้น อิๆๆ และไม่เคยรู้ด้วยว่าพัทลุงมีฟาร์มหมูเยอะกะเค้าด้วย เหมือนกับเรื่องราวของนางเอก อาชีพแอร์โฮสเตสที่ใครๆอยากเป็นแท้จริงแล้วมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครคิด แท้จริงก็คือแม่บ้านเราดีๆนี้เอง แต่หรูหรากว่า ได้แต่งตัวสวยกว่า หน้าตาก็ต้องดีกว่า สิ่งรอบกายดูมีคุณค่ากว่า หากที่จริงแล้ว เธอกลับต้องลำบากไม่ต่างไปจากแม่บ้านทั่วไป
อย่างที่พอรู้มาว่าคนเขียนทำการบ้านมาดีค่ะ การนำเสนออาชีพพระเอกที่ไม่มีใครเขาทำกันก็เลยออกมาดูดี เชื่อถือและเชื่อได้ว่าเขาทำอาชีพนี้จริงๆ จนเรามองภาพออกเลยว่า ฟาร์มเลี้ยงหมูเป็นอย่างไร
เรื่องนี้ เรื่องราวมันจะดำเนินผ่านนางเอกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเขมมิกก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ แต่ละอย่างที่เธอทำเนี่ย ช่างทำไปได้นะเธอ ทุ่มทุนสร้างให้สมราคาที่จ้างมาแท้ๆ เป็นฟีน่าจ้างมาแพงขนาดนั้นก็คงเต็มที่ล่ะ นอกจากนี้นางเอกก็ยังมีกลเม็ดเคล็ดลับดีๆให้สาวๆที่อยากมัดใจชายหนุ่มให้เราได้เอาไว้ทดลองทำกันค่ะ ว่าจะได้ผลเหมือนที่นางเอกทำหรือเปล่า
และตามธรรมเนียมนิยายไทย ต้องมีตัวร้าย ที่ฟีน่าว่าเธอไม่ร้ายเลย นางเอกต่างหากจะร้ายกว่า และฟีน่าคิดว่าตัวร้ายจริงๆกลับกลายเป็นแม่พระเอกและยายแม่บ้านตัวดีมากกว่า โอ๊ย ร้ายได้ร้ายดี ร้ายคนรอบข้างน่าสงสาร ว่าจะร้ายไปถึงไหนกัน อาจจะไม่ได้มาในมาดตบตี แต่วาจาเธอร้ายกว่าเสียอีก และความร้ายของเจ้าหล่อนทำเอาฟีน่าสงสารนางเอกกลายๆไปเลย
ก็อย่างที่ฟีน่าเป็นประจำล่ะ ดีๆไม่ค่อยจะยอมพูดถึง ชอบจังไอ้เรื่องจิกกัดเนี่ย ของถนัดของหล่อนเลย ขอเริ่มตัวเรื่องเลยนะคะ ขอบอกว่าค้างๆๆๆๆๆ ค่ะ ฟีน่าก็คิดว่าเค้าใส่มาไม่ครบหรือเปล่า พลิกซ้าย พลิกขวาก็ได้รู้ว่าจบแค่นี้จริงๆ ต่ออีกนิดได้ไหมค่ะ อยากรู้ต่ออ่ะว่าสองคนนี้จะเป็นไงต่อ แม่สามีที่แสนร้ายกาจของเขมมิกจะเป็นเช่นไร จะรับเธอได้หรือเปล่า น้องสามีที่ก็ไม่ชอบขี้หน้า เพราะน้องเขยพระเอกเป็นแฟนเก่านางเอก ที่อยากจะกลับมากิ๊กกับนางเอกอีก
นอกจากเรื่องนี้เกิดขึ้นแถบพัทลุง จึงต้องมีภาษาถิ่นไว้ด้วย แต่ฟีน่าดับอนาถเรื่องภาษาใต้ค่ะ ต๊ายถ้าใส่ภาษาอีสานบ้านเฮามาจะพอเดาได้ค่ะ พยายามอ่านไปออกเสียงในฟิลม์ไปด้วยเป็นระยะๆก็เกิดอาการวิงเวียนเล็กน้อย จนต้องคิดว่าไม่เป็นไรฟะ บทนี้พระเอกพูดกับคนงานไม่ใช่นางเอก ช่างมันๆ
เนื้อเรื่องในช่วงแรกเปิดตัวและคุยถึงชีวิตนางเอกเยอะมากค่ะ ถ้าเทียบกับความหนาของเรื่องคือถ้าเรื่องนี้หนาเท่ารักฤาฯ จะไม่เท่าไรค่ะ แต่มันไม่ได้หนามาก แต่ก็เป็นส่วนดีในการปูพื้นฐานนิสัยนางเอกค่ะว่าเป็นคนเช่นไร ไม่เช่นนั้น พอมาอยู่ไร่พระเอกคงไม่เนียนในเรื่องการบ้าเรื่องความสะอาดเป็นระเบียบ และมุมมองความคิดของนางเอกต่อความรักและความซื่อสัตย์
กลับมาเรื่องการดำเนินเรื่องต่อ ในช่วงแรกลื่นดีค่ะ แต่ตอนท้าย หลังจากเหตุที่ไม่เข้าใจกันไปแล้ว เรื่องจะเดินเร็วมากไปค่ะ จนมันตัดฉับไปฉับมา ไม่เหมือนช่วงแรกเลยที่ค่อยๆดำเนินเรื่องไปค่อยๆ ให้เข้าใจในภูมิหลังของนางเอกอย่างเต็มที่ เหตุการณ์ต่างๆ เล่าผ่าน เนื้อความว่า สามเดือนผ่านไป สี่เดือนผ่านไป มันเลยทำให้สะดุดมากไปหน่อยค่ะ
ในส่วนของตัวละคร แน่นอนคนที่ฟีน่าติดใจที่สุดคือพิแสง เพราะแกปากร้ายจังเลย ไอ้ตอนแซวนางเอก ว่านางเอกช่วงแรกๆ ฟีน่ายังเฉยๆนะคะ แต่ตอนท้ายที่ว่านางเอกนี้ซิค่ะ โอ๊ยเจ็บใจแทนนางเอก อินจัด ร้องไห้ไปกับเขมมิกเลยค่ะ กรี๊ด ๆๆใจร้ายที่สุด ทำไมว่ากันแรงจังเลยคุณพี่เสือ สงสัยจะอยู่กับหมูมากไปจริงๆ คือมันทำให้ฟีน่ารู้สึกเลยว่า แรงขนาดนี้เลยหรือ คนเราเคยรักกันมาก่อนนะ จะไม่เหลืออะไรไว้ให้เรามีเยื่อใยต่อกันเลยหรือ พูดแรงขนาดนี้ ไม่นึกถึงตอนจะง้อฉันสักนิดหรือไงว่าฉันจะคิดยังไงย่ะ อีตาพิแสง คือถ้าเป็นฟีน่านะคะ เจอเข้าไปเช่นนั้นคงจะมีทบทวนความคิดก่อนคืนดีแหงๆค่ะ
ยังค่ะยังไม่จบ แกยังทำให้ฟีน่าติดใจได้ต่อตรง ทำไมแกถึงได้ชอบคิดตลอดว่านางเอก มีอะไรกับคนอื่นมาก่อน แต่อันนี้จะไปโทษพระเอกฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะนางเอกก็ชวนทำให้พระเอกคิด แม้แรกเริ่มจะไม่เชื่อ แต่ข่าวสารที่เข้าหู แถมมีเหตุการณ์ตำใจ ก็เลยไปกันใหญ่ งานนี้อีตาพิแสงเลยฝังใจสนิท จะว่าแกเลยไม่สนิทใจเท่าไรนัก แต่อีตาพี่เสือ ไม่ต้องย้ำบ่อย เป็นไงล่ะ ปากพาจน สมน้ำหน้า
ต่อด้วยอันอื่นดีกว่าค่ะ นอกจากนี้ก็ยังห่าม หื่น หน้าด้านอีกตะหาก แหมๆๆ ข้อท้ายๆนี้เรียกว่าชอบได้ไหมค่ะ น้ำลายไหล อยากจะปาดน้ำลายจริงๆ แต่นี้ล่ะไอ้ความหื่นขึ้นตาของแก ก็พาให้ฟีน่างงๆว่า ไหงตอนแรกขรึมซะฤาษีเรียกพี่ แต่พอรู้ความจริงบางอย่าง แกหื่นได้โล่ห์กันไป แอ๊บเนียนมากพ่อคุณทูนหัว
และอีกข้อที่ขอเสริม ตอนท้ายที่พระเอกคิดว่าไม่มีวันได้อยุ่กับนางเอกแล้ว แต่กลับไม่มีบทไหนแสดงถึงความเศร้าใจของพระเอกเลยค่ะ อาจจะเพราะช่วงนั้น พอพระเอกรู้ก็ตะลึง แล้วก็ผ่านไปสามเดือน ซึ่งช่วงเวลานั้น ถ้ามีสักฉากที่บอกว่าพระเอกเสียใจแค่ไหน เจ็บปวดแค่ไหนจะดีกว่านี้ค่ะ มันหายไปทำให้อารมณ์ที่ฟีน่าเชื่อว่าแกรัก อาลัย อาวรณ์นางเอกแทบไม่มีให้เห็นชัดๆตาเลย มีแต่คำพูดแค่ไม่กี่คำตอนแรก ที่ว่าช่วงนี้แกโทรมผิดปกติและตอนที่บอกแม่เท่านั้น มันเลยไม่ทำให้ฟีน่ารู้สึกว่าพระเอกเศร้าเท่าไร ฟีน่าดิ ร้องไห้เลยนะตอนอ่านตรงนี้ แกมสมน้ำหน้าพระเอก ชิ ไงล่ะ ใจแข็ง สมควร คือถ้ามีฉากพระเอกจะเป็นจะตาย บ้างานให้เห็นกันจะๆสักฉากจะดีค่ะ
ส่วนของนางเอก ออกแนวแค้นฝังหุ่นแทนค่ะ อารายกันจ๊ะยัยหนูเขมมิกทำไมใจอ่อนง่ายขนาดนั้น เป็นฟีน่าน่ะจะขอเล่นตัวสักฉากสองฉาก ค่าที่ว่าฉันเสียแรงหนึ่ง สองชอบว่าจังว่าฉันไม่ซิง ข้อท้ายทำฉันต้องร้องไห้เพราะเข้าใจฉันผิด ดอกมงดอกไม้ก็หาเอาข้างทาง ไม่ลงทุนเลย พี่เสือนี้ห่ามจริงๆ โรแมนติกแตกเอามากๆ
แต่ได้ความห่าม ความเถื่อนของแกก็ได้ใจฟีน่าอีตรง ถล่มงานวิวาห์เขานี้ล่ะ โหพี่เสือเท่โคตร ได้ใจอย่างแรง ห่ามเอาโล่ห์ไปเลยค่ะ ผู้หญิงข้าใครก็ห้ามยุ่ง คนนี้ของฉันโว้ย มาช้าหน่อย แต่ก็มาแล้วนะ ไม่ให้พ่ออาละวาดก็ได้ เออพี่ค่ะ อารายจะเถื่อนกันขนาดนั้นเนี่ย
อาจจะมีบางคนบอกว่าไม่ชอบสิ่งที่นางเอกทำแรกๆเท่าไร กับการรับจ้างเป็นมือที่สามของนางเอก แต่ฟีน่าพอรับได้นะคะ อารมณ์หวังดีแต่ทดแทนความจริงในอดีตว่ารักแท้ไม่มีบนโลกไง ผู้หญิงอย่าได้ตามัวกับมันเลย เลิกใส่แว่นตาสีชมพู โลกนี้มีแต่รักอันงดงามได้แล้ว แต่นางเอกอาจจะลืมไปว่ามันบาปนะเนี่ย
แต่ถ้ามองโดยรวมแล้วโอเคนะคะ สนุกในอีกมุมหนึ่ง ต่างไปจากเล่มแรก เพราะพื้นเพของพระเอกและนางเอกสองเรื่องต่างกันไปเลย การปฏิบัติใดๆเลยต่างกัน คำพูด วาจา การกระทำก็เลยไม่เหมือนกัน
ส่วนตัวฟีน่าชอบรักฤาฯมากกว่าค่ะ เพราะพี่มาร์กล่ะส่วนหนึ่ง ชอบพระเอกเนี้ยบๆหน่อยค่ะ หรือถ้ามองกันในระหว่างพระเอกกับนางเอกเรื่องนี้ ฟีน่าจะชอบเขมมิกมากกว่าค่ะ อาจจะเป็นผู้หญิงเหมือนกันหรือเปล่าเลยเห็นใจกันมากกว่า เข้าข้างเสมอ หมั่นไส้พิแสงเป็นเพื่อนเขมมิกไปด้วย
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้แย่นะคะ เพราะเป็นนิยายแนวโรแมนติกปนความร้ายๆของพระเอกและนางเอกที่ต้องพยายามทำตัวให้เท่าทันอีกฝ่ายเสมอ ว่าฉันไม่โง่ไปกว่าคุณ แต่อย่างไรแล้วพระเอกก็ต้องทันเกมนางเอกมากกว่า ซึ่งดีค่ะ ขืนให้พระเอกช้ากว่านางเอกมันคงไม่เข้ากับความเป็นพระเอกที่เท่าทันคนอื่นมาตลอด ซ่อนร้ายไว้ใต้ท่าทางห่ามๆแบบนั้น จัดว่าสนุกในความไม่ต้องมานั่งคอยลุ้นในเรื่องอื่นๆ เพราะไม่ได้ซ่อนปมอะไรไว้สักอย่าง แค่อยากจะสอนให้รู้ว่าแค่คุณยอมรับหัวใจตัวเอง คุณก็จะไม่ทำร้ายหัวใจตัวเองให้เจ็บปวดด้วยตัวคุณเอง