จารจำนาง อวี๋ฉิง
สกุลสี นำมาทั้งความรุ่งเรือง ชื่อเสียงและความยำเกรงมาแด่ทุกคนที่ได้ใช้สกุลนี้ แต่คงไม่มีใครจะโดดเด่นไปกว่าสีเลี่ยเฟิง คุณหนูหกแห่งสกุลสีอีกแล้ว นอกจากความงดงามที่ฉายแววมาตั้งแต่ยังเด็ก ความทระนงในตัวเอง ตรงไปตรงมา และเธอก็ยังเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิแห่งหนานหลินอีก เช่นนี้แล้วสกุลสีคงจะยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบได้ ทว่าคนที่ทำให้สีเลี่ยเฟิงต้องเอาอกเอาใจเป็นที่สุดกลับไม่ใช่องค์จักรพรรดิ กลับกลายเป็นสีฉางมู่ พี่ห้าที่เธอเคารพนับถือ และยอมตนเป็นมือเป็นเท้าให้พี่ชายคนละแม่ที่ฉลาดหลักแหลม หากแต่ดวงตาฝ้าฟาง
เกิดเป็นคนสกุลสีดีเช่นไร ทั้งๆที่สีฉางมู่เกิดเป็นคนตระกูลที่เรียกได้ว่าทุกคนล้วนยำเกรง แต่เขาล่ะ เพียงแค่มีกำเนิดจากมารดาที่ไร้สกุลต่างภรรยาคนอื่นของบิดา เขาจึงไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ ยกเว้นคงมีเพียงสีเลี่ยเฟิงเท่านั้นที่ผูกพันกับเขาเป็นที่สุด เธออาจจะเป็นคุณหนูหกที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนานหลิน แต่ในยอมที่อยู่ด้วยกัน เขาเปรียบเสมือนเทพเจ้าของสีเลี่ยเฟิง ทว่าเขาไม่ได้ปรารถนาเช่นนั้นเลย ด้วยเหตุผลของความลับเกี่ยวกับตัวของสีเลี่ยเฟิง
คงมีแต่เธอเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่คิดไปเองว่ามีเพียงสีฉางมู่เท่านั้นที่รักใคร่ในตัวน้องสาวเช่นเธอ เพราะความสัมพันธ์ที่แสนประหลาดแห่งสกุลสี เธอจึงเปรียบเสมือนคนแปลกหน้าในครอบครัว ความภักดีทุกอย่างที่สีเลี่ยเฟิงมอบให้จึงมีแด่พี่ห้า แต่แล้วความจริงก็ไม่ต่างไปต่างจากคนอื่น สีฉางมู่มิได้ไยดีในตัวเธอเท่าไร หรือที่ผ่านมาเขาก็มองเห็นเธอเป็นแค่ตัวน่ารำคาญ เมื่อสิ่งที่เธอพยายามทำไร้ผล สีเลี่ยเฟิงก็พร้อมจะใช้ชีวิตอย่างที่ทุกคนต้องการ เป็นเพียงกบน้อยที่โลกแคบๆในก้นบ่อไปวันๆ
ถ้าหากสีฉางมู่จะรู้ว่าที่ผ่านเขาหลอกตัวเองเสมอมา เขาจะไม่ปฏิบัติกับสีเลี่ยเฟิงอย่างนั้น มันยุติธรรมแล้วหรือที่ทุกคนพอกันเย็นชาต่อสีเลี่ยเฟิงเพียงเพราะชาติกำเนิดที่ทุกคนในสกุลสีล้วนแต่รู้ดีว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกลวง ใช่แต่สีเลี่ยเฟิงเท่านั้น ทุกคนรวมทั้งตัวเขาเองก็ไม่มีคนสักที่เป็นคนสกุลสีอย่างแท้จริง ทว่าในตอนนี้สีฉางมู่ได้เรียนรู้แล้วอะไรคือความต้องการที่แท้จริงที่ร่ำร้องไม่ให้เขาหันหลังให้กับแผ่นดินหนานหลิงอย่างที่เคยตั้งปณิธานไว้ นั้นก็คือสีเลี่ยเฟิงเพียงคนเดียว
คนเราล้วนมีชะตาที่พลิกผันไม่รู้จบ วันนี้รุ่งเรือง พรุ่งนี้ตกต่ำ ชีวิตของสีเลี่ยเฟิงก็คงเป็นเช่นนั้น สกุลสีที่ครั้งหนึ่งประดุจผู้วิเศษแต่กลับต้องมาสิ้นสลายไปในชั่วพริบตา จากความเชื่อที่แสนงมงายของใครบางคน วันที่คืนที่ปวดร้าวเปลี่ยนสีเลี่ยเฟิงที่เคยงดงามราวนางฟ้าให้แปรเปลี่ยนเป็นแค่ซากร่างกายที่ยังมีลมหายใจ แต่หากเลือกได้สีเลี่ยเฟิงก็ขอจบชีวิตลงเสียจะดีกว่า ถ้าไม่เพราะกำลังใจจากสีฉางมู่ผู้ไม่ยอมให้เธอปล่อยตัวเองให้หลุดลอยไปตามชะตากรรม
นับจากนี้แผ่นดินหนานหลินจะไม่มีคนสกุลสีอีกต่อไป เมื่อมันไม่ใช่ของทั้งเขาและสีเลี่ยเฟิง โซ่ตรวนที่พันธนาการคนทั้งตระกูลเอาไว้ด้วยคำว่าสกุลสีที่เลื่องลือจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง มันเป็นเหมือนตราบาปที่พรากทุกอย่างไปจากเขาและสีเลี่ยเฟิง มันอาจจะเคยนำความรุ่งเรือง ความสุขมาให้ แต่มันก็แอบซ่อนน้ำตาและคราบเลือดเอาไว้เสมอ ทว่าที่สุดแล้วผีแห่งคำว่าสกุลสีก็ไม่อาจทำให้สีฉางมู่โบยบินดั่งอินทรีไปพร้อมกับกบน้อยสีเลี่ยเฟิงได้ตามใจปอง เพราะนี้หนานหลิน แผ่นดินที่ต่อให้ทิ้งบาดแผลไว้ให้สีเลี่ยเฟิงเท่าใด เธอก็ปรารถนาจะปกป้องมัน
คำทำนายที่เคยทำลายสีเลี่ยเฟิงลงก็คงเป็นเพียงตำนาน เธอไม่เคยปรารถนาสิ่งใดเลยในแผ่นดินหนานหลิน สีเลี่ยเฟิงไม่โลภมากขนาดนั้นหรอก หนึ่งเดียวที่เธออยากได้มาครอบครองคือการได้เคียงข้างพี่ห้าของเธอเท่านั้น วิบากกรรมที่แปรเปลี่ยนยอดหญิงคนหนึ่งที่เคยงดงามฉูดฉาดบาดตา บาดใจ เต็มไปด้วยวาสนา บารมี มาเป็นเพียงหญิงที่ไร้ชื่อแซ่ที่จะบอกกล่าวได้เต็มปากว่าเธอคือสีเลี่ยเฟิง นักโทษคดีสำคัญ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว และถ้านับว่าสิ่งที่เธอเผชิญแล้วผลที่ได้รับคือการได้ครองคู่กับสีฉางมู่ เธอก็ยินดี ไม่ว่านับจากนี้เธอจะเป็นใครก็ตามที
สีฉางมู่เคยปรารถนาจะโบยบินออกไปสู่ดินแดนอันแสนกว้างใหญ่ ไปสู่การเป็นที่ยอมรับของผู้คน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจสลัดคำว่าหนานหลินออกจากชีวิตได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นยอดปณิธานของเขาอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เขาปรารถนามีเพียงสีเลี่ยเฟิงอยู่ข้างกายเท่านั้น คนสกุลสีแห่งหนานหลินอาจจะเคยรุ่งเรือง ตกต่ำ หรือในอนาคตจะเป็นเช่นไร ก็สุดแล้วแต่สวรรค์จะลิขิต หากแต่ตอนนี้สีฉางมู่รู้ดีว่า จะไม่มีใครบนแผ่นดินหนานหลินที่ไม่จารจำสีเลี่ยเฟิง
เป็นหนึ่งในชุดซีรียส์สกุลสีค่ะ ใครอ่านมาก็คงรู้จักดีว่าออกตั้งแต่หลงเงานาง มายานาง และเล่มที่สามจารจำนาง แต่ถ้าอ่านจบจำแล้วได้อ่านบันทึกท้ายเล่มของคนเขียน ความจริงต้องเรียงเช่นนี้ หลงเงานาง จารจำนาง มายานาง และปิดชุดด้วยเล่มสุดท้ายที่ยังไม่ออกมาค่ะ ก็รอกันไปนะคะว่าออกมาครบสี่เล่มก็ครบชุดสกุลสี สี่แคว้น
นิยายของอวี๋ฉิงชุดนี้บอกได้เลยว่าซับซ้อนซ่อนนัยกันเหลือเกินค่ะ อ่านไปก็ยังไปในบ้างช่วงเลยนะคะ 5555เรื่องนี้เริ่มด้วยการพูดความยิ่งใหญ่ของสกุลสี ที่เปรียบประดุจผู้พิทักษ์แผ่นดินหนานหลิน หากมีคนสกุลสีอยู่แผ่นดินก็สงบสุข แต่มันก็แปลกบางประการ เมื่อตอนนี้สกุลสีมีพี่น้องหกคน แต่ลูกชายคนห้าที่เกิดจากภรรยานอกสมรสซึ่งเป็นคนชั้นต่ำไม่ได้รับการยอมรับ ทั้งๆที่เก่งกาจเรื่องพิชัยยุทธ์ จะมีเพียงแต่คุณหนูหกเท่านั้นที่รักใคร่พี่ชายคนนี้ เป็นเหมือนคนรับใช้ส่วนตัว เพราะพี่ชายคนนี้ตามัวมองอะไรไม่ชัดเจน คุณหนูหกที่เป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิไม่เคยยอมใครยกเว้นแค่พี่ชายคนนี้
จากความที่เป็นที่รักใคร่เป็นพิเศษ คุณหนูหกจึงมีศัตรูไม่น้อย แต่เธอไม่เคยสนใจใคร หากแต่คนที่เธอทุ่มเทความสนใจก็เหมือนจะไม่สนใจเธอตอบ แม้จะรู้ดีว่าน้องสาวคนนี้ปรารถนาดี เพราะความลับบางอย่างของนางเอกทำให้ทุกคนในสกุลสีไม่อยากสนิทสนมด้วย และเมื่อนางเอกได้รู้ว่า คงเป็นเธอที่ละเมอเพ้อพกไปเอง เธอจึงยอมหันหลังให้กับความผูกพันธ์ที่คิดไปเองคนเดียว
แต่มันก็เป็นแค่เรื่องหลอกตัวเอง เพราะเธอยังคงสนใจติดตามข่าวสารของพี่ชายคนนี้เสมอมา และไม่คิดว่าเธอจะได้รู้จักเขาในอีกรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งความรู้สึกของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปเช่นกัน หากแต่ความเป็นคนสกุลสีก็เหมือนเป็นดาบสองคม เมื่อคำทำนายที่ถูกกุขึ้นเพื่อการช่วงชิงอำนาจทำให้นางเอกต้องประสบเคราะห์กรรมหนักหนาสาหัส แทบจะล้างผลาญสกุลสีให้สิ้นไป จนนางเอกก็ทอดอาลัยในชีวิตตัวเอง ถ้าไม่เพราะแรงใจจากพระเอก เธอคงปล่อยตัวเองให้ตายไปแล้ว และหายนะที่เกิดขึ้นก็ทำลายทุกกำแพงที่กั้นขวางนางเอกกับพระเอกจนหมดสิ้น
ถึงแม้ว่าแผ่นดินเกิดจะทำลายทุกอย่างของนางเอกไปจนหมด แต่เธอก็ปล่อยให้มันสูญสิ้นไปทั้งๆที่เธอรู้ดีว่าพระเอกมีความสามารถพอ เธอก็เหมือนคนสกุลสีคนอื่นที่ภักดีต่อแผ่นดิน และมันก็ทำให้พระเอกยอมทำทุกอย่างเพื่อนางเอก แต่จะไม่มีอะไรกักขังความเป็นอิสระของทั้งสองคนได้อีกแล้ว
สมกับความเป็นนิยายอวี๋ฉิงค่ะ อ่านจบยังมึนอยู่เลยนะคะเนี่ย บางนัยที่ซ่อนเอาไว้ ตอนนี้ยังแกะปมไม่ออกค่ะ มีงงตลอดๆ แต่ก่อนจะพูดอะไร ขอพูดประเด็นสำคัญก่อน อ่านมาจะรู้ว่าพระเอก นางเอกเป็นพี่น้องกันใช่ไหมคะ ใช่แล้วค่ะ แต่แท้จริงไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ ไม่ใช่ญาติพี่น้องกันด้วยซ้ำ แต่เพราะอะไรสองคนนี้ถึงต้องกลายเป็นพี่น้องกันต้องอ่านเองค่ะ ต้องบอกประเด็นนี้ก่อนเดี๋ยวจะรู้สึกว่ารับไม่ได้เรื่องที่พี่น้องรักกันเอง ฟีน่าเองอ่านไปบ้างช่วงยังรู้สึกแปลกๆเลยค่ะ
พระเอกในเรื่องเป็นคนฉลาดอย่างเห็นได้ชัด เสียแต่เขาหน้าตาธรรมดาเหลือเกิน แถมตาก็มัว ต้องพึ่งพานางเอกอีกต่างหาก แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปด้วยพิธีกรรมประหลาดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเปลี่ยนหน้าตาคนหรือข้อบกพร่องในคนได้ และดูเหมือนจะเย็นชานิดๆ ดูแทบไม่ออกว่ารักนางเอก เอ็นดูนางเอกแค่ไหน หรือเพราะความลับของนางเอกทำให้เขารักใคร่นางเอกไม่ลงไปเหมือนที่พี่ๆทุกคนต่างก็เย็นชาและห่างเหินกับนางเอก แต่เท่าที่อ่านไป พระเอกก็น่าจะไม่ต่างกัน เพราะเขาโทษตัวเองว่าทำไมถึงปล่อยให้มันเป็นความผิดของนางเอกที่ทำให้ทุกคนไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนางเอก ในเมื่อนางเอกไม่เคยรับรู้ความจริงของเธอเลย
จะมาเริ่มเห็นความรักของพระเอกก็เข้ากลางเรื่องไปแล้ว แต่นั่นล่ะก็ยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กๆที่มันจะรักกันได้หรือ ในเมื่อเราคิดเสมอว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องคนละแม่กัน ฟีน่าอาจจะเริ่มรู้สึกแล้วสองคนนี้ต้องไม่ใช่พี่น้องกัน แต่ใครละเป็นลูกเก็บมาเลี้ยง แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไร ก็เลยรู้สึกนิดหน่อย ดีอีกอย่างที่ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เปิดเผยออกมาเยอะจนกระทั่งความลับทุกอย่างของนางเอกและสกุลสีทั้งหมดแตกออกมา ก็เลยรับได้เรื่องความรู้สึกของสองคนนี้ค่ะ
สำหรับนางเอกจะต่างไปจากพระเอก เธอสวยบาดตาบาดใจ นิสัยใจคอไม่ยอมลงให้ใคร โผงผางมาก แต่มีคนรักก็ย่อมมีคนชังมากมาย รวมทั้งความลับของเธอเองก็ทำลายนางเอก จนเธอไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น สภาพที่นางเอกตกต่ำที่สุด เป็นอะไรที่น่าทรมานที่สุด เหมือนซากศพเดินได้ เธอต้องอดทนอย่างหนักจากจุดที่รุ่งเรืองสุดขีดมาเป็นเหมือนคนใกล้ตาย ยังดีที่เธอมีพระเอกประคับประคองชีวิตมาได้ ไม่ใช่นั้นก็ตายเสียยังดีกว่าอยู่ในทรมานแบบนั้น
ในชุดนี้ฟีน่าบอกได้เลยว่า ยังไงก็ยังชอบมายานางมากกว่าค่ะ เล่มนี้หวานไหม พูดได้ยากนะคะ ชะตากรรมแห่งสกุลสีทุกแผ่นดินจะต้องเจ็บปวดรวดร้าวพอกัน ใครจะต้องเจอวิบากกรรมอะไรไปบ้าง เล่มนี้นางเอกก็ยังต้องจัดอยู่ในความรู้สึกงอมพระรามไม่ต่างกัน ความหวานกว่าจะมาได้ เกือบเข้าไปท้ายเรื่องเลยค่ะ เพราะพระเอกเอาแต่หลบนางเอกตลอดเวลา เพราะรู้ใจตัวเองช้าไปหน่อย จะมากอบกู้ให้เห็นความหวานก็ก่อนช่วงที่นางเอกร่อแร่ล่ะนิดหน่อย นางเอกนี้หมดสภาพแทบไม่เหลืออะไรเลย ขนาดชื่อแซ่ตัวเองยังใช่ไม่ได้ เพราะถูกตัดสินว่าเป็นนักโทษประหารได้ตายไปแล้ว เธอจึงเหมือนคนไร้ชื่อ ไร้สกุล แม้ว่าตอนท้ายมลทินจะถูกล้างไป แต่ก็คืนกลับมาเป็นคนเดิมไม่ได้ เนื้อเรื่องมันออกจะหนักและดราม่าเอาการค่ะ ความหวานเลยมีน้อยไปหน่อยหนึ่ง
แต่ในแง่ความจริงจัง ยังเป็นนิยายตามทางอวี๋ฉิงค่ะ พระเอกจะสอนนางเอกไม่ให้ยอมแพ้ต่ออุปสรรคทั้งปวง แต่ให้นางเอกจะไม่เป็นที่ต้องการของใคร หรือถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่สมควรตาย เขาก็ต้องฟื้นฟูนางเอกขึ้นมาใหม่ และมันก็ไม่สำคัญว่านางเอกจะเป็นใครอีกแล้ว เขาจะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังแล้วพานางเอกรอนแรมไปในโลกอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีคำว่าสกุลสีมาคอยชักเชิดชีวิตทั้งสอง
แต่นั่นล่ะก็เป็นไปไม่ได้ เพราะจะยังไงก็ตามที่ นางเอกก็ยังไม่อาจละทิ้งความรู้สึกลึกๆของตัวเองว่าต้องปกป้องแผ่นดินเกิด พระเอกที่รักนางเอกที่สุดก็คงต้องทำตามที่นางเอกปรารถนา เราจะเห็นเลยว่าสำหรับพระเอกแล้ว อะไรก็ตามทีที่นางเอกต้องการเขาจะทำให้ทุกอย่าง แม้จะฝืนใจตัวเองเพราะเขาไม่คิดเหมือนนางเอก เขารักแต่ตัวนางเอก แผ่นดินไร้ความหมายไปแล้วตั้งแต่ที่ตอบแทนนางเอกด้วยความตาย
อ่านไปก็คิดว่าเกิดเป็นคนสกุลสีแบบนางเอก พระเอกไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แม้จะรุ่งเรือง มีคนยำเกรง แต่ท้ายที่สุดก็สูญสิ้นได้ง่ายดายเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อสกุลนี้เปรียบเหมือนทั้งเทพและมารในคราเดียวกัน น่าไว้วางใจและน่าหวาดระแวงที่สุด แม้แต่นางเอกที่ไม่น่ามีพิษภัยก็ยังถูกคำทำนายจัดการได้แบบนี้ วังวนอำนาจเป็นอะไรที่น่ากลัวเสมอ เป็นคนที่จงรักภักดีที่สุดก็จบชีวิตได้จากเรื่องที่เล่าขานเป็นตำนานเท่านั้น
ทั้งๆที่เรื่องนี้ความน่าสนใจของฟีน่าควรจะไปอยู่ที่พระเอก นางเอก กลับดันไปติดใจตัวเซี่ยอ๋อง เขาอาจจะไม่ได้ฉลาดแบบพระเอก แต่ความน่าสนใจของเซี่ยอ๋องคือเขาเป็นคนที่รักนางเอกเสมอมา แม้ท้ายที่สุดสิ่งที่เขารักที่สุดจะไม่ใช่นางเอก แต่เป็นแผ่นดินก็ตามที แต่เป็นตัวละครที่สีสันมาก รักก็รัก เกลียดก็เกลียด และเจ็บปวดบาดลึกที่สุด ไหนจะความลับระหว่างเขาและเธอที่มันทำเช่นไรก็รักกันไม่ได้ และเมื่อท้ายที่สุดเขาเองเป็นคนมอบความตายให้นางเอก ยังดีที่เธอไม่ตายไป เซี่ยอ๋องจึงรู้สึกผิดบาปในหัวใจมากที่สุด จะว่าไปเซี่ยอ๋องเป็นตัวละครที่มีบทบาทกว่าพระเอกด้วยซ้ำสำหรับฟีน่า รักนางเอกไม่ต่างจากพระเอก แต่ไม่มีวันที่จะได้ครอบครองเธอ ท้ายที่สุดก็ต้องไถ่โทษให้กับนางเอกด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ จนฟีน่าคิดเลยว่าปณิธานที่เซี่ยอ๋องคิดไว้ว่าอยากกลับชาติมาเกิดเป็นคนรักของนางเอก แต่เขาก็คงไม่อาจสู้พระเอกได้ จึงขอเป็นแค่พี่ชายก็ยังดี เหมือนจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในมายานางยังไงไม่รู้ค่ะ และตัวของเซี่ยอ๋องก็ทำให้รู้สึกว่า จารจำนางเนี่ยควรเป็นความรู้สึกของเซี่ยอ๋องที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรต่อไป เขาจะจารจำนางไว้ในความทรงจำจนวันตาย เขาจะไม่มีวันได้พบหน้านางเอกอีกต่อไปนับจากวันที่เขาผลักเธอไปสู่ความตาย แทนที่จะปกป้องเธอ
สำหรับคนมองหานิยายที่ออกแนวล้ำลึกเรื่องความสัมพันธ์ของผู้คน น้ำใจที่ยากหยั่งถึง ชะตาของมนุษย์ที่พลิกผันไปมาเหมือนจะเล่นตลกกับคนหนึ่งคน เล่มนี้เป็นเช่นนั้นค่ะ แต่ความหวานของนิยายมีไม่มากนัก มาในตอนท้าย อาจจะไม่หวานเลี่ยน แต่จะออกแนวรักที่ยอมทุกอย่างให้คนที่ตนรักได้ จะให้บุกป่าฝ่าดง ลำบากลำบนแค่ไหน หรือฝืนใจก็ทำได้ เพียงเพราะเธอคนเดียวเท่านั้น ความผาสุขของทั้งสองอาจจะไม่ได้อย่างรวดเร็วเท่าไร แต่เมื่อขจัดอุปสรรคต่างๆได้ ก็นับว่าราบรื่นอยู่ ความสนุกอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าพอได้ ไม่ได้น่าเบื่อแต่ดราม่ามากสักหน่อยค่ะ แต่ที่ชอบสุดคือปกสวยมาก ควรค่าแก่การมีไว้ในครอบครองนะคะ แฟนอวี๋ฉิงยังไงก็ควรอ่านค่ะ เพื่อให้รู้เรื่องของสกุลสีในอีกแคว้นเอาไว้ค่ะ จะได้ครบถ้วนสมบูรณ์