หากไม่นับมารดาอันเป็นที่รัก นาฏศิลป์ไทยคืออีกสิ่งที่กังสดาลรักรักจับใจ อาชีพนางรำอาจไม่ได้มอบเงินทองมากมายให้เธอ หากมันมอบความสุขที่นับคุณค่าทางจิตใจมิได้ และมันกำลังจะนำพาบางอย่างมาให้แด่กังสดาล ความรักที่สวยงาม อ่อนหวาน อย่างที่เธอปรารถนา
ฉัตรชนกก็เมื่อชายหนุ่มทั่วไป เขารู้จักแต่ธุรกิจ ส่วนนาฏศิลป์ไทยคือความว่างเปล่าที่เขาไม่คุ้นเคย หากแต่เมื่อแรกได้เฝ้ามองฉุยฉายพราหมณ์คนงามที่สะกดใจเขาได้อยู่หมัด ฉัตรชนกก็ตอบตัวเองว่า นี้ล่ะคือผู้หญิงที่เขาเฝ้ารอคอย หากแต่ความเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบของเขา อาจจะกลายเป็นอุปสรรคระหว่างเขาและกังสดาล
ทั้งๆที่ฉัตรชนกไม่ใช่คนผิดในเหตุการณ์แรกที่ได้พบเจอกัน แต่เพราะสิ่งใดที่เหมือนกำแพงกั้นขวางให้เธอหวาดระแวงบางอย่างในไมตรีของฉัตรชนก อาจเป็นเพราะภาพจำแต่วัยเยาว์ ครอบครัวที่แตกร้าว บิดาผู้ไม่เคยซื่อสัตย์ และยิ่งได้รู้ว่าโลกใบนี้แสนกลมยิ่งนัก เมื่อคนที่แย่งชิงบิดาของเธอไปกลับกลายเป็น ญาติสนิทของฉัตรชนก เช่นนี้แล้วหนทางเดียวที่จะรักษาความสุขของเธอและแม่คืออยู่ให้ห่างจากฉัตรชนก
เมื่อรู้ว่ารัก ฉัตรชนกก็ไม่ย่อท้อ สำหรับเขาต่างไปจากกังสดาล ชีวิตที่เติบโตมาด้วยรักที่เต็มเปี่ยม เขาพร้อมจะมอบมันให้กับกังสดาล และยิ่งได้รู้ว่า อดีตของกังสดาลต้องเจ็บปวดเพราะใคร เขาก็ยิ่งต้องทำให้เธอเชื่อมั่นว่า ผู้ชายเช่นเขาดีพอสำหรับเธอ ฉัตรชนกอาจจะเกลียดบิดาของกังสดาล หากเขาเลือกที่จะรักเลือดเนื้อเชื้อไขคนที่เขาชิงชัง เพราะลูกไม้เช่นกังสดาล หล่นและเติบโตไกลต้นยิ่งนัก
เพราะความดีและความรักของฉัตรชนก กังสดาลจึงไม่อาจห้ามใจไม่ให้อ่อนไหวและยอมรับว่ากำแพงที่เธอสร้างเป็นเพียงแค่กำแพงแก้วที่แสนบอบบาง ที่พร้อมจะปริแตกพังทลายได้ทุกเมื่อเพียงเพราะฉัตรชนก ในสายตาคนอื่นๆ เธออาจเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่ได้หัวใจของผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเช่นเขา หากแต่กังสดาลแล้วเธอไม่ได้รู้สึกว่าโชคดีที่ได้รักจากผู้ชายที่ร่ำรวย หล่อเหลา เพราะความมีเกียรติในรักต่างหากที่ทำให้เธออิ่มเอมใจ
ไม่ต่างไปจากฉัตรชนก กังสดาลอาจจะไม่มีอะไรเทียบเขาได้ เมื่อเธอเป็นเพียงแค่นักศึกษาฐานะแสนธรรมดา ทว่าทุกองค์ประกอบที่เป็นกังสดาลคือตัวตนที่เขารัก ผู้หญิงที่ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนไป ท่วงท่าลีลาแช่มช้อยแห่งการร่ายรำมัดใจเขาไว้ได้เพียงแรกพบ หากยิ่งค้นพบตัวตนของเธอยิ่งทำให้เขารัก ทุกข์โศกในชีวิตที่เธอเคยต้องประสบหรือจะพานพบในอนาคต ฉัตรชนกก็จะสาบานว่าเขาจะขจัดปัดเป่ามันไปจากหัวใจของแม่ยอดรัก
เรื่องเป็นเรื่องที่ฟีน่าบังเอิญผ่านไปเจอในเวบเด็กดี แต่ครั้งนั้นใช้ชื่อว่านาฏ..รักค่ะ เห็นชื่อว่าแปลกดีและคิดว่าต้องเกี่ยวกับนาฏศิลป์ไทยแน่เชียวเลยแถเข้าไปอ่าน แต่น่าเสียดายที่เขาลบไปหมด แต่วาสนาของฟีน่ากะนิยายคงต้องกัน เพราะคนเขียนก็เอามาลงอ่านให้อ่านใหม่จนจบ ฟีน่าเลยได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ และแอบเชียร์อยู่ในใจว่านิยายเรื่องนี้น่าจะได้พิมพ์เป็นเล่มนะ แหวกกระแสนิยายตบจูบฉุดกระชากลากถูกบ้างก็คงดี เอาไว้เบรกอารมณ์นิยายแรงๆบ้าง มันอาจจะเรื่อยๆไปบ้างแต่ก็มีอะไรบ้างนะ เล่มนี้พอเห็นว่าผ่านสนพ.ฟีน่าเลยออกตัวเป็นแม่ยกสักหน่อยค่ะ ก็สมกะแนวนิยายต้องมีแม่ยกติดพวงมาลัยกันหน่อย
กลับมาเรื่องย่อแบบสปอยส์กันอีกดีกว่า เป็นแนวนิยายขนบโบร่ำโบราณ นางเอกแสนสวย งามพร้อม เป็นนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ไปทำงานพิเศษที่โรงแรม เกิดไปถูกตาต้องใจท่านประธานโรงแรมเข้า หากแต่การเข้าหาและนำพาตัวเองมาให้นางเอกไม่ใช่การยื่นข้อเสนอหน้าตบว่ามาเป็นอีหนูให้ฉัน เพราะพระเอกเรียกได้ว่าตกหลุมรักเสียมากกว่า ปณิธานเดียวในหัวคือเอามาเป็นแม่ของลูก จึงให้เกียรตินางเอกค่อนข้างมาก หาก
แต่การพบเจอครั้งแรกที่ทำให้นางเอกรู้สึกขวางๆพระเอกที่คอนเซปต์รูปหล่อ พ่อรวย สาวตรึม เธอเลยไม่อยากยุ่งด้วย อดีตของพ่อทำให้เธอไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชาย แต่งานนี้เขาเรียกรักแท้แพ้ความดี นางเอกหมั่นไส้นิดๆ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะพระเอกคือเจ้านายก็เลยได้แต่ฮึดฮัดไปแม้หัวใจจะอบอุ่น อย่างที่บอกว่าแพ้ความดีเข้า เมื่อพระเอกไม่เคยล่วงเกินหรือลวนลามอะไร ซ้ำยังดีกับเธอสุดๆแบบนี้ มีหรือจะไม่หวั่นไหว แต่สิ่งที่ติดในใจเล็กๆคือ พ่อของนางเอกกลับกลายเป็นอาเขยของตัวพระเอก แต่ก็ไม่มีอะไรมากมาย เพราะพ่อนางเอกเป็นพ่อแบบนิสัยไม่ดี ซึ่งไม่ได้ทำให้พระเอกรู้สึกว่าเกลียดพ่อต้องเกลียดลูกเพราะแม่นางเอกเขาเลี้ยงลูกมาดี ผิดพ่อมากมาย ความรักที่ดูราบรื่นไร้อุปสรรคก็อาจมีเรื่องราวนิดหน่อยให้สอนใจว่า ความรักก็ทำให้คนตาบอดพอๆกับความโลภได้ รักนี้จึงแฮปปี้เอนดิ้งแบบไร้นางเอกอิจฉา ดราม่าน้ำตารินค่ะ
เคยบอกกันตั้งแต่ปกออกมาว่าเล่มนี้ฟีน่าแนะนำให้หามาลองอ่านกัน แต่เล่มนี้บอกกันตรงไปตรงมาว่าเหมาะกับคนที่ชอบอ่านนิยายแนวหวานๆ ใสๆ ไม่มีปมอะไรมากมาย ไม่ต้องการแนวจบจูบ ดุเดือดเลือดพล่านนะคะ พระเอกแบดบอยไม่มี นางเอกขี้งอนก็ไม่เป็นค่ะ เป็นความรักแบบราบรื่นไร้คลื่นลมมรสุมค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าน่าเบื่อล่ะนิยายแบบนี้ ฟีน่าเลยขอบอกก่อนนะคะ เพราะรสนิยมไม่เหมือนกัน
พระเอกอย่างคุณนกเป็นผู้ชายในอุดมคติที่สาวๆอยากได้ และอาจจะมีแค่ในนิยาย เพราะเขาเป็นคนที่โตมากับครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุภาพบุรุษมาก อาจจะเหมือนหนุ่มๆทั่วไป มีสาวๆมาติดพัน หากแต่รู้จักการให้เกียรติผู้หญิงมาก พระเอกตกหลุมรักนางเอกตั้งแต่แรกพบที่เธอมารำในโรงแรมและปักใจจองเธอ เป็นแบบอย่างของผู้ชายที่ให้เกียรติว่าที่แม่ของลูกมากๆ ค่ะ
ปกติเราก็ชอบพระเอกเลวๆ แบดบอยนะคะ มีรสชาติดี แต่มาเจอพระเอกแสนดีแบบนี้ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างค่ะ คุณจะไม่เจอมุกกระชากนางเอกมาจูบ ปลุกปล้ำเลยแม้แต่น้อย กว่าพระเอกจะได้หอมแก้มนางเอก จำไม่ได้แล้วว่าตอนไหน แต่นานพอควรเลยล่ะ เพราะเขาบอกว่าเคารพในเกียรติของนางเอก แต่ใช่ว่าพระเอกจะเป็นคนจืดชา จริงๆพระเอกเป็นคนมุกเยอะ ขี้เล่น จนนางเอกตามมุกไม่ทัน ไม่คิดว่าประธานโรงแรมจะมีนิสัยแบบนี้ คงจะเป็นเพราะว่าการเลี้ยงดูพระเอกค่ะ ซึ่งตรงนี้ล่ะ เป็นเสน่ห์แบบเรียบง่าย แสนดีของคุณนก มีงอน มีน้อยใจบ้างตามประสา หากแต่เขาก็ไม่เคยเป็นผู้ชายเอาแต่ใจ สะบัดหน้าหนีนางเอกเลย รักของเขาคือการได้ดูแลนางเอกเท่านั้น
สำหรับนางเอกก็อย่างที่บอกว่าเธอเป็นภาพลักษณ์ของนางเอกแบบรุ่นเก่าก่อน งามพร้อม แต่ต้องมาในคราบหญิงสาวที่ฐานะปานกลาง ในสายตาทุกคนนางเอกจะเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน น่ารัก แต่กับพระเอก นางเอกจะมาในรูปของการพยศนิดๆ ดื้อๆบ้าง ไม่งั้นถ้าอ่อนหวานเข้าหาคงจะทำให้เนื้อเรื่องดูเรียบเรื่อยเกินไปค่ะ เธอมีปมเล็กๆ ในใจเรื่องผู้ชายและความซื่อสัตย์ของชีวิตครอบครัวของตัวเอง หากแต่เมื่อยอมรับว่ารักพระเอก เธอก็เป็นตัวของตัวเองกับพระเอกมากขึ้น ดูบอบบาง น่าทนุถนอมที่พระเอกต้องคอยดูแลให้สมกับความรัก
ตอนเพราะว่าเคยอ่านไปก่อนจนจบเรื่องแล้ว แต่เป็นการอ่านแบบบนออนไลน์ ฟีน่าเป็นคนนิสัยไม่ดีชนิดหนึ่งคือจะอ่านผ่านๆ ไม่เคยจับอะไรเลย ยกเว้นมันเห็นชัดๆ ตอนมาอ่านเป็นเล่มจึงจะมีอะไรเม้นท์ๆบ้างค่ะ แต่ตอนนี้ขอพูดในจุดที่ชอบก่อน
ข้อแรกที่ฟีน่าชอบคือการนำเสนอนาฏศิลป์ไทย นานมากแล้วที่ไม่มีนิยายแนวนี้มาให้ท่ามกลางกระแสนิยายแรงๆ จนบางครั้งก็คิดกับตัวเองว่า ฉันอยากเบรกความรู้สึกแรงๆ ขออะไรหวานๆเย็นๆบางเบาใจบ้างได้ไหม เล่มนี้ล่ะเหมาะเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นของเรื่องก็เป็นพล็อตอมตะนิรันดร์กาล นางรำคนสวยในชุดแสนงาม หากแต่เรื่องไม่ได้จบแค่ฉากเดียว แต่ได้เล่าถึงความสวยและนาฏศิลป์อื่นๆให้เราได้รู้จัก สำหรับคนที่ชอบนาฏศิลป์ไทยแบบผิวเผินเช่นฟีน่า ก็อาจจะรู้จักบางอย่าง ไม่รู้จักบางอย่างและกระตุ้นความทรงจำที่หายไป อย่างเช่นเรื่องนี้จะพูดถึงบทละครร้องที่เป็นพระราชนิพนธ์เรื่องมัทนะพาธาเอาไว้ ตัวเองก็เคยอ่านตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ซึ่งนานมากจนกาพย์กลอนอะไรแทบไม่ได้เลย ยกเว้นแค่เรื่องราวโดยรวม เมื่อได้กลับมาอ่านกลอนที่ในเรื่องยกมาพูดถึงก็รู้สึกว่าภาษาไทยเรานี้สวยงามจริงๆ ฉันทลักษณ์ที่นำมาเขียนก็มากมาย ยิ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์จากพระมหาธีรราชเจ้าผู้ทรงเป็นเอกในด้านการวรรณกรรมด้วยแล้วอ่านแล้วสนุกมากจนอยากจะหาเล่มนี้มาอ่านใหม่ค่ะ แม้ว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยความเศร้า แต่อยากเสพย์ภาษาศิลป์ค่ะ
หลายคนอาจจะบอกว่าไม่รู้จักมัทนะพาธา แต่เชื่อเถิดว่า ต้องเคยได้ยินร้อยกรองบทนี้ค่ะ "...ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปะสัคคะใดใด..." นี้คือบทที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์ของเรื่องนี้เลยทีเดียว
สำหรับเรื่องนี้ฟีน่าประทับใจในเรื่องการนำเอานาฏศิลป์ไทยมาเป็นจุดของเรื่องค่ะ เพราะศิลปไทยมีอะไรที่งดงามล้ำค่าอีกเยอะ ฟีน่าอาจจะเป็นป้าเชยๆที่บางคนบอกว่าไม่รู้จักเปิดรับอะไรใหม่ๆ ก็เปิดนะคะ แต่เราเป็นพวกอนุรักษ์นิยม จับฟีน่าไปดูโขน ดูละครร้องจะเข้าใจกว่าส่งไปดูคอนเสิร์ตอะไรเสียอีกค่ะ
สำหรับแง่งามความรักของพระเอกนางเอก อาจจะดูเชยๆไปนิดสำหรับสังคมยุคใหม่ แต่มันเป็นแนวปฏิบัติในอุดมคติที่ผู้หญิงหลายคนก็อยากได้รับแบบนี้ ผู้ชายที่ไม่ปล่อยให้คำว่าแรงปรารถนาทางร่างกายเหนือกว่าจิตใจเลย ผู้ชายแบบนี้อาจจะมีแต่ในนิยายก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อเราเลือกที่จะให้พระเอกเป็นคนดีพร้อมในทุกองค์ประกอบฟีน่าก็ขอเลือกคนดีๆไว้สักคนค่ะ อย่างที่บอกว่าบางคนอาจจะติว่าอ่านแล้วจะหลับ พระเอกมันจะดีเว่อร์ไปไหน จะแสนดีไปหรือเปล่า หากแต่ถ้าอ่านแล้วจะเห็นว่ามาจากการสอนของครอบครัวว่า หากรักใครก็ต้องรักในเกียรติของอีกฝ่ายด้วย ผลของมันจึงออกมาในรูปแบบที่งดงามค่ะ พระเอกคำนึงว่าความเหมาะสมดีงามที่จะไม่ทำให้นางเอกต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ขนาดพาไปว่าที่เรือนหอ ยังไม่กล้าจะอยู่กันในที่รโหฐานกับนางเอก เพราะกลัวใจของตัวเองว่าจะทำอะไรนางเอกมากไปกว่านี้ ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่ติดที่ว่าต้องเคารพในตัวนางเอกด้วย ผู้ชายแบบนี้เหมาะสมที่เราควรเลือกมาเป็นพ่อของลูกมากๆเลยค่ะ ว่าแต่มันจะมีเหลืออีกไหม เพราะผู้ชายหลายคนที่ถูกสอนให้เอาเปรียบผู้หญิง
มุมบวกนิยายเรื่องนี้สำหรับฟีน่าจึงเป็นมุมของการพูดและนำเสนอแง่มุมดีๆค่ะ ส่วนมุมด้านมืดของคนก็มี จะเป็นการแสดงออกที่เห็นได้ชัด ก็คือตัวพ่อของนางเอก ผู้มีแต่สิ่งแย่ๆ เป็นผู้ชายที่เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว สนใจแต่ความสุขตัวเอง โลภ สารพัดจะมีแต่ความไม่ดี ประดุจสีดำเมื่อเทียบกับพระเอก เป็นการแสดงให้เห็นได้ง่ายดาย ซึ่งอาจจะไม่มีมิติมากนัก แต่ก็เข้าใจไม่ยากค่ะว่าผลสุดท้ายคนเลวจะได้รับกรรมเช่นไร
พูดถึงแง่ความชอบไปแล้ว มาพูดในการแนะนำสักหน่อยค่ะ ชื่อนางอิจฉาเชยมากค่ะ คือมันไม่เหมือนนิยายที่เขียนในยุคนี้เลย โฉมเฉลา ชื่อเช่นนี้มันเป็นชื่อที่สาวสมัยยุคสองพันน่าจะไม่มีใครใช้แล้ว ถ้ามีชื่อเล่นของเธอก็ควรเปลี่ยนให้เปรี้ยวจี๊ดสมเป็นนางอิจฉาค่ะ อ่านแล้วมันสะดุดหัวทิ่มตรงชื่อนี้ล่ะ ทำให้เรื่องนี้บางครั้งฟีน่าก็นึกถึงพวกนิยายป้าวลัย นวาระเลยค่ะ ชื่อของตัวละครมันย้อนกลับไปยุคเมื่อสักสิบหรือยี่สิบปีก่อนกันเลยทีเดียว
พอๆกับมุกหยิกแกมหยอกบางมุกที่มันตกยุคไปแล้วอย่าง โนเวย์สเตชั่น รุ่นฟีน่ายังทันใช้แต่ในเรื่องเป็นนิยายร่วมสมัยสองพันกว่า คำนี้เป็นมุกเก่าเก็บค่ะ ยิ่งผสมกับชื่อนางอิจฉา และคนเขียนไม่ใช่เด็ก ศัพท์บางคำจึงค่อนข้างเป็นศัพท์เก่าที่ฟีน่าน่ะชอบเพราะเป็นการใช้สำนวนที่ถูกต้อง อ่านๆไปบางครั้งก็เลยตอกย้ำความรู้สึกเมื่อกี้ไปกันใหญ่ค่ะ
ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้เครดิตสนพ.ประกอบด้วย แม้ว่าฟีน่าจะอ่านนิยายของสถาพรไม่ได้มากมายอะไรเพราะอ่านบางคน บางเล่มอ่านไปไม่ถูกใจบ่นมากมาย แต่สนพ.นี้จะไม่หลุดเรื่องสำนวนเพี้ยนๆ แปลกๆ ผิดๆออกมาค่ะ อย่างเช่นสำนวนว่าร้องแรกแหกกระเชอ บางเล่มเขียนเป็นร้องแร่แห่กระเฌอก็มี ทำเอาเราที่ว่าใช้สำนวนนี้ผิดมาก่อนยังปวดหัวยิ่งกว่ามีคนใช้ผิดว่าเราอีก ตรงจุดนี้ฟีน่าถือว่าการอ่านนิยายของสนพ.นี้จะได้ตรงเรื่องภาษาและสำนวนค่ะ
การเขียนแนะนำนาฏศิลป์มาในรูปของการเล่าที่ดูเรื่อยๆไปนิด ลูกเล่นมีค่อนข้างน้อย ถ้าหากใครไม่ชอบไม่สนใจอาจจะเปิดข้ามได้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นการใส่มาแบบทฤษฏีประหนึ่งตัดต่อมาจากหนังสือ แต่เพราะการเล่าของนิยายที่อยากให้ความรู้ แต่เป็นรูปของการบรรยาย บางครั้งคนที่ไม่ได้มีใจชอบเป็นพื้นฐานอาจจะไม่เข้าใจ
ส่วนฟีน่าอ่านได้อยู่เพราะค่อนข้างชอบ
อีกอย่างที่จะเม้นท์คือ พระเอกเป็นประธานโรงแรม แต่ดูแกว่างงานไปนิดค่ะ ไม่ค่อยติดงาน ติดการ ทำงานสักเท่าไร ในเรื่องธุรกิจของพระเอกเลยจะดูลอยๆไปหน่อย แต่มองในมุมนิยายรักก็โอเคค่ะ แต่ที่จะแปลกที่สุดในสายตาฟีน่าคือ นางเอกขึ้นไปห้องทำงานพระเอกได้ง่ายดายมากเกินไปค่ะ พระเอกเป็นระดับประธานโรงแรม แค่คุณจะเจอตัวก็ยากแล้ว นี้ขนาดจะไปหาบนห้องเพื่อเอาของไปคืนนี้เป็นไม่ได้ง่ายๆค่ะ แต่นางเอกทำไปแล้ว ไม่เจอใครเลย แล้วนางเอกทราบได้เช่นไรว่าพระเอกอยู่ห้องไหน ตรงไหน จะถามประชาสัมพันธ์ก็คงไม่บอก เพราะนางเอกเป็นแค่คนทำงานพิเศษของโรงแรม จุดนี้เป็นจุดที่ฟีน่าว่าไม่ใช่ไปนิดค่ะ
รวมทั้งการที่พระเอกให้นางเอกช่วยดูงานเอกสารให้ ตรงนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้อีก แม้จะค่อนข้างรู้สึกพิเศษกับนางเอก แต่งานของโรงแรมก็ยังถือว่าเป็นความลับที่ปกติแล้วจะไม่ให้ใครมายุ่ง แม้คนๆจะเป็นคนที่เรารู้สึกพิเศษด้วย อันนี้ฟีน่ามองในมุมคนทำงานบริษัทนะคะ เป็นคนที่ค่อนข้างถือในเรื่องงานของตัวมากว่า งานจะห้ามไม่ให้คนในครอบครัวมาช่วยเลย เพราะทุกอย่างคือความลับของบริษัท แต่เอาเป็นว่าตรงนี้ยกประโยชน์ไปว่าพระเอกหาข้ออ้างให้นางเอกอยู่ใกล้ๆ
แต่โดยรวมเรื่องนี้สำหรับฟีน่าถือว่าโอเคค่ะ อาจจะมีอะไรหลุดไปบ้าง แต่เท่าที่อ่าน ฟีน่าให้ความชอบในแง่ของการเขียนนิยายที่ไม่ใช่นิยายแนวตลาด แต่ยังมีอะไรมากกว่านั้น มีการนำเสนอนิยายในอีกแบบหนึ่งที่มาในรูปของความอ่อนหวานของความรักและการนำเสนอนาฏศิลป์ไทยที่ไม่ใช่แค่นางเอกมารำๆ แล้วบอกว่าเป็นนางรำคนเก่ง แล้วก็ไม่ได้นำเสนออะไรอีกเลย แล้วจะเป็นนิยายนำเสนอศิลปไทยไปแล้ว แต่เล่มนี้ยังมีการพูดถึงไปอีก และพูดถึงในมุมของคนที่ชอบและอยากถ่ายทอดจริงๆไม่ใช่เป็นนิยายรายงานตัดแปะแบบนั้นค่ะ ใครอยากลองแหวกกระแสนิยายร้อนแรง ก็น่าลองนิยายเล่มนี้นะคะ อาจจะโดนใจก็ได้ค่ะ