-'@'-Journey Of Love-'@'- เมื่อหัวใจเดินทาง
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 กรกฏาคม 2553
 
 
Türkiye..Turkey..มีดีแค่ไหน (ตอน 2)

คำถาม : ประเทศนี้มีอะไรหน้าสนใจถึงต้องไปกัน
คำตอบ : นั่นสินะ มีอะไรดี ถ้าไม่ดีจะต้องเสียเงินไปทำไม

ทุกประเทศล้วนแต่มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน แต่สิ่งที่จะได้รับเหมือนกันก็คือ "ประสบการณ์" Open Your Eyes, Open Your Mind and Get the Big Experience..ทุกวันนี้ประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับมนุษย์ยุคโลกาภิวัฒน์ไปแล้ว ยิ่งอยู่การอยู่ในสังคมที่ต่างต้องมีการอัพเกรดตัวเองแล้ว คงบอกไม่ได้ว่า การผ่านการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าการเดินทางนั้นจะเป็นไปในรูปแบบไหนก็ตาม ต่างก็ถือเป็นมีส่วนช่วยในการยกระดับตัวเองขึ้นมาด้วย

ประเทศตุรกีอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้???
- อย่างที่เกริ่นนำไปเมื่อตอนที่แล้วว่า เป็น 1 ประเทศ 2 ทวีป เพราะฉะนั้นมันต้องอยู่แถวๆ ชายเขตทวีปติดกัน คือยุโรปและเอเชีย ในสมัยก่อนเรียนวิชาสังคมศึกษา อาจารย์บอกว่า ภูเขาที่แบ่งระหว่างเอเชียและยุโรปคือ "คอเคซัส" ซึ่งเป็นภูเขาสูงทางตอนใต้ของรัสเซีย แต่ไม่บอกให้ครบว่า ประเทศนี้ก็อยู่ในจุดแบ่งทวีปเหมือนกัน มารู้จักชื่อประเทศตอนที่เรียนจบไปเรียบร้อยแล้ว


แต่ถ้าท่านใดที่ชอบอ่านหนังสือแนวประวัติศาสต์อารยธรรมตะวันตก วรรณกรรม นวนิยาย นิยาย นิทาน อาจจะได้ยินชื่อเมืองโบราณต่างๆ โผล่ออกมาให้นั่งจินตนาการอยู่เรื่อยๆ เช่น อัสซอส Assos, ทรอย Troy, เพอร์กามอน Pergamon, เอเฟซุส Ephesus, เปรียน Priene, โอลิมปุสOlympus, คิเมร่า Chimeira, ฮัตตูชา Hattusas, เพอร์เก้ Perge, แอสเพนดอส Aspendos นี่เฉพาะที่คนไทยพอจะได้ยินมาบ้าง แถมบางเมืองยังดังไปทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่องดัง

ภูมิศาสตร์ของประเทศตุรกี มีพื้นที่ประมาณ 783,562 ตร.กม. และมีประชากรประมาณ 71.89 ล้านคน
ทิศเหนือ ติดทะเลดำ
ทิศใต้ ติดอิรัก ซีเรีย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ทิศตะวันออก ติดจอร์เจียและอาร์เมเนีย
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดบัลแกเรียและกรีซ

เมืองหลวง คือ กรุงอังการา Ankara
เมืองสำคัญ คือ อิสตันบูล Istanbul, อิซเมียร์ Izmir, อดานา Adana และ บูร์ซา Bursa

สกุลเงิน คือ Turkish Lira - TRY อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 20 บาท ต่อ 1 ลีร่า
(Source : Ministry of Foreign Affairs)

รู้จักกับข้อมูลพื้นฐานของประเทศไปแล้ว ก็มาลองอ่านในส่วนที่ท่องเที่ยวกันเลยดีกว่า

อันดับแรกที่จะนำเสนอคือ "อิสตันบูล" เมืองที่ใครๆ ก็รู้จักดียิ่งกว่าเมืองหลวงอย่างอังการาซะอีก

เมืองอิสตันบูล ตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์บนคาบสมุทรบอสฟอรัส Bosphorus Peninsula เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีความสำคัญต่อหน้าประวัติศาสตร์ของโลกมายาวนานกว่า 2,000 ปี และยังมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในหมวดของด้านวัฒนธรรม รวมเรียกว่า Historic Areas of Istanbul ในปี 1985

มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ เช่น
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) - สร้างในช่วงสมัยของสุลต่านเมห์เม็ตที่ 2 ใช้เวลาก่อนสร้างนาน 6 ปี และเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการของอาณาจักรออตโตมัน ตั้งอยู่บนเนินที่เรียกว่า Seraglio Point ทำให้สามารถมองเห็นวิวของบอสฟอรัสได้อย่างทั่วถึง จนกระทั่งในช่วงคริสตวรรษที่ 18 ก็ได้มีการขยายอาณาเขตพื้นที่ออกไปอีก และสร้างหมู่อาคารต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน (Courtyard)
- ส่วนแรก (เดี๋ยวเอามาเติมให้ค่ะ)
- ส่วนที่สอง
- ส่วนที่สาม
- ส่วนที่สี่

พระราชวังโดล์มาบาเช่ (Dolmabahce Palace) - พระราชวังสไตล์ยุโรปแบบนีโอบารอค โดยได้รับคำสั่งให้สร้างขึ้นในช่วงสมัยของสุลต่านอับดุลเมซิต บนริมฝั่งเมืองใหม่ของช่องแคบบอสฟอรัส เพื่อใช้เป็นที่เป็นที่ประทับแทนพระราชวังทอปกาปึที่มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงอำนาจและความทันสมัยเทียมเท่ายุโรป ตัวอาคารมีทั้งหมด 3 ชั้นออกแบบให้เป็น symmetric หรือสองด้านมีขนาดเท่ากัน ภายในประกอบได้ด้วยห้องต่างๆ ถึง 285 ห้อง 43 ห้องโถง และ 6 ห้องอาบน้ำ และที่ห้องท้องพระโรงใหญ่ยังประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลขนาด 4.5 ตัน (4,500 กิโลกรัม)

พระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ จนถึงกระทั่งถึงช่วงสมัยของการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสุลต่าน มาเป็นระบบสาธารณรัฐโดย มุสตาฟา เคมาล หรือที่รู้จักกันในนาม อตาเติร์ก Ataturk ซึ่งชาวตุรกียกย่องให้เป็นบิดาของชาวเติร์กกันเลยทีเดียว

มุสตาฟา ได้ใช้พระราชวังนี้เป็นที่พักจนกระทั่งถึงวาระสุดท้าย ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 1938 หลังจากนั้นรัฐบาลจึงได้เปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และใช้เป็นที่รับรองอาคันตุกะของรัฐบาลมาจนถึงปัจจุบัน

พระราชวังเบย์เลอเบยึ (Beylerbeyi Palace) - พระราชวังนี้เดิมใช้เป็นที่พักของผู้สำเร็จราชการของอนาโตเลีย ในช่วงของสุลต่านอับดุลลาซิส ได้สั่งให้มีการปรับโครงสร้างรูปแบบสถาปัตยกรรมให้เป็นแบบนีโอบารอคผสมผสานบ้านแบบออตโตมันดั้งเดิม (คล้ายพระราชวังโดล์มาบาเช่ผสมพระราชวังซิการัน ที่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรม Kempinski) ในช่วงปี 1861 - 1865 และกลายมาเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของบรรดาสุลต่าน

ตัวอาคารเป็นขนาด 2 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน ซึ่งใช้เป็นห้องครัวและห้องเก็บของ อีกทั้งยังมีการแบ่งเป็น 2 ส่วนสำหรับผู้ชาย ที่เรียกว่า เซลามลิก Selamlik และนางใน ที่รู้จักกันในชื่อของ ฮาเรม Harem มีห้องท้องพระโรง 6 ห้องและห้องต่างๆ อีก 26 ห้อง

พระราชวังยิลดิส (Yildiz Palace) - หนึ่งในพระราชวังแห่งสุดท้ายของยุคสมัยสุลต่านแหงออตโตมัน โดยสุลต่านอับดุลฮามิตที่ 2 Abdulhamit II ซึ่งเป็นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สร้างอยู่บนริมฝั่งเมืองเก่าของช่องแคบบอสฟอรัส ออกแบบให้เป็นแบบชาเล่ต์ ที่มีความงดงามให้ด้านของตัวตึกและเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ความบันเทิงต่างๆ บริเวณรอบของพระราชวังประกอบไปด้วยสระน้ำ สวนดอกไม้นานาพันธุ์จากทั่วโลก และอาคารหลังเล็ก สามารถมองเห็นวิวความงามของบอสฟอรัสได้อย่างเต็มอิ่ม


พระราชวังทั้ง 4 แห่งนี้ถือเป็นที่รู้จักและมีทัวร์พาเที่ยวมากที่สุด นอกนั้นก็จะมีพระตำหนักอีกเกือบ 10 แห่ง

ถ้าไปขอค่าโปรโมตจากการท่องเที่ยวตุรกีจะได้ไหมเนี้ยะ




Create Date : 26 กรกฎาคม 2553
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 23:54:53 น. 1 comments
Counter : 1646 Pageviews.

 

แวะมาชวนไปเวียนเทียนด้วยกันจ้า



โดย: หน่อยอิง วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:27:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Poonchayapich-N
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to My Home...L'Amour De Ma Vie
[Add Poonchayapich-N's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com