-'@'-Journey Of Love-'@'- เมื่อหัวใจเดินทาง
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
26 มิถุนายน 2553
 
 
US Visa...ได้มาไงเนี้ยะ??? (ตอน 3)

เข้ามาอยู่ในห้องสัมภาษณ์กันซักที

พร้อมแล้วใช่ป่ะ (ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม)

คำถาม-คำตอบมากมายวิ่งวุ่นในสมองไปหมด สารพันคำแนะนำจาก Guru แต่จะเหมือนอย่างที่เค้าเล่ากันหรือเปล่า เดี๋ยวจะได้รู้กัน สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำเอง

เล็งหาเก้าอี้ว่างๆ แล้วก็ไปนั่งให้สบายใจ มองบนจอมอนิเตอร์ว่าตอนนี้ถึงคิวเท่าไรแล้ว จะได้คาดการณ์เผื่อว่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำดีไหม หรือกระหายน้ำก็จะได้เดินออกไปซื้อกลับเข้ามานั่งกินได้ แต่อย่าเผลอหลับเชียวนะ

เคาน์เตอร์ 4 - 5 - 6 - 7 จะเป็นของพวก US Citizen 8 - 10 จะเป็นเคาน์เตอร์สัมภาษณ์ขอวีซ่า 11 - 12 จะเป็นพวกที่เคยมีวีซ่าอเมริกามาแล้ว

ตะแล๊น..ตะแล๊น..ตะแล๊น
นั่งรอไปประมาณ 15 นาที ก็ได้ยินประกาศ 014 เชิญที่เคาน์เตอร์หมายเลข 8 ค่ะ - Number Zero One Four, Counter Number 8 เย้...เรียกแล้ว เวลาลุกขึ้นไม่ต้องรีบนะจ๊ะ เดี๋ยวจะสะดุดเก้าอี้หกล้ม

ง่า...คนที่เข้ามาก่อนหน้าเราเกือบ 5 คน (น่าจะนั่งรอมาครึ่งชั่วโมง) ยังไม่ได้สัมภาษณ์เลยอ่ะ แถมยังโดนมองแบบว่า "ยัยคนนี้มาทีหลัง ทำไมไปก่อนฟ่ะ"

ก็ตามที่บอกไว้เมื่อตอนที่แล้ว เทคนิคในการขอคิวสัมภาษณ์ให้ดูจากคนก่อนหน้าเราขึ้นไป 10 คน แล้วแบบว่าเกือบทั้งหมดของวันที่เราสัมภาษณ์ดันเลือกภาษาอังกฤษ เจ้าหน้าที่เลยยื่นบัตรคิวภาษาไทยให้เราเลยแบบไม่ต้องถาม ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นภาษาอะไร เค้าให้อะไรมาก็รับไว้ก่อน มารู้ทีหลังก็ตอนที่ไปยืนหน้าเคาน์เตอร์นั่นแหละ (ถือว่าอันนี้โชคดีแหะ)

ยิ้มนำไว้ก่อน เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์เป็นผู้ชายชาวต่างชาติ หน้าตาใจดีอ่ะ
C : Good Morning...ยิ้มนำมาให้ก่อนด้วย แล้วก็หยิบซองเอกสารและพาสปอร์ตของเราที่เจ้าหน้าที่เก็บไว้จากด่านที่แล้ว กดดูประวัติในมอนิเตอร์ประกอบการสัมภาษณ์
I : Good Morning แถมยิ้มสยามเข้าไปเยอะๆๆๆๆๆ
มือก็ควานหยิบเอกสารที่พกมาทั้งหมด เตรียมจะยื่นส่งให้
C : No..I don't want to see them. บอกปฏิเสธเสร็จก็เปิดพาสปอร์ตของเราไล่ดูว่าประวัติการเดินทางไปไหนมามั้งนะ
I : Ahh...Yes...อ้าว..ไม่ดูแล้วจะรู้เหรอว่าฉันเป็นใครมาจากไหน อันนี้คิดในใจนะ อย่าเสียงดังไป ก็จัดการเก็บลงในซองเหมือนเดิมแล้วเงียบ...รอฟังประโยคคำถามต่อไป
C : เที่ยวคนเดี่ยวหรือเป็นกรุ๊ป (ถามเป็นภาษาไทย แต่ฟังยากอยู่เหมือนกัน)
I : Alone พร้อมชูหนึ่งนิ้ว เน้นว่าฉันไปคนเดียว เผลอตอบเป็นภาษาอังกฤษ
C : จะไปนานไหม (ยังถามเป็นภาษาไทยต่อ ระหว่างที่ถาม เจ้าหน้าที่เค้าก็จะหันไปมองหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีข้อมูลของเราด้วย ว่าตอบตรงไหม)
I : Ten Days (สำเนียงอังกฤษเปรี๊ยะ...ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆๆ จะบอกว่าฟังภาษาไทยไม่ออกอ่ะ ไม่ได้หยิ่งนะ แต่สำเนียงมัน Er..ror)
C : When you intent to go? (หลังจากฟังเราตอบไป 2 รอบ เลยเปลี่ยนเป็นอังกฤษแทนมั้ง)
I : Next month during ....(บอกวันที่ไปเลย ตามที่ใส่ไว้ตอนทำ Online)
C : Uhmm...นิ้วชี้ซ้ายครับ
I : หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดตรงเครื่องสแกนนิ้วซะหน่อย แล้วก็นิ้วตัวเองอีกรอบ จากนั้นก็กดนิ้วลงไปให้แน่น
C : OK. นิ้วชี้ขวาครับ
I : เช็ดอีกรอบ แล้วก็กดนิ้วลงไป (บางครั้งอาจจะโดนให้กดใหม่ ถ้ามันไม่ชัดเจน)
C : OK..Alright. I don't want to keep the old one. แล้วก็ยื่นพาสปอร์ตเล่มเก่าคืนมาให้ ส่วนเล่มใหม่เก็บไว้แปะวีซ่า Have a nice Trip
I : Thank you so much, sir...(ยิ้มกว้างๆ ไหว้ขอบคุณด้วย)
(แค่นี้เองเหรอ...ทำไมง่ายงี้อ่ะ แล้วจะให้วีซ่าจริงเหรอ ถ้าให้วีซ่าจะให้แบบไหน)
C : Bye Bye..
I : Bye Bye.

จบการสัมภาษณ์แบบ เอ๋อ...เอ๋อ ของเราภายใน 2 นาที ก็จัดการเก็บพาสปอร์ตเก่าใส่ซอง แล้วเดินออกมาด้านนอกไปเข้าคิวรอจ่ายเงินค่าไปรษณีย์ EMS คนละ 75 บาท พร้อมยื่นใบสีฟ้าแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารที่เจ้าหน้าที่เคยส่งให้ในรอบแรก

ได้รับซองจดหมายแล้วก็เอาไปเขียนที่อยู่ที่ต้องการจัดส่งแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งรอที่โต๊ะกลม ถ้าจะไปรับเองก็ที่ ปณ.รองเมือง จะมีแผนที่แนบให้พร้อมใบเสร็จ เก็บรักษาใบเสร็จดีๆ นะค่ะ เพราะมีหมายเลขอ้างอิงในการรับเอกสาร หรือตรวจสอบผ่านเว็ปไซต์ได้ด้วย

ถ้าคิดจะฝากให้คนอื่นไปรับแทนที่ไปรษณีย์ ต้องถ่ายสำเนาพาสปอร์ต เซ็นต์ชื่อรับรอง พร้อมด้วยใบเสร็จรับเงิน ให้คนที่ไปรับแทนด้วย

3 วันหลังจากสัมภาษณ์ ก็สามารถเข้าเว็ปไซต์ //www.thailandpost.co.th เช็คเอกสารของเราได้ด้วยว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนอะไรแล้ว

ผ่านพ้นไปครบ 3 วัน ก็จะมีจดหมายส่งถึงมือ เมื่อได้รับซองแล้ว ข้างในจะมีกระดาษ 2 แผ่นแจ้งเตือนเรื่องความถูกต้องของวีซ่า ให้ดูตามคำแนะนำได้เลย และอีกใบจะเป็นการแสดงความยินดีที่ได้รับวีซ่าและข้อแนะนำในการใช้วีซ่าเดินทาง

สรุปว่าได้วีซ่าแบบ Multi 10 ปี รุ่น B1/B2 งานนี้ใช้ยาวจนลืมเลย ถ้าไปบ่อยๆ มันก็คุ้มค่าธรรมเนียม แถมถ้าไปประเทศอื่นๆ ที่ใช้วีซ่าอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย เป็นตัวอ้างอิง ก็ช่วยให้ทำเอกสารง่ายขึ้นด้วย

***** ในส่วนการสัมภาษณ์ของเรา ก็จบเพียงเท่านี้*****

หลายคนอาจจะบอกว่า ทำไมมันง่ายจังเลย ตรงนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่า ดุลยพินิจของสถานฑูตนั้นมีหลายแบบ บางคนอาจจะโดนถามมากน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับประวัติการเดินทางในพาสปอร์ตของท่าน หน้าตา บุคคลิก การตอบคำถาม วัตถุประสงค์ ประวัติอาชญากรรม และข้อมูลที่กรอกในระบบนั้นถูกต้อง

Sample General Question ที่หลายๆ คนอาจจะต้องเจอ
- ไปเมื่อไร
- ไปกี่วัน
- ไปทำไม (เที่ยว, ประชุม, เรียนต่อ, รักษาตัว, ทำงาน ฯลฯ)
- มีใครไปด้วย
- ใครออกค่าใช้จ่ายให้
- ทำงานเกี่ยวกับอะไร ทำมากี่ปี ตำแหน่งอะไร
- มีเพื่อน / ญาติอยู่ที่อเมริกาหรือเปล่า
- ตั้งใจจะไปเมืองไหน
- จะพักที่ไหน
- มีโปรแกรมจะไปไหนบ้าง ซื้อทัวร์ไว้หรือยัง
- เคยไปประเทศไหนมาบ้าง
- พ่อแม่อายุเท่าไร มีพี่น้องกี่คน
ฯลฯ

เวลาตอบคำถาม ก็ควรที่จะตอบให้เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่คำตอบแบบท่องมาถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เป๊ะ เพราะถ้าเจอคำถามนอกเรื่อง แล้วคิดคำตอบไม่ออก หรือพูดติดๆ ขัดๆ อันนี้ก็เจ้าหน้าที่ก็จับผิดได้แล้ว

หลักฐานการเงินเตรียมไปให้พร้อม สมุดบัญชีเงินฝากมีกี่เล่มเอาไปให้หมด แต่อย่าสร้างตัวเลข อย่างตลอดปีมีเงินหมุนเวียนหมื่นกว่าบาท แต่พอจะไปยื่นมีเงินเข้ามาเป็นหลักแสน อันนี้ตั้งใจทำตัวเลขรับรองว่าไม่รอดแน่ นอกจากจะมีที่ไปที่มาของตัวเลขที่ชัดเจน และสมเหตุสมผล

ถ้ารอบนี้ยังไม่ได้วีซ่า ทิ้งไว้ซัก 3 เดือน ค่อยไปทำใหม่ก็ได้ สถานฑูตไม่มีการ Stamp Reject แค่สัมภาษณ์เสร็จก็คืนเลยให้รู้ว่า คุณไม่เหมาะจะได้วีซ่าของเขา

ใครอยากไปเที่ยวด้วยกันก็แจ้งมาเลย สิ้นปีนี้ตั้งใจ หนีเที่ยวอเมริกา 2 อาทิตย์ หุ หุ


Create Date : 26 มิถุนายน 2553
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 22:13:40 น. 11 comments
Counter : 770 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ

อยากไปเที่ยวเมกาด้วยจังครับ


โดย: **mp5** วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:12:36:19 น.  

 
ไปด้วยคนคะ
กลับจากนิวยอร์คเมื่อเดือนเมษานี้เอง


โดย: C&C_BamBoo วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:13:21:06 น.  

 
กำลังเตรียมตัวทำวีซ่า ครั้งที่ 3 ค่ะ(ทำมาสองรอบแล้วไม่ผ่านซักรอบ) แต่เราก็จะไปเที่ยวให้ได้ค่ะ


โดย: my umbrella (ไม่ได้ล็อกอินค่า) (my umbrella ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:35:07 น.  

 
คุณ my umbrella มีความพยายามในการยื่นมากเลย ไม่ผ่าน 2 รอบแล้วแต่ยังไม่ท้อ นับถือ ๆ (^__^b)

รบกวนช่วยอธิบายได้ไหมค่ะว่าทำไม 2 รอบแล้วถึงยังไม่ผ่าน จะได้เอาไว้ให้ท่านอื่นที่คิดจะยื่นวีซ่าได้เตรียมตัวบ้าง

เอาใจช่วยคนอยากเที่ยวค่ะ


โดย: เจ้าบ้าน (Phetcharat-N ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:34:12 น.  

 
ตอบนะค่ะ(จากประสบการณ์ทีบอบช้ำ hahaha.....)

ช่วงนี้งานยุ่งมากมายค่ะ

ที่เขาไม่ให้ไป(คิดเอาเองนะค่ะ) น่าจะเป็นเรื่องสเต็ดเม้นท์ (เรื่องเงินนั้นเอง)

แล้วก็การเตรียมตัวไม่พร้อมแล้วไปขอ เอกสารเรามีครบแต่เรื่องสเต็ดเม้นท์เราไม่พร้อมก็อย่าพึ่งไปขอดีกว่าค่ะเพราะ เราเรื่องเงินทองนี้มันสำคัญจริง

เรื่องของเรื่องเขาคงจะเป็นห่วงนะค่ะว่าเราจะไปอยู่ยังงัยกินยังงัย

ส่วนแฟนเราคิดอย่างเดี๋ยวเลยว่ามันทำง่ายเพราะเขามาเที่ยวบ้านเรามันช่างง่ายดายนี้ค่ะ

เงินต้องพร้อมในระยะยาวก่อนที่จะไปทำนะค่ะ (เราแอบสั่นด้วยค่ะ ตื่นเต้นจัด) ทุกอย่างมันแปรปวนไปหมด

ก็เลยพลาด (ไม่เป็นไรค่ะจะไปขอใหม่ 555)


โดย: my umbrella (ไม่ได้ล็อกอินค่า) IP: 203.156.164.149 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:40:36 น.  

 
ขอบคุณคุณ my umbrella มากนะค่ะที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์

ถ้าในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว เรื่อง Statement หรือ ฐานะทางการเงิน ก็เป็นส่วนหนึ่ง และเป็นเพียงส่วนประกอบย่อยๆ อันดับ 3 - 4 เลยค่ะ

แต่สิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่จะดูและพิจารณาว่าคุณมีคุณสมบัติพอน่าเชื่อถือในการเดินทางได้คือ "ประวัติการเดินทางที่เห็นในพาสปอร์ต" ซึ่งเป็นเอกสารฉบับแรกที่เจ้าหน้าที่หยิบขึ้นมาดู

แบบว่า หน้าพาสปอร์ตขาว สะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่เคยมีพาสปอร์ตมาก่อนในชีวิต แล้วนึกไงถึงกล้าหาญที่จะไปเที่ยวประเทศของเขา

หรือ มีแสตมป์บ้างแต่เป็นเพียงแค่ ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม ด่านอรัญประเทศ (หนีไปเล่นกาสิโน) อันนี้ก็ถือว่ายังไม่เข้าค่ายการพิจารณาสถานะภาพทางการเงินเท่าไร

แต่ถ้าผ่านประเทศที่ต้องมีการคัดกรองเอกสารมาแล้วอย่างญี่ปุ่น ยุโรป ออสเตรเลีย อันนี้ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง

ถ้ามีการเดินทางผ่านประเทศเหล่านี้แล้วบ้าง (2 - 3 ครั้ง ในรอบ 5 ปี) อันนี้เจ้าหน้าที่อาจจะขอดูฐานะทางการงาน การเงิน และวัตถุประสงค์ของการเดินทางว่า ณ ปัจจุบันสภาพโดยรวมของคุณเป็นอย่างไร มีพันธะอะไรที่มีความจำเป็นว่า เมื่อคุณออกนอกประเทศแล้วยังไงก็ต้องกลับมาแน่นอน ไม่หนีไปเป็นโรบิ้นฮู้ด

และคนที่จะเดินทางไปด้วยก็สำคัญ เป็นตัวแปรอีกอันหนึ่งที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ ว่าคุณไปกับเขาในฐานะอะไร คนที่ไปด้วยเป็นใครมาจากไหน และหน้าตาของคนที่จะเดินทางอยู่ในข่ายอะไร เป็นเพื่อน สามี ภรรยา คนรู้จักแบบสนิทแนบแน่น และแบบแนบแน่นสุดๆ (อันนี้ขอละเว้นการกล่าวอ้างนะค่ะ) หรือจ้างให้พาไป

ลองพิจารณาดูนะค่ะ เพราะทั้งหมดก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น เพราะดุลยพินิจทั้งหมดอยู่ที่เจ้าหน้าที่เป็นหลัก


โดย: เจ้าบ้าน (Phetcharat-N ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:01:39 น.  

 
เขียนบรรยายได้สนุกจังเลยค่ะ ดีใจด้วยนะคะ ตอนนี้จองวันนัดสัมภาษณ์เดือนหน้าได้แล้ว กว่าจะได้ก็แสนจะยากเย็น แต่ก็ดีที่ช่วยให้หายตื่นเต้นไปได้บ้าง คงได้ตื่นเต้นกันอีกทีก็ช่วงใกล้วันนัดสัมภาษณ์ ยังงัยขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ


โดย: maddox วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:14:15 น.  

 
ทำคิวสัมภาษณ์ให้คนที่รู้จักได้วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม ตอน 09.15 น.ค่ะ
มีใครได้ช่วงเวลานี้บ้างเอ่ย เพื่อจะได้เจอกัน เรามีหน้าที่ไปยื่นให้กำลังใจเท่านั้นเองค่ะ มีคำถามอะไรก็ฝากไว้ได้เลยนะค่ะ ถึงจะตอบไม่ได้แต่จะไปลากคนที่เค้าชำนาญมาช่วยได้ค่ะ

ไม่เฉพาะเรื่องวีซ่านะค่ะ จะเป็นเรื่องอื่นๆ ก็ได้ ยินดีเช่นกันค่ะ


โดย: เจ้าบ้าน (Phetcharat-N ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:18:45 น.  

 
...

ขอบคุณ คุณเจ้าของบ้านมากเลยนะค่ะ ยังงัยก็ขอคำแนะนำด้วยคะ

ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องของ Statement เพราะเราไม่ได้เตรียมเงินในบัญชีให้ครบคลุมค่าใช้จ่ายในทริปที่ไปขอค่ะ (และถึงมีสปอร์นเซอร์ โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีสำรองไปใช่มั้ยค่ะ)
ส่วนเรื่องที่จะเดินทางไปมีเพียงจุดประสงเดียวคือไปเยี่ยมญาติๆๆของแฟนที่อยู่ที่โน้นจริงๆๆค่ะ ไม่มีเจตนาแอบแฝงแม้แต่น้อยค่ะ และส่วนเรื่องการที่จะมีแสตมป์ในการเดินทางไป ออสเตรเลีย หรือโซนยุโรป คงไม่มีค่ะเพราะทำงาน office เงินเดือนยังไม่ถึงสองหมื่นเลยค่ะ ไปได้แค่แถวบ้านเราเองค่ะสิงคโปร์และเวียดนาม 2 ประเทศ และก็ยังมีภาระเรื่องผ่อนบ้านอีกค่ะ

จริงๆตอนไปขอวีซ่าสองครั้งที่แล้วตัวเราเองมีเวลาเตรียมเอกสารแค่ 15 วันเองค่ะก่อนหน้านี้เราก็ไม่ทราบมาก่อนว่าต้องไปคริสมาสที่โน้น ทุกอย่างดูฉุกละหุกไปหมดค่ะ รวมทั้งวันลาหยุดเราลาหยุดได้แค่อาทิตย์เดี๋ยวตามที่ office กำหนดค่ะเพราะวันลาเราเหลือน้อย และครั้งที่สองก็ห่างกันแค่อาทิตย์เดียว

ต้องขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ









โดย: my umbrella วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:05:19 น.  

 
หลังจากใช้เวลาติวคำถาม-คำตอบให้คนรู้จักอีก 2 คนไปยื่นวีซ่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สรุปว่าผ่านเป็นที่เรียบร้อยและได้วีซ่า 10 ปี ดีใจกันใหญ่

ตอนแรกก็ค่อนข้างหวั่นพอสมควร เพราะคนหนึ่งเป็นพาสปอร์ตเปล่าไม่ได้เดินทางเลย แถมยังเคยโดน Reject มาแล้วถึง 2 ครั้ง เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้ค่อนข้างเครียด ทั้งปลอบทั้งติว ถ้าเจ้าหน้าที่ถามคำถามนี้ ต้องตอบแบบนี้นะ เตรียมรูปแบบคำตอบไว้เป็น 10 ข้อ เอกสารอันไหนไม่ขอดู ก็ไม่ต้องยื่น

ทำคิวสัมภาษณ์ไว้ตอน 9.15 น. แต่นัดกันไปเจอหน้าสถานฑูตตอน 8.30 น. ไม่มีคนยืนคอยเข้าคิวเลย ว่างสุดๆ ก็จัดการย้ำความมั่นใจกันอีกครั้งก่อนจะส่งเข้าไปด้านใน

ตกตอนเย็นก็โทรมาแจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่รับเล่มแล้ว แต่กว่าจะเสร็จทั้งหมดก็เกือบเที่ยง เพราะข้างในคนเข้าไปยืนรอกันจนเต็ม เจ้าหน้าที่ถามไม่เยอะมากอย่างที่คิด แค่พอให้รู้วัตถุประสงค์และดูแล้วคงไม่ไปอยู่เป็นภาระให้ประเทศของเขาก็ปล่อยแล้ว พอวันเสาร์ก็ได้รับซองเอกสารส่งมาถึงบ้าน

และแล้วสถิติการยื่นวีซ่าวันศุกร์ (สุข) ก็ยังใช้ได้ผลเหมือนเดิม (เอาไสยศาสตร์เข้าว่า เอิ๊ก เอิ๊ก)

เห็นไหมว่า วีซ่าอเมริกาง่ายนิดเดียว


โดย: เจ้าบ้าน (Phetcharat-N ) วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:20:36:42 น.  

 
แวะมาแจ้งข่าวค่ะ

วีซ่าผ่านแล้วนะค่ะ :)

ขอบคุณมากนะค่ะที่แชร์ประสบการณ์ดีๆๆให้อ่าน


โดย: my umbrella IP: 203.156.164.149 วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:14:32:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Poonchayapich-N
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to My Home...L'Amour De Ma Vie
[Add Poonchayapich-N's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com