ย้อนรอยกรรม....ธรรมปฏิบัติ
สมัยหนึ่งเคยเป็นลูกศิษย์วัด เคยเดินตามพระ..พระท่านบิณฑบาตร
เส้นทางก็กันดาร หินกรวดแตกเป็นเศษแหลมๆ...พระท่านเดินเท้าเปล่าจนชำนาญ
เดินเร็วเหลือเกิน...เราเดินตามไม่ทัน..จนพระท่านหันมามอง
ถามว่าไหวไหม..เราบอกว่าไหว..ทางยังไกล..ถ้าไหวก็เดินกันต่อไป

เดินไป...พลันก็คิดถึงการภาวนาของเรา..มันไม่ไปถึงไหนเลย
เดินมาถูกทางมั้ยเนี่ย..เมื่อไหร่จะถึงหนอ...แล้วไอ้ทางนี่ก็เหมือนกัน
เมื่อไหร่มันจะสุดทางเสียที เจ็บฉิบ!! เมื่อยๆเหนื่อยๆ พาลทำอารมณ์หงุดหงิดเสียอีก
..แต่สุดท้ายเดินไป เดินมา..ก็กลับมาถึงวัด
เอ...นี่ไงถึงแล้ว เฮ้อ..หายเหนื่อย สบายใจ

อ๋อ...มันอย่างนี้นี่เอง มันเป็นเช่นนี้เอง มันได้ข้ออรรถข้อธรรม


อืม..การภาวนาของเราก็เหมือนกัน...มันต้องทำไปเรื่อยๆ อย่าไปคาดหวังอะไรมากนัก
เอาแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ แต่มันมีเป้าหมาย มีจิตตั้งมั่น ยึดคุณธรรมนะ

เหมือนเราเดินนี่แหละ..มันต้องเหยียบกรวด เหยียบหินบ้าง เท้าแตกบ้าง แต่พอเจอสัตว์
ก็รู้จักเดินหลบ กระแสน้ำเชี่ยวก็อย่าพึ่งข้าม บางครั้งต้องเดินอ้อมเขากันบ้างหล่ะ
หมาวิ่งไล่..งูเลื้อยตัดหน้าก็ต้องมีสติ ใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหานะ
ทางเดินสะดวกบ้าง..ทางเดินลำบ้าง ก็ทนกันไป ช่วงฝนตกบางคนลื่นไถลลงเขา..พลุกพลักๆ
ไม่ได้โดนกับตัวเอง..แต่ก็ทำเราจิ๊ดไปถึงใจเลยนะ ให้ข้อคิดว่าอย่าประมาทหล่ะ ทุกย่างก้าวเลย
ของในย่ามหนักบ้าง..เบาบ้าง ก็ทนแบกกันไป....พอถึงจุดหมายปลายทาง
เราก็วางจนหมดย่ามนั่นแหละ

..พอเดินหลายวันๆเข้า..มันก็ชำนาญเหมือนกันนี่นา..ขามันแข็ง เท้ามันด้านนี่ 55

ทีนี้การเดินของเรานอกจากจะต้องรู้จุดหมายปลายทางแล้ว สำคัญว่าเราต้องไม่วอกแว๊ก
ที่จะออกนอกทางเลยนะ...เดี๋ยวจะเหนื่อยเปล่า เราต้องตั้งเป้าเอาไว้ วางจุดหมายเอาไว้ในใจ
ด้วยจิตที่ตั้งมั่น..แล้วเดินไป เหมือนเดินในถ้ำแหละ ค่อยๆคลำหาแสงไป พอเจอแสงก็ยินดีแล้ว

แต่นี่เราโชคดีมีพระพุทธองค์ มีลายแทงที่ท่านได้มอบไว้ให้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
ฉะนั้น...เราจะไปเจออะไรก็สุดแล้วแต่ช่าง...ช่างหัวมันประไร แต่เราต้องมีสติ มีศีลนะ
มันสำคัญมากเพราะจะทำให้เราหนักแน่นและไม่ไขว้เขว มีสัมมาทิฐิ ว่านอนสอนง่าย
อ่อนน้อมถ่อมตน และรู้จักใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหานี่แหล่ะ เป็นเครื่องมือสำคัญ
เพราะบางครั้งเดินหลงทาง เดี๋ยวก็มีคนมาเตือน ยอมรับรู้รับฟังบ้าง

ทีนี้หละเดินมันเข้าไป..เอาจนถึงที่สุด...เอาแบบสุดๆ เอาชีวิตเข้าแลกนี่แหละตามอย่าง
ครูอาจารย์เลย มันไม่เสียดายเลยจริงๆ


ตีน..นี้เราได้แต่ไรมา บิดรมารดาโอบอุ้มเชิดชูไว้ ตีนใหญ่แล้วรู้จักใช้ ให้เกิดผลใหญ่ตามตีน
เกิดเป็นคนอย่าลืมตัว ลืมตน ลืมตีน ลืมตัว..ฉิบหาย ลืมตน..มลาย ลืมตีน..เสียดายที่ได้เกิดมาเป็นคน



Create Date : 29 กันยายน 2554
Last Update : 29 กันยายน 2554 14:27:38 น.
Counter : 1154 Pageviews.

2 comments
  
โมทนาสาธุครับ
โดย: shadee829 วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:17:38:05 น.
  
สาธุด้วยค่ะ
โดย: ปูโกะ (piyazan ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:18:56:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อวตาร
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2554

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30