Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
เรื่องน้ำเน่าของเราสอง.ตอนทีหกแล้วเนี่ย

วันต่อมาพอจะขับไปรับเค้าที่สนามบินก็ดันไปสายตั้งครึ่งชั่วโมง เพราะตอนเช้าไปซุปเปอร์กับเพื่อนแล้วดันลืมกุญแจรถไว้ในรถ ต้องให้เพื่อนอีกคนมารับไปเอากุญแจสำรองที่บ้านอีก บ้าที่สุดดด

พอขับไปเทียบที่สนามบิน เห็นเค้าแต่ไกลก็จำได้เหมือนหมาจำกลิ่นเจ้าของได้ยังไงยังงั้น เค้าเห็นเราตัวจิ๋วๆ อยู่หลังพวงมาลัยก็ไม่รู้ว่าจำเราได้ไงนะเนี่ย เดินมาขึ้นรถทันทีทันใด
อยู่ในรถก็คุยกันแบบขัดๆเขินๆ สรรพเพเหระมากๆ แต่พอถึงบ้านวางของพักเหนื่อยแล้ว เราก็ค่อยกลับมาเป็นตัวของตัวเองนิดนึง ไม่ได้พูดอะไรกันมาก มองหน้ากันก็ซึ้งเลี้ยวววว

ช่วงห้าวันนี้ เป็นช่วงเวลาที่ชั้นมีความสุขที่สุดตั้งกะมาอยู่ที่นี่เลยล่ะ ถึงชั้นจะไม่มีงานเข้ามา แต่ก็ยังมีสิ่งดีๆๆ ดีมากๆเข้ามาเป็นกำลังใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็แอบนับถอยหลังเรียบร้อยแล้วว่าเดี๋ยวเราก็จะแยกกันอีก

วันแรกพากันไปกินข้าวกลางวันในตลาด แล้วเค้าก็ไปช่วยเราเอาจักรยานที่จอดทิ้งไว้แถวห้างแล้วโดนพวกคนใจร้ายทุบเอาจนล้อบิดเป็นเลขแปด เค้าก็มาช่วยเราหิ้วเอากลับบ้าน แน่ะ โชว์ความเป็นแมนโดยใช่เหตุ (คือว่าถ้าเป็นเราก็แค่ลากล้อท่่มันหมุนได้แล้วจูงๆไป) เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่ก็ปลื้มไม่ใช่เหรอ ต้องเป็นสาวสู้ชีวิตอยู่คนเดียวตั้งนาน

ตกเย็นไปเดินเล่นไปเมืองก็ขำชะมัด เดินผ่านร้านอาหารที่มีที่นั่งข้างนอก เห็นผู้หญิงคนนึงมองเราสองคนเดินผ่านซะเหลียวหลัง เราก็จ้องกลับ (ปกติหงิมมาก คนจ้องมาก็จะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น) ใจก็คิดว่า เอาอีกและพวกมองแบบดูถูกผู้หญิงเอเชีย พอเดินผ่านไปซักพัก เค้าก็พูดขึึ้นมาว่า
เห็นผู้หญิงคนนั้นป่ะที่นั่งตรงนั้นน่ะ จ้องพวกเราไม่วางตาเลย
อืม อืม คนนั้นชะป่ะ
อืม สงสัยเค้าต้องคิดว่าตาเฒ่า คนนี้อะไรกันมาเดินควงเด็กสาว
เท่านั้นล่ะ ก๊าาาาก เลยเรา
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮาดี เธอก็มีทฤษฎีของเธอ ชั้นก็มีของชั้น แล้วมันมาจากความรู้สึกสำรวจตัวเองว่าเรามีปมด้อยอะไรด้วย น่าสนใจมาก



เดินไปก็ฝนตกพรำๆกันไป ก็ไม่รู้จะออกมาหาสวรรค์วิมานอะไร ไม่ได้โรแมนติกอย่างในมิวสิคซักกะติ๊ด แต่ก็เอาวะ คนจะเดทกันมันก็ต้องมีกิจกรรมไร้สาระกันบ้าง ขอให้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็พอ

พอจะเดินกลับบ้าน ใจก็อยากเดินผ่านร้านอาหารร้านนั้นอีก แล้วคุณชายก็พูดขึ้นมาว่า
เราเดินกลับไปดูผู้หญิงคนนั้นอีกทีดีมะ ถ้ายังอยู่จะกลับไปถามว่าคิดยังไงกะพวกเรากันแน่
เฮ้ย คิดเหมือนกันเลย ปะ งั้นไปดูกัน
แต่ก็สายไปซะละ ชีไม่อยู่แล้วล่ะ เสียดาย อยากรู้เหมือนกันว่าทฤษฎีใครถูกกันแน่ คิดแล้วก็อำกันเรื่องนี้มาตลอดทางกลับบ้าน


วันต่อมาวางแผนไปขับรถเล่นกัน สถานที่กับเส้นทางยกให้เป็นหน้าที่เค้าเพราะเคยเป็นเด็กในพื้นที่มาก่อน ขับไปซักเกือบชั่วโมงก็ไปจอดแถวแม่น้ำ ตรงคุ้งที่ไปจอดเห็นแต่คนกับหมามาเล่นน้ำแค่นั้น ว่าแล้วก็จัดการปูเสื่อ เอ้ย ปูผ้าริมฝั่ง แล้วก็เดินลงน้ำ เดินไปได้สามจึ๊ก ก็จอด กรี๊ดดดด วัดอุณหภูมิน้ำได้ 20 องศา แต่ขอโทษตอนนั้นอุณหภูมิอากาศมันต่างกันตั้งสิบองศา จะไม่ให้หนาวได้ไง สุดท้ายก็เลยยืนแค่เอว แล้วก็เล่นเอามือเย็นๆ แตะพุงแล้วก็ร้องกรี๊ด กรี๊ด กัน ปัญญาอ่อนชะมัด
เอาน่ะ แค่นี้ก้อสะหวีดแล้ววววว



ระหว่างขับรถก็แน่นอนคุยกันเรื่อยเปื่อย แต่ที่จำได้อยู่เรื่องก็ตอนที่เล่าให้เค้าฟังว่าเพื่อนคุณแม่บ้านแถวนี้ยุยงส่งเสริมช่วยหาคู่ให้ใหญ่เลย เพื่อนสามคนสามนัดภายในอาทิตย์เดียว เค้าฟังแบบเฉยๆ แล้วก็พูดขึ้นมาเรียบๆว่า

อืมม สงสัยเราต้องไปบอกเค้าแล้วหล่า า ว่าา tic has been taken

หรื๋มมม มม มมมม
เมื่อกี้นี้ว่าไรน้าค้าาาา เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเค้าพูดแสดงความเป็นจ้าวของง่า ขับรถไปก็ชาไป ดีนะฮ้า รถไม่ควำ่ซะก่อน


ตอนเย็นเค้าลาก เอ้ย เราขับรถกันไปที่บ้านพ่อแม่เค้า ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเค้าพาเราไปแนะนำตัวกะพ่อแม่เค้าาาาาา เวลาแนะนำตัวมันก็แหม่งๆไงก็ไม่รู้ มันขัดๆ ไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ พี่สาวเค้าก็บังเอิญมาเยี่ยมบ้านช่วงนั้น ตานั่นก็ไม่แนะนำว่าเป็นพี่สาว เราก็อึงๆ งงๆ ไม่รู้ใครเป็นใคร ก็แค่นั่งเฉยๆ ดูเค้าอวดรูปที่เค้าทำโฟโต้ชอปกัน บ้านเค้านี่ท่าทางชอบถ่ายรูปกันทั้งบ้าน ในบ้านก็ชั้นหนังสือเพียบ อืมมม พอมองแนวออกละว่าที่บ้านเค้าสอนกันมาให้รักการอ่านกันขนาด มองไปที่ผนังบ้าน เอ๊ะกระดาษอะไรแปะอยู่ อืมม เป็นคำคัดลอกออกแนวว่า

เหตุผลห้าอย่างที่(ตานั่นน่ะ) อยากเป็นสถาปนิก…

เฮ้ย เล่นเอาเราอึ้งไป คือถึงเราจะไม่ไ้ดทำเต็กแล้วแต่เราก็เรียนมาทางนี้นาเฟ้ยยย ไม่รู้ว่าเค้าจะคิดถึงเราแง่นี้บ้างป่าวววว



แล้วตานั่นก็พยามนัดกินข้าวครอบครัว แบบว่าจะเอาเราไปด้วยอ่ะ ที่บ้านเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ
พอจะกลับพ่อเค้าก็โชว์สวนให้ดูใหญ่เลย เราก็แอบถ่ายรูปดอกไม้ด้วยมือถือตอนตานั่นคุยกะพ่อเค้าอยู่ เสร็จแล้วก็เดินมาพูดกะเราว่าพรุ่งนี้จะไปช่วยพ่อแม่เค้าเก็บกวาดสวน จะเอากล้องมาถ่ายด้วยก็ได้นะ เรางี้อึ้งไปเรยย มาแนวอ่านใจเราออกอีกละ

ระหว่างขับรถกลับบ้านเค้าก็บอกว่า พอเค้าอวดพ่อแม่ให้ฟังว่าเราเรียนอะไรมาทำงานอะไรอยู่ ดูท่าพวกเค้าจะอู้ฮูกันใหญ่ ดีแฮะ บ้านนี้ท่าทางชอบคนมีการศึกษา ไม่เหมือนคนทั่วๆไปในเมืองนี้ เอาวะมีแต่กล่องก็ยังพอพรีเซนท์ได้วะเรา

เช้าวันต่อมา เราก็เตรียมกล่้องมาจริงๆ พ่อแม่เค้าก็เรียกมาถ่ายรูปดอกกล้วยไม้ที่เค้าจะถอนทิ้ง เรางี้ถ่ายยิก แล้วก็ถ่ายดอกไม้ต้นอื่นๆด้วย ยื่นกล้องใกล้ดอกไม้มากไปหน่อย มดตานอยวิ่งพรูมาที่กล้องใหญ่เลย จ๊าาาากกกก

ตอนบ่ายไปเดินหาซื้อหนังมาดูกันแก้เซ็ง โอ้ววว ลืมเล่าไปเลยว่าตอนกลับจากเยี่ยมเค้าก็แอบจิ๊ก เอ้ย ยืม Pulp Fiction เค้ามาดูต่อที่บ้าน ด้วยว่ามาเที่ยวต่างเมืองแล้วเรื่องไรจะมาจับเจ่าดูดีวีดี ก็เลยเก็บความอยากดูไว้แล้วหาข้ออ้างยืมเค้ากลับมา จะได้หาเรื่องติดต่อกันไปเรื่อยๆนิ ฉลาดจังเลยเรา
เดินหาแผ่นหนัง เค้าก็หยิบยิกเลยสี่ห้าเรื่อง ตอนเย็นก็ดูกันซะให้หนำใจ ดู Pulp Fiction กันไปอีกรอบด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะตอนบ่ายแก่ๆ แม่เค้าโทรมาเลิกนัดเพราะไม่ค่อยสบายกันทั้งบ้าน ติดหวัดกันอะไรเงี้ย ก็เลยว่าวันถัดไปเดี๋ยวเค้าจะแวะไปทำอาหารเย็นให้ที่บ้าน

ดูหนัง ดูหนัง แล้วก็ดูหนัง ตาแฉะไปเลยคืนนี้


วันที่สี่แล้วสินะเนี่ย เฮ้อ เหลืออีกแค่สองวันเต็ม แอบถอนหายใจอยู่บ๊อยบ่อย

วันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นัดกินข้าวกลางวันกะเพื่อน ดูหนัง งัวเงีย กินๆ นอนๆ ตกเย็นไปซื้อกับข้าว แล้วก็ไปบ้านพ่อแม่เค้า เค้าก็จัดแจงทำโน่นนี่ใหญ่เลย เราก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้แต่ยืนดูเค้าทำ ก็อร่อยไม่ใช่เล่น แต่ก็อาหารพื้นๆน่ะ ยังไม่ได้โชว์ความโปรเท่าไหร่ ทำเสร็จแล้วก็หันมาขอบคุณเรา
ฮ้า ขอบคุณทำไม
ก็ขอบคุณที่ช่วยยืนดูเป็นเพื่อนกัน
อ้าว ว่าไปโน่น

จากนั้นก็เล่นโดมิโน่กะแม่กะพี่สาวเค้า เล่นไปเล่นมาชักติดแฮะ แล้วเค้าก็คุยกันเรื่องเกมไพ่ เสร็จแล้วก็ไปหยิบหนังสือเกมไพ่เล่มหนาตึ๊บมาเช็คกติกากัน เฮ้ย พวกนี้เค้าเอาจริงแฮะ

ดูรวมๆแล้วก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรกะที่บ้านเค้าแฮะ ก็แอบโล่งใจเพราะเค้าเคยบอกว่าพ่อเค้าไม่ชอบคนเอเชียด้วยว่าเป็นพวกหัวโบราณ อันนี้ก็ไม่รู้ล่ะนะ

ตอนกลางคืน
ได้ยินอะไรผ่านๆไม่รู้ เหมือนเค้าพูดว่า รัก
อะไรนะ
…..
เอาวะ ไม่พูดก็ไม่พูด สมอ้างว่าเค้าพูดว่ารักแล้วกัน
ฮิ้วววววว




Create Date : 13 กรกฎาคม 2550
Last Update : 21 กรกฎาคม 2550 17:43:26 น. 0 comments
Counter : 279 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รัชศรี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add รัชศรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.