Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
พายเรือคายัคล่องแม่น้ำ




เว้นวรรคการดำน้ำไปหนึ่งวัน เพราะเห็นแก่คุณชาย แต่ก็ไม่วายจองทัวร์พายเรือคายัคล่องแม่นำ้ทางด้านใต้ของเกาะ บริษัททัวร์ก็ขับรถกระบะมารับตอนบ่ายๆ รถกระบะนี่เห็นมาแต่ไกล แต่งหลังคากระบะเป็นกระท่อมจากแบบรถสองแถว ใช้เวลาไปถึงสถานที่ประมาณสามสิบนาที ถือเป็นการนั่งรถชมวิวไปในตัว ถนนหนทางนับว่าดีกว่าในตัวเมืองที่เป็นหลุมเป็นบ่อฝุ่นกระจายมากๆ แต่ก็ยังมีบางช่วงที่ต้องขับผ่านแอ่งน้ำ เพราะอาทิตย์ที่แล้วฝนเพิ่งตกกระหน่ำ น้ำยังไม่ลด มีแต่คนบอกว่าพวกเราโชคดีมากที่มาอาทิตย์นี้เพราะฝนตกตลอดเลยก่อนมา (แล้ววันสุดท้ายของทริปก็ตกเหมือนกัน)

ตั้งตนพายเรือคายัคที่สถานที่คล้ายรีสอร์ทปิดปรับปรุงแห่งนึง เห็นมีสนามเทนนิส แล้วต้องจ่ายค่าเช่าเรือคายัคเพิ่มคนละห้าร้อยจากค่าทัวร์สามพันห้าร้อย ตั้งต้นพายเรือน้ำใสแจ๋วจากลากูน ตอนเค้าจับลงเรือ คุณเจ้าของที่เป็นฝรั่งเศสก็ถามว่า จะลงเรือคูกัน่ใช่มั้ย เสร็จแล้วก็แทบจะอุ้มเราลงเรือ แล้วก็ถามอีกว่า “จะเอาเสื้อชูชีพมั้ย” เรางี้แต่ววววเลย เพราะไม่เห็นถามคนอื่น ดันมาถามเราคนเดียว เราก็บอกว่า “ไม่เป็นไร เราเป็นครูสอนดำน้ำ” เค้าก็อู้อ้าไปตามเรื่อง

พอขับออกจากลากูนเท่านั้นแหละ ลมจากทะเลด้านนอกปะทะมาเชียว เล่นเอาเครียดไปทั้งคู่ เพราะไม่รู้ทำไมเรือที่ได้มามันออกจะกินขวานิดๆ เราก็พายไม่แข็ง ช่วยไรเค้าได้ไม่มาก เลยพายกินซ้ายช่วยเค้าอย่างเดียว แล้วเรือก็ท้องแบนมากๆ เล่นเอาเสียวไปเล็กน้อย จ้ำกันหน้ามืดกว่าจะพ้นช่วงเปิดมาได้ แต่ก็ยังจ้ำกันไม่หยุดยั้งถึงแม้จะพ้นช่วงอันตรายมาได้ เพราะมาอยู่ระหว่างกลุ่มหน้ากับกลุ่มหลัง ก็เลยงงๆว่าจะตามใครดีเนี่ย สุดท้ายเลยชะลอเรือรอกลุ่มหลังดีกว่า เดี๋ยวไม่ได้ฟังเรืองราวประกอบฉากแม่นำ้กับป่าชายเลน และชีวิตคนแถวนี้ด้วย พอเริ่มเห็นหน้าคุณไกด์จากข้างหลังเค้าก็ตะโกนมาว่าให้รอก่อน เสร็จแล้วก็เหมือนโดนเสียบเล็กน้อย “แหม พายกันเร็วหยั่งก๊ะจะไปลงแข่งที่ไหน” ตานั่นก็แก้ตัวว่าอยากรีบพายให้พ้นโค้งอันตรายไปก่อน

จากนั้นก็ได้ฟังเรื่องราวเล็กๆของคนแถวนี้สมใจ ก็แอบเสียดายเล็กน้อยที่พลาดช่วงแรกไป เรื่องช่วงหลังที่ใกล้กลับหมู่บ้านแถวนั้นก็เห็นว่ามีบ้านคนเวียตนามอยู่ด้วย (อ่ะนะ แต่เรือที่จอดอยู่ข้างหน้าดันเขียนชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น) เนื่องจากเวียตนามเป็นเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสมาก่อนเช่นกัน ในช่วงสงครามโลก(คาดว่าครั้งที่หนึ่ง) เลยให้มาช่วยขุดร้างถางพงที่นี่ เค้าก็เลยตั้งชุมชนอยู่กันมาเรื่อย พอมาอีกช่วงที่ทหารอเมริกาเข้ามา ก็มาไล่ที่เค้าออกไปอีก ฟังไม่ถนัดแล้วว่าไล่ไปไหน ก็เลยเห็นชาวเวียตนามแต่ไม่มากเหมือนแต่ก่อนแล้ว



มีการพักครึ่งทาง จอดเรือขึ้นฝั่งไปกระโดดน้ำเล่นได้ มีเชือกให้โหนตัวลงน้ำเล่นกันไป แต่กลุ่มหลังที่มาเรื่มขี้เกียจ เลยพักเหนื่อยกินน้ำมะนาวแทน พูดถึงน้ำมะนาว มาเห็นที่นี่ทำน้ำมะนาวกินกันเป็นว่าเล่น ถ้าจะเหลือเฟือจริงๆ ช่วงนี้
พายกันต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงสะพานเชื่อมสองฝั่งแม่นำ้ แม่นำ้ที่นี่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ขนาดความกว้างก็ประมาณสามถึงห้าเมตรเท่านั้น ทำให้บรรยากาศการพายมันดูอบอุ่นร่มรื่นซะนี่กระไร พอมาเห็นสะพานแล้วเค้าก็ให้หันหลังกลับ จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรมันมาขัดทางอยู่ เอาเป็นว่ากลับตัวก้อได้ แต่ก่อนหน้านั้นก็นั่งดูเด็กแถวนั้นพายพายัคเล่น โดนน้ำเล่นเก๋ไก๋ว่ากันไป ก่อนกลับก็ปากหวานตะโกนแล้วพบกันใหม่

โชคดีมากที่เพิ่งซื้อกล้องสนอกเกิ้ล ไม่ต้องมีกล่องกันน้ำให้รำคาญใจ พอขี้เกียจพายเรือก็หยิบมาถ่ายวิวเล่นไปเรื่อย สแนปๆกันไป ไม่ต้องเล็งเอาเป็นเอาตายแบบดิจิตอลเอสแอลอาร์อีกตัว

ตอนพายขามาที่หลงฝูงกันอยู่สองคน คุณชายก็พายมุดกิ่งไม้ไปหนึ่งหนแล้ว พอขากลับคุณแมร่งบ้าจี้อีกแล้ว บอกให้เก็บพาย ถามทำไม บอกก็จะมุดไง เอามัน... เฮ้ย เอาจริงดิอีที่จะมุดเนี่ย มันสูงพ้นเรือมาคืบสองคืบเองมั้ง เรางี้กรี๊ดๆๆตลอดทาง ขนาดว่าเรือพาดไปครึ่งลำแล้วยังคิดว่านอนราบไม่พ้นแน่ แต่ก็พ้นมาได้อย่างเฉียดฉิว คนรอบๆเค้าก้อตบมือวี๊ดวิ้วให้กันไป หนอยยยย...หมั่นไส้คนโชว์พาวว่ะ

พอกลับมาถึงลากูนอีกรอบก็เห็นน้องแพะยืนต้อนรับบนโขดหินริมฝั่ง แน่นอนว่าเรามาถืงเป็นลำแรกๆ เพราะพายเป็นบ้าเป็นหลังข้ามช่วงเปิดอีกแล้ว ถึงแม้จะลมสงบลงนิดนึงแล้วก็ตาม พอขึ้นฝั่งได้ เค้าก็เริ่มเสร์ิฟผลไม้ คุณฝรั่งเศสจัดแจงตกแต่งถาดด้วยตัวเอง มีดอกลั่นทมประดับถาดใบตอง ระหว่างนั้นก็คุณสตาฟทังหลายก็ปีนต้นมะพร้าวเฉาะแจกกันสดๆ ต้นแถวนั้นผลจะออกส้มๆหน่อย รสชาดจะจืดนิดๆ แต่ก็ยังชื่นใจ แอบขำเห็นคุณชายเราตื่นเต้นกับการกินน้ำมะพร้าว พูดจาเหมือนกับไม่รู้ว่ามะพร้าวมันมีน้ำให้กินด้วย (เอ๊ะก็เคยกินที่ร้านอาหารแถวบ้านไม่ใช่เหรอะฟะ)

จากนั้นเค้าก็พาเดินไปด้านหลังจะมีบ่อฉลามกับบ่อเต่า จัดไว้น่ารักดี บ่อฉลามดูดีไม่แพ้ซีเวิล ส่วนบ่อเต่า ดูเต่ามีสุขภาพดีลัลลามาก ดูดีกว่าซีเวิลที่เล็กๆ แล้วเต่าจะดูป่วยๆมาก เต่าที่นี่มีการเลี้ยงด้วยมะละกอ เค้าก็แจกมะละกอคนละชิ้นสองชิ้นล่อเต่าให้เข้ามาใกล้ๆ มีบางตัวที่ใหญ่เป็นเมตรแล้วเข้ามางาบ เล่นเอาสยองว่ามานจางาบมือไปด้วยมั้ยเนี่ย อ้อ แต่ฉลามเค้าไม่ลงทุนเอาเนื้อปลามาให้โยนนาจ๊ะ ดูแต่ตา ไม่ต้องป้อน

เสร็จทัวร์กลับบ้านประมาณห้าโมงกว่า เป็นทัวร์เล็กๆที่ประทับใจมากๆ




Create Date : 17 มิถุนายน 2551
Last Update : 17 มิถุนายน 2551 11:58:42 น. 3 comments
Counter : 400 Pageviews.

 
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ
น้ำใสเห็นต้วปลาเลยนะค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:13:46:40 น.  

 
ที่ไหนหรอ พังงาหรอ


โดย: ตาลตาล IP: 125.27.151.195 วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:46:08 น.  

 
อิจฉาจริงจริ้ง


โดย: zumei IP: 58.136.51.8 วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:39:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รัชศรี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add รัชศรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.