หมึกสีดำของไผ่สีทอง
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาในทางปฏิบัติถึงมโนปฏิบัติ เป็นผู้คงที่ ระงับแล้ว มีสติทุกเมื่อ,, การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
26 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
หนีนรก ตอนที่ ๑ - การปฏิบัติตนเพื่อหนีบาป







ตอนที่ ๑
การปฏิบัติตนเพื่อหนีบาป



ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย ต่อไปนี้อาตมาจะขอปรารภ เรื่อง การปฏิบัติตนหนีบาป คำว่า "บาป" นี้บรรดาท่านพุทธบริษัท แปลว่า "การกระทำความชั่ว" ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงยืนยันว่า บุคคลใดถ้าตกเป็นทาสของความชั่วคือ บาป เวลาก่อนจะตายถ้ากำลังจิตเศร้าหมองมีกำลังใจกังวลอยู่กับบาป ตายแล้วก็ต้องตกนรก ความจริงที่บางท่านคิดว่า การตายแล้วไม่เกิด คือว่าตายแล้วมีสภาพสูญ อย่างไรก็ตามเถอะพระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า คนเราตายแล้วต้องมีการเกิด แต่การเกิดนั้นจะเกิดเป็นมนุษย์ หรือเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็ถือว่าเกิดทั้งหมด ถ้าส่วนดีก็ไปเกิดเป็นเทวดาบ้าง เป็นพรหมบ้าง ถ้าดีถึงที่สุดก็ไปเกิดเป็นพระอรหันต์เข้านิพพานไป

เป็นอันว่าอาตมาเองก็ขอยืนยันตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า การตายแล้วเกิดนั้นมีจริง ซึ่งบรรดาท่านพุทธบริษัทชายและหญิง ส่วนใหญ่เวลานี้ก็ปฏิบัติในหลักสูตรของวิชชาสามบ้าง ในหลักสูตรของอภิญญาหกบ้าง สามารถระลึกชาติได้ว่าก่อนจะเกิดเราเคยเป็นอะไรมาบ้าง ตายเป็นอะไรมาบ้าง อย่างนี้ทราบกันอยู่แล้วก็เป็นอันว่ายืนยันตามคำสั่งขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วได้ว่าการตายแล้วต้องเกิดจริง การที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของบุญและบาป การกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็นำมาทั้งเศษบุญและเศษบาป

เศษบุญ เป็นปัจจัยให้ทุกคนมีความสุขตามสมควรกับบุญนั้น

เศษบาป เข้ามาครอบงำจิตเมื่อไหร่ ทุกคนที่ได้รับผลนั้นก็จะมีแต่ความทุกข์ ความเร่าร้อน

ถ้าหากว่าเราคิดว่าตายแล้วไม่เกิด จิตจะมีความประมาทพลาดจากความเป็นจริง ถ้าคิดอย่างนั้นบรรดาท่านพุทธบริษัทชายและหญิง ก็จะมีความประมาทในชีวิต คิดว่าการเกิดมาแล้วตายก็สูญ เมื่อมันจะสูญไปจากโลกนี้ไม่มีการเกิดต่อไป การกระทำความดีหรือการกระทำความชั่วใด ๆ ย่อมมีผลเฉพาะในชาติปัจจุบันเท่านั้น เพราะชาติข้างหน้าไม่มี ถ้าคนที่มีกำลังใจดีก็จะสั่งสมความดี เพื่อความสุขของตน คนที่มีจิตหยาบบาปอกุศลก็ครอบงำ ก็จะทำแต่ความชั่ว สร้างความเร่าร้อนให้แก่ตัวและบุคคลอื่น ถ้าตายแล้ว บังเอิญที่ต้องเกิดจริง ๆ ความจริงอาตมาใช้คำว่าบังเอิญเฉพาะบุคคลที่คิดว่าตายแล้วสูญ สำหรับอาตมาเองจริง ๆ ขอยืนยันว่าตายแล้วเกิดแน่ การระลึกชาติเราสอนกันได้แล้วมีญาติโยมพุทธบริษัททำได้นับแสน ถ้าเราไม่มีการเกิดเราจะรู้ชาติที่แล้วมาได้อย่างไร

ก็รวมความว่า ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าการเกิดต่อไปมีจริง ๆ ใครท่านจะว่าไม่มีก็ช่างท่านเถอะ เรื่องความเห็นนี่อย่าไปถือเป็นเรื่องความผิดเรื่องถูก ของใครก็ของมันอาตมาบวชมาตามหลักสูตรในพระไตรปิฎก ซึ่งบรรดาพระทั้งหลายยอมรับว่าเป็นถ้อยคำที่องค์พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอน และก็ปฏิบัติตามพระไตรปิฎกก็มีผลตามนั้นจึงหมดสงสัย

ในเมื่อเรามาพูดกันถึงเรื่องเกิดพอสมควร เพราะว่าเกิดแล้วตายแล้วจะต้องไปนรกบ้าง ไปสวรรค์บ้าง คือไปสู่แดนของความสุขบ้าง แดนของความทุกข์บ้าง ทุกคนก็ไม่มีใครอยากพบกับแดนของความทุกข์ ต้องการอย่างเดียวคือ ต้องการพบกับแดนของความสุข

เราจะทำอย่างไรกัน?

ข้อนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน ที่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า ฟังคำแนะนำ

ของพระพุทธเจ้าสักหน่อยหนึ่ง แล้วลองไปปฏิบัติตาม ถ้าทุกท่านที่ฟังแล้วนำไปปฏิบัติได้จริง อาตมาก็ขอยืนยันว่าการเกิดต่อไปข้างหน้าของท่าน ที่มีกี่ครั้งก็ตามกี่ชาติก็ตาม ของยืนยันว่าทุกท่านจะไม่พบกับอบายภูมิทั้ง ๔ คือการเกิดเป็นสัตว์นรกก็ดี เป็นเปรตก็ดี เป็นอสุรกายก็ดี เป็นเดรัจฉานก็ดี จะไม่มีแก่ท่านทุกชาติที่เกิดอีกต่อไป และการเกิดของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ก็จะจำกัดการเกิด เอาเฉพาะการปฏิบัติอย่างหยาบๆ ท่านทั้งหลายถ้าจะมีการเกิดจริง ถ้ากำลังใจของท่านย่อหย่อนปฏิบัติได้แต่ว่าไม่เคร่งเครียดนัก คือ ปฏิบัติได้ไม่ละเอียดนัก พอทำกันได้ เรียกว่าประเภท "เช้าชามเย็นชาม" แต่ก็สามารถทรงความดีไว้ได้ อย่างนี้ถ้าหากว่าท่านจะเกิดใหม่ก็เกิดเป็นเทวดาหรือพรหม 7 ชาติตามหลักวิชา หลังจากนั้นก็เป็นพระอรหันต์เข้านิพพาน

ถ้ามีกำลังใจเข้มแข็งทำได้แบบละเอียดจริงๆ อารมณ์สุขุมทรงตัวได้อย่างดี ถ้ากำลังใจประเภทนี้เราทำได้จะเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมอีกชาติเดียวเท่านั้น กลับลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ๑ ชาติ เป็นพระอรหันต์เข้านิพพาน

หลักสูตรนี้มีในพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกคนให้ตัดสังโยชน์ สังโยชน์นี่ถ้าตัดได้ ๓ จะเป็นพระโสดาบัน หรือสกิทาคามี เพียงแต่เป็นพระโสดาบันอย่างหยาบที่เรียกว่า สัตตักขัตตุง ต้องเกิดอีก ๗ ชาติ เพียงเท่านี้บรรดาท่านพุทธบริษัทอบายภูมิทั้ง ๔ จะเข้าไม่ถึงและก็ไม่พบหน้ากันแล้วก็ขอลาอบายภูมิได้

สังโยชน์ ทั้ง ๑๐ ประการนี้มีอะไรบ้าง?

๑. สักกายทิฏฐิ

๒. วิจิกิจฉา

๓. สีลัพพตปรากมาส


สามข้อนี้อาตมาจะสอนญาติโยมพุทธบริษัทปฏิบัติกัน ถ้าตัด ๓ ข้อนี้ได้ อย่างหยาบก็สามารถหลีกนรกได้แน่นอน ไม่พบหน้ากันอีกแล้ว

ข้อที่ ๑ ที่เรียกว่า สักกายทิฏิฐิ ซึ่งมีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็นของเรา หรือเรามีในร่างกาย ร่ายกายมีในเรา อย่างนี้เป็นต้น หรือว่ามีความรู้สึกว่าร่างกายนี้มีสภาพไม่ตาย มันจะทรงตัวอยู่ตลอดกาลตลอดสมัย ไม่เสื่อมไม่ตายไปจากโลกนี้หรือว่ามีความเห็นว่าร่างกายนี้นอกจากจะไม่ตายแล้ว มันก็มีแต่ความสะอาด เรียกว่า มีความสะอาดน่ารัก น่าชม นานิยมทุกอย่าง ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นของโสโครก แล้วก็มีความรู้สึกว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็นของเรา เรามีในร่างกาย ร่างกายมีในเรา

ความรู้สึกในสักกายทิฏฐิ อาตมาตั้งไว้ ๓ ระดับก็เพราะอารมณ์อย่างนี้มีความรู้สึกไม่เสมอกัน

ถ้าอารมณ์ขั้นพระโสดาบันหรือสกิทาคามี จะมีความรู้สึกเป็นแต่เพียงว่าร่างกายนี้ต้องตาย

ถ้าอารมณ์ของพระอนาคามี จะมีความรู้สึกว่าร่างกายนี้นอกจากจะตายแล้ว มีสภาพเสื่อม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และสลายตัวไปในที่สุด ร่างกายของคนก็ดี ของสัตว์ก็ดี วัตถุธาตุใดๆ ก็ดี ไม่มีคำว่าสะอาด มีแต่คำว่าสกปรก น่าเกลียด น่าชังอย่างยิ่ง มีความรังเกียจในการที่จะมีร่างกายต่อไปอีก อันนี้เป็นอารมณ์ของพระอนาคามี

ถ้าเป็นอารมณ์ของพระอรหันต์ จะมีความรู้สึกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา

ฉะนั้นจึงขอชวนบรรดาท่านพุทธบริษัทปฏิบัติแค่เบื้องต้น ยึดอารมณ์ของพระโสดาบันเข้าไว้ เราจะเป็นพระโสดาบันหรือสกิทาคามีหรือไม่นั้นไม่สำคัญ อย่าคำนึงถึงว่าเราจะต้องเป็นพระโสดาบันบ้าง เป็นสกิทาคามีบ้าง ถ้ามีความรู้สึกอย่างนั้นความประมาทจะเกิดแก่บรรดาท่านพุทธบริษัทคิดว่า " เราดีแล้ว" ถ้าบังเอิญเราไม่ได้เป็นจริงๆ ถ้าพลาดพลั้งตายไปอาจจะไปอบายภูมิได้

ฉะนั้นการปฏิบัติจริงๆ ให้ต้องการแต่ผล อย่าคิดว่าตนเป็นอย่างนั้น คิดว่าตนเป็นอย่างนี้ จะกลายเป็นคนมีมานะทิฏฐิ ซึ่งเป็นกิเลสหยาบทำปัญญาให้ถอยหลัง

รวมความว่าสังโยชน์ ๑๐ ประการก็คือ

๑. สักกายทิฏฐิ มีความรู้สึกว่าร่างกายนี่มันจะไม่ตาย ร่างกายสะอาด ร่างกายเป็นเราเป็นของเรา เรามีในร่างกาย ร่างกายมีในเรา

๒. วิจิกิจฉา มีความสงสัยในพระพุทธเจ้า ในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สงสัยในความดีของพระอริยสงฆ์ ม่ตกลงว่าจะยอมรับนับถือหรือไม่

๓. สีลัพพตปรามาส ไม่ตั้งใจรักษาศีลอย่างจริงจัง รักษาศีลประเภทศีลหัวเฒ่าคือผลุบเข้าผลุบออก ประเดี๋ยวก็ทรงตัวบ้าง ประเดี๋ยวก็ไม่ทรงตัวบ้าง

สังโยชน์ข้อที่ ๔ กามฉันทะ มีความหลงใหลใฝ่ฝันในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ นี่เรียกว่าติดหลงใหลใฝ่ฝันอยู่ในกามารมณ์

สังโยชน์ข้อที่ ๕ ปฏิฆะ มีอารมณ์ข้องใจไม่พอใจ คือ มีความโกรธ มีความไม่พอใจอยู่เป็นปกติยังเหลืออยู่

สังโยชน์ข้อที่ ๖ รูปราคะ มีความหลงใหลใฝ่ฝันในรูปที่เป็นวัตถุ หรือรูปฌาน

สังโยชน์ข้อที่ ๗ สงสัยใฝ่ฝันในอรูป หรือสิ่งที่ไม่มีรูป หรือ อรูปฌาน ว่าดีเลิศประเสริฐแล้ว

สังโยชน์ข้อที่ ๘ มานะ ยังมีการถือตัวถือตน ว่าเราดีกว่าเขา เราเสมอเขา เราเลวกว่าเขา

สังโยชน์ข้อที่ ๙ อุทธัจจะ ยังมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ไม่มั่นใจในตัวเองว่าเราจะไปนิพพานดีหรือไม่ไปนิพพานดี ไปได้แน่หรือไปไม่ได้แน่ เอาแน่นอนไม่ได้ คือ จิตใจขาดความเข้มแข็ง

สังโยชน์ข้อที่ ๑๐ อวิชชา อวิชชานี้ยังมีความหลงใหลใฝ่ฝันในมนุษยโลก เทวโลก และพรหมโลก ยังเห็นว่ามนุษยโลก เทวโลก พรหมโลกเป็นของดี ต้องการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ

รวมความว่าสังโยชน์ ๑๐ ประการนี้ เป็นเครื่องดึงเราให้เวียนว่ายตายเกิด ตายแล้วเกิดใหม่ เกิดแล้วตาย ไม่ใช่เกิดจากมนุษย์ตายเป็นมนุษย์ ตายจากมนุษย์เกิดเป็นมนุษย์ไม่ใช่อย่างนั้น ตายจากมนุษย์แล้วอาจจะเป็นสัตว์นรกก็ได้ เปรตก็ได้ อสุรกายก็ได้ สัตว์เดรัจฉานก็ได้ เป็นเทวดาหรือพรหมก็ได้ เป็นอะไรก็ได้ สุดแล้วแต่ความดีหรือความชั่ว

ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัท หรือบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณรสามารถตัดสังโยชน์ได้ถึง ๑๐ ประการ พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า "พระอรหันต์" เป็นผู้ตัดกิเลสเป็น "สมุจเฉทปหาน" ก็รวมความว่าเราจะไม่พบกับคำว่าการเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือพรหมไม่มีอีกแล้ว ไปอยู่นิพพานแห่งเดียวมีแต่ความสุขสำราญ ไม่มีความทุกข์เป็นที่ไป

ก็รวมความว่าวันนี้หรือวันต่อไป ก็ยังไม่ชวนบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทและเพื่อนภิกษุสามเณร เป็นพระอนาคามี หรือเป็นพระอรหันต์ ก็ยังไม่ชวนทุกท่านเป็นพระโสดาบัน หรือสกิทาคามี จะชวนเพียงว่า เรามาเอากันอย่างนี้ดีกว่า ในเมื่อพระโสดาบัน ก็ดี พระสกิทาคามีก็ดี ท่านสามารถหลีกนรกได้เด็ดขาด ถึงอย่างไรก็ตามท่านไม่มีโอกาสลงนรกได้อีก นรกก็ไม่เกิด เป็นเปรตก็ไม่เกิด อสุรกายก็ไม่เกิด เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่เกิด จะมีแดนที่ไปที่มาระหว่างมนุษยโลกกับเทวโลกเท่านั้น เป็นอันว่า "ตัดอบายภูมิได้เด็ดขาด" เราต้องการกันแค่นี้ก่อน

ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทก็ดี เพื่อนภิกษุสามเณรก็ดี อาตมาเองก็ตาม สำหรับอาตมาจริง ๆ มีความรู้สึกว่าเวลานี้เป็นเด็กอ่อน ยังเป็นเด็กอ่อนอยู่ ยังไม่กล้าต่อสู้อารมณ์ที่เข้ไปถึงความเป็นพระอรหันต์ เราเป็นเด็กเล็กมีกำลังน้อย ๆ ยกของ เบา ๆ ก่อน

อันดับแรก ลองยกสังโยชน์ทั้ง ๓ ประการออกจากใจ ก็คิดว่ายังไง ๆ เราก็ไม่ไปนรกกันก่อน ไม่เป็นเปรต ไม่เป็นอสุรกาย ไม่เป็นสัตว์เดรัจฉานกันก่อนดีกว่า เอายังไงก็ดี ตั้งต้นกันจุดนี้เถอะบรรดาท่านพุทธบริษัทผู้ปฏิบัติพระกรรมฐาน การปฏิบัติกระกรรมฐานในหลักสูตรของวิชชาสามก็ดี อภิญญาก็ดี ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี หากว่าท่านได้ ๒ ในวิชชาสาม, ๕ ในอภิญญาหก หรือสมาบัติ ๘ แต่ว่าท่านไม่สามารถจะตัดสังโยชน์ ๓ ประการให้พ้นจากใจได้ ท่านก็ยังเป็นเหยื่อของอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เราก็มาลองดูมันยากนักไหม ยากหรือไม่ก็ลองพิจารณากันดู

๑. สักกายทิฎฐิ เอาตัวนี้เข้ามาตั้งต้นก่อน อารมณ์ขั้นต้นของพระโสดาบันกับสกิทาคามิ ท่านมีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องตายและบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณรก็ดีญาติโยมพุทธบริษัทก็ดี มีความรู้สึกเหมือนพระโสดาบัน สกิทาคามีไหม ท่านมีความรู้สึกตัวท่านเอง ท่านจะตายไหม แต่ก็บางทีหลาย ๆ ท่านอาจจะลืม คิดว่าเราจะต้องตายเป็นปี ๆ ก็ได้ บางทีเกิดมา ๑๐ ปี ๒๐ ปี ลืมนึกถึงว่าชีวิตมันจะต้องตายอันนี้เป็นของธรรมดาของพวกเรา ญาติโยมก็เหมือนกัน เพื่อนภิกษุสามเณรก็เหมือนกัน อาตมาก็เช่นเดียวกน เราก็ขี้หลงขี้ลืมเหมือนกัน

ต่อแต่นี้ไปเรามาตั้งต้นกันใหม่ดีไหม ว่าต่อแต่นี้ก่อนจะหลับเราจะคิดไว้ว่าหลับคราวนี้จะได้ตื่นเห็นพระอาทิตย์วันใหม่หรือไม่ก็ไม่ทราบ เราอาจจะต้องตายระหว่างการหลับหรือก่อนสว่างก็ได้พอสว่างแล้วตื่นขึ้นมา ก็มีความรู้สึกว่าเราจะได้เห็นกลางคืนของวันนี้หรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะชีวิตในช่วง ๑๒ ช่วงโมง ของกลางวันเราอาจจะตายก่อนก็ได้ ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง" เรื่องความตายนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทจงอย่าคิดว่าคนคิดถึงเรื่องความตายนี้ ต้องงอมืองอเท้าไม่ทำมาหากิน ไม่สั่งสมความดี อันนั้นผิด องค์สมเด็จพระธรรมสามิสรทรงแนะนำว่าคนที่นึกถึงความตายนี่ เขาเป็นคนแกล้วกล้า ประกอบกิจการงานทุกอย่างตามหน้าที่ครบถ้วน เพราะไม่แน่ใจว่าจะตายเมื่อไร

สมมุติว่า ท่านมีสามีหรือภรรยา และมีบุตร ธิดาอยู่ด้วยมีคนที่ต้องอุปถัมภ์ ถ้าเราประมาทในชีวิต คิดว่าแก่สัก ๖๐ ปีหรือ ๗๐ ปี ๘๐ ปี หรือ ๑๐๐-๒๐๐ ปี จะต้องตายเราก็ไม่สั่งสมทรัพย์สินไว้เพื่อลูกเพื่อหลาน ยังคิดว่าอีกนานเราจะตายไม่เป็นไร ระหว่างนี้ทำกินพอกินไปวัน ๆ หนึ่งก็ได้ ถ้าเผอิญมันปุ๊บปั๊บตายไปก่อนล่ะ ลูกหลานไม่ลำบากหรือ เราเองก็ลำบาก เพราะเรามีทรัพย์น้อย พอจะตายขึ้นมาจริง ๆ จิตก็มีความกังวลถึงลูกถึงหลาน ตัวจิตกังวลนี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท จะทำให้เราต้องลงอบายภูมิ

หากว่าเราไม่ประมาทในชีวิต คิดว่าอาจจะตายวันนี้ไว้เสมอ เราก็หาทางรวบรัดสิ่งใดที่จะสร้างทรัพย์สมบัติให้เกิดขึ้น สำหรับทำทุนทำรอนไว้เพื่อเราในยามป่วยหรือยามแก่ ถึงเวลาที่มันตายไปแล้วลูกหลานไม่ลำบากในการจัดการศพ หรือการเป็นอยู่ในเบื้องหน้าเราก็หาทรัพย์สมบัติมาตามกำลังที่จะพึงหาได้ หาจนเต็มความสามารถด้วยความไม่ประมาทในชีวิต อย่างนี้ถ้าบังเอิญมันยังไม่ตาย ทรัพย์สินที่เราหาได้ก็จะสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบัน ในเมื่อเราคิดว่าเราจะตายแล้ว รู้ว่าตายแล้วถ้าทำความชั่ว จิตชั่วเราต้องไปอบายภูมิ มีการเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นต้น เราก็จะละจากความชั่วนั้น ตั้งหน้าตั้งทำดี พูดดี คิดดี คนที่ทำดีพูดดีและคิดดี คนประเภทนี้เป็นที่รักของทุกคนในโลก ไม่มีคนเลวที่ไหนที่เห็นว่าคนพูดดี ทำดี คิดดี เป็นคนที่น่าเกลียด ที่ต้องการประกาศเป็นศัตรู ถ้าคนที่สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ บรรดาท่านพุทธบริษัทใครเขาก็รักทุกคนที่ทำดี พูดดี และคนคิดดี เพราะการทำดีเป็นการกระทำที่ไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นให้มีความทุกข์ คนก็ดี สัตว์ก็ดี ไม่มีความทุกข์ เพราะการกระทำของเรา การพูดดี คนก็ดี สัตว์ก็ดีในโลกจะไม่เกิดความลำบากเดือดร้อนจากคำพูดของเราคนที่คิดดี คนและสัตว์ในโลกจะไม่เกิดความลำบากยากแค้นไม่มีอันตรายเพราะความคิดดีของเรา เราเองก็มีแต่ความสดชื่น คนอื่นเห็นเข้าก็มีการชื่นอกชื่นใจ อยากคบหาสมาคม ไปที่ไหนก็มีแต่มิตรเป็นที่รัก

ถ้าอย่างนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท คนที่คิดว่าจะต้องตายและเกรงว่าจะไปอบายภูมิต่างคนต่างทำดี ต่างคนต่างพูดดี ต่างคนต่างคิดดี อย่างนี้เจอะหน้าคนก็มีแต่ความเป็นมิตรไม่มีใครคิดเป็นศัตรูต่อกัน พูดก็พูดวาจาที่เป็นที่รักซึ่งกันและกัน การกระทำก็ไม่ขัดใจกัน ไม่ขัดขวางไม่มีการกลั่นแกล้งกัน ช่วยเหลือกัน ความคิดก็ไม่หมกมุ่นไปด้วยอารมณ์ที่เศร้าหมอง อย่างนี้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท รวมทั้งเพื่อนภิกษุสามเณรเห็นด้วยไหม ว่าก่อนจะตายหรือไม่ทันจะตายเราก็มีความสุขแล้ว ความสุขที่เกิดจากการเห็นหน้าและยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน ทุกคนก็มีแต่ความสดชื่น ถ้ามีการขัดข้องในทรัพย์สินหรือสิ่งของต่าง ๆ ต่างคนต่างยื่นโยนซึ่งกันและกัน สงเคราะห์ซึ่งกันและกันอย่างนี้แหละบรรดาท่านภิกษุสามเณรทั้งหลายและญาติโยมพุทธบริษัทควรคิดใหม่ว่าเราจะต้องตาย ในเมื่อเราคิดว่าจะต้องตายแล้ว เราก็ตั้งใจว่าการตายของเราคราวนี้จะตายเมื่อไรก็ตามที จะตายระยะไหนก็ตามคิดว่าพร้อมที่จะตายวันนี้ก็ได้เสมอ เราก็ทำดีทุกจุด

ความดีอันดับแรกบรรดาท่านพุทธบริษัทจะทำอะไรดี จะทำอะไรเป็นจุดแรกดีก็ขอยืนยันยึดเอาสังโยชน์ข้อที่ ๒ ที่เราเรียกว่า "วิจิกิจฉา" ทำลายวิจิกิจฉาให้พ้นจากกำลังใจของเรา

คำว่า "วิจิกิจฉา" นี่แปลว่า "สงสัย" คือสงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า สงสัยในความดีของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สงสัยในความดีของพระอริยสงฆ์ มีพระอรหันต์ เป็นต้น สงสัยว่าพระพุทธเจ้านะมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง ๆ พระพุทธเจ้าน่ะดีไหม คำสอนของพระองค์ดีจริง ๆ หรือเปล่า นี่สงสัย สงสัยคำสอน นี่สงสัยพระธรรมเลย แล้วสงสัยว่าพระอริยสงฆ์ในพระพุทธศาสนานี่มีหรือไม่มี หนัก ๆ เข้าก็เลยคิดว่าไม่มี เพราะตัวสงสัยว่าพระพุทธเจ้าจริง ๆ ก็ไม่มี พระไตรปิฎกที่มีอยู่อ่านกันอยู่ ก็เป็นพระไตรปิฎกโกหกมดเท็จ ใครเขียนขึ้นมาก็ไม่รู้ก็เขียนแบบโกหกขึ้นมาว่าโลกนั้นมีโลกนี้มี ระลึกชาติไม่ได้ จิปาถะกันไป เลยสงสัยพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาที่เขาบอกว่าพระสงฆ์ พระสงฆ์น่ะเป็นพระสงฆ์จริงๆ หรือว่าเป็นตัวเบียดเบียนประชาชน ทำให้สังคมมีความทุกข์ มีความเร่าร้อน เพราะพระไม่เห็นจะทำอะไรได้แต่บิณฑบาต แล้วก็กิน กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็บิณฑบาตแล้วก็บอกบุญบ้าง ขอบุญบ้างเรี่ยไรกันบ้าง จิปาถะ มีแต่พูดไปพูดมาแล้วก็พูดไป ไม่เห็นมีอะไรให้เกิดประโยชน์ นี่ไม่สงสัยนะเลยไม่เชื่อเสียเลย ลักษณะอย่างนี้เป็นสังโยชน์ ข้อที่ ๒ ที่ทำให้คนเราต้องลงอบายภูมิ ขอยืนยันว่าถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องลงอบายภูมิ เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน แน่นอน

ถ้าถามว่าคนที่เขามีความรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้แล้วไม่ไปนรกมีไหม?

ก็ต้องตอบว่าไม่มี เว้นไว้แต่ว่าจะมีเวลาส่วนใดส่วนหนึ่ง แม้แต่เป็นเวลามีความเชื่อมีความเลื่อมใสเข้ามาเพียงเล็กน้อย ตายปุ๊บปั๊บในขณะนั้นอาศัยที่จิตมีความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เป็นต้น แล้วก็ไปสวรรค์ชั่วคราว ใช้เวลาไม่นานก็ลงป๋อมลงนรกไป

เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายสำหรับเบื้องต้นอันนี้ก็พูดกันมากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะเวลาหมดแล้ว ก็ต้องขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแต่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี...




**********************
ปล. หนีนรก มีทั้งหมด ๒๔ ตอนจบครับ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ
ที่มา เวปพุทธภมิ



ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว


Create Date : 26 สิงหาคม 2552
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 15:27:34 น. 49 comments
Counter : 2387 Pageviews.

 
อนุโมทนาค่ะ.....
แต่อ่านได้ครึ่งหนึ่งละ....อีกครึ่งติดไว้ก่อนนะ
แล้วจะมา่อ่านใหม่


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:17:40:25 น.  

 
ถ้าเรารู้จักและตระหนักในบาปได้ทุกคนก็ดีนะค่ะ ขอบคุณเรื่องดีๆ มีความสุขมากๆนะค่ะคุณไผ่


โดย: sawkitty วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:17:44:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ไผ่
ในฐานะ อุบาสิกา 1 ใน พุทธบริษัท
่ขอโมทนาด้วยกับพี่ไผ่ค่ะ


ปล.จะรออ่านตอนต่อๆ ไปนะคะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:18:38:38 น.  

 
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนนาสาธุคะคุณไผ่ เป็นไปได้ไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้วค่ะุคุณไผ่ ทุกวันนี้พยายามทำทาน ศีล ภาวนา ให้ได้ทุกวันค่ะ


โดย: Budratsa วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:23:38:16 น.  

 
God is the life
the truth and the ways
Once you accept him in your
life u will find the miracal
as it dose happen to me


โดย: da IP: 124.120.5.164 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:0:18:14 น.  

 
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พี่ไผ่

หลับสนิทไม่ฝันนะคะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:23:01:13 น.  

 
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: redclick วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:23:15:22 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไผ่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:5:33:40 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


ยิ้มสดใสรับเช้าวันศุกร์
ทักทายกันด้วยรอยยิ้มที่มาพร้อมกับความสุขด้วยกันค่ะคุณไผ่


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:6:26:19 น.  

 
ตื่นมาทานกาแฟค่ะ.....เอาบุญมาฝากค่ะ



เมื่อคืนส่งเม้นผ่านด้วยเหรอเนี้ย.....เมื่อคืนฝนตกหนักมาก ...สัญญานเนตหาย
ก็เลยขี้เกียจเล่น...ไปนั่งสมาธิดีกว่า


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:7:10:20 น.  

 
title=

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ไผ่


โดย: พ่อระนาด วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:7:16:58 น.  

 
วันนี้...วันพระ



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:7:38:40 น.  

 
สวัสดีเช้าวันพระค่ะ ..ยิ้ม..


โดย: ปลิวตามลม วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:8:18:20 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าจ้าพี่ไผ่..
วันศุกข์แล้ว..เร็วมากเลย..



โดย: ตัวp_box วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:8:22:13 น.  

 
วันพระสวัสดีค่ะ
เเวะมาอ่าน เเต่ยังไม่จบคะ กะเด่วมีเวลามาอ่านต่อ



โดย: อาลีอา วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:8:38:01 น.  

 


วันพระสวัสดีค่ะพี่ไผ่
ขอติดอ่านไว้ตอนเย็น นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:8:48:27 น.  

 

เรียนเพื่อนๆ ที่ร่วมทำบุญกับ จขบ. กรุณาแจ้งชื่อด้วยนะครับ
จขบ.จะได้ทราบว่าใครโอนมาเป็นเงินเท่าไหร่ครับ
(ยกเว้นไม่ประสงค์ออกนาม ก็มิเป็นไรครับ)
แจ้งผ่านหลังไมค์ หรือสดวกผ่านทาง อีเมล์ก็ได้นะครับ
โดยแจ้งมาที่ sawahome@hotmail.com ครับผม


วันที่............รายการ..................................ฝากเงิน (บาท)....ช่องทางบริการ
27/08/2009 รายการเงินโอนโดยไม่มีสมุดคู่ฝาก 1,000.00 เอทีเอ็ม 09465
27/08/2009 รายการเงินโอนโดยไม่มีสมุดคู่ฝาก 2,000.00 เอทีเอ็ม 05151

รายชื่อผู้ร่วมบุญ

1. คุณ มินทิวาและครอบครัว..................... 1,000.00
2..คุณ catt.&.cattleyaและครอบครัว............2,000.00
3.


สรุปยอดของผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ
ยอด ณวันที่ 27 สิงหาคม 2552
ยอดเงินรวม= 3,000.00 บาท



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคี สร้างพระอุโบสถ-2


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:8:48:34 น.  

 


แอบส่งดอกไม้มาให้ เอิ้กๆๆ


โดย: อาลีอา วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:9:10:21 น.  

 




Photobucket





ทักทายกัน สุขสันต์วันศุกร์นะคะ

อนุโมทนาค่ะคุณไผ่




โดย: นายกุหลาบ วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:10:16:09 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์ที่ร้อนจนตับจะสุก...ค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:10:26:44 น.  

 
ทานมื้อเที่ยงด้วยความเอร็ดอร่อยนะคะ


โดย: พี่นู๋อ้อ (pinuaoo2006 ) วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:12:03:26 น.  

 
ทานข้าวยัง....เที่ยงแล้ว
วันนี้ว่าจะไปวัดเย็นๆหน่อยค่ะ

เอาสลัดกุ้งทอดมาฝากด้วย...น่าหม่ำจริงๆเลย



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:12:30:20 น.  

 
สวัสดีจ้า แวะมาทักทายยามเย็น
พรุ่งนี้วันหยุดแล้ว เที่ยวเผื่อบ้างเนอะ


โดย: หน่อยอิง วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:16:08:51 น.  

 
หวัดดียามค่ำค่ะ พี่ไผ่
ทานข้าวยังคะ เห็นสลัดกุ้งแล้ว
ขอชิมได้ป่าวคะ อิอิ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:19:14:34 น.  

 


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:19:54:43 น.  

 



พระนี้ขึ้น 8 ค่ำเดือน 10

อดีตเราย้อนกลับไปทำอะไรมันไม่ได้
อนาคตเราก็ยังทำอะไรไม่ได้..มันไม่ได้อยู่กับเรา
สิ่งที่อยู่กับเราแน่นอนคือปัจจุบัน..
เราก็ขอทำปัจจุบันให้ดีเสมอนะค่ะ

ไม่ล่วงเกินกัน หัดยอมกัน ให้อภัยกัน
คิดเสียว่าโลกทั้งผองคือพี่น้องกัน
อย่าได้มีเวรเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า อิจฉาริษยาคือจุดไฟเผาตัวเอง
อายุก็สั้นและตายเร็ว..หลักปฎิบัติที่สำคัญของชีวิต




ระลึกถึง..กัลยณามิตรที่แสนประเสริฐ..นะค่ะ

อนุโมทนาค่ะ

cattleya..






วันนี้เหนื่อยๆๆค่ะท่าน..ไว้จะอ่านอีกครั้งนะค่ะท่าน
เห็นภาพก็กลัวละ

สักพักก็คงจะไปนอนแล้วค่ะ



โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:21:05:08 น.  

 
รู้สึกจะหนีไม่พ้นคะพี่ ช่วยดึงที


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:21:12:02 น.  

 
เพิ่งกลับมาจากข้างนอกจ้า..
เลยมาส่งพี่ไผ่เข้านอนนะคะ..





โดย: ตัวp_box วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:21:54:14 น.  

 
พี่ไผ่ขา มารายงานตัวแล้วค่ะ หายไป2วันเนื่องจากเพลียอย่างแรง

พี่ไผ่ขาเห็นหัวข้อแล้วอยากอ่านค่ะ แต่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนค่ะเดี๋ยวมาอ่านพอดีวันนี้มีแขกมาบ้านเพิ่งจะกลับเลยเพิ่งมีเวลาส่วนตัว


โดย: tukta IP: 125.24.206.141 วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:23:22:12 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไผ่ ต้องขอขอบคุณที่แวะเวียนไปดูบ้านให้บ่อยๆๆ


โดย: golo_me วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:1:45:45 น.  

 
ราตรีอรุณสวัสดิ์ครับคุณหมึกฯ
นารกเยอะขอรับหนีไม่ค่อยจะออกเลย อิอิ


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:3:10:16 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:8:06:55 น.  

 
เอาบุญมาฝากจ้า....



วันนี้ไม่ไปเที่ยวไหนหรือค่ะ...


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:11:24:56 น.  

 


.
.
.


เห็นรุปนี้
แล้วนึกถึงจิตตนครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:11:42:05 น.  

 
สวัสดีวันหยุดค่ะ สาวทำงานวันนี้ แต่พรุ่งนี้คงเวียนแถวบ้าน มีความสุขตลอดวันนะค่ะคุณไผ่
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:11:48:38 น.  

 
สวัสดีค่า

คอมไม่ค่อยสบาย



โดย: Moon~JulY วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:12:01:51 น.  

 


หวัดดีค่ะพี่ไผ่
เพิ่งกลับมาจากข้างนอกค่ะ
มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อน นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:14:21:05 น.  

 
ผมก็ยังทำไม่ได้ครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:14:48:08 น.  

 
ตื่นแล้วค่า......


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:15:34:26 น.  

 
ถ้าให้เดา
ก็ต้องเดาว่ามาจากร้านสเวนเซ่นครับพี่ไผ่ อิอิอิ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:16:08:42 น.  

 
มารับธรรมะก่อนขึ้นเครื่องไปทำธุระที่สิงค์โปรใกล้ๆ ซัก3-4วันค่ะกลับวันพุธค่ะ จริงๆตั้งใจจะโอนตังให้ทำบุญใช้ลูกน้องไปปรากฏ พากันโวยวายหาว่าแอบทำบุญคนเดียวเลยให้ปริ้นรายการทำบุญออกมาใครอยากร่วมบุญให้รวบร่วมกันก่อนค่ะจะได้เป็นยอดเดียววันพฤหัสบดีดำเนินการเสร็จจะรีบมารายงานนะค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารและความปราถนาดีที่มีให้กันเสมอมาค่ะ



โดย: นู๋ดีค่ะ (kun_isara ) วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:16:45:53 น.  

 
ขอบคุณค่ะ.....



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:17:21:41 น.  

 
แล้วจะผอมยังไงเนี่ย


โดย: Moon~JulY วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:17:51:45 น.  

 
พระอาทิตย์ตกดินแล้ว.....กลับบ้านได้แล้วค่า



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:20:28:55 น.  

 
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิค่ะคุณไผ่
พรุ่งนี้ได้พักผ่อนอีกวัน
คืนนี้หลับสบายค่ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:21:10:25 น.  

 
แวะมาอนุโมทนาตอนดึกค๊ะ

สวัสดี..ราตรีสวัสน๊ะค๊ะ


โดย: หมวยเล็ก_รักไม่ช่วยอะไร วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:22:02:16 น.  

 
ปล. หนีนรก มีทั้งหมด ๒๔ ตอนจบ


โดย: หมวยเล็ก_รักไม่ช่วยอะไร วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:22:16:11 น.  

 

แวะมาทำตนให้พ้นบาป..ยากแฮะ
ให้ทำได้มากเท่าที่จะทำได้แล้วกันนะคะ



งานกีฬาสามัคคีเพื่อคนชรา/ผู้พิการ/คนไร้ที่พึ่ง


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:22:44:38 น.  

 
คุณไผ่....ยังอยู่เปล่า

แฮะ แฮะ ยังมะง่วง(เมื่อกลางวันนอนเยอะละ)


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:22:46:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมึกสีดำ
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมึกสีดำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.