แต่งวดนี้หยิบเรื่อง “The Invisible Boy” ประพันธ์โดย Sally Gardner หรือ “เด็กชายล่องหน” แปลเป็นภาษาไทยโดย ม.ย.ร.มะลิ จากสำนักพิมพ์วงกลม

เรื่องนี้ก็เป็นตามคำโปรยนั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรที่คาดเดาไม่ได้แต่อย่างใด แซม เรย์ เป็นเด็กชายอายุต่ำกว่าสิบสองปีที่ไม่สามารถไปทัวร์ดวงจันทร์กับพ่อแม่ได้ และโดยเหตุบางอย่างทำให้เขาจำเป็นต้องไปอยู่กับฮิลดา เพื่อนบ้านผู้บ้าชื่อเสียงและเงินโดยไม่ได้มีความเมตตากับเด็กแต่อย่างใด วันคืนที่เลวร้ายของแซมค่อยดีขึ้นเมื่อพบกับสปลอด์จ เพื่อนจากต่างดาวที่จับพลัดจับผลูมาอยู่กับแซม และทำให้แซมกลายเป็นมนุษย์ล่องหน

หนังสือเล่มนี้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี เล่มบางๆ สั้นๆ ข้างในมีภาพประกอบน่ารักเหมาะกับเด็ก เนื้อเรื่องมีหลายชั้นทีเดียว คนอ่านที่เป็นเด็กก็เพลิดเพลินไปกับจินตนาการที่น่ารักของสปลอด์จ มนุษย์ต่างดาวเด็กน้อยที่ตกลงยังโลกเพื่อหามะเขือเทศไปเป็นของขวัญให้กับแม่ และอยู่เป็นเพื่อน

แต่ถ้าคนอ่านเป็นผู้ใหญ่ มันคือเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ถูก Abused โดยผู้ใหญ่ใจร้าย สะท้อนสังคมที่แซมถูกทำร้ายจิตใจจนจิตใจของเขาเริ่มตายไปทุกทีๆ และเริ่มห่างไกลจากโลกแห่งความเป็นจริง เขามีสปลอด์จที่เป็นตัวแทนของจินตนาการช่วยบันดาลให้เขากลายเป็นมนุษย์ล่องหนได้เป็นเพื่อนเพียงตัวเดียวเท่านั้น ตามท้องเรื่อง สุดท้ายพ่อแม่ก็กลับมาได้ และเรื่องสามารถจบได้อย่างแฮปปี้ เป็นความหวังและสร้างกำลังใจให้กับเด็กที่เผชิญอยู่ในสถานการณ์เดียวกันว่าในท้ายที่สุด ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น

แต่ในความเป็นจริง ผู้ใหญ่รู้ว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังเสมอไป ในโลกนี้ยังคงมี Child Abuse เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก เรื่องนี้รวบรวมคุณลักษณะของ Abuser ใส่ไว้ในตัวฮิลดาเยอะทีเดียว นั่นคือ เป็นคนที่ทำตัวปากหวานก้นเปรี้ยว เป็นคนที่สร้างภาพให้กับตัวเองจนคนรอบข้างไม่เอะใจสักนิด และมีความสามารถสูงในการปิดปากคนทั่วไปได้มิดดีนัก ไม่ว่ากับเด็กที่ถูกกระทำเอง หรือใครก็ตาม ส่วนผู้ใหญ่ในเรื่องนี้ต่างสนใจแต่ความปรารถนาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อนบ้าน นักข่าว หรือแม้แต่สามีของ Abuser ที่เพิกเฉยต่อชีวิตของเด็กคนหนึ่ง โดยเฉพาะสามีที่ทั้งที่รู้ว่าสิ่งที่ภรรยาตนทำไม่ถูกต้อง แต่เขากลัวเมียเสียจนไม่กล้าพูดอะไร

ฟังดูออกแนวเครียดเล็กน้อย แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าเรื่องนี้สิ่งที่ฉาบไว้ด้านนอกคือ ความน่ารักและจินตนาการที่เหมาะสมกับเด็กค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องห่วงว่าอ่านแล้วมันจะเหียกหรืออะไร เพียงแต่อ่านไปก็คันหัวใจยิบๆ ไปเท่านั้นเอง

สรุปเอาเป็นว่าเชียร์ค่ะ ถ้าใครที่ยังไม่อ่านเล่มนี้ หาซื้อมาอ่านได้นะ สนับสนุน ^^