แอบหนีไปเที่ยวเกาหลี : Part 1 - เกาะนามิ
สวัสดีครับ หายหัวไปนานตามเคย ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาหน้าที่การงานรัดตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่านอนไม่พอกันเลยทีเดียว (จริงๆ แล้วนอนมากเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ) เดือนที่ผ่านมาหยุดไม่กี่วัน ถ้าเทียบกับงานอื่นๆ ทั่วๆ ไปก็ไม่ได้น้อยกว่าหรอกครับ แต่งานอย่างผมมันขายสุขภาพ กินนอนไม่เป็นเวลา วันนี้ไปอยู่ในเมืองที่เร็วกว่าบ้านเรา กลับมานอนพักได้วันนึง ก็ไปเมืองที่เวลาช้ากว่าอีก บางครั้งก็ต้องบินข้ามคืน ออกดึกถึงเช้า ไอ้จะแอบนอนหลับสบายเหมือนท่านผู้โดยสารก็จะดูหวาดเสียวไปหน่อย
แต่แม้จะงานเยอะ พักผ่อนน้อย สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการท่องเที่ยวครับ เป็นเหมือน Battery คอยเติมไฟให้ชีวิต สมัยก่อนตอนนั่งทำงาน Office ผมกับเพื่อนๆ จะต้องคอยหาที่เที่ยวทุกครั้งที่มีโอกาส บางครั้ง 4-5 คน หรือเที่ยวไหนรวมกันได้เยอะสิบกว่าคน ก็สนุกสนานกันไป เรียกว่าถ้ามีหยุด 3 วันขึ้นไปในหน้าปฏิทินล่ะก็ เตรียมออกเดินทางได้เลย บางครั้งติดลมหน่อยก็ลางานเพิ่มอีกซักวัน - 2 วัน ขึ้นดอย กางเต้นท์ นั่งคุยเล่นกันไปเรื่อย ใช้เงินกันไม่เยอะหรอกครับ ก็เล่นซื้อของไปทำกินกันเอง ประหยัดแถมสนุกอีกต่างหาก ส่วนการเดินทางก็มีตั้งแต่โบกรถ รถไฟชั้น 3 รถทัวร์ ครั้งไหนหรูหน่อยก็พอมีรถนั่งกันไปเองบ้าง (คนแก่เล่าเรื่องอดีต)
แต่ปัจจุบันแต่ละคนก็เริ่มมีภาระเพิ่มมากขึ้น มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น หาเวลาตรงกันยากมากขึ้น และที่สำคัญอายุเริ่มมากขึ้น ไอ้จะเฮไปปีนดอยทีละ 4-5 ชั่วโมง และไปกันทีละสิบๆ คนก็เริ่มยากมากขึ้น และทุกวันนี้ผมเริ่มหาวันหยุดตรงกับชาวบ้านได้น้อยลงทุกที เพราะถ้าเป็นวันหยุดยาว ก็แสดงว่าจะมีคนเดินทางมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นวันที่ผมจะต้องทำงานมากขึ้นนั่นเอง (งงมั๊ยย่อหน้านี้ อะไรมากขึ้น น้อยลงปวดหัวไปหมด)
แต่ปลายเดือนที่ผ่านมา ได้โอกาส หาแลก Sched จนมีเวลาว่าง 5 วัน พาคุงแฟนไปเที่ยวเกาหลีมาครับ เรียกว่าเป็น Honeymoon รอบ 2 (รอบแรกยังไม่ได้ไปเลย โดนทวงอยู่ทุกวี่วัน) แม้จะไปกันแค่ 2 คนไม่ได้มีเพื่อนเฮเป็นสิบๆ อย่างวันวาน แต่ Concept หนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ "ถูกและดี"
ไปครั้งนี้ 4 วัน 3 คืน ไม่รวมวันเดินทาง จ่ายค่าทัวร์ไปคนละ 7800 (เป็นทัวร์ที่พนักงานการบินไทยจัดครับ ราคาจะมิตรภาพมากๆ) รวมกับตั๋วเครื่องบินราคาพนักงานอีกคนละประมาณ 2000 รวมแล้วเที่ยวครั้งนี้หมดไปไม่เต็มหมื่นดี เรียกว่าอิ่มจังตังอยู่ครบ ถ้าไม่นับค่า Shopping ซึ่งจะทำเป็นลืมๆ ไป (พร้อมกับเช็ดคราบน้ำตา เมื่อนึกถึงวันที่บัตรเครดิตเรียกเก็บ)
เริ่มออกเดินทางกันคืนแรก ด้วยเที่ยวบิน TG 658 ด้วยเครื่องบิน Boeing 777 ครับ ออกเดินทางเกือบๆ เที่ยงคืน แต่ก็ Check In เข้าไปตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า เข้าไป Shopping ในสนามบินแห่งความภาคภูมิใจ ที่มีห้างสรรพสินค้า (Duty Free) ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ และในขณะเดียวกันก็เป็นสนามบินที่ห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่หลบมุม และมีจำนวนน้อยจนน่าใจหาย
ขึ้นเครื่องได้ก็เอนหลังหลับสบายกันล่ะครับ มาโดนเปิดไฟปลุกกินข้าวอีกทีประมาณตี 3 บ้านเรา ลุกขึ้นมาฝืนกินในสภาวะง่วงสุดขีด ขี้ตาเกอะกรัง (ออกแนวโสโครก) แล้วก็กรอกเอกสารต่างๆ นานามากมายจริงๆ ครับ ตอนนี้คนที่เดินทางระหว่างประเทศจะมีเอกสารเกี่ยวกับโรคหวัด 2009 มาให้กรอกเพิ่มอีกคนละใบ
ไปถึงสนามบินอินชอนที่ประเทศเกาหลีใต้ เวลาประมาณ 7 โมงบ้านเค้า (เร็วกว่าบ้านเราอยู่ 2 ชั่วโมง) กว่าจะตรวจอุณหภูมิกันเสร็จก็ใช้เวลานานอยู่ พี่แกเล่นวัดกันคนต่อคนเลยทีเดียว ก่อนออกจากสนามบินก็แวะที่ร้าน Etude House ร้านประจำของลูกเรือไทย มาทีไรก็อาศัยร้านนี้แหล่ะครับ ซื้อของกลับไปตาม Order พี่ๆ น้องๆ โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งรถเข้าเมืองให้เมื่อย
ก้าวพ้นจากสนามบินออกมา ก็ได้รับการต้อนรับโดยสายฝนอันชุ่มฉ่ำ เช็คข่าวอากาศก่อนมาก็ตะหงิดๆ อยู่แล้ว เพราะก่อนหน้าวันจะเดินทางก็ฟ้าใสแดดดีมาโดยตลอด พอวันไปถึงพยากรณ์ก็บอกว่าฝนจะตก 100% และก็จะทยอยตกกระปริดกระปรอยไปเรื่อยๆ จนวันกำหนดกลับ ท้องฟ้าก็จะกลับมาสดใสอีกครั้งหนึ่ง
เป้าหมายแรกที่เราจะฝ่าสายฝนไปเที่ยวกันคือ เกาะนามิ ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลนามิ ซึ่งถูกประหารด้วยวัยเพียงไม่ถึง 30 ปี ด้วยถูกใส่ร้าย โดยข้อหาเป็นกบฏ ซึ่งเกาะนามินี้เป็นเกาะที่เกิดจากการสร้างเขื่อน Cheongpyeong กั้นแม่น้ำ Bukhan ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ศึกษาได้จากอาจารย์ Google ครับ มีคนเขียนเอาไว้เยอะตาม Blog ต่างๆ ว่าประวัติเกาะ และนายพลนามิเป็นยังไง ผมเล่าไปก็ซ้ำเปล่าๆ ไปหาอ่านจาก Blog ชาวบ้านเค้ามาเหมือนกัน จริงๆ ไกด์ก็เล่าครับ แต่ผมทำตัวเป็นลูกทัวร์ที่ดี นั่งหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทาง ไม่ได้ฟังอะไรเค้าเท่าไหร่ จะตาสว่าง สดชื่นเอาตามเวลามื้ออาหารเท่านั้น
สาเหตุที่เกาะนามิโด่งดังมาก ก็เนื่องมาจากหนังเรื่อง Winter Love Song ได้มาถ่ายทำที่เกาะนี้ และมีบรรยากาศที่สวยงามแพร่ไปให้ชาวโลกได้เห็นกัน คุงแฟนผมก็กลัวตก Trend ก่อนมาเกาหลี พอรู้ว่าจะมาเกาะนามิด้วย ก็ไปขุดหนัง Winter Love Song มา Build อารมณ์ซะ 1 รอบก่อนเดินทาง
แต่วันนี้ที่เราไปกลับไม่ได้เป็น Winter Love Song กลับกลายเป็น Rainy Love Song ไปซะนี่ ฝนตกตลอด วันนี้ก็ดูรูปเกาะนามิท่ามกลางสายฝนไปแล้วกันครับ ไม่ได้หาดูกันง่ายๆ นะนี่
Create Date : 01 มิถุนายน 2552 |
|
15 comments |
Last Update : 1 มิถุนายน 2552 17:32:02 น. |
Counter : 2881 Pageviews. |
|
|
|
เย้ อัฟ แล้วๆ คอยติดตามอยู่ ตลอดครับอิอิ
ขอถามอะไรสักขอได้มั้ยครับ
คือ เครื่องบินที่เราจะประจำอยู่ เค้าจะให้เราเลือกเองหรือเปล่าครับ หรือว่า เค้าจะกำหนดมาว่า เราต้องบิน
แบบนี้ แบบนี้ อ่ะครับ