Bloggang.com : weblog for you and your gang
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
พีรดลย์ หนึ่งเดียวคนนี้ !!!
เมื่อพีร์เดินทาง
ธรรมะนอกหน้าต่าง
มุมที่ไม่สว่าง
ผู้ด้อยโอกาสทางความรัก
บ้านนาจอก ณ นครพนม
หนังสือคือมิตรสนิทยิ่ง
<<
พฤศจิกายน 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
14 พฤศจิกายน 2552
4 เล่มข้างหมอน
All Blogs
"ปรากฎการณ์" สอบคัดเลือกนิสิตระดับปริญญาตรี ที่นี่ SWU...
ลังวิเศษของแม่
อันเนี่องจาก เข็มที่ระลึก สมเด็จเจ้าฟ้าฯในพระโกศ
4 คูณ 2 เรื่องดีที่อยากเล่า-เรื่องเศร้าที่อยากลืม ปี 2554
Chill ยามเช้า
อาถรรพ์ตุ๊กตาพม่าจากแม่สาย
ถ.ถาดทองเหลือง
ไอ้นก(แอร์) บ้า ...เอาไดร์เป่าผมข้าคืนมา !!!
ว.แว่นตา
เรื่องราวข่าวมงคล
เล่าเรื่องรูปรับปริญญา
4 x 2 เรื่องดีที่อยากเล่า เรื่องเศร้าที่อยากลืม ปี 53
รับปริญญา : ช่วงเวลาแห่งความสุข
14 เดือนกว่าจะได้สวมชุดครุย
คนจะซวย-ช่วยไม่ได้
จ.แจกัน
เล่มโปรดก่อนนอน
ของขวัญจากโบนัส
9 x 2 เรื่องดีที่อยากเล่า และเรื่องเศร้าที่อยากลืมปี 52
สองคน หนึ่งเส้นทาง (ฉลองสมรส)
4 เล่มข้างหมอน
วท.ม. ป้ายแดง !!!
รอคอยการมาถึง
ตัวฉันเองทางฉันเอง
กันยา - กษิณานุสรณ์
หนี้ใหม่ หัวใจเดิม
ที่เดิมแห่งนี้...สถานีทดสอบกำลังใจ
พจนานุกรมฉบับ รอคุณมาเพิ่ม....
ระหว่างทาง...
เพื่อนเก่าแก่ ณ ปีพ.ศ. 2552
ทางไกล...
เมื่อคนของพระราชา ถึงคราต้องเจ็บ.... และป่วย !
บางเรื่อง
ลืมมันไปซะเถอะ......เด็กน้อย !
เมื่อพุงกลับมาเยือน !
50 หารสอง ของสิ่งที่เรียกว่าความสุข
จากปาย...
ไปตักบาตร บุญใหญ่ใหญ่ คนละชิ้นละอัน
ศุกร์ - สุข (รอบตัว)
ปวดหัว ตัวร้อน Thesis ต้องลุย โอฟรียังต้องทำ !
ในความเงียบ
คืนหนึ่งในฤดูหนาว
ของฝากจากแม่
4 เล่มข้างหมอน
บล๊อกนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณรัชชี
เพื่อนบล๊อกที่รู้สึกว่าเป็นกัลยาณมิตรคนหนึ่ง
ในสังคมออนไลน์คุณภาพของผม เธอเขียนเล่าถึงหนังสือแต่ละเล่ม
ที่ได้มากจากงานหนังสือ ทำให้ผมหันมามองข้างหมอนของผม
และริที่จะลองเขียนดูบ้าง เพราะผมเองก็เป็นคนหนึงที่
มีหนังสือเป็นเพื่อนสนิทมานานโข
ผมเองชอบอ่านหนังสือและใช้เวลาอย่างมีความสุขกับการอ่านหนังสือ
พอคเก็ตบุ๊คเล่มเล็ก มาสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย
ที่มักไปยืนอ่านฟรีในร้านดอกหญ้า ตอนโดดเรียนฟิสิกส์ที่ PEP สาวรีย์ชัย
แต่พอมีกำลังซื้อดันเป็นเมมเบอร์ร้านนายอินทร์ ซะงั้น หุหุ
และเวลาอ่านจะชอบแนว ธรรมะแนวใหม่ ๆ เขียนทันสมัย
หรือไม่ก็แนวประวัติศาสตร์ หรือสารคดีท่องเที่ยว
ผมมักจะซื้อหาหนังสือเล่มโปรดมาบำรุงสมองสม่ำเสมอเพราะว่า
กิจกรรมก่อนนอนที่ดีที่สุดของคนโสดอย่างผมคือการ
หยิบหน้งสือมาอ่านซักสิบกว่าหน้าก่อนที่จะผล็อยหลับไป
ผมมีหนังสือหลาย ๆ เล่ม ไว้เพื่ออ่านสลับไปมา
โดยจะไม่อ่านเล่มใดเล่มหนึ่งให้จบไปก่อนค่อยซื้อมาอีกเล่ม
มันได้ฟิลเหมือนดูละครไงคับ ดูหลาย ๆ ช่อง
แต่ดีกว่าละครโทรทัศน์ก็ตรงที่หนังสือมันวางอยู่ใกล้มือ
จะไม่จบไปก่อนหรือไม่หนีไปก่อนเหมือนตอนเรา
พลาดละครสักตอน
ที่อ่านค้างอยู่ตอนนี้มี 4 เล่ม
เริ่มที่เล่มแรกก่อน ได้มาหลายเดือนแต่อ่านยังไม่จบซะที
เพราะว่าเล่มหลัง ๆ ที่ได้มาเร้าใจกว่ามากมาย
เล่มแรกคือ "ถ้ารู้กูทำไปนานแล้ว"
ผู้เขียนคือ คุณณัฐพบธรรม เป็นวิศวกรจบจากมช.
แล้วก็มาเรียน MBA ที่จุฬา หลังจากนั้นก็ได้ร่ำเรียนกรรมฐานจากสำนักต่าง ๆ รวมทั้งวิชาธรรมกาย ของหลวงปู่สดวัดปากน้ำอีกด้วย
เนื้อหาจะเขียนตามภาษาของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจง่าย กระชับ
อธิบายด้วยภาษาง่ายแต่ลึกซึ้ง มีภาพประกอบที่น่าสนใจ
ชื่อเรื่องจะเป็นคำถามชวนติดตาม เช่น บางคนทำความดี แต่ทำไมยังไม่รวย ?
จุดเด่นของงานเขียนเรื่องนี้อยู่ที่
การเขียนภาพประกอบที่เข้าใจง่าย
อืมม์ ท้ายเล่มเค้ามีการประมวลสถานที่ปฏิบัติธรรมแยกเป็นภูมิภาค
มีเบอร์โทรให้โทรไปสอบถามกันได้อีกด้วย
ผมว่าเค้าเป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่น่าจะไปได้ไกลกับงานเขียนแนวนี่
จุดเด่นอีกประการคือ การอ้างอิงพระไตรปิฎก แทรกเป็นระยะที่ทำให้งานเขียนน่าเชื่อถือมาก
ผมว่าปัจจุบันงานเขียนแนวนี้มีมากมายเหลือเกิน ต้องเลือกสรรกันหน่อย
แต่อย่างน้อยข้อดีก็คือธรรมะสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายแพร่หลายกว่าเมื่อก่อนมากมาย อืมม์เล่มนี้ไม่แพงคับ ราคา 259.-
เล่มที่ 2 คือ "ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่"
ผู้เขียนคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ขอย้อนหน่อยว่างานเขียนของคุณชายคึกฤทธิ์ผมได้อ่านแล้วหลายเล่ม
ไม่เคยผิดหวังเลยคับ ได้ความรู้ละเอียดลึกซื้ง เช่น ซูสีไทเฮา กฤษดาภินิหารอันบดบังมิได้ ยิว ฉากญี่ปุ่น สี่แผ่นดิน พม่าเสียเมือง
แต่ที่สนุกและโปรดมากมายคือ
โครงกระดูกในตู้ อันเป็นวีรกรรมของท่านป้าฉวีวาด อันลือลั่นถึงกรุงกัมพูชา !
งานเขียนเรื่องนี้ เป็นการเขียนเชิงวิพากษ์ตั้งแต่ฉากของเรื่อง
และคนที่แต่งเสภา และเล่าเรืองต่อ ๆ กันมา น่าจะเป็นคนที่อยู่ในคุก !!!!
เพราะมีข้อความระหว่างบรรทัดที่สื่อไปถึงได้ เนื้อเรื่องจะเขียนถึงสมัยขุนช้างขุนแผน และลากยาวต่อไปถึงยุคพลายงามลูกชายโน้นแนะ
ใครที่เคยได้ยินได้เรียนเรืองนี้มาบ้างแล้ว สมัยเด็ก ๆ
แล้วยังคาใจ แนะนำให้ไปหามาอ่านเล้ยย ไม่ผิดหวังแน่นอน
เพราะว่าจะทะลุปรุโปร่งเรื่องตัวละคร ความเป็นอยู่ของคนสมัย
อยุธยาตอนปลาย เรียกว่าเกร็ดประวัติศาสตร์ต่าง ๆ จะร้อยเรียงแทรกผ่านตัวอักษร และความบันเทิง อ่านแล้ววางไม่ลงเลย
จุดเด่นเล่มนี้คือการยกบทเสภามาอธิบายเป็นระยะ ๆ ไม่มากเกินไป
จะเห็นความงามของภาษา พร้อมกับความงามจากจินตนาการของฉาก
ต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีอยู่จริงในปัจจุบัน
อ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังคงร่วมสมัยมากกมาย
ทั้งที่เขียนมานานนม แปลกมาก !!!
อืมม์สนนราคา เล่มนี้ก็ 260.- ถ้ามีบัตรส่วนลดก็ถูกลงไปอีกนะ
เล่มที่ 3 คือ "สิ้นแสงฉาน"
เล่มนี้เป็นงานแปลด้วยภาษาที่สวยมากฝีมือชั้นครู ของ มนันยา
แปลมาจาก Twilight over Burma my life as Shan princess
ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่เขียนอิงประวัติศาสตร์
อันเป็นบันทึกของ สุจันทรี (อิงเง่) มหาเทวีผมทอง ชาวออสเตรีย
ของเจ้าฟ้าหลวงแห่งแคว้นสีป่อในรัฐฉานของพม่า
ซึ่งน่าแปลกที่หญิงสาวชาวตะวันตกจะพบรักและกลายเป็นมหาเทวีของเจ้าฟ้าองค์หนึ่งของโลกตะวันออก ในคราวที่ทั้งสองเป็นนักศึกษาด้วยกัน
จึงน่าจะเรียกว่า "ครั้งหนึ่งที่แสนงดงามเมื่อ ตะวันตก มาบรรจบ ตะวันออก"
จุดเด่นของเล่มนี้คือ
สำนวนแปลที่สวยมากของคุณมนันยา และเรืองราวที่เบื้องหลังอันอึมครึม
และความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศพม่าที่บ่มเพาะมาตั้งแต่คราวกระโน้นจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะจบลง
จริง ๆ เล่มนี้ผมจดๆ จ้อง ๆ มาหลายหนแระ คราวนี้ตัดสิ้นใจซื้อด้วยประโยคนี้เลยครับ
....ความผันผวนทางการเมือง ด้วยเพลิงอำนาจ ความโลภ ตัณหา ความเห็นแก่ตัว และความทะยานอยากไม่รู้จบของคนกลุ่มหนึ่งพรากเขาไปจากทุกอย่าง ดอกไม้ต่างถิ่นที่เป็นปิ่นปักเกล้าของคนทั้งปวงอย่างเธอจะทำอย่างไร ?
เล่มนี้ยังอ่านไม่จบเล้ย อ่านได้สัก 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลัง ๆ เพื่อนฝูงมาพักค้างถี่ขึ้น เวลาของการอ่านหนังสือก่อนนอนจึงถูกแทนที่ด้วยการ เม้าท์ 555
อืมม์ เล่มนี้ พิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วนะ เหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจซื้อหนังสือที่ง่าย ๆ คือดูครั้งที่พิมพ์จะช่วยบอกความนิยม และคุณภาพของหนังสือได้ทางหนึ่ง สนนราคาอยู่ที่ 220.- ผมใช้แสตมป์ส่วนลดลดได้มาโข จ่ายจริงสักประมาณ 150.-
เล่มล่าสุด เล่มที่ 4 มาช้าแต่อ่านจบก่อนวางไม่ลงจริง ๆ ครับ น่าจะอ่านแค่สองคืนก็จบ ดีจนต้องหยิบไปให้พี่อีกคนที่ชอบพอกันอ่านต่อ
จริง ๆ หนังสือหนึ่งเล่มถ้าอ่านคนเดียวมูลค่าก็เท่าราคาปก
ผมจึงมักจะแบ่งปันพรรคพวก คอหนังสือให้ได้อ่านเสมอเพื่อเป็นการเพิ่ม
มูลค่าให้หนังสือ สองเท่า สามเท่าก็สุดแล้วแต่
ชื่อหนังสือคือ "ที่เกิดเหตุ : บันทึก 1 ปีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้"
เขียนโดย วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ซึ่งลงไปใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับประชาชนทหาร ตำรวจ ชาวบ้าน และโดยเฉพาะอิหม่าม ทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
หาใช่เพียงการนั่งเขียนภายในห้องสี่เหลืยมไม่
เล่มนี้หนังสือที่ผมสะดุดตาเพราะภาพปกของเด็กหญิงสามคนที่คลุมฮิหญาบพร้อมกับส่งแววตาที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา...
จริง ๆ แล้วผมเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด แต่ชีวิตมักจะต้องเกี่ยวข้องกับเพื่อนพ้องชาวมุสลิมเสมอ ทั้งชีวิตเล้ยนะ ตั้งแต่อ.ที่ปรึกษาโปรเจคป.ตรี
หัวข้อที่สีสป.โทที่เกี่ยวกับภาษาอาหรับ หรือแม้แต่โรงเรียนที่สอนก็คือโรงเรียนสุเหร่าแห่งหนึ่งในเขตบางกะปิ กรุงเทพ ฯ
ผมจึงค่อย ๆ ซึมซัมและเข้าถึงวิถีชีวิตของชาวมุสลิมที่ละนิด
จนเข้าใจว่าในความต่างของมุสลิมกับศาสนาอื่น ๆ
อิสลามคือศาสนาที่แยกไม่ออกจากชีวิตประจำวัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เป็นอัตลักษณ์ที่มีระเบียบยิ่ง และเข้มแข็งมากที่สุดในบรรดาศาสนาที่ผมเคย
รู้จัก
และแน่นอนครับอัตลักษณ์และความงามของวิถึชีวิตเหล่านี้หาอ่านได้ในเล่ม
ในเล่มจะสะท้อนสองด้านคือ เรื่องที่ชวนหดหู่ของเหยื่อความไม่สงบของไฟใต้ เช่นเรื่องของครูสาวสองคนที่ถูกฆ่าตายหมู่ และเรื่องราวของพระที่ถูกปาดคอคากุฎิ และอีกด้านที่ขาดไม่ได้คือชีวิตของโต๊ะอิหม่ามคนหนึ่งที่ถูกจับขังคุกฟรี ๆ โดยปราศจากความผิดใด ๆ ถึงสิบกว่าวันโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐ...
ความหมายระหว่างบรรทัดของเล่มนี้จะทำให้ผมเข้าใจปัญหาไฟใต้ได้
แต่ไม่มีคำตอบหรอกครับว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง จากใคร และจะจบอย่างไร
อ่านแล้วให้รู้สึกชื่นชมผู้เขียนที่มีความเป็นกลางมาก ไม่มีอคติ เข้าข้างใดข้างหนึ่งนอกจากนี้ยังมีการเขียนถึง วิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิม เช่น ชีวิตหนุ่มสาวชาวปอเนาะ การทำสุนัตของเด็กชาย ฯลฯ อันเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่งดงามของสามจังหวัดชายแดน เป็นความงามท่ามกลางเสียงปืน กลิ่นคาวเลือด และเสียงระเบิด !!!
ข้อสรุปที่ได้จากเล่มนี้คือ ในทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี และคนเราต้องเคารพในความต่าง อ่านแล้วนึกถึงคำว่า "ดอกไม้หลากสี"
ของพ่อใหญ่ชวลิต ที่กำลังตกเป็นจำเลยสังคมอยุ่ในขณะนี้ จริงจริ๊งง 555
จุดเด่นของเล่มมีสองอย่างคือ
อย่างแรกคือการตั้งชื่อเรืองและภาษาง่าย ๆ ที่ใช้ดูน่าติดตามเช่น
ปืนกับปลา กาแฟกับเบียร์ เดือนดาวในคาวเลือดสุนัต บัญชาของพระเจ้า
อีกอย่างคือ ภาพขาวดำประกอบที่เป็นเสน่ห์ของเล่มนี้เป็นฝีมือของ
ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ช่างภาพอิสระ ที่ก้าวพ้นคำว่า "กลัวตาย" มาแล้ว
ภาพแสงเงา ดูมีพลัง และรู้สึกว่าหนึ่งภาพของเค้ามันแทนคำอธิบายได้เป็นร้อยเป็นพันคำจริง ๆ
เล่มนี้ราคาถูกมาเมื่อเทียบกับเนื้อหาในเล่ม
ที่กว่าจะสรรหาข้อมูลมาได้ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ท่ามกลางกระสุนปืน ควันไฟ และลูกระเบิด ราคา แค่ 195.- เท่านั้นเอง
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 11:00:01 น.
51 comments
Counter : 1587 Pageviews.
Share
Tweet
๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙
เจิมทันมั้ยจ๊ะ
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:19:24 น.
พอดีแวะมาดูเน็ตแว้บหนึ่ง ทันเจิมพอดี
เดี๋ยวว่าง ๆ มาอ่านนะ
โดย: รัชชี (
รัชชี่
) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:20:52 น.
ดีนะคะ ขยันอ่านหนังสือดี อยากอ่านถ้ารู้(กู) ทำไปนานแล้ว กับขุนช้างขุนแผน ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
โดย: ยิ้มยิ้ม IP: 61.7.145.251 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:30:23 น.
อืม! เข้าใจเปรียบเทียบนะว่าอ่านหนังสือสลับไปมาเหมือนดูละคร เป็นเหมือนกัน บางทีคงด้วยเพราะเป็นคนขี้เบื่อมั้งเนาะ ยิ่งเวลาซื้อมาหลายเล่มนะ จะหลายใจมากเลย เล่มนี้ก็อยากอ่าน เล่มนั้นก็อยากอ่าน
ถ้ารู้กูทำไปนานแล้ว เห็นตามร้านหนังสือเหมือนกัน ยังไม่ค่อยได้เปิด ๆ เพราะเกรงว่าจะคล้าย
เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน งานเขียนของ ดังตฤณ นักเขียนคนโปรดหรือเปล่า แต่พูดถึงเดี๋ยวนี้หนังสือแนวนี้มีเยอะมากเลยนะ ขึ้นอยู่กับใครชอบสไตล์ไหนก็หาซื้อกันไปของแนวนั้นนะ
สำหรับหนังสือเรื่องแนวอดีต อย่างเช่น ขุนช้างขุนแผน รามเกียรติ์ หรืออะไรก็ตามที่เรียนในวิชาภาษาไทยตอนเด็กๆ แปลกจัง ทำไมไม่ค่อยโดนใจรัชชี่เท่าไหร่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วถ้าเราอ่านเป็น แล้วชอบอ่าน เราคงได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์เยอะแยะเลย
แต่ดั๊น ไปชอบอ่านนิยายอิงประวัติศาสตร์ยุโรปแทน
แต่เคยอ่าน พม่าเสียเมือง นะ ชอบ สนุกดี อ่านติดพันเลยตอนนั้น
สิ้นแสงฉาน ดูน่าสนใจนะ เพิ่งรู้นะคะว่ามีชาวออสเตรียที่เคยเป็นมหาเทวีของเจ้าฟ้าพม่าด้วย ถ้าอย่างนี้คุณพีร์น่าจะชอบอ่าน แคทยาและเจ้าฟ้าสยาม นะ
รู้สึกจะมีนิยายเรื่อง เขมรินทร์ อินทิรา จำไม่ได้ว่าใครแต่งเรื่องนี้ เป็นสาวไทยกับเจ้าชายต่างแดนมั้ง
ลืม ๆ ไปแล้ว แต่เป็นเรื่องแต่งน่ะนะ พูดถึงแล้วอยากอ่านใหม่ จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว เพราะเคยอ่านนานแล้วล่ะ
ส่วนเล่มสุดท้ายเหรอ แนวนี้ไม่ค่อยอยากอ่านเท่าไหร่ กลัวว่าอ่านแล้วจะเศร้าหรือหดหู่กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
พูดถึงคุณพีร์รีวิวหนังสือโอเคนะคะ ไว้มีเล่มต่อ ๆ ไป เอามาอัพบล็อกสลับกับเรื่องอื่นก็ดีนะคะ เหมือนละครสลับช่องไง
ว่าแต่ ตอนนี้ดูซีรีย์ ซินยุนบก มั้ยคะ น้องที่ office ตั้งชื่อเรื่องให้ใหม่ว่า อาจารย์คิดไม่ซื่อ
อ้อ! คุณพีร์อ่านเรื่องแปลมั่งเปล่า ตอนนี้พลเชียร์ยิก ๆ ให้อ่าน Blu และ Rosso แถมยังบอกว่าชื่อบล็อก aoiagota ส่วนหนึ่งมีที่มาจาก 2 เล่มนี้ด้วย
โดย: รัชชี (
รัชชี่
) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:07:30 น.
ได้อ่านเล่ม "ทีเ่กิดเหตุ" ครับ
ผมเป็นแฟนงานเขียนพี่วรพจน์ครับ
ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่เล่มเดียวครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:39:12 น.
เราก็เป็นคนนึงที่ชอบอ่านหนังสือสลับกันไปมา..
เล่มนึงเล็กๆ บางใส่กระเป๋าอ่านระหว่างเดินทางไปทำงานได้
อีกเล่มหนาหน่อย ก็วางไว้บนหัวเตียง หยิบอ่านก่อนนอน
ก็ประมาณเีดียวกับคุณนั่นแหละ
เรากำลังมองหา สิ้นแสงฉาน กับ ที่เกิดเหตุ อยู่ค่ะ
โดย:
นัทธ์
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:44:35 น.
ลืมไป ...อยากจะบอกว่า ถ้า้ได้อ่าน ขุนช้างขุนแผน เวอร์ชั่นคุณชายคึกฤทธิ์แล้ว
ต้องไปดูละครเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนประกอบด้วย จะอินมาก
หนังสือเล่มนี้ เราเสียดายมากที่ไม่ได้ซื้อฉบับของสนพ.สยามรัฐ ซึ่งตอนนั้นมีเทป (หรือซีดี) ละครเสภาประกอบด้วยล่ะ
มาซื้อเอาตอนเค้าแยกขายเฉพาะหนังสือแล้ว...
แต่อาศัยว่าเคยดูละคร อ่านไปก็นึกเห็นหน้าตัวละครพระเอกกรมศิลป์ไปด้วย ..
โดย:
นัทธ์
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:47:20 น.
มีความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อยู่ห่างมากจากโลกของวรรณกรรมน่ะค่ะ ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไรหมด
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:17:13 น.
น่าสนใจทั้งสี่เล่มเลยค่ะ
โดย:
สาวไกด์ใจซื่อ
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:01:56 น.
วันนี้ไม่ไ่ด้ไปไหนเลยครับพี่
พักผ่อนอยู่ที่บ้านนี่ล่ะครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:43:10 น.
สบายดีค่ะ... ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมน๊าค๊า..
แล้วทางนี้เป็นไงบ้าง สบายดีนะคะ
หนังสือ น่าอ่านทั้ง ๔ เล่มเลย ยังไม่เคยอ่านเลย
เดี๊ยวไปหามาอ่านมั้งดีกั๋ว ^_^
โดย:
naragorn
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:55:23 น.
เคยอ่านเรื่อง"เรื่องเล่าจากใต้ถุนบ้าน"
เกี่ยวกับปัญหาไฟใต้เหมือนกันค่ะ
แต่ปกติจะไม่ค่อยอ่านหนังสือแนวที่พี่บอกมาเลย
(เสพติดแต่นิยาย
)
เรื่องไฟใต้มันคงเป็นไฟใต้เหมือนฝนใต้ละมั้งพี่
ตกได้ทุกเวลาไม่จำกัดฤดูว่าต้องฤดูฝน
มีหลายสิ่งเลยค่ะที่อยากเมนต์
แต่คงเมนต์ไม่ได้แบบว่าเดี๋ยวโดนสั่งปิดบล็อกซวยเลย
...โรงเรียนสุเหร่าแถวบางกะปิ ถ้าบอกชื่อมานี่นาห์คงไปถูกแน่ๆ
ว่าแต่ตอนนี้เจ้าซุกร็อนเป็นยังไงบ้างแล้วพี่ ยังดื้อยังซนอีกไหม
โดย:
มัยดีนาห์
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:31:55 น.
หวัดดียามเช้าเด้อน้องพีร์
แวะมาดูก่อน เดี๋ยวมาใหม่อีกที ต้องรีบไปเตรียมตัวไปเรียน นักเรียนโข่งไม่อยากไปสาย วันนี้มีสอบด้วย
ไปแล้วเด้อ
โดย: พล (
aoigata
) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:47:49 น.
เป็นคนที่อ่านหนังสือหลากหลายดีนะคะ
แต่ละเล่มที่เล่ามาน่าสนใจทุกเล่มเลย อยากจะลองอ่าน ขุนช้างขุนแผน บ้าง (เคยอ่านฉบับการ์ตูนเมื่อสมัยเด็ก ฮา)
โดย: ฑาม (
ThaMN
) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:31:57 น.
...หลังไมค์ค่ะ...
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:42:34 น.
กลับมาอ่านจนจบแล้วเด้อน้องพีร์
ที่อยากแจมอ่านด้วยมีอยู่สองเล่มคือ "ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเม้นต์ไว้ที่บล็อกคุณรัชชี่ทีแล้วว่า เคยอ่านเรื่อง "หลายชีวิต" ของท่าน แล้วชอบสุด ๆ เป็นหนังสือไทยหนึ่งในไม่กี่เล่มที่อ่านแล้วชอบมาก จำติดตามาถึงทุกวันนี้ อ่านตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน และยังจำอยูเสมอว่าหนังสือเล่มนี้ อ่านสนุกจริง ๆ
เล่มต่อมาเป็นเรื่อง "สิ้นแสงฉาน" พวกหนังสือเกี่ยวกับมุมมองของฝรั่งต่างชาติในโลกตะวันออกโบราณอย่างนี้ บอกตรง ๆ ว่าชอบ อยากรู้ว่าเค้าจะมีมุมมองสำหรับโลกตะวันออกของเรา ๆ อย่างไร แถมไม่ใช่โลกของสามัญชนอีกต่างหาก โลกของเจ้าขุนมูลนายน่าจะยิ่งสนุก แปลก ๆ ใหม่ ๆ แบบที่เรา ๆ ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อน ว่าแต่ที่อ่านยังไม่ถึงไหนเพราะมัวเม้าท์กะเพื่อนก่อนนอนเนี่ย มันไม่สนุกด้วยหรือยังไงหะ เอามาเม้าท์ให้อ้ายฟังอีกทีตอนอ่านจบหน่อยเด้อ อยากรู๊อยากรู้
วันนี้สอบเสร็จแล้วสบายใจไปหนึ่งยก พรุ่งนี้คาดว่าน่าจะได้รู้ผลคะแนน
ดีใจได้โล่ห์หรือเปล่า เดี๋ยวรู้กันเด้อ
โดย: พล (
aoigata
) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:19:08 น.
รอชมภาพนายซุกร็อนนะคะพี่
รู้จักบางกะปิกับสุเหร่าแถวนั้นเพราะเคยไปหรือ?
แถวคลองจั่นไปแค่สองสามครั้งค่ะ
แต่ถ้าแถวบางกะปินี่ถิ่นเลย
ก็เรียนจบจากรามคำแหงนี่คะพี่
แต่แปลกดีนะคะในขณะที่ภาคกลางทั้งกรุงเทพฯทั้งอยุธยายังเรียกชื่อเดิมกันว่าสุเหร่า
แถวบ้านนาห์เค้าเลิกเรียกกันไปหมดแล้วอ่ะพี่
แต่ก่อนตอนเด็กๆยังมีเรียกเวลาพูด ว่าไปสุเหร่า
แต่เดี๋ยวนี้กลับบอก ไปมัสยิด
แล้วป้ายชื่อก็กลายเป็นมัสยิดไปหมดแล้วค่ะ
โดย:
มัยดีนาห์
วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:57:29 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
อากาศเชียงใหม่ตอนนี้ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกก
เลยครับ
ผมงงมากครับ
เดือน 11 แล้วยังไม่หนาวเลย
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:57:17 น.
ยิ่งเชียร์ยิ่งอยากอ่านค่ะ
แต่ขอตัวไปเคลียร์คิวก่อน
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
โดย:
ThaMN
วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:40:28 น.
สวัสดีครับ พีร์
แวะมาทักทายพร้อมกับข่าวร้าย ถ้าว่างลองแวะมาอ่านนะครับ
โดย:
Mega-Batt
วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:34:36 น.
น้องพีร์เอ๊ย พี่มีข้อแนะนำมาให้ ว่าถ้าได้อ่านบทโรมรันพันตู แล้วถึงขนาดต้องวิ่งไปตะกายข้างฝานะ แค่ตะกายมันไม่หายหรอกน้อง คนโสดอย่างน้องพี่แนะนำว่าต้องวิ่งเข้าไปชนข้างฝาเลย
พอเจ็บตัวเดี๋ยวอาการต่าง ๆ นานาจะหายเป็นปลิดทิ้ง
เชื่อพี่เหอะ พี่เคยทำมาก่อน ความรู้สึกอะไรยังไงนะหรอ
ไม่ได้แอ้มพี่ร๊อก
โดย: พล (
aoigata
) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:10:51 น.
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:30:12 น.
ที่เชียงใหม่อากาศร้อนเชียวครับพี่
ปีนี้ร้อนมาก
ยังไม่หนาวเลยครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:56:10 น.
สวัสดีค่ะ พีร์
หอบความคิดถึงมาฝากนะคะ
พักนี้วุ่นๆ หวังว่ายังมิลืมกันหร้อกน๊า
ปล.ขอบคุณที่คิดถึงน๊าา
เห็นหัวข้อนึกว่า 4 เล่ม แทนหมอน ซะอีก 555
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:56:35 น.
สวัสดีค่ะคุณพีร์
ป้ากุ๊กกลับมาแล้วค่ะหลังจากที่คอมลาป่วยไปหลายวัน
ขอบคุณ ที่ช่วยไปเฝ้าบ้านให้ในช่วงที่คอมป้าป่วยค่ะ
.
อันที่จริงจะคอมป่วยหรือคนป่วยก็ครือกัน
เพราะล้วนย้ำให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ว่า
ไม่มีสิ่งใดเป็นของเราเลย
ต่อให้เก่งเหนือฟ้าก็ยังต้องอยู่ใต้กฎธรรมดา
คือเกิดขึ้น .ตั้งอยู่ ..แล้วก็ดับไป
..
วันนี้ได้เจอนักอ่านอีกคน
ป้ากุ๊กเมื่อก่อนก็ชอบอ่านเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็ยังชอบอ่านอยู่ค่ะ
แต่เพราะไม่ค่อยมีเวลา แถมการอ่านก็ช้าลง กว่าจะอ่านได้จบแต่ละเล่มจึงนานมาก
ของคุณชายคึกฤทธิ์ป้าเคยอ่าน .สี่แผ่นดิน
ของคุณมนันยาก็เคยอ่าน ..อุดมการณ์บนเส้นขนาน
ส่วนนักเขียนอีกสองท่านผู้เฒ่าไม่รู้จัก แฮะ แฮะ
วันนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนอีกแล้ว
ดูแลและรักษาสุขภาพนะคะ
คมคำ : ความขัดแย้งจะตามมา หากเหตุผลของสองฝ่ายสวนทางกัน
โดย:
ร่มไม้เย็น
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:41:13 น.
ขอบคุณมากครับ พีร์
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม
เห็นด้วยครับว่า "ความตาย" เป็นสิ่งมนุษย์ทุกคนต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจกก็ตาม
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ย้ำว่า เราต้องดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท
โดย:
Mega-Batt
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:45:06 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:59:35 น.
แวะมาแอบรอดูของในกระเป๋าบ้าง
มีคุณพีร์กะพลที่บอกว่าบล็อกของในกระเป๋าแม้จะเรียบ ๆ
ง่าย ๆ แต่น่าสนใจ จนจะเอามุขนี้ไปใช้บ้าง
มีบล็อกเกอร์อีกท่านหนึ่งบอกว่าอยากให้รัชชี่เปิดท้ายรถดูบ้าง เพื่อดูว่านักอ่านอยางรัชชี่ ข้างท้ายรถจะมีอะไรบ้าง
ตอบไปเหมือนเคยตอบคุณพีร์เรื่องตู้หนังสือ ว่าขอไปสร้างภาพก่อน
เพราะตอนนี้ท้ายรถรกค่ะ เพราะที่บริษัททำ 5 ส. จนต้องโยกย้ายของจาก office กลับบ้าน แต่ว่าดองอยู่ในรถแทน
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:28:39 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:21:55 น.
มาชวนอ่านบล็อกใหม่ค่ะ
รออ่านบล็อกใหม่แล้วนา ให้ไว ให้ไว
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:27:59 น.
เห็นเม้นต์คุณรัชชี่ข้างบน อ้ายขอมั่งละกัน
ให้ว่อง ๆ อัพบล็อกใหม่ได้แล้ว
เน่ ๆ มาแซวนะเรื่องเนื้อด่งเนื้อเด็กนะ อ้ายนะบ่ชอบเด้อเนื้อเด็ก มันอ่อนไป ชอบเคี้ยวอะไรที่ต้องใช้เวลานิดนึง เด็ก ๆ นะ เคี้ยวแป็บเดียวก็ต้องกลืนลงคอ ไม่ไหว ๆ
พูดถึงไข่หงส์ ไข่ห่าน อยากกินขนมอรีตุยมากเลยอะ รู้จักปะ น่าจะรู้จักนะ แต่อาจจะเรียกไม่เหมือนกัน อยากกินว้อยยยย ส่งมาให้หน่อยดิ
ได้ปะ พลีสสสสส
โดย: พล (
aoigata
) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:49:18 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:50:42 น.
เชียงใหม่อากาศเย็นเลยล่ะครับพี่
เดี่ยวผมก็เตรียมวิ่งผ่านน้ำแล้วล่ะครับ อิอิอิ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:03:17 น.
อู๊ยยยยยยยยยยย
กิจกรรมก่อนนอนที่ดีที่สุดของคนโสดอย่างผมคือการ
หยิบหน้งสือมาอ่าน
แอบลุ้นกับประโยคนี้อ่ะ อิอิ แหม๋ มีการขึ้นบรรทัดใหม่ชวนให้เดา
โดย:
i_am_np
วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:54:39 น.
อาการตามที่เขียนในบล็อก ก็หลังจากหลับไปคืนนั้นแล้วตื่นมาอาบน้ำ ก็ค่อยยังชั่วค่ะ ตื่นมาอีกวันก็หายแล้ว
เป็นคนขี้หนาวกว่าชาวบ้าน (โดยปกติ) เหมือนกันค่ะ
หลังไมค์ค่ะ
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:37:34 น.
ผมยังไม่มีโครงการปั๊มน้องให้หมิงหมิงเลยคตรับพี่ 555
เศรษฐกิจแบบนี้
มีคนเดียวก็พอแล้วล่ะครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:37:47 น.
สวัสดียามสายนะครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:19:06 น.
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:23:59 น.
บอกหรือยังน้ออออออ ชักเบลอ
เดี่ยวนี้มาแนวใหม่คะ จะมีบล็อกหลัก 1 อัน (เอาไว้ดองเป็นช่วง ๆ )
แต่เดี๋ยวนี้ถ้าสะดวก จะเพิ่มเนื้อหาตอนท้าย ๆ บล็อก เผื่อให้มาติดตามได้ค่ะ
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:03:49 น.
สวัสดีค่ะคุณพีร์
สี่เล่มข้างหมอนตอนนี้จบกี่เล่มแล้ว ???????
วันนี้ป้ากุ๊กมากับความอืดดดดดดดของเน็ต
กว่าจะเปิดได้แต่ละหน้า แต่ละบ้าน รอกันเงกกกกกกกกกกกค่ะ
ยังไม่รู้เหมือนกันว่าคืนนี้จะกระย่องกระแย่งไปได้กี่บ้าน
ช่วงนี้อากาศออกจะเย็นๆ
บางคนอาจจะชอบ แต่บางคนก็ชักจะฟึดฟั๊ดเพราะหวัดถามหา
คุณพีร์ ชอบอากาศแบบนี้ไหม
จะอย่างไรก็ดูแลและรักษาสุขภาพนะคะ
คมคำ : เราไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขจุดเริ่มต้นที่ผิดพลาดได้
แต่สามารถเริ่มต้นเพื่อสร้างตอนจบที่มีความสุขได้
โดย:
ร่มไม้เย็น
วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:58:54 น.
ฮ่า ฮ่า ตอนนี้สายตาไม่อำนวยเลยไม่ค่อยได้อ่านแล้ว
โดย:
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:18:51 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:43:10 น.
หวัดดีจ้า พีร์
จากบล๊อก ถ้าอ่านแล้ว งงๆ คงต้องอ่านตอนก่อนหน้าค่ะ
เพราะเป็นประวัติของพระนางพิมพา
แบบว่าคนละเวอร์ชั่น กับ นางแก้วคู่บารมี ที่พี่เคยลงไปค่ะ
ปล.ร้อนมากแล้วค่ะ
พีร์ล่ะ เป็นไงบ้าง ผลงานผ่านหมดยัง แล้วยุ่งแค่ไหนแร่ะตอนนี้
รึคอยจับปูใส่กระด้งอยู่
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:11:25 น.
อัสลามูอาลัยกุม
ขอบคุณมากค่ะพี่สำหรับคำอวยพรในบล็อก
ทายว่าวันนี้พี่คงได่ทานขนมจนอิ่มแล้วก็เป็นวันสบายอีกหนึ่งวันแน่ๆเลย
ออกบวชใหญ่ที่นี่เค้าไม่แจกตังค์เด็กกันค่ะ อาจทีบ้างให้ลูกหลานตัวเอง
แต่ของมัสยิดหรือคนอื่นๆที่เอามาแจกหลังละหมาดไม่มี
มีแต่แจกเนื้อวัว เนื้อแพะกันค่ะ
ส่วนนาห์ไม่ได้แจกเงินหลานๆเลยออกบวชนี้ แล้วก็ไม่ได้รับเลยด้วย
เพราะเค้าไม่ให้คนที่มีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว
แต่ที่จริงก็คือพอโตเกินสิบสองไปแล้วเค้าก็ไม่ให้กันแล้วอ่ะ
ยิ่งพอทำงานได้มีรายได้ก็ต้องไปแจกหลานๆอีก
ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่
ปล.เมื่อไหร่สี่เล่มนี้จะอ่านจบน๊า
โดย:
มัยดีนาห์
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:13:45 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:44:49 น.
พีร์เอ๊ย บอกอ้ายหลายวันแล้วเน้อเรื่องจะอัพบล็อกเนี่ย อ้ายก็รอแล้วรอเล่า ไหงมาหลอกอ้ายจั๋งสี๊
ให้ว่อง ๆ
เรื่องครกกะสากนะ ไม่ใช่ครกจากอ่างศิลงศิลาอะไรที่ไหนหรอก แค่นั้ก็หนักจะแย่อยู่แล้ว เป็นครกดิน กะ สากไม้ธรรมดา ๆ แต่เธอทั้งสองช่างมีค่ากะพี่ยิ่งนัก ขาดกันไปนี่ น้ำตาคงต้องร่วงกันเลยละ
ของเค้าดีจริง ๆ เน้อ
ตัวผอมก็อย่างนี้ เวลาหนาวก็จะหนาวมากกว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้านิ๊ดสนึง
ห่มผ้าหนา ๆ หรือไม่ก็หาผ้าห่มตราคนมาห่มสะเน้อ มันช่วยได้จริง ๆ เชื่ออ้ายเถอะ
อ้ายบ่จุ๊หร๊อกกกกกก
โดย: พล (
aoigata
) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:53:00 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:03:51 น.
ช่วงนี้ตื่นตี 5 ตี 5 กว่าๆทุกวันครับพี่
ตื่นมาอัพบล็อกจนชินแล้วครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:09:38 น.
สวัสดีค่ะ พีร์
ทักทายกันก่อนไปทำงานนะคะ
ปล.ตอนนี้ยังไม่มีโปรแกรมเลยค่ะ พีร์ล่ะไปไหนรึเปล่า?
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:11:05 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:50:21 น.
ในบล็อกเอาเพลงมาแปะให้อีกเพลงค่ะ และอัพเดทเรื่องราวซินยุนบกเพิ่มอีกนิด
เรื่องย่อ พ่อแม่ซินยุนบกถูกฆ่าตาย ตอนนางเอกยังเด็ก พ่อเป็นช่างเขียนเหมือนกัน คนที่ชุบเลี้ยงนางเอก เห็นแววความเป็นช่างเขียน จึงเอามาเลี้ยงดู เผื่อเข้าวังในอนาคต และให้แต่งตัวเป็นชาย (สมัยนั้นช่างเขียนต้องเป็นหญิง)
ส่วนพระเอกคือเพื่อนพ่อนางเอก สมัยโน้น ปัจจุบันเป็นครูของนางเอก
เพิ่งรู้ว่านางเอกเป็นหญิงเมื่อวันเสาร์ที่แล้วเอง
หนุกเหมือนกันนะเรื่องนี้
ช่วงเย็นถ้าสะดวก อาจจะอัพ Journal เพิ่มต่อจากบล็อก
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:43:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [
?
]
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Friends' blogs
i_am_np
นายแว่นธรรมดา
qu-up
กุมภีน
ไกลนั้น
กิ่งไม้ไทย
lazymetal
kruaun
รัชชี่
บ้าได้ถ้วย
ถั่วงอกน้อยค่ะ
มิสเตอร์ฮอง
ผู้หญิงชื่อส้ม
zerxiustor
อุ้มสี
กะว่าก๋า
tiensongsang
fondakelly
ชีวิตจริง
anchesa
เอื้องสามปอย
kun_isara
soponkub
สุริยาอัสดง
aoigata
nakornthong
วรบรรณ
may_intania
โนโบะ
mungkood
atomdekzaa
ziinnuf
SawasdeeKrab
p_tham
พ่อระนาด
Dr.Manta
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
Pheam
มัยดีนาห์
สีฟ้าใส
tuk-tuk@korat
Mega-Batt
ร่มไม้เย็น
สกุลเพชร
ไลเดเลีย
sdayoo
aston27
kimmybangkok
ppth
glindoy
mambococonut
iammac
Insignia_Museum
aimanun
newenter
hs2zfo
Webmaster - BlogGang
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙
เจิมทันมั้ยจ๊ะ