Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

คืนสุดท้าย

ในค่ำคืนสุดท้ายที่ศพตั้งอยู่ที่บ้านจะมี
การเลี้ยงขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
กันอย่างมโหฬารแบบที่ใครเห็นแล้วต้องอึ้ง



จะเรียกว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครั้งใหญ่ก็ดูจะไม่ผิดนัก
เพราะจริง ๆ แล้วในทุกคืนที่ยังมีการตั้งศพไว้ที่บ้าน
ก็มีการกินกันอย่างต่อเนื่องกันทุกวัน ครบสามมื้อ + รอบค่ำเพิ่มเติม




ส่วนในคืนสุดท้ายก็จะกินกันแบบพิเศษหน่อย
แต่กว่าได้กินกันนั้นต้องรอให้ทำพิธีกลับโลงเสร็จสิ้นลงก่อน
รวมทั้งการขานทวนชื่อของคนที่มีหน้าที่ในพิธีเคลื่อนศพฝังศพในวันรุ่งขึ้น
พิธีกลับโลงชื่อภาษาเวียตนามผมจำไม่ได้แล้ว
เพราะที่นาจอก (บ้านใหม่) เค้าเลิกทำไปแล้ว
แต่ที่บ้านต้นผึ้ง-ดอนโมงยังรักษาธรรมเนียมนี้ไว้



เล่าให้ฟังก่อนว่าธรรมเนียมศพแบบเวียตนามนั้นจะกลับเอาด้านหัว
ของศพไปก่อน ผิดจากชาวอีสานทั่วไป ๆ ที่ยกด้านเท้าศพไปก่อน
ตรงนี้มีความเชื่อว่าวิญญานยังต้องกลับมาที่บ้านอีกเมื่อมีพิธีต่อจากนี้
หรือว่าช่วงตรุษญวนที่เชิญกลับมาเซ่นไหว้ดังนั้นจึงต้องหันหน้ามาทางบ้าน
(คือเอาด้านหัวไปก่อนนั่นเอง) โดยที่ด้านหัวจะมีการเขียนสัญลักษณ์
เหมือนกับตัว t กำกับไว้เสมอ ลองสังเกตในรูป



ธรรมเนียมการกลับโลงศพในคืนสุดท้ายก่อนไปฝัง
เดาเอาว่าคงทำเพื่อให้เหล่าสัปเหร่อคุ้นเคยกับตำแหน่งของตน
จะได้ไม่มีพลาดเวลายกศพจริง นอกจากนี้ยังจะช่วยให้ญาติที่อยู่
ในช่วงทุกข์โศกได้ทำใจเตรียมไว้เมื่อศพต้องถูกนำไปฝังจริงในวันรุ่งขึ้น




เพราะแต่เดิมกว่าจะยกโลงกลับหัวได้เหล่าลูกสาวลูกชายที่ใส่ชุดขาว
ก็จะมีการยืนกั้นศพ ยึดดึงกันอุตลุตเพื่อไม่ให้สัปเหร่อยกไปได้ง่าย ๆ
หนักไปกว่านั้นเคยได้ยินมาว่ามีการนอนขวางทางสัปเหร่อเวลายกศพด้วย
ดังนั้นเมื่อกลับโลงไว้พร้อมแล้วย่อมง่ายและสะดวกมากขึ้น
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาดังที่เล่ามา

แต่ปัจจุบันจะเป็นเพียงการทำหลอก ๆ โดยสัปเหร่อเข้าประจำตำแหน่ง
แล้วฟังเสียงกรับให้จังหวะ ย่อ-ยืน 3 รอบ ทำทีว่ายกโลงกลับแล้ว
ก็เป็นอันใช้ได้ โดยเมื่อทำพิธีนี้เสร็จ



เหล่าสัปเหร่อจะยกจานหมากพูลอีกหนึ่งจานเป็นการคารวะเจ้าภาพ ก่อนดำเนินการกับโลงศพ
โดยที่จานแรกนั้นถูกยกเมื่อวันทำพิธีบรรจุศพเข้าโลง




หลังจากเสร็จพิธีแล้วเหล่าสัปเหร่อจะถูกเลี้ยงดูด้วยอาหารคาวหวาน
เหล้า-ยา ปลาปิ้งซึ่งจัดโต๊ะไว้ให้เป็นการเฉพาะเป็น
และที่จะขาดเสียไม่ได้คือขาหมูต้มจิ้มกับน้ำจิ้มแหมะ (คล้ายข้าวหมาก)
น้ำจิ้มชนิดนี้มีแหมะเป็นวัตถุดิบนำไปปรุงน้ำจิ้ม
ก็จะมีรสหวานนิด ๆ ผสมกับรสเปรี้ยวอ่อน ๆ (ของแหมะ)




ธรรมเนียมการกินขาหมูต้มจิ้มน้ำจิ้มแหมะนี้
เป็นธรรมเนียมของคนต้นผึ้ง-ดอนโมงโดยเฉพาะที่อื่นไม่น่าจะมี
เป็นอันรู้กันว่าถ้าไปงันศพคืนสุดท้ายต้องได้กินขาหมูต้ม
เค้าถือวันว่าคนตายเป็นเจ้าภาพเลี้ยงขอบคุณแขกเหรื่อเป็นครั้งสุดท้าย

นอกจากเลี้ยงขาหมูต้มแล้วก็มีอาหารอย่างอื่นอีกมาก
ที่นิยมที่สุดคือส้มตำปลาร้ากินกับข้าวเกรียบงาดำเวียตนาม



แล้วก็ข้าวเหนียวนึ่ง ยำหมูยอ ต้มเส้น (ก๋วยจั๊บญวณ) ข้าวต้ม



พวกของกินเล่น ก็ได้แก่ เมล็ดแตงโม ขนมปังปี๊บ เงาะ มะม่วง ฝรั่ง
ลอดช่องน้ำกะทิ น้ำอัดลม เบียร์ และไอศครีมกะทิสด



เรียกว่ากินกันจนพุงกางทุกวัน
กินกันจนอิ่มพุงพลิ้นแทบลงคลาน
พอไม่ไหวจะกินค่อยแยกย้ายกระจายกำลังกันกลับบ้าน
รอคอยให้ค่ำคืนสุดท้ายของงานผ่านไปเพื่อจะได้ไปร่วมพิธีเคลื่อนศพ
และช่วยงานเจ้าภาพในวันรุ่งขึ้น





 

Create Date : 06 สิงหาคม 2554
17 comments
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2555 9:36:55 น.
Counter : 3124 Pageviews.

 

กับข้าวเยอะจริงๆครับพี่พีร์
ที่เชียงใหม่ตอนนี้
บางงานใช้ขนมกล่องแจกมากกว่าครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 22 สิงหาคม 2554 12:58:39 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่พีร์

 

โดย: กะว่าก๋า 23 สิงหาคม 2554 5:56:29 น.  

 

เดี๋ยวนี้บางวัดจัดเตรียมให้หมดเลยครับพี่
เจ้าภาพจ่ายเงินอย่างเดียวครับ 5555

ตอนพ่อเพื่อนผมตาย
ผมไปช่วยงาน
แขกบางคนมีรีเควสด้วยนะครับ
ว่าอยากกินของเลี้ยงที่นั่นที่นี่
ผมเลยพูดแทนว่า

แค่นี้เจ้าภาพเค้าก็เหนื่อยมากแล้วล่ะครับ
ยังต้องเอาอร่อยด้วยเหรอ 5555


แหมๆๆๆ


ตอนนั้นผมยังแรงอยู่ครับพี่ 5555


 

โดย: กะว่าก๋า 23 สิงหาคม 2554 13:08:53 น.  

 

สวัสดีครับพี่พีร์

ประเพณีกลับโลงที่ต้นผึ้งดอน-โมงเค้ายังคงรักษาไว้เหนียวแน่ทีเดียวเลยนะครับ เพราะที่โพนบกเค้าก็ทำเป็นพิธีหลอกๆ ก็คือประมาณว่าให้เหล่าเจ้าหน้าที่ที่ยกโลงศพมารวมตัวกัน แล้วคารวะศพแทนการกลับหัวโลงศพตามประเพณีสมัยก่อนแทน เห้นปุ่บอกว่านับตั้งแต่คนญวนเริ่มแต่งศพด้วยดอกไม้และเครื่องประดับต่างๆ ทำให้ยากต่อการกลับโลงศพ ที่โพนบกจึงลดทอนธรรมเนียมลงจากการกลับโลงศพเป็นการคารวะศพของเจ้าหน้าที่ยกโลงแทน เห็นปู่บอกอีกว่าแต่ก่อนที่โพนบกเค้าจะกลับโลงตอนเที่ยงคืนตรงพอดี ความหมายก็เป็นแบบเดียวกันกับที่พี่พีร์ว่าแหละครับ ที่จริงปู่ผมก็เคยบอกเหมือนกันว่าสมัยก่อนเค้าตั้งศพแบบนอนยาวโดยเอาด้านหัวเข้าในบ้าน ที่กลับโลงศพก็เพราะเตรียมหันหัวศพออกเพื่อที่จะถึงเวลาจะได้ยกออกไปเลยไม่ต้องกลับอีก ผมเห็นงานศพหลายงานที่ชุมชนวัดป่า + ในเมืองเขาจะกลับโลงศพตั้งแต่แรกเริ่มตั้งศพ เพื่อที่ถึงเวลาจะได้ไม่ต้องหมุนโลงศพอีก


ส่วนการกินเลี้ยงแบบใหญ่โตในงานศพคืนสุดท้ายของที่นาจอก-ดอนโมง ได้ยินกิตติศัพท์โด่งดังมากครับ เพราะเป็นที่เล่าลือกันมานานแล้วว่ากินกันสะบั้นหั่นแหลก แต่ผมว่ามันก็คือน้ำใจจากทางเจ้าภาพที่แสดงการขอบคุณให้กับผู้ที่มาร่วมงาน เพราะที่โพนบกกินกันธรรมดา อาจจะมีอาหารพิเศษกว่าทุกวันหน่อยแต่ก็ไม่มากมายเท่าที่นาจอก-ดอนโมง ครับ (โดยเฉพาะเมนูหมูต้ม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นั่นจริงๆ ยอมรับครับ^^)


ส่วนเรื่องการนอนขวางทางเวลายกโลงศพนั้น อันที่จริงมันมีความหมายมากกว่านั้นนะครับ คือปู่เคยเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนถนนหนทางมันไม่ดี มีแต่หลุมมีแต่บ่อ สมัยก่อนเวลาเอาศพไปฝังเค้าแบกไป ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เอาขึ้นรถ เพราะฉะนั้นเวลาแห่ศพเพื่อป้องกันการตกหลุมหรือเดินสะดุด ลูกๆๆ (โดยเฉพาะลูกสาว+สะไภ้) จะต้องแสดงความกตัญญูโดยนอนทับหลุมตามถนนหนทางเพื่อให้คนศพแบกศพพ่อ(แม่) เหยียบผ่านตัวเองไปเพื่อไม่ให้กระเทือนถึงศพของพ่อ(แม่) แต่พอมีรถขนศพ ประกอบกับเส้นทางคมนาคมดีขึ้น ธรรมเนียมนั้นเลยถูกนำมาปฏิบัติเป็นเพียงเชิงความหมาย โดยกระทำตอนยกศพออกจากบ้านมาที่รถแทนการไปนอนตามทางแบบสมัยก่อน ถ้าจำไม่ผิดพิธีนี้เค้าเรียก หน่ำ ด่าง มั้งครับ


พี่พีร์ครับ ถ้ายังไงผมขออนุญาตใช้รูปรถเข็นรูปในขบวนแห่ศพหน่อยนะครับ โดยผมจะอ้างอิงที่มาไว้อย่างถูกต้อง เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบในเรื่องที่ผมจะเขียนครับ ชื่อเรื่องว่า ลิง ซา ต่อจากเรื่องเกิมอุ๊บครับ ตอนนี้เรื่องเกิม อุ๊บกำลังรอภาพจากที่บ้านครับ คาดว่าประมาณสัปดาห์หน้าน่าจะลงได้ครับ

ขอบคุณมากนะครับ ^^

 

โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.112.227 23 สิงหาคม 2554 17:51:00 น.  

 

ป.ล. ตัวอักษรที่อยู่บนหัวโลงเป็นภาษาจีน อ่านว่า เถื่อง ( thượng ) แปลว่าบนครับ ส่วนที่ท้ายโลงจะเขียนอีกตัวหนึงลักษรณธคล้ายๆ ตัวด้านบนแต่มันจะกลับหัวอ่านว่า หะ ( hạ ) แปลว่าล่างครับ สดๆ ร้อนๆ เพิ่งโทรถามปู่มาเล่าสู่กันฟังครับ ^^

 

โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.112.227 23 สิงหาคม 2554 18:29:46 น.  

 




อังคารสวัสดิ์พิพัฒน์ผล

มาส่งความระลึกถึงค่ะ คุณพีร์สบายดีนะคะ
ธรรมเนียมประเพณีของแต่ละที่ย่อมแตกต่างกันไป
แต่งานเลี้ยงมโหฬารแบบนี้เจ้าภาพหนักเหมือนกันเนาะ

..............................

ความสะดวกสบายนั้นไม่ได้มาเปล่าๆ
เมื่อได้ความสะดวกสบายในเรื่องหนึ่ง
ก็ต้องเกิดความไม่สะดวกสบายในอีกเรื่องหนึ่งพ่วงติดมา

โดย... พระไพศาล วิสาโล จาก เว็บ khonnaruk.com



 

โดย: ร่มไม้เย็น 23 สิงหาคม 2554 20:57:09 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่พีร์


 

โดย: กะว่าก๋า 24 สิงหาคม 2554 6:06:32 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่


 

โดย: กะว่าก๋า 25 สิงหาคม 2554 6:12:29 น.  

 

สงสัยพี่พีร์ต้อเงปลี่ยนพาสเวิร์ดใหม่ครับ
ผมก็เคยโดนครับที่จีเมลล์
โดนแฮ็คครับพี่ แหะๆๆๆ


 

โดย: กะว่าก๋า 25 สิงหาคม 2554 8:28:47 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่พีร์


 

โดย: กะว่าก๋า 26 สิงหาคม 2554 5:41:32 น.  

 

@น้องต้อม ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยินดีครับที่จะหยิบรูปไปใช้เขียนบทความ

จะรอเรื่อง เกิม อุ๊บ นะครับ

 

โดย: peeradol33189 26 สิงหาคม 2554 7:20:19 น.  

 

เรื่องกินนี่พลาดไปได้อย่างไร

 

โดย: tuk-tuk@korat 26 สิงหาคม 2554 15:31:29 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่






 

โดย: กะว่าก๋า 29 สิงหาคม 2554 5:48:13 น.  

 

เข้ามาทักทายครับ

 

โดย: นายแว่นธรรมดา 29 สิงหาคม 2554 12:10:28 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่พีร์



 

โดย: กะว่าก๋า 30 สิงหาคม 2554 6:18:18 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่



 

โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2554 6:14:42 น.  

 

บ้านผมนะครับที่โลงศพจะไม่เอาแบบลวดลายเวียดนามแบบนี้แค่ทาสีแดงไว้เฉยๆครับ

แล้วตรงหัวของศพจะเขียนด้วยด้วยดีขีดกลาง

ซึ่งก็แปลว่าเดิ่ว แปลว่า หัวครับ

 

โดย: บอส IP: 223.206.135.10 3 ตุลาคม 2554 17:03:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
แจกฟรีแบ๊คกราว
Friends' blogs
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.