ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
:::ชำแหละทฤษฏี 12 :::



16 สิงหาคม 2553

เจ้าอ้ายที่รักยิ่ง

นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อชั้นไม่ใส่ใจหรอก แต่จะบอกว่าคิดถึงนายมากมากเลย
ไม่ได้ส่งสาส์นมาให้ ก็ยังไม่หายจากอาการช็อค ช็อคไรเหรอ?
อยากเล่าๆ (ออนเดอะร็อคสักคนละเหยือกเป็นงัย)
ชั้นคิดว่านายคงงงเหมือนชั้น วันที่จู่ๆก็มี SMS ส่งมาหย่อนปุบใน contact เว็บไซต์
นายจะออกอาการยังงัยนะ อยู่ๆคนที่แอบซ่อนไว้ในใจมาเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้า
ชั้นตกกะใจปิดเว็บเลย (มันคงเหมือนปิดวิทยุ ที่เปิดมาคลื่นนั้นก็เปลี่ยนไปแล้ว)
ที่ไหนได้สสารไม่มีวันสูญหายไปจากโลกจริง โนติสสีชมพูนั่นยังสว่างไสวอยูที่เดิม

ลำดวนเอ๋ย..เอ้ย..ไม่ใช่..มาอีกแระ(บ้านนอกจริงนิ..)
เจ้าอ้ายเอ๋ย..นายเข้าใจชั้นมั้ย..
อย่างไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่มีหมายค้น "อนุญาตให้เผยแพร่ผลงานได้"
ในความตีบตื้อ ชั้นแปลความว่า..คุณถูกจับกุมแล้ว..
จริงจริงนะ เหมือนถูกอายัดลิขสิทธิ์ทางปัญญาแล้วตั้งแต่นาทีนั้น
มีอาฟเทอร์ช็อคยิ่งกว่านั้นก็ตรงมีคนเขียนบทสรรเสริญมาแถมให้ด้วย

เจ้าอ้าย..ชั้นช็อคซ้ำซ้อน..จากวันนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่หายงงดี
เหมือนแอบซ่อนความลับไว้ในตู้เสื้อผ้าแล้วถูกจับได้เลย งือ..
อยากขึ้นป้ายรังโจรในดวงใจกับเค้ามั่ง แต่มิบังอาจ มิบังอาจ
ชั้นรื่นรมย์เกินไปหรือเปล่าเนี่ย แต่มีเซอร์ไพรซ์กว่านั้นอีก..

รู้มั้ย..หลังจากนั้นแล้ว..ฝนตกทุกวันเลยหลังจากที่แล้งมาแสนนาน
สงสัยคนมีบุญจะถูกปลดปล่อยจากการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว..เอิ๊กกก..

ถามว่าตอนนี้กำลังสนใจอะไรอยู่เหรอ คำตอบมีเยอะจนเรียบเรียงไม่ถูก
เรื่องน่าสนใจบางเรื่องไม่น่าสนใจ ชั้นเลือกจับเรื่องที่ไม่น่าสนใจดีกว่ามั้ย..
คิดว่าเรื่องอะไรที่ไม่น่าสนใจสำหรับชั้นล่ะ
เรื่องนั้นแหล่ะชั้นกำลังสนใจอย่างมาก เข้าใจตรงกันนะ
ชั้นยังเข้าใจนายเลย..(ป๊าด)

ที่ให้ค้นคว้าทฤษฏีการเรียนรู้ ชั้นเก็บมาใส่ไว้ในเมลล์นายเต็มไปหมดแล้ว อ่านซะมั่ง
เก็บไว้ไปอ้างอิงเวลาต้องแสดงปาฐก การพูดเลื่อนลอยไม่มีสาระเชิงวิชาการ
ไม่อ้างอิงหลักจิตวิทยาไม่น่าเชื่อถือ เถึยงข้างๆคูเอาตัวรอดไปแบบมวยวัดผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม
แม้ว่ามวยวัดจะช่วยให้เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง และเป็นต้นแบบมวยสากล

เจ้าอ้าย..บ้าห้าร้อยจำพวกจะทำอะไรต้องติดแบรนด์เนมตัวใหญ่ๆ
เพื่ออะไร เพื่อให้ดูดีมีชาติตระกูล แม้ว่าในใจจะหมกมุ่นแต่เรื่องใต้สะดือ
หรือจะเถียงว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ อยู่ในความสนใจของสามัญ
ก็แล้วจะสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง"เหนือคนอื่น" มาตั้งนานเพื่ออะไรเหรอ?
อย่างไรก็ตาม ชั้นไม่เชื่อว่า คนเราจะไม่อยากให้คนอื่นเห็นเราแต่ด้านดี
ไม่อย่างนั้น จะถือเป็นเรื่องใหญ่ทำไมเมื่อมีใครทำผิดหูผิดตา
ยังอยากคุยอีกหลายเรื่อง..แล้วชั้นจะส่งความคิดมาให้ถึงนาย..

เจ้าอ้าย..บทความนี้ได้มาจากการวิจัยของดร.วีร์ซึ่งกำลังมาแรงมากเลย

"สาเหตุสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารภาษาอังกฤษ
(ในฐานะภาษาต่างประเทศสำหรับคนไทย )
สามารถจำแนกออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับลึกกับระดับตื้น
ทั้งนี้ ระดับลึกเป็นสาเหตุเกี่ยวกับ "ทักษะภายใน"
ซึ่งสัมพันธ์กับ "ความถูกต้อง" ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
ส่วนระดับตื้นเป็นสาเหตุเกี่ยวกับ "ทักษะภายนอก"
ซึ่งสัมพันธ์กับ "ความชำนาญ" ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ

การพัฒนาคนไทยให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ
ในฐานะภาษาต่างประเทศได้อย่างมั่นใจถูกต้องมีประสิทธิภาพ
จึงจำเป็นต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถถ่ายโอนความหมาย คำ วลี ประโยค ตอนความ
และเรียงความ จากภาษาไทยไปเป็นคำ วลี ประโยค ตอนความ
และเรียงความภาษาอังกฤษได้ด้วยตนเอง
รวมทั้งเรียนรู้คุณสมบัติของเสียง และสัญลักษณ์

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารซึ่งทำหน้าที่นำ "ข้อมูลข่าวสาร"
ไปสู่ "ทักษะและความชำนาญ" ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ในขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า บรรดาองค์ประกอบ "ทักษะภายใน" ของภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนั้น
"การสร้างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร" มีคุณสมบัติ 2 ประการ คือ
ประการแรก มีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กำหนดไว้
ประการสอง มีความถูกต้องตามโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ
เป็นปราการด่านสำคัญที่สุด ที่เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารภาษาอังกฤษ
ในฐานะภาษาต่างประเทศสำหรับคนไทย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า

"แม้คนไทยจะรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษมากมาย แต่ถ้าไม่สามารถนำคำศัพท์มาเรียงเป็นประโยคใช้เองได้
ก็สื่อสารกับฝรั่งไม่ได้" นั่นเอง หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
ผ่านกระบวนการถ่ายโอนความหมายในฐานะภาษาต่างประเทศสำหรับคนไทย จึงจำเป็นต้องบูรณาการ
"กระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร"
กับ "กระบวนการสื่อสารภาษาอังกฤษ" เข้าด้วยกัน

การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารผ่านกระบวนการถ่ายโอน
ความหมายในฐานะภาษาต่างประเทศสำหรับคนไทย
มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์ "การเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ"
กล่าวคือ มีการเรียนรู้ทั้งส่วนที่เรียกว่า "หลักการ" และ "กิจกรรมปฏิบัติการ"

การพัฒนาคนไทยให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ
มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ควรดำเนินการครอบคลุม 3 ขั้นตอน
ได้แก่
1 ความถูกต้องของภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
2 ความชำนาญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
3 ประสิทธิภาพในการสื่อสารภาษาอังกฤษ

โดยเฉพาะขั้นตอนแรกเปรียบเสมือนเป็นการตอกเสาเข็มก่อนสร้างตึกสูง
จำเป็นต้องมุ่งให้คนไทย
"สามารถสร้างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้ด้วยตนเอง"

เจ้าอ้าย ชั้นค้นแล้วคว้ามาเลยไม่ได้ศึกษารายละเอียด
รอให้นายท้วงก่อน มีความเห็นว่าไงก็ขยายให้ฟังด้วย
หรือจะดัดแปลงทฤษฏีไปใช้อย่างไร ก็เอามาขยายผลนะ
ตอนนี้จะรีบไปเลือก Best practice ส่วนตัว
มันมีเยอะมากไม่รู้จะเอาอันไหนดี
เลือกไปอ่านบทกวีก่อนแล้วกัน

รักมากถึงมากที่สุด

'เจ้าเอื้อย



เพลงประกอบ: LYIN'EYES





Create Date : 16 สิงหาคม 2553
Last Update : 17 สิงหาคม 2553 15:01:49 น. 0 comments
Counter : 771 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.