ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
:::คิดถึงนายผี:::




“ค้ากำไรเกินควร”


“เหล็กคืบเดียวดูไปไม่มีค่า
เหล็กบ้าบ้าบัดสีมีสนิม
ลองกลึงกลมกลองกลางให้บางริม
อาบยาอิ่มเออนี่มีราคา

เป็นลำกล้องปืนกลแยบยลแท้
ฆ่าคนแน่-นอนกระไรให้พับผ่า !
เป็นของดีมีคุณอุ่นอุรา
เออเอามาขายเล่นละเป็นรวย

อันเศษเหล็กรุงรังอยู่ตั้งเยอะ
เออ,เอาเถอะทำอาวุธสุดจะสวย
การเงินทรุดหยุดชะงักตะหวักตะบวย
อาจอำนวยในค่าของอาวุธ

ทุนหนึ่งบาทอาจขยายได้ตั้งร้อย
ขายไม่น้อยนะหากมากที่สุด
เมื่อรบไปยิ่งเปลืองเรื่องเร็วรุด
ขายไม่หยุดรวยใหญ่ไปทีเดียว

ค้าความตายขายดีเป็นที่หนึ่ง
เป็นสิ่งซึ่งสัตบุรุษสุดจะเสียว
ทรชนชอบใจกันไปเที่ยว
ค้าเต็มเหนี่ยวหน้าด้านค้านไม่ฟัง

เกิดสงครามลามไล่ไปในโลก
ล้วนเรื่องโศกเศร้ากระไรเลือดไหลคั่ง
มือประชามาประชุมคุมกำลัง
ย่อมอาจยั้งหยุดบ้าค้าสงคราม”



อัศนี พลจันทร์ ชาวราชบุรี เกิด 15 กันยายน 2461 อัศนี พลจันทร์ จบม. 5 ร.ร.เบญจมราชูทิศ ราชบุรี จบม. 8 สวนกุหลาบปี 2479 จบธรรมศาสตร์บัณฑิตปี 2483 อัศนี พลจันทร์ เริ่มรับราชการเป็นอัยการผู้ช่วยปี 2484 ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดไม่ไว้หน้าผู้มีอำนาจในยามนั้น จนถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไปหลายจังหวัด หลังสุดถูกให้ย้ายออกจากพื้นที่จังหวัดปัตตานี เมื่อทางการระแคะระคายว่าให้การสนับสนุนชนชาวมุสลิมต่อต้านรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ เมื่อสิ้นปี 2495

อัศนี พลจันทร์ เป็นผู้นำประชาชนจับปืนต่อสู้อยู่ในเขตป่าเขาราวปี 2505 มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายไฟ" ในเวลาไล่เลี่ยกับ จิตต์ ภูมิศักดิ์ และ พ.ท.พโยม จุลานนท์ บิดา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รอนแรมไปทั่วเหนือ อีสาน แล้วผันผายไปเมืองจีน อัศนี พลจันทร์ ผู้ทระนงในศักดิ์ศรีเพราะจิตคิดมั่น ไม่ปรารถนาคืนป่าสู่เมือง เมื่อสิ้นเสียงปืนหลังคำสั่ง 66/23 เฉกเช่นสมาชิกขบวนการประชาชนคนอื่น กระทั่งเสียชีวิต กระดูกฝังไว้บนผืนดินประเทศลาว

กล่าวสำหรับงานเขียนของอัศนี พลจันทร์ เฉพาะบทกวีประมาณ 350 ชิ้น เรื่องสั้นที่พบแล้วประมาณ 40 ชิ้น บทความวรรณคดี วิจารณ์ ศิลปะ ภาษาวัฒนธรรมอีกต่างหาก รวมทั้งงานประพันธ์เพลงชื่อ "คิดถึงบ้าน" หรือ "เดือนเพ็ญ" อันกินใจ เมื่อปี 2502 งานเขียนของอัศนี พลจันทร์ มีหลายนามปากกา นอกจาก "นายผี" ยังมี ประไพ วิเศษธาน ศรี อินทรายุธ กุลิศ อินทุศักดิ์ อุทิศ ประสานสภา และ น.น.น.

งานเขียนของอัศนี พลจันทร์ มีปรากฏต่อเนื่องเสมอมาใน "สยามนิกร" "ปิยะมิตรวันจันทร์" "นิกรวันอาทิตย์" รวมทั้ง "อักษรสาส์น" ยุคบรรณาธิการ สุภา ศิริมานนท์ "สยามสมัย" ยุคบรรณาธิการ บุศย์ สิมะเสถียร


Create Date : 14 พฤษภาคม 2554
Last Update : 14 พฤษภาคม 2554 17:24:08 น. 1 comments
Counter : 917 Pageviews.

 



.......อิศาน........

ในฟ้าบ่มีน้ำ..................ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย...............ก็รีบซาบบ่รอซึม

แดดเปรี้ยงปานหัวแตก.....แผ่นดินแยกอยู่ทึบทึม
แผ่นอกที่ครางครึม..........ขยับแยกอยู่ตาปี

มหาห้วยคือหนองหาน......ลำมูลผ่านเหมือนลำผี
ย้อมชีพคือลำชี...............อันชำแรกอยู่รีรอ

แลไปสดุ้งปราณ..............โอ! อิศาน, ฉะนี้หนอ...
คิดไปในใจคอ.................บ่คอยดีนี้ดังฤา?

พี่น้องผู้น่ารัก,..................น้ำใจจักไฉนหือ?
ยืนนิ่งบ่ติงคือ...................จะใครได้อันใดมา?

เขาหาว่าโง่เง่า..................แต่เพื่อนเฮานี่แหละหนา
รักเจ้าบ่จาง ฮา!................แลเหตุใดมาดูแคลน...

เขาซื่อสิว่าเซ่อ.................ผู้ใดเน้อจะดีแสน
ฉลาดทานเทียมผู้แทน........ก็เห็นท่าที่กล้าโกง

กดขี่บีฑาเฮา....................ใครนะเจ้า? จงเปิดโปง
เที่ยววิ่งอยู่โทงโทง.............เที่ยวมาแทะให้ทรมาน

รื้อคิดยิ่งรื้อแค้น.................ละม้ายแม้นห่าสังหาร
เสียตนสิทนทาน................ก็บ่ได้สะดวกดาย

ในฟ้าบ่มีน้ำ...................... ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย...................คือเลือดหลั่ง! ลงโลมดิน

สองมือเฮามีแฮง...............เสียงเฮาแย้งมีคนยิน
สงสารอิศานสิ้น................อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน!

พายุยิ่งพัดอื้อ....................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อิศานนับแสนแสน..............สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?

(สยามสมัย. ปีที่ ๕ ฉ. ๒๕๖, ๗ เม.ย. ๒๔๙๕)



โดย: Peakroong วันที่: 14 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:22:40 น.  

Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.