บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
เปรู 6 - เส้นนาซก้า และ Maria Reiche


นาซก้า (Nasca) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ไร้ชื่อเสียง จนกระทั่งทศวรรษ 1930 ปี 1939 พอล โคช็อค (Paul Kosok) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ขับเครืืื่องบินเล็กข้ามเขตชายฝั่งอ้นแห้งแล้ง   จึงได้เห็นลายเส้นซึ่งสมัยก่อนเชื่อกันว่า เป็นระบบชลประทานในยุคก่อนจักรวรรดิอินคา  ... แต่โคซ็อคผู้เชี่ยวชาญด้านด้านระบบชลประทาน   เห็นว่าลายเส้นเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับระบบส่งน้ำเลย



วันนั้น.. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรที่สุด  เมือบินย้อนกลับมาอีก เขาจึงสังเกตเห็นว่าดวงอาทิตย์ตกเป็นเส้นตรงในแนวเดียวกับลายเส้นรูปนก  .. เขาจึงขนานนามที่ราบนี้ว่า "แผนภูมิดาราศาสตร์เล่มใหญ่ที่สุดในโลก"

เส้นนาซก้า  (Nasca Lines หรือ Lineas de Nasca) เป็นลายเส้นลึกลับที่กินอาณาเขตพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร บนพื้นที่สูงและแห้งแล้งของทะเลทรายนาซก้า ระหว่างเมืองนาซก้ากับเมืองปัลปาในแคว้นอิคา (Ica)  ประมาณ 400 กม. ทางตอนใต้ของกรุงลิมา เปรู 

สันนิษฐานว่าสร้างโดยชาวอินเดียนนาซก้าโบราณ  ซึ่งครอบครองเปรูมาก่อนยุคอานาจักรอินคา ระหว่าง 200 BC ถึง คศ. 500 ประมาณ 2,000 ปี มาแล้ว มีลายเส้นทั้งหมดหลายร้อย มีความสลับซับซ้อนแตกต่างไป จากลายเส้นธรรมดา ถึงลายเส้นที่มีลวดลาย เช่นนกฮัมมิ่ง แมงมุม ลิง ปลา ฉลาม ปลาวาฬ และกิ้งก่า เป็นต้น

 ชาวอินเดียนนาซก้าเป็นเกษตรกรเพาะปลูกอยู่บนที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค  พวกเขาเชื่อและบูชาเทพเจ้าหลายองค์ในธรรมชาติ เช่น ภูเขา ทะเล ท้องฟ้า ดิน ไฟ และน้ำ... เชื่อเรื่องหลังความตาย  ทั้งยังมีวิทยาการหลายอย่างที่ล้ำสมัยในยุคนั้น เช่น รู้จักระบบชลประทาน  การสร้างพีระมิด การทำมัมมี่ (คล้าย ๆ กับของอียิปต์)  แต่ที่น่าสงสัยคือ    ไม่ได้ทิ้งหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเส้นนาซก้าแต่อย่างใดเลย   ที่พอเข้าใจได้บ้าง ก็มาจากการศึกษาสุสาน และข้าวของเครื่องใช้ในหลุมฝังศพเท่านั้น ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่า เพราะเหตุใดชาวนาซก้าจึงทำลวดลายเหล่านี้ขึ้นมา 

การออกแบบลายเส้นนาซก้าใช้วิธีเดียวกันหมด คือ ขุดเอาหินทรายสี
แดงบนพื้นผิวทะเลทรายออก  แล้วเปิดให้เห็นชั้นหินสีอ่อน เหลือง ขาวหรือเทาที่อยู่ข้างใน  เมื่อมีสีที่ตัดกันเช่นนี้ จึงทำให้มองเห็นลายเส้นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องขุดดินให้ลึกเลย



ภาพวาดบนกำแพงแสดงวิธีการที่ชาวอินเดียนนาซก้าทำลายเส้นนาซก้า ที่เมืองนาซก้า



...ไม่มีร่องรอยการใช้สัตว์ช่วยแม้แต่น้อย  และภาพเป็นเส้นเดียวไม่ขาดตอน แม้ดูเหมือนทำขึ้นแบบง่าย ๆ แต่คำนวณแล้วว่าต้องใช้เวลามาก  ไม่ว่าจะเป็นการเกลี่ยหินหน้าทราย  การจัดแนวหินให้เป็นเส้นตรง และค่อนข้างชัดเจนว่า ....ภาพเหล่านี้จงใจสร้างขึ้น เพืี่อให้มองจากท้องฟ้า

ภาพของลายเส้นนาซก้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ภาพที่เป็นรูปทรง และภาพที่เป็นเส้นลายเฉย ๆ  มีลายเส้นหลายร้อย ที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต  เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม 






มากกว่า 70 เป็นลายเส้นสิิ่งมีชีวิต เช่น นก ปลา ลามะ ลิง หรือคน  ลายเส้นอื่น ๆ รวมถึงสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ และดอกไม้  ลายเส้นที่ยาวที่สุด ยาวกว่า 200 เมตร 



Flamingo - Heron Bird ลายเส้นที่ยาวที่สุด ถึง 300 เมตร





เนื่องจากที่ตั้งอันโดดเดี่ยว แห้งแล้ง ไม่มีลมพัดผ่าน และอากาศที่ค่อนข้างคงที่  ลายเส้นนาซก้าก็เหมือนได้รับปกป้องโดยธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ หากมีผลกระทบบ้าง ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

การหาคำตอบว่าเส้นนาซก้าสร้างอย่างไร ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากยิ่งก็คือ "เหตุใดจึงต้องสลักลายเหล่านี้ไว้บนผืนโลก"  เป็นคำถามที่คนในอดีตสร้างขึ้น เพื่อผูกปมเรื่องให้ใคร่คิด 

นักการศึกษาต่างแปลความหมายแตกต่างกันไป .....บ้างเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สถานที่แห่งนี้ ลงจอดยานบิน ทฤษฎีที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างได้แก่ เป็นปฏิทินทางดาราศาสตร์ แผนที่ของระบบดวงดาวบนท้องฟ้า แต่โดยทั่วไปก็มักสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับความเชื่อ หรือศาสนา ..........

กระทั่งปัจจุบันนี้ ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้  ถึงเหตุผลในการสร้าง และทำไมต้องเห็นชัดจากท้องฟ้า...จึงเป็นเรื่องที่เป็นปริศนาต่อไป ..... เพราะชาวนาซก้าไม่ได้ทิ้งสิ่งใดที่เป็นการบ่งบอกเหตุผลทั้งสิ้น ราวกับว่าพวกเขาหายไปเฉยๆ กันเสีย  ทิ้งความลับไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษาหาคำตอบกันต่อไป และทำให้ให้เราสนใจลายเส้นเหล่านั้นยิ่งขึ้น

แม้จะมีใครมากมายจากหลาย ๆ สถาบัน   หลาย ๆ ประเทศ   ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเส้นนาซก้า  แต่ผู้ที่อุทิศตนตลอดชีวิต ทำงานทุกอย่างเพื่อเส้นนาซก้า ด้วยความรัก และเห็นคุณค่าอย่างแท้จริง คือ


มาเรีย ไรเคอ (Maria Reiche)

Maria Reiche  เป็นนักคณิตศาสตร์ และนักธรณีวิทยา ชาวเยอรมัน เธอเดินทางมาเปรูแปดปี  ก่อนที่จะได้พบกับ Paul Kosok นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ในปี 1940 เมื่ออายุ 36 ปี โดยเป็นล่ามให้ในงานประชุมสัมมนาเรื่องลายเส้นเหล่านี้ หลังคำบรรยายของโคซ็อค เธอได้สนทนากับเขา  เขาสนับสนุนให้เธอศึกษาที่ราบปัมปา .....เพียงครั้งแรกที่เธอได้เห็นลายเส้นนาซก้า เธอก็เห็นความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ของสิ่งนี้  จนทำให้อุทิศเวลาตลอด 50 ปีต่อมา และพลังงานทั้งหมดของเธอ ให้กับการศึกษาค้นคว้านี้



การสำรวจโดย Toribio Mejia Xesspe, Paul Kosok และ Marie Reiche


การคลี่คลายปมปริศนา : เธอได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับลายเส้นอันประกอบกันขึ้นเป็นภาพหลายร้อยภาพของแนวเทือกเขา  ระหว่างเมืองนาซก้ากับเมืองปัลปา และได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลาย

"ลวดลายเหล่านี้ถูกขุดเพื่อให้เทพเจ้าจากเบื้องบนมองเห็น จะได้ช่วยเหลือชาวเปรูโบราณในการเพาะปลูก ประมง และกิจการงานอื่น ๆได้ถูก" เธอเรียกเขตที่ราบปัมปาว่า "ปฏิทินดาราศาสตร์"



เธอคาดว่าลายเส้นรูปลิงที่เธอมักนำไปอ้างอิงบ่อยๆ  เป็นสัญญลักษณ์ที่ชาวอินเดียนใช้แทนกลุ่มดาวไถ (Big Dipper) อันเป็นตัวแทนของฝน เมื่อถึงฤดูฝน  แล้วฝนไม่ตก  (ซึ่งเป็นเหตุปกติในเขตที่ราบแห่งนี้ ประมาณว่าที่นี่มีฝนตกราวครึ่งชั่วโมงในทุก ๆ ช่วงสองปี) ชาวอินเดียนจึงพากันร่างรูปลิงนี้ขึ้น  เพื่อให้เทพเจ้ามองลงมาเห็น และจะได้รู้ว่าแผ่นดินเบื้องล่างนี้แห้งแล้งนัก

เธอยังคลี่คลายปริศนาที่ว่าชาวอินเดียนใช้วิธีการเช่นไรจึงสามารถสร้างภาพขนาดมหึมาเหล่านี้ขึ้นมาได้    ซ้ำยังทำได้ถูกสัดส่วนอีกด้วย

เธอเห็นว่าพวกเขาคงจะใช้หน่วยในการวัดแบบง่าย ๆ โดยอาจถือเอาระยะจากปลายข้อศอกไปถึงปลายนิ้วชี้เป็นหลักในการคำนวณ  ..ส่วนความสมมาตรของภาพนั้น อาจใช้เชือกมัดติดกับเสา เพื่อสร้างรูปวงกลมและส่วนโค้งตัดกับเส้นตรง

ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ปฏิเสธว่าชาวอินเดียนสมัยโบราณไม่มีทางวาดลายเส้น      ที่พวกเขาไม่อาจมองเห็นได้  ขึ้นมาอย่างแน่นอน และลายเส้นเหล่านี้ก็สามารถมองเห็นได้จากบนฟ้าเท่านั้น 

แต่ทฤษฎีเรื่องเส้นนาซก้าที่ส่งผลเสียแก่ลายเส้นเหล่านี้เป็นอย่างมาก เมื่อ เอริค ฟอนตานิเคน ตีพิมพ์หนังสือเรื่อง Chariot of the Gods (ราชรถของพระเจ้า) ที่เสนอแนวคิดว่า  ที่ราบแห่งนี้เป็นของมนุษย์ต่างดาว ...ทำให้คนจำนวนมากมาเที่ยวชมลายเส้น   และการที่ใช้พาหนะต่าง ๆได้สร้างความเสียหายให้กับลวดลายไม่น้อย ... ปัจจุบันจึงมีกฏหมายห้ามขับรถหรือเดิผ่านเขตนี้

แม้ว่าทฤษฎีของเธอไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่ว่าใครก็ตามและทุก ๆ คนที่ศึกษาเกี่ยวกับลายเส้นนาซก้าผู้ซึ่งได้พิสูจน์บางสิ่งบางอย่างเป็นหนี้บุญคุณเธออย่างแน่นอน

Maria Reiche, เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พศ. 2446 (1903) ที่เมืองDresden – เยอรมันนี เสียชีวิตวันที่ 8 มิถุนายน พศ. 2541 (1998) ที่กรุงลิมา เปรู





ตลอด 50 ปี มาเรียไรเคอ อาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่หุบเขา Ingenio   ข้าง ๆ ผืนทะเลทรายอันกว้างใหญ่ เธอศึกษาและพิมพ์ผลงาน.... ศึกษาและพิมพ์ผลงาน .....เพื่อให้มีรายได้เพียงพอที่จะทำงานอันยาวนาน และเหน็ดเหนื่อย ...... แม้จะมีรายได้เพียงน้อยนิดเธอก็ยังสามารถจัดทำแผนภูมิทางอากาศ และรณรงค์ให้รัฐบาลเปรูปกป้องมรดกของประเทศ  จนท้ายสุดรัฐบาลได้ห้ามการเข้าไปเขตนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ การใช้ม้า หรือการเดิน  


เธอทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยวันแล้ววันเล่าภายใต้แสงแดดที่ร้อนแรง ทำความสะอาดก้อนหินออกจากลายเส้น 

เธอศึกษาทฤษฎีของเธอ จนได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่าลายเส้นเป็นปฏิทินอย่างหนึ่ง บอกถึงวันที่ยาวนานที่สุดของปี ทางเดินของดวงดาวและกลุ่มดาว

ปี 1977 มาเรีย ไรเคอได้เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งองค์กร South American Explores ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานทั้งการศึกษาวิทยาศาสตร์ และการท่องเที่ยว โดยไม่แสวงหาผลกำไร


เมื่ออายุ 77 ปี ปี 1980 












ปี 1989 มาเรีย ไรเคอ มีอายุครบ 86 ปี เธอตาบอดและเป็นต้อหิน ทั้งยังเคลื่อนไหวได้จำกัดเพราะโรคพาร์คินสัน...เธอไม่อาจมองลายเส้นที่เธอศึกษา วัดขนาด ทำความสะอาด ทำแผนภูมิจากบนอากาศ  และจากบนนั่งร้านเหล็กสูง 50 ฟุต (15 เมตร) ได้อีกต่อไป  แต่เธอยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องโดยบรรยายเกี่ยวกับลายเส้นนาซก้าที่เธอรัก

ปี 1992 มาเรีย ไรเคอ  ”ได้รับประกาศเกียรติคุณให้เป็นพลเมืองของประเทศเปรู" ซึ่งเป็นหนึ่งในความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ


มาเรีย ไรเคอ สิ้นชีวิตลงเมื่ออายุ 95 ในปี 1998  ณ รพ. ของกองทัพอากาศ – ลิมา ร่างเธอถูกฝั่งไว้ใกล้ ๆนาซก้าและได้รับเกียรติอย่างเหมาะสมและเป็นทางการ...

งานของเธอทำให้เมืองนาซก้ารุ่งเรืองขึ้นและทุกวันนี้นาซก้าเป็นจุดหมายที่สำคัญอันดับสอง รองจากมาชู ปิกชู ในการมาเยือนประเทศเปรู ทำให้ชาวนาซก้าและชาวเปรูทั้งประเทศรับรู้ ตระหนักถึงความสำคัญของเส้นนาซก้า และร่วมกันปกป้องลายเส้นลึกลับนี้

สืบเนื่องจากการทำงานที่ประมาณค่ามิได้ของมาเรียไรเคอ ทำให้

...ปี 1995 องค์การยูเนสโก ประกาศให้เส้นนาซก้าเป็นมรดกโลกด้านสถานที่

…เธอได้รับเกียรติและการตระหนักถึงคุณค่าของเธอ โดยเฉพาะจากชาวเมืองนาซก้าที่เรียกเธอว่า “Nazca ‘s Favorite Daughter” (ลูกสาวคนโปรดของชาวนาซก้า)

… ปี 1992 รัฐบาลเปรูได้มอบสัญชาติเปรูให้เธอเพื่อรำลึกถึงการอุทิศตนของเธอตลอดชีวิตให้แก่ประเทศนี้

... ปี 1993 เธอได้รับเกียรติจากรัฐบาล โดยได้รับมอบ “Orden del Sol in the degree of Great Cross"

... ปี 1994 องค์การยูเนสโกได้ตระหนักถึงความสำคัญของมาเรีย ไรเคอ  และได้มอบเหรียญเงินพิเศษ สำหรับการทำงานตลอดชีวิตของเธอ

….บ้านที่เธออยู่อาศัยได้เปลี่ยนให้เป็น Maria Reiche Site Museum ซึ่งรวบรวมเครื่องมือ สมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยข้อมูลการสำรวจ

.... ศูนย์ Maria Reiche ในนาซก้า รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตและการทำงานของเธอ ศูนย์นี้สนับสนุนการบรรยายเกี่ยวกับเส้นนาซก้า การจำลองขนาด การวิจัยในปัจจุบัน รวมทั้งทฤษฎีที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับการสร้างลายเส้น และเหตุผลที่สร้าง

.... สนามบินนาซก้า ให้ชื่อเกียรติแก่เธอ - Aerodromo Maria Reiche Neumann

.... ในเปรู มีโรงเรียนไม่น้อยกว่า 50 แห่ง มีมูลนิธิ และสมาคมที่ใช้ชื่อมาเรีย ไรเคอ

ชาวเปรูทั้งมวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวนาซก้า จะไม่มีวันลืมเธอ






แสตมป์ที่ระลึกถึงมาเรีย ไรเคอ







ภาพวาดบนกำแพงพิพิธภัณฑ์แสดงการทำงานของมาเรีย ไรเคอ













ลายเส้นนาซก้าแบบต่าง ๆ ที่เมืองนาซก้า 








เมืองนาซก้าที่เงียบสงบ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือหน้าต่างสู่โลกกว้าง ฉบับอเมริกาใต้ หนังสือ Let's Go PERU และ websites ต่อไปนี้  

//enperublog.com/2008/12/01/maria-reiche/

//www.independent.co.uk/arts-entertainment/obituary-maria-reiche-1164151.html

//www.go2peru.com/peru_guide/nazca/maria_reiche.htm

//news.tlcthai.com/news-interest/2336.html 10 สิ่งประหลาด ที่ไม่น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์โลก

//www.online-station.net/entertainment/fun/556 10 อันดับ ปริศนาของโลก ที่ยังรอการพิสูจน์หาความจริง

//travel.truelife.com/detail/3134887 ............ปริศนา ลายเส้นโบราณ นาซก้า อารยธรรมสาบสูญแห่งเปรูสาส์นจากมนุษย์สู่เบื้องบน 

//writer.dek-d.com/sixth-sense/story/viewlongc.php?id=391222&chapter=293

มีข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาเส้นนาซก้าของมาเรีย ไรเคอ ค่อนข้างละเอียด
ภาพของมาเรีย ไรเคอ และการทำงานของเธอ จาก internet ค่ะ



Create Date : 02 สิงหาคม 2558
Last Update : 10 สิงหาคม 2558 20:02:40 น. 0 comments
Counter : 2581 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.