ลาปาซ 2 - คือ...ลาปาซ
ลาปาซเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนเมืองอื่น ๆ นอกจากภูมิประเทศที่หลากหลาย อาคารยุคอาณานิคม ชีวิตกลางคืนแบบสมัยใหม่ สีสันของตลาดอันคึกคัก ที่ขายสินค้าสำหรับพิธีกรรม Aymara และของที่ระลึกมากมาย รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่ทั่วเมือง....ทำให้ลาปาซเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมอีกด้วย แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ผูุ้คนตามท้องถนน และมรดกทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง Aymara.......คราวนี้เราก็ไปเที่ยวกรุงลาปาซกันได้เลยค่ะ
Plaza San Francisco เริ่มจากใกล้ๆ ที่พักของเรา Plaza San Francisco ถือเป็นเส้นทางหลักไปสู่ชุมชน Aymara ที่อยู่ใกล้เคียง ชึ่งตั้งบ้านเรือนลาดเอียงตามไหล่เขาไปทางตะวันตก
พื้นที่บริเวณ Plaza San Francisco ยังคงดำรงเอกลักษณ์และเป็นศูนย์กลางของชนพื้นเมือง Aymara ......นอกจากจะเป็นจตุรัสที่มีชีวิตชีวาที่สุดในลาปาซแห่งหนึ่งแล้ว ก็ยังเป็นที่ชุมนุมของผู้คน มีทั้งนักแสดงตลก หมอดู ศิลปินวาดภาพผู้คนนั่งกินลมชมวิว พูดคุยกัน และ ฯลฯ ... บรรยากาศดีทีเดียวเลย นอกจากนั้น บริเวณพลาซ่านี้ ก็ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ซานฟรานซิสโก (Iglesia San Francisco)
Iglesia San Francisco
Iglesia San Francisco ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ Plaza San Francisco เป็นโบสถ์สมัยอาณานิคมที่สวยที่สุดในลาปาซ สร้างในปี 1549 ให้เป็นสำนักงานใหญ่ของคณะนักบวช ฟรานซิสกัน โครงสร้างดั้งเดิมได้พังลงมาใน ศต. ที่ 17 เนื่องจากหิมะตกหนัก อาคารที่เห็นปัจจุบันสร้างระหว่าง คศ. 1750 -1784
การตกแต่งด้านหน้าของโบสถ์เป็นแบบ mestizo-Baroque ซึ่งแสดงถึงอิทธิพลของชนพื้นเมือง
ลานจตุรัสด้านหน้าของโบสถ์
การสร้าง Iglesia San Francisco ให้เป็น parroquias de Indios - the Indian parishes (โบสถ์ของชาวอินเดียน) เป็นความพยายามส่วนหนึ่งที่จะให้ชมชนพื้นเมือง Aymara รอบนอก เข้ามาตั้งถิ่นฐาน และอาศัยอยู่บริเวณรอบ ๆ โบสถ์ และเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ส่วนเหตุผลรองก็คือ แบ่งแยกคนพื้นเมือง คนชั้นแรงงาน จากเขตของชุมชนสเปนบริเวณแม่น้ำ Choqueyapu
สุดโบสถ์มีทางเลี้ยวขวาเป็นถนน Sagarnaga ถนนสายหลักแคบ ๆ ขึ้นไปบนเนินตรงไปที่พักของเรา และตลาดแม่มด
ถนนที่พาเราไปตามซอกซอยบริเวณนี้ เป็นถนนอิฐแคบ ๆ คดโค้ง ลาดชันเต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาของร้านค้า แผงขายสินค้า ตลอดสองข้างทาง
PlazaMurillo แต่จตุรัส San Francisco ก็ยังไม่ใช่ศูนย์กลางของเมือง ........หากเป็น Plaza Murillo - จตุรัสมูริโยเป็นศูนย์กลางบริหารและการเมืองของประเทศ เป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี (Presidential Palace) แต่คนนิยมเรียกว่า Palacio Quemado - ตึกไหม้ ..เพราะเกิดเพลิงไหม้ถึง 2 ครั้ง นับแต่แรกสร้างขึ้นในทศวรรษ 1850
อาคารแบบ Neo-classical  
ถัดจาก Palacio Presidencial... ศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองของโบลีเวียเป็น .... Cathedral... ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางอำนาจทางจิตวิญญาณ..อาคารด้านหนัามีรูปแบบ Neo-classical แบบเรียบ ๆ และมีหอระฆังคู่
เริ่มต้นก่อสร้างในปี 1835....แต่ต้องหยุดไปเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง มาสร้างใหม่ ปี 1925 แต่เพิ่งเสร็จสมบูรณ์ ปี 1989 อย่างเร่งรีบ ก่อนการมาเยือนของ Pope John Paul II
ทางตะวันออกของจตุรัสคือ Palacio Legislativo ที่ตั้งของรัฐสภาโบลีเวียสร้างในต้นศต. ที่ 20 รูปแบบ Neoclassical เช่นเดียวกัน
จตุรัสและถนนในย่านนี้ถือว่ามีบรรยากาศที่ดีที่สุดของเมือง ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ผู้คนนั่งพักผ่อนไม่จอแจ หรือเร่งรีบ
มาถึงจตุรัสโมริโยแล้ว ก็เลยไปถนนเฮนก่อน แล้วค่อยย้อนกลับไปตลาดเวทยฺมนตร์กันค่ะ
Calle Jaen ถนนเฮน (Calle Jaen) เป็นถนนแคบ สั้น ๆ สมัยอาณานิคม ที่ได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี ปูด้วยหิน เรียงรายด้วยบ้านสีขาว มีระเบียงที่สวยงามหลังคากระเบื้องสีแดง และร้านขายของที่ระลึกแนวติสส์ ๆ หน่อยค่ะ
แม้เป็นถนนสั้น ๆ ก็เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญของเมืองไม่น้อยกว่า 4 แห่ง จนได้ชื่อว่า"ถนนสายพิพิธภัณฑ์" ใครชอบพิพิธภัณฑ์มาที่นี่ เป็นถูกใจแน่ ๆ เลยค่ะ
Mama Rosita พบกันที่ 73, Calle Jaen - La Paz, Bolivia แม้จะต่างภาษาก็คุยกันได้แบบไม่รู้เรื่อง Mama ชวนให้เข้าไปในบ้าน อธิบายว่าใครเป็นใคร แล้วก็พยายามเข้าใจเอาเองว่าใครเป็นใคร แล้วก็ Si..Si Mama..Papa .. Si..Si. ค่ะ เพราะมีรูป Papa ด้วย
Mama Rosita - หญิงสาวในกรอบรูปขวามือบนผู้นี้ อดีตเป็นดาราภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของโบลีเวีย
เยี่ยมบ้านและครอบครัวของ Mama Rosita แล้ว ก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ
เสน่ห์อันแท้จริงของลาปาซคือ ชีวิตตามท้องถนน ตรอกซอยเล็ก ๆ ซึ่งลาดขื้นไปบนเนิินหลัง Plaza San Francisco มีถนน Sagarnaga เป็นถนนหลักสำหรับนักท่องเที่ยว (ใกล้ ๆ กับทีี่พัก) เต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร ตัวแทนท่องเที่ยว ร้านขายงานหัตถกรรมและแผงลอย
....เลยถนน Sagarnaga ขึ้นไป 2 ช่วงตึก ณ ถนน Linares คือ ตลาดเวทย์มนต์ (Mercado de Hechiceria) หรือ ตลาดแม่มด (Witches's Market) ซึ่งเป็นตลาดที่น่าชมที่สุดในลาปาซ มีร้านที่ขายสินค้าสำหรับพิธีกรรมที่ใช้ในโลกเร้นลับของชาว Aymara พร้อมด้วยยาสมุนไพรต่าง ๆ 
ตัวอ่อน Illmas ตากแห้ง ใช้ในพิธีกรรมของชาว Aymara
เครื่องรางของขลังสำหรับทุกโอกาส
นอกจากตลาดแม่มดแล้ว ทุกตรอก ซอกซอยก็จะเป็นร้านค้าขายสินค้าหัตถกรรม
อาจนึกว่าเป็นไนท์บาซาร์ที่เชียงใหม่เอาง่าย ๆ
 สินค้าหัตถกรรมคล้ายสินค้าชาวเขาที่เชียงใหม่เอามาก ๆ ..... วันรุ่งขึ้นก็ไปเที่ยวอีกตลาด...ที่อยู่ทางไปสนามบิน ว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโบลีเวีย ..ถามเรื่องรถที่โรงแรม ..พอพนักงานรู้เข้าก็บอกว่ามันไม่ค่อยปลอดภัย ไม่ควรเอาของมีค่าไป ..ก็เลยฝากพาสปอร์ต กล้องถ่ายรูปเงินทั้งหมดที่มี ไว้ที่โรงแรมติดตัวไปแค่ Bolivian Soles เท่าที่มี และอีก US$20 ..เป็นตลาดที่ใหญ่มาก ยาวหลายกม. แต่ไม่มีรูปมาฝากเลย.... เพราะไม่กล้าเอากล้องติดตัวไปด้วย
อีกสีสันหนึ่งของลาปาซที่คงไม่เหมือนที่ใด ...รุ่นอะไร..ผลิตที่ไหน ???? ดูคลาสสิคดีไฟตากลมด้วย
อาชีพรับจ้างแปลเขียน ตอบจดหมายหรือเอกสาร แต่สำนักงานนี่สุดยอด !!! เพราะ .... นี่คือ ลาปาซ (This is La Paz)
มีข่าวมาฝากค่ะว่า "เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กรุงลาปาซ เมืองหลวงประเทศโบลิเวียได้รับเลือกเป็น 1 ใน 7 เมืองมหัศจรรย์แห่งใหม่ของโลก ซึ่งชาวโบลิเวียต่างดีใจกับการได้รับเลือกครั้งนี้มากเพราะจะกลายเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาเที่ยวยังกรุงลาปาซมากขึ้น และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ"
ทั้งนี้กรุงลาปาซ เป็นเมืองที่มีที่ตั้งสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนเดสซึ่งเหนือกว่าระดับน้ำทะเล 3,650 เมตรนอกจากนี้ เวลาที่มีการแข่งขันฟุตบอลที่นี่ มักขึ้นชื่อในเรื่องอากาศที่เบาบางสร้างความหวาดหวั่นแก่ทีมเยือนอยู่เสมอ ซึ่งทีมฟุตบอลอาร์เจนตินาเคยบุกมาแพ้ยับเยินที่โบลิเวียมาแล้ว ด้วยสกอร์ 6-1 (เรียบเรียงโดย kapook.com)
| Create Date : 14 มิถุนายน 2558 |
| Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2562 11:48:32 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 974 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
สินค้าต่างๆ ที่วางขายเหมือนที่ในบาร์ซาร์ เชียงใหม่ จริงๆ ด้วย