พ่อค้าหน้าตายิ้มแย้มเมื่อมีคนมาถ่ายรูป แถมเชื้อเชิญให้ถ่ายอีกด้วย
หน้าตาคล้ายข้าวเกรียบ ที่ยังไม่ได้ทอด
กลุ่มนี้แถมนามบัตรมาให้ด้วย เผื่อจะสั่งดอกไม้ เอ้ย !! ไม่ใช่ค่ะ กลับบ้านแล้วช่วยอัดส่งไปให้ด้วยนะ Nandri - ขอบคุณ จัดให้อยู่แล้วจ้า
ต่อไปก็แวะที่ Lourdes Church ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ neo- Gothic จำลองมาจากมหาวิหารแห่งลูรด์ที่ฝรั่งเศส สร้างแล้วเสร็จในปี 1896 ยอดแหลมของโบสถ์ เป็นรูปพระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขน ภายในมีภาพวาดของมรณสักขี
Sri Ranganathaswamy Temple (เทวาลัย ศรีรังคนาถสวามี)
Sri Ranganathaswamy Temple (ศรีรังคนาถสวามี) ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำที่อยู่ระหว่างแม่น้ำเกาเวริ (Kauveri) กับแม่น้ำคอลลิดัม เรียกกันว่าศรีรังคาม ห่างจากตัวเมืองตริชี่ไปทางเหนือ 6 กม. ศรีรังคนาถสวามีเป็น "ศาสนธานี" ที่สำคัญที่สุดแห่งพระวิษณู บางครั้งเรียกว่า "วัดใหญ่" (Big Temple) เพราะเป็นเทวาลัยฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ครอบคลุมพื้นที่ 2.5 ตร.กม. วัดความกว้างยาวรวมกำแพงด้านนอกได้ 816 และ 950 เมตร ประกอบด้วยวงกำแพงล้อมถึง 7 ชั้น ตามแผนผังด้านล่างนี้แสดงวงกำแพงชั้นที่ 1-4 เท่านั้น
ภาพจาก //www.art-and-archaeology.com/india/trichy/ran01.html
A = มณฑปพันเสา B = มณฑปม้าศึก
S = เทวาลัยประธาน (พระนารายณ์) 1-4 วงกำแพง 4 ชั้น
วงกำแพงชั้นนอกอีก 3 ชั้น เป็นเสมือนเมือง ๆ หนึ่ง ประกอบด้วยถนน บ้านเรือน และร้านค้า ส่วนภายในวงกำแพง 4 ชั้น ถือว่าเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ ชั้นในสุด คือเทวสถานพระนารายณ์
ภาพที่เห็นนี้ เป็นโคปุระ (gopura) ที่ใหญ่ที่สุด อยู่ที่กำแพงวงนอกทางด้านใต้ สูง 72 เมตร (220 ฟิต) สร้างใน ศต. 17 แต่แล้วเสร็จในปี 1987
ก่อนเข้าโคปุรัมทางด้านใต้นี้ ก็มีร้านค้าเรียงรายไปตลอด ตรงประตูทางเข้าก็มีแผงขายผลไม้ รูปบูชาเรื่อยไปจนเข้ากำแพงวงนอก จะไปชั้นที่ 6
ผ่านกำแพงชั้นที่ 6 โคปุรัมมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน
ระหว่างวงกำแพงชั้นที่ 6 และ 5 ก็มีร้านค้าตลอดทาง แต่จะเป็นรูปบูชาเสียเป็นส่วนใหญ่
จากข้อมูลหนังสือ "อินเดียเริ่มที่นี่....." กล่าวว่า ตั้งแต่กำแพงชั้นนอกสุด คือชั้นที่ 7 เข้ามาถึงแนวกำแพงชั้นที่ 4 กลายเป็นบ้านของพราหมณ์ ตลาดร้านค้า เทวาลัยใหญ่น้อย โรงเก็บรถของเทวาลัยศรีรังคนาถ ตลอดที่พักแรมสำหรับผู้แสวงบุญ ประมาณกันว่า มีผู้คนอาศัยอยู่ในเขตกำแพงนี้หลายหมื่นคน
เมื่อผ่านเข้ามาข้างใน ทางโคปุรัมทิศตะวันออก มีอาคารที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่ง คือ "มณฑปม้าศึก" (Seshagiri Raya Mandapa) (ภาพจาก internetค่ะ) เป็นรูปแบบสมัยราชวงค์วิชัยนคร ซึ่งช่างได้สลักต้นเสาหินขนาดใหญ่ ให้กลายเป็นประติมากรรมลอยตัวรูปม้าศึก พร้อมนักรบบนหลังกำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายหรือข้าศึก
ผ่านไปเรื่อย ๆ ถึงมณฑปพันเสา (One Thousand-Pillared Madapa) ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ข้อมูลบอกว่ามีเสาอยู่เพียง 953 ต้น แต่ละต้นสูง 5.5 เมตร สกัดจากหินแกรนิต
กลางโถงมีแท่นบัลลังค์รูปร่างคล้ายรถะ สำหรับประดิษฐานเทวรูปรังคนาถ ในระหว่างเทศกาลไวกูณฐเอกทศ (Vaikuntha Ekadasi festival) ในเทศกาลนี้ ประตูทางด้านเหนือจะเปิดออก เหมือนเปิดทางไปสู่สวรรค์ "doorway to heaven" ผู้ที่ผ่านประตูนี้จะมีส่วนร่วมในการรับพร แห่งคุณธรรมและความดี
ภาพจาก internet ขบวนแห่ในเทศกาลไวกูณฐเอกทศ (Vaikuntha Ekadasi festival)
ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจ ว่าอยู่บริเวณไหน เดินไป - เดินมา วนเข้า - วนออก ที่โน่นที่นี่ แต่คิดว่าคงกำลังจะผ่านวงกำแพงชั้นที่ 3 แล้ว
ถอดรองเท้าเข้าวงกำแพงชั้นที่ 3 ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาฮินดู จะได้รับอนุญาตให้เข้าเพียงชั้นนี้
เข้ามาอีกชั้น
วงกำแพงชั้นที่ 2 และชั้นในสุด (อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะฮินดู) คือเทวสถานพระนารายณ์ หรือวิมานศรีรังคนาถ ภายในประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์บรรทมสินธ์ุ ขนาดยาว 4.5 เมตร เป็นประธาน (ภาพจาก internet)
โดยรวมแล้ว เทวาลัยศรีรังคนาถสวามี เป็นเทวาลัยศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงมีการประกอบพิธีบูชาอยู่ทุกวันนี้ ส่วนนครวัดที่กัมพูชา เป็นเทวาลัยฮินดูที่ยังมีสภาพดีอยู่ที่ใหญ่ที่สุด
ศาสนธานีศรีรังคามมีอาณาเขต 156 เอเคอร์ (631,000 ตร.เมตร) มีขอบเขตรอบปริมณฑลยาวรวมกันได้ 4,116 เมตร (10,710 ฟิต) ทำให้เป็นเทวาลัยที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย และเป็นชุมชนวัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีวงกำแพงล้อมรอบถึง 7 ชั้น (ภาษาทมิฬเรียกว่า "ปราการ" (prakarams) ลานด้านนอก) มีความยาวรวมทั้งหมด 32,592 ฟิต หรือมากกว่า 6 ไมล์
เทวาลัยนี้มีโคปุรัม (หอคอย) 21 แห่ง โดยโคปุรัมทางเข้าหลักทางใต้ มีความสูงเป็นที่สองของเอเชีย ศาลา 39 แห่ง เทวาลัยรวม 50 หลัง มีมณฑปพันเสา (Ayiram kaal mandapam) และมีแหล่งน้ำเล็กๆ อยู่ภายใน 2 -3 แห่ง. อาณาบริเวณของเทวาลัยศรีรังคาม มีสถาปัตยกรรมแบบดราวิเดียน
กว่าจะออกจากศาสนธานีศรีรังคามก็มืดพอดี แล้วค่อยไป เทวาลัยป้อมหิน (Rock Fort Temple) บล๊อคหน้าค่ะ
ขอบคุณหนังสือ เว็บไซด์ และภาพต่าง ๆ ที่ไปขอคัดข้อมูลมา ณ ที่นี้ค่ะ