ออกจากตม. ก็ยืน งง ... เอาไงต่อดี แลกเงินก่อน วิ่งขึ้นไปแลกชั้นบน ที่ผู้โดยสารขาออก มีอยู่เจ้าเดียว 1 USD = 2.169 reals แลกเท่าไรก็โดนหัก 15reals จาก 1 real ที่คิดว่าเท่ากับ 13- 14 บาท กลายเป็น 16 บาท ของก็เลยแพงขึ้นทันตาเลย ......หลังจากนั้น ก็หาป้ายรถบัสที่จะเข้าเมือง ข้อมูลที่หามาก็มี แต่พอจริง ๆมันไม่แน่ใจ ป้ายอยู่ที่ไหน สายไหน ค่ารถเท่าไร วิ่งขึ้นบนลงล่างอยู่2-3 รอบ ถามการ์ดแนวนั้น ก็ได้คำตอบว่า "kloepisrwcm..??" คือไม่รู้เรื่องกันเลย ที่บราซิลใช้ภาษาโปรตุเกส ต้องถามเป็นคำ ๆ แล้วใช้ภาษามือประกอบ ก็พอรอดตัวไปได้
รถประจำทางที่ Rio จะมีพนักงานนั่งเก็บเงินตรงประตูหน้า ไม่เดินเก็บ ต้องบอกเขาว่าจะลงที่ไหน จ่ายเงิน เขาจะกดล๊อคให้เราผ่าน เหมือนที่ท่าเรือบ้านเราแต่มันลำบากเวลามีกระเป๋า นึกดูนะ ต้องยกกระเป๋าลาก ข้ามด่านไปก่อนแล้วเอาตัวผ่าน ลืมไปว่ามีเป้อยู่ข้างหลัง ติดแหงกอยู่ตรงนั้นแหละกว่าจะดึงเป้ออกมาได้ แทบแย่ เพราะมันติดเหล็ก คนก็รอเรา รถไม่ออกหรอก ถ้าคนยังจ่ายเงินไม่ครบ เป็นอย่างนี้เกือบทุกที เวลาลงก็ลงตรงกลาง
พอขึ้นรถ รู้สถานที่จะไป แต่ไม่รู้ว่าลงตรงจุดไหน ต้องบอกคนขับ หรือพนักงานเก็บเงิน ว่าบอกด้วยนะว่าถึงแล้ว. พยายามนั่งข้างหน้าเอาไว้ จะได้มองเห็นทาง ป้ายรถเมล์ก็ไม่ใช่จอดป้ายเดียวกันทุกคัน แต่ละป้ายจะจอด สัก 2-4 สาย ห่างกันประมาณ 20 เมตร ก็เดินดูเอาเองว่าเราจะขึ้นสายไหน แล้วขึ้นถูกทางหรือเปล่าเพราะเขาพวงมาลัยขวา นี่คือที่ Rio
เราพักที่Rio คืนเดียว แล้วรีบต่อไปที่อื่น เพราะตอนแรกที่วางแผนกันไว้ การเดินทางทั้งหมดเป็นการเดินทางด้วยรถบัสทั้งหมด ถ้าต้องรีบตอนหลัง ผู้เฒ่าคงไม่ค่อยไหวแล้ว
ที่ Rio สถานที่ท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้คือ Christ the Redeemer (รูปปั้นพระเยชูพระผู้ไถ่) ที่อยู่บนยอดเขา Corcovado ที่ความสูง 700 เมตร ในอุทธยานแห่งชาติ Tijuca Forest ......... Christ the Redeemer นี้ ได้รับการโหวต ให้เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
ค่ารถรางไป-กลับ คนละ 25 reals อย่าลืมคูณด้วย 15/16 นะ
ภาพเยอะดี มีเซรามิคจากเมืองไทยด้วย
ถ้าจะให้เพื่อนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกบล๊อกแก้งค์
เข้ามาอ่าน แล้วคอมเม้นท์ได้ ก่อนจะกด publish
ให้เลือกว่า ...ทุกคน (จำไม่ได้)