บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 

ตอน 1 - อินเดียใต้ ไปไหนกันดี




ความอยากไปอินเดียแอบมีมานานแล้ว อินเดียเป็นประเทศใหญ่ มีอะไร ๆ ต่อมิอะไรให้ชม สำรวจเยอะ จนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี .. เคยไปเดลี   ชัยปุระ (ชมพระราชวังสายลม)   และอัครา (ชมทัชมาฮาล) ตั้งแต่สมัยที่ President Tour ยังเปิดกิจการอยู่ที่สยามสแควร์ แล้ว President tour ก็ปิดไปนานมากแล้ว สมัยต้มยำกุ้งน่ะค่ะ  

มีหนังสือที่เกี่ยวกับอินเดียก็หาซื้อมาเก็บไว้  ถ้าว่างก็อ่านไปเรื่อย ๆ ... แล้วก็งง งง   ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ยิ่ง งง งง หนักเข้าไปใหญ่ จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก ถ้าไปกับทัวร์ก็ไม่ต้องจับอะไร เพราะมีคนจับให้เรียบร้อย แต่ก็โชคดีค่ะ ...เรื่องเกี่ยวกับอินเดียมีพอคเก็ตบุคภาษาไทยเยอะ อ่านแล้วก็สนุกสนาน เพิ่มความอยากเข้าไปอีก





มี "หน้าต่างสู่โลกกว้าง ฉบับอินเดีย"  ภาษาไทย  ส่วนภาษาอังกฤษ จะได้อ่านหรือไม่ได้อ่าน แปลได้หรือไม่ได้ ซื้อไว้ก่อนตอนลดราคา ..มีทั้ง Former's,  Rough Guide และ  Lonely Planet คัมภีร์ของนักเดินทางแบกเป้ทั้งหลายแต่ก่อน .. แต่แล้วหนังสือเหล่านี้ก็มาพ่ายแพ้แก่ Smart Phone ที่หาและเก็บข้อมูลได้เดี๋ยวนั้นเลย  ไม่ต้องสำรองข้อมูลแล้วเอาไปพิมพ์   ... น้ำหนักของข้อมูลแต่ละทริป หนักเป็นกิโลเลยค่ะ  ตอนนี้คงมีนักเดินทางไม่มาก ที่แบกคัมภีร์ทั้งหลายไปด้วย ..Smart Phone เก็บหนังสือได้ทั้งเล่ม .. สบายกว่ากันเยอะเลย



หนังสือภาษาไทยอีก 2 เล่ม คือ "ทัวร์อินเดียออกเนปาล" ของคุณว. จูฑะวิภาค ฉบับพิมพ์ พศ. 2532  หนา 515 หน้า คุณว. เล่าว่าเดินทางไปเรื่อย ๆ  ครั้งแรกกะว่าจะไป 10 วัน  แต่ไป ๆ มา ๆ กลับนานถึง 30 วัน จนออกไปเนปาล แล้วกลับเข้ามาอินเดียอีกครั้ง  เล่าไปเรื่อย ๆ  อ่านแล้วได้ความรู้สึกเหมือนเดินทางไปด้วยจริง ๆ  รูปประกอบส่วนใหญ่ก็เป็นขาว-ดำ แล้วก็มีไม่มาก เล่มนี้อ่านถึง 3 ครั้งค่ะ   

"ดื่มทะเลสาบ อาบทะเลทราย"  ของคุณบินหลา สันการาคีรี พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกพฤศจิกายน 2544  ..คุณบินหลาเดินทางไปแคว้นราชสถาน (Rajasthan) มีเรื่องเล่ามากมาย   มีคำนิยมจากแพรวสำนักพิมพ์  ดังนี้  

"เป็นหนังสือเล็ก ๆ อีกเล่มหนึ่ง ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น จริงใจ  นักเขียนถ่ายทอดออกมาได้นุ่มนวล อ่อนโยน แต่ก็มีพลังหนักแน่นอยู่ในที  ขณะเดียวกันก็มีอารมณ์ขัน ทำให้รู้จัก "อินเดีย" ขึ้นอีกหลายแง่มุม  จากบางเมืองของอินเดีย  จากบุคคลที่นักเขียนนำมาเล่าถึง  และเป็นการเล่าอย่างมีชั้นเชิงลีลาของนักเขียนที่ผ่านการเขียนเรื่องสั้น และนิยายมาก่อน  ทำให้อ่านได้เพลิดเพลิน  ชวนติดตามเหมือนไม่ใช่เรื่องท่องเที่ยว  ทั้ง ๆ เป็นการท่องไปในโลกกว้าง   

และท้ายสุดแทบไม่น่าเชื่อว่า .. นี่คือการเรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเอง จากการได้ไป "ดื่มทะเลสาบ อาบทะเลทราย" กับบินหลา สันกาลาคีรี ....ไม่ได้ค่าโฆษณาแน่นอนค่ะ เป็นอีกเล่มที่อ่านแล้วต้องเก็บเอาไว้  อ่านไป 2 รอบ ก็ยังไม่ได้ไปอินเดีย



แล้ววันหนึ่งลุงก็ซื้อ "เที่ยว 4 ตำบลด้วยตนเอง" - คู่มือท่องเที่ยวสังเวชนียสถานทั้ง 4 ในประเทศอินเดียและเนปาล ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 พศ. 2548 โดยเพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย..  อ่านแล้วก็ช่วยกันหาข้อมูลสักพัก ..แต่ทำมั๊ย ไม่ได้ไปสักที

ส่วน "มนต์เมืองท่า" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 - ตุลาคม 2552 โดยสองยิบซี ผู้ท้าวความถึงความฝันและแรงบันดาลใจ ของการเดินทางและเล่าเรื่อง "มนต์เมืองท่า" นี้ โดยขอคัดข้อความมาบางส่วน ดังนี้ค่ะ 


" เรือ  พาหนะที่นำพานักผจญภัย นักเผชิญโชค นักเดินทาง นักการทหาร พ่อค้า หรือแม้กระทั่งนักบวช ล่องฝ่าคลื่นลมเพื่อไปค้นพบปลายทางแห่งความฝันของแต่ละคน

นักผจญภัยฝันถึงตำนานเรื่องเล่าอันตื่นเต้นเร้าใจ นักเผชิญโชคฝันถึงขุมทรัพย์ นักเดินทางฝันถึงการเรียนรู้โลกและตนเอง นักการทหารฝันถึงดินแดนใหม่ในปกครอง พ่อค้าฝันถึงสินค้าหายากกำไรงาม นักบวชฝันถึงการชำระล้างจิตใจและปลดปล่อยผู้คน

ครั้งหนึ่ง  แรงบันดาลใจซึ่งแตกต่างกันออกไปเหล่านี้ เดินทางมาขมวดเกลียวอยู่ร่วมกัน  แล้วค่อย ๆ หลอมรวมจนคล้ายกับได้กลายเป็นสิ่งเดียวกัน  ผลักดันให้ผู้คนเกิดความมุ่งมั่น ที่จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางแห่งวันใหม่  พวกเขาต่างกางใบพร้อมกับหันหัวเรือสู่ปลายขอบฟ้า สถานที่ที่พวกเขาเชื่อว่าความฝันรอท่าอยู่ ณ ปลายทาง ..............." 

เล่มนี้เอาไว้บนหัวนอน อ่านแล้วอ่านอีก (ความจริงทุกเล่มก็ไว้บนหัวนอนเหมือนกัน เป็นหนังสืออ่านก่อนนอน)   ทำให้ฝันดี 



แล้วก็มาถึง "อินเดียเริ่มที่นี่ ทมิฬนาฑู Tamil Nadu" ฉบับพิมพ์ครั้งแรก พศ. 2553 โดยคุณศรัณย์ ทองปาน และ คุณวิชญดา ทองแดง ..ขอคัดลอก "คำนำผู้เขียน" บางส่วน ดังนี้  

"สิ่งที่เราในฐานะผู้เขียน มุ่งหวังสำหรับ อินเดียเริ่มที่นี่ ทมิฬนาฑู  ก็คือ  การแนะนำทมิฬนาฑู ให้แก่คนไทยโดยเฉพาะ  จึงจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องของไทย  ประวัติศาสตร์ไทย รวมถึงการเทียบเคียงกับสิ่งที่พบเห็นในเมืองไทยด้วย  เนื่องเพราะเราเห็นว่าแผ่นดินทั้งสองฟากอ่าวเบงกอล คือ ทมิฬนาฑูและประเทศไทยนั้น  มีทั้ง "อดีต" และ "อนาคต" ร่วมกัน ....

ผู้เขียนทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า อยากให้ อินเดียเริ่มที่นี่ ทมิฬนาฑู  เป็นเหมือนคู่มือเบื้องต้นสำหรับคนที่สนใจ หรือตั้งใจ จะเดินทางไปท่องเที่ยวในแถบอินเดียใต้ ซึ่งอาจอยากได้หนังสือที่ใช้ประโยชน์ได้จริงจังกว่าสารคดีท่องเที่ยวทั่วไป"  

ปกหลังของหนังสือเล่มนี้ เขียนไว้ว่า "สำหรับ "มือใหม่อินเดีย" แล้ว  อินเดียใต้ โดยเฉพาะทมิฬนาฑู  น่าจะเป็นปฐมบทแห่งการเดินทางที่ดีที่สุด  เพราะสภาพภูมิประเทศ อากาศ คล้ายกับประเทศไทยมาก  ผู้คนในดินแดนแถบนี้ก็ไม่น่ากลัว และ "ตุกติก" เท่ากับภูมิภาคอื่น ๆ 

"....แนะนำให้ตั้งต้นจากมหานครเจนไน แวะนมัสการเทวาลัยที่ กาญจีปุรัม  เที่ยวชมมรดกโลกแห่ง มามัลละปุรัม  หย่อนใจ ณ พูดุชเชอรี่ เมืองชายทะเลที่ได้ชื่อว่า "ฝรั่งเศสน้อย"  นมัสการสถานกำเนิดศิวนาฏราชแห่ง จิตัมพรัม  กราบนาารายณ์บรรทมสินธ์ุที่ ศรีรังคาม (ตริชี่)   ชมเทวาลัยพฤหธิศวรแห่ง ตัญชาวูร์  และขอพรพระแม่มีนักษีแห่ง มธุไร .. เท่านี้ก็นับว่าเพียงพอ สำหรับปฐมบทในการทำความรู้จักอินเดีย"  กำชับมาอีกว่า อย่าบอกว่ารู้จักอินเดีย หากยังไม่ได้อ่าน "อินเดียเริ่มที่นี่ ทมิฬนาฑู"

หนังสือเล่มนี้ ทำให้การไปอินเดียเริ่มเป็นจริง เริ่มจับต้นถูกแล้ว .... ต้องร้องว่า Oh, my God  อินเดียต้องเริ่มที่นี่ไง ..และผู้ที่มาทำให้สามารถจับปลายได้.. เป็นจับต้นชนปลายได้เรื่องได้ราวเสียที ไม่ใช่ใคร ลุงนั้นแหละ 

ลุงเริ่มหาตั๋วเดินทาง แล้วก็ได้ตั๋วราคาประหยัด จองกันข้ามปีกันจริง ๆ จองปลายปี 2554  เดินทางตุลาคม 2555 .. (ตอนนี้ถ้าจองข้ามปี ต้องคิดมากหน่อยว่าปีหน้า จะลากสังขารไปได้หรือเปล่า)  เราต้องจอง 2 ตั๋วแยก คือ จากเชียงใหม่ - กัวลาลัมเปอร์ - เชียงใหม่ และจากกัวลาลัมเปอร์ - เจนไน - โคชิน - กัวลาลัมเปอร์ หลังจากจองตั๋วแล้วถึงค่อยมาคิดเส้นทางท่องเที่ยวกัน  ไปคราวนี้มีเพื่อนจากลำปางร่วมเดินทางไปด้วยอีกคน รวมเป็น 3 สว.ค่ะ



เพื่อนคนนี้ (ชื่อแพรวค่ะ) เป็นทั้งนักอ่าน - นักเขียน มีรางวัลการันตีความสามารถจากหลายสำนัก  ได้ส่งหนังสือของ อ.ประมวล เพ็งจันทร์ "อินเดีย จาริกด้านใน" มาให้อ่านทั้งชุด 3 เล่มเลย  ใครที่ได้อ่านหนังสือของอาจารย์ คงทราบฝีมือการเขียน การเล่าเรื่อง ความรู้สึกที่ได้พบเห็นอย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง แต่แฝงด้วยปรัชญาชีวิต  อาจารย์ไปอย่างผู้ที่เคารพเจ้าบ้าน อ่อนน้อมถ่อมตน สมกับการจาริกด้านใน ตามชื่อเรื่อง "อินเดีย จาริกด้านใน"

จากหนังสือของอาจารย์ เราก็เพิ่มจุดหมายปลายทางตามที่อาจารย์เล่า อีก 2 จุด คือ กันยากุมารี (Kanyakumari) หรือ กันนิยากุมารี (Kanniyakumari) และ อลัปปูซา (Allaphuza) หรือ อเลปปี้ (Allepy) ..จาก "มนต์เมืองท่า" ก็ได้มามัลละปุรัม เหมือน "อินเดียเริ่มที่นี่ ทมิฬนาฑู" และเมืองท่าโคชินอีกเมือง



หลังจากใช้เวลาหาข้อมูล - เส้นทาง - เมืองที่จะไป  เมืองไหนไปได้ เมืองไหนไปไม่ได้  ดูเวลาการเดินทางไปแต่ละเมือง เพราะเราไม่ได้เหมาแท๊กชี่แน่ ๆ รถบัสท้องถิ่นล้วน ๆ   ยัง งง ๆ อยู่  แต่ลุงบอกเอาสมุดปากกามาจดเลย... ให้ทำเอง งง อยู่นั่นแหละ.. แล้วก็ได้เส้นทางอินเดียใต้ตามภาพค่ะ



1.  เชียงใหม่ - กัวลาลัมเปอร์ - เจนไป  ต่อไป มามัลละปุรัม เลย  
2.  มามัลละปุรัม - ติรุชชิรัปปัลลิ (เรียกยากจัง - ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า     "ตริชี่" )
3.  ตริชี่ - มธุไร  
4.  มธุไร - กันยากุมารี หรือกันนิยากุมารี
(ทั้ง 4 เมือง มามัลละปุรัม  ตริชี่  มธุไร และกันนิยากุมารี อยู่ในแคว้นทมิฬ นาฑู)
5.  กันยากุมารี - คอตตายัม - อลัปปูซา (หรือ อเลปปี้)
6.  อลัปปูซา - โคชิน
(อลัปปูซา และโคชิน อยู่ในแคว้นเกรละ (Kerala))
7.  โคชิน - กัวลาลัมเปอร์ - เชียงใหม่

จบเฉพาะเส้นทางอินเดียใต้ของ 3 สว.  แต่รายละเอียดระหว่างทาง ลุงสำทับมาว่า "หาเอาเองนะ อยากไปนัก"  หาเอาเองรึนี่ กับคนที่หลงทิศอยู่เป็นประจำ ไปห้าง เดินในห้างไม่รู้กี่ครั้ง ก็เลี้ยวผิดประจำ  ออกมานอกห้าง ถ้าออกก่อนหารถยังไม่เจอเลย ..ไปถ่ายเอกสาร พอเสร็จก็เดินไปเลย เมย์ถามว่าป้าใหญ่จะไปไหน มันคนละทางกัน ถ้าเดินนำหน้า หันกลับไปดูคนข้างหลัง  อ้าว !!  ไปไหนกันหมด ต้องเดินย้อนกลับไปใหม่ เขาบอกว่าคิดว่าจะเดินไปดูอะไร  เลยไม่ได้เรียก (คือไม่ได้หลง แต่เดินไปเรื่อยโดยไม่คิดก่อน...ขนาดยังไม่เป็นโรคความจำเสื่อมนะนี่)  ดูแผนที่ - ใช้ google map ก็ไม่เป็น ทุกคนรู้กิติศัพท์การหลงทิศ เลี้ยวผิดของป้าใหญ่ .... 

ไปคราวนี้ กลายเป็นเรื่องปวดหัวของป้าไปเสียนี่  ข้อมูลอินเดียไม่ใช่เปะ ๆ เหมือนหลาย ๆ ประเทศ   ที่เที่ยวหมดห่วงไป ..เอาตามหนังสือนั่นแหละ ที่พักก็ไม่ได้จองล่วงหน้า แต่ก่อนเคยแต่ Walk in ไม่รู้ว่าโรงแรมไหน ใกล้ที่เที่ยว   จะได้ไม่ต้องเดินไกล  ก็เลยได้แต่หา ๆ ไว้ กะว่าเดี๋ยวไป Walk in เอาก็แล้วกัน   ส่วนรถ .. ทั้งเส้นทาง เลขรถ เวลาเดินทาง ไปแต่ละเมือง  ข้อมูลก็หายาก ได้ข้อมูลจาก blog ฝรั่ง แต่คนที่ไม่รู้ทิศ นึกภาพอย่างไรก็ไม่ออก  แต่ก็คิดว่าพอรู้เรื่อง ตอนนั้นก็คิดว่าข้อมูลที่หาไว้ก็เกือบครบถ้วนแล้ว ได้กระดาษปรินท์เอาท์เป็นปึกสำหรับแบกไปเที่ยวด้วย  

บล๊อคหน้าเริ่มเดินทางแล้วค่ะ  แล้วค่อยมาตามดูว่าทุกอย่างราบรื่นเป็นไปตามแผนหรือเปล่า




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2558
0 comments
Last Update : 13 เมษายน 2559 16:36:49 น.
Counter : 2217 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.