บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
กันยายน 2558
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 กันยายน 2558
 
All Blogs
 

สุดท้าย จากเปรู ผ่านแอลเอ ถึงไทย



สว. ทั้งสองสิ้นสุดการเดินทางในทวีปอเมริกาใต้ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ...คงจำกันได้  ว่าการเดินทางครั้งนี้ เริ่มที่บราซิล ต่อไปคือ อาร์เจนตินา  ตามด้วยชิลี  โบลีเวีย แล้วก็เปรู รวม 5 ประเทศ เดือนครึ่งค่ะ ยาวนานที่สุดที่เคยแบกเป้ไปกัน (นานกว่านี้ คงเดี่ยงแน่ ๆ เลย) ไปที่อื่นนานสุดก็ 1 เดือนเท่านั้น 

การเดินไปต่างประเทศที่สื่อสารกันไม่ค่อยได้ อย่างบราซิลใช้ภาษาโปรตุเกส   ส่วนอีก 4 ประเทศ ใช้ภาษาสเปน ก็มีปัญหาค่ะ .. แต่ก็พยายามหาข้อมูลไปให้มากที่สุด มากจริง ๆ เป็นปึก ๆ เลย ....  ถ้ามีปัญหาระหว่างทางก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป  คือการเดินทางของ สว. ไม่ได้มี smart phone เป็นผู้ช่วย  ที่จะหาอะไรในนั้นก็ได้  ตอนนี้ก็ยังไม่มี smart phone เหมือนเดิม)  

ก่อนการเดินทาง ได้ tablet มา เพื่อไว้ติดต่อคนทางบ้าน ก็เพิ่งหัดใช้  ใช้เป็นแต่ line  กับถ่ายรูป (แต่ก็ติด ๆ ขัด ๆ เพราะหลาย ๆ ที่ ต่อ Wifi ไม่ได้)  แล้วใช้ภาษามือ ท่าทาง ภาพช่วย  พร้อมจดคำที่จำเป็นไป (แต่จริง ๆ ดูเหมือนไม่ได้เปิดตำราเลย)  แต่ที่แน่ ๆ คือตัวเลข .... ได้ประโยชน์มากค่ะ เอาไว้เวลาซื้อของประกอบภาษานิ้ว

ปัญหาที่เจอ นอกจากเรื่องการเดินทางที่หลายครั้งฉุกละหุก หลงทางบ้าง ก็มีเรื่องกระเป๋าเดินทางที่ล้อและขาตั้ง หลุดมาทั้งแผง แล้วก็รองเท้าที่แผ่นรองหลุด ต้องคอยปะกาวกันทุกคืนตั้งแต่ที่ชิลี แล้วเอากระเป๋าเดินทางทับไว้ให้ติด  พอพยุงตัวเองมาได้ถึงลิมา มาเจอร้านเย็บรองเท้า ก็รี่ไปเป็นลูกค้าของเขาเลยค่ะ ..... แถวบ้านที่เชียงใหม่ต้องเย็บมือ แต่ที่นั่นเย็บด้วยจักร แป๊บเดียวจริง ๆ  

ที่ลิมารองเท้าผ้าใบถูกกว่าบ้านเรา .. เลยซื้อมา 1 คู่ ราคา S/.110 ประมาณ 1,300 บาท เคยซื้อคู่หนึ่งที่ฮ่องกง ราคาก็ประมาณนี้  ทั้ง 2 คู่ Made in Vietnam  ราคาพอ ๆ กัน  แต่ที่บ้านเรา Made in Vietnam เหมือนกัน ..ไม่รู้ทำไมแพงกว่าตั้งเท่าตัว ... ลุงบอกที่ลิมา ไม่ต้องเสียค่าแอร์ ??!! 

เรามาซื้อของที่ระลึกกันที่เปรู พอสื่อสารกันเรื่องตัวเลขได้ คิดว่าถ้าอยู่สัก 3 เดือน คงได้ภาษาสเปนมาเยอะเลย เลข 0 = cero, 1 - uno, 2 = dos, 3 = tres, 4 = cuato, 5 = cinco, 6 = seis, 7 = siete, 8 = ocho, 9 = nueve, 10 = diez 

คำบางคำที่เห็นบ่อย ๆ คือ SS.HH. = Rest Room,  Boleteria = Ticket Office,  Sala de Espera = Waiting Room,  Saida = Exit,  Punto de Reunion = Meeting Point,  Aa Estacion de Buses = To the Buses  

คำว่า  comprar = ซื้อ,  vender = ขาย และ cuanto = how much  เป็นคำที่ใช้บ่อยมาก พอไปแลกเงิน ก็บอกว่า comprar พอเขาถามกลับมาว่า cuanto ยืนงง .. เขาว่าอะไรนะ cuanto .. มองด้วยสายตาที่เดาได้ว่า เอ็ะ ...  ทำไมไม่บอก พอดีนึกได้ว่าคงถามว่าแลกเท่าไร ก็บอกไปเลย ... ต่อไปไม่มีปัญหาตอนแลกเงิน และคำว่า cuanto = how much นี้ก็ใช้ได้ทุกโอกาส ทั้งถามค่าอาหาร ค่าของที่ระลึก  ค่ารถ ฯลฯ

เรื่อง Rest room ถ้าเป็นบ้านเรามักใช้สัญลักษณ์ ชาย - หญิง แทน  .. ที่ Curitiba - บราซิล มีปัญหาเพราะเขาเขียนแต่คำว่า  "Ele" และ "Ela" แปลว่า "เขา" และ "เธอ" แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าห้องไหนชาย หรือ หญิง ใช้เดา ๆ เอา 



ป้ายห้องน้ำที่ Aguas Calientes - มาชู ปิกชู

ส่วนที่อื่น ๆ นอกจากคำว่า SS.HH. = Rest room  ก็ใช้กันอีกหลายคำ.... เช่น Bano = ห้องน้ำชาย,  ฺBanos = ห้องน้ำหญิง, .... Hombres = ชาย, Mujeres = หญิง,  Varones = ชาย (ตอนแรกคิดว่าเป็นหญิง เพราะคล้ายคำว่า Baronnes) ,  Damas = หญิง



 ที่ลิมา .... ดีที่ป้ายทั้งสองมีรูปด้วย ปกติไม่ค่อยจะมีค่ะ



ถ้าไปลิมาแล้วเห็นผลไม้สีสันแบบนี้ ซื้อกินได้เลย เป็นผลกระบองเพชร ทั้งหอม หวาน กรอบ อร่อย ไม้ละ S/1. ... เห็นมีขายที่ลิมาเท่านั้น และต้องเป็นแถว ๆ Convento de San Francisco  ... หรือไปที่ตลาดขายผลไม้เลยก็ได้ค่ะ

ค่าส่งโปสการด์มาประเทศไทย ค่าเงินโดยประมาณปีที่แล้ว จากชิลี CPL500 = 30 บาท,  โบลีเวีย BOB10.50 = 53 บาท แพงสุดจากเปรู S/. 6 = 72 บาทค่ะ

ถึงเวลาเดินทางไปสนามบิน  ได้แท๊กซี่จากโรงแรม ราคา S/.20 (คือ มีเงิน Soles เหลือแค่นั้น)  กับ U$3 ... จริง ๆ ราคาเขาคือ S/.25  คนขับแท๊กซี่ประจำที่โรงแรมตลอด   คอยบริการคนที่เข้าพัก อัธยาศัยดี ทักทายกันทุกวัน พูดภาษาอังกฤษได้ดี .. เขาบอกว่าถ้า S/.20 คงส่งได้แค่ด้านนอก ต้องเดินต่อเข้าไปสนามบินเอง เพราะเขาต้องเสียเงินเพิ่ม ถ้าเข้าสนามบิน   ก็เลยเพิ่มให้ไป U$3 .....แต่จริง ๆ ถ้าส่งข้างนอก ผ่านประตูเล็กแล้วเดินตรงไป  ก็ประมาณ 150 เมตร เท่านั้น

ถึงแล้วสนามบิน Jorge Chavez ลิมา ประเทศเปรู ประมาณ 2 - 3 ทุ่ม




เครื่อง Delta airlines  จากเปรูไป Los Angeles ออก 1.20 am ... พอใกล้เวลา  .... ก็มีเจ้าหน้าที่ 7 - 8 คน มาตรงประตู ที่จะไป LA   ยกโต๊ะกันมาด้วย 3 โต๊ะ แล้วจัดเรียง ซ้าย -ขวา-กลาง ทุกคนใส่ถุงมือยาง .... 

ผู้โดยสารต่างก็มองกันไปมา เกิดอะไรขึ้น ...ลุงบอกว่า สงสัยจะเช็คกระเป๋าอีกรอบแน่ ๆ ....ผ่านมาตั้งหลายรอบแล้วนะ   แล้วก็จริง ๆ ด้วยค่ะ  พอเรียกขึ้นเครื่อง  ก็ต้องผ่านด่านก่อน ...เปิดกระเป๋า ...ตรวจทุกอย่าง ไม่แน่ใจ รื้อของออกมาอีก...จัดเข้าไปใหม่...เป็นพัลวันกันแถวทางออกนั่นแหละ  (ช่องที่ไปประเทศอื่นไม่เห็นมีตรวจซ้ำ  มีเฉพาะที่ไปอเมริกาเท่านั้น)

พอดี้พอดี เรามีข้าวโพดมาด้วย 2 ฝักใหญ่  คือ ครอบครัว Enriquez ที่ Urubamba ให้มา (หมายถึงโชคดี อุดมสมบูรณ์  และเดินทางโดยปลอดภัย)  อุตส่าห์หอบหิ้วจาก Urubamba ไป Ollantaytambo ไป Aguas Calientes กลับมา Cusco ต่อไป Nasca แล้วก็ลิมาอีก ....จะเอาไป LA แล้วเอากลับบ้านด้วย ใส่เป้ไปตลอด

ลุงบอกขนไปทำไม  ก็เขาอุตส่าห์ให้มา  เราก็อุตส่าห์หอบไป  แต่พอมาถึงตอนนี้  ลุงบอกให้ทิ้งไป กลัวมีปัญหา เดี๋ยวคิดว่ามีของอื่นอีก เกิดกักตัวไว้ แย่เลย จำใจต้องทิ้งลงถังขยะไป  .... และก็ถึงเวลาที่จะจากลิมา - อเมริกาใต้แล้ว ทั้งดีใจและใจหาย  แต่ก็จะกลับบ้านแล้ว 





จากเปรูมา Atlanta ใช้เวลาบิน  6 ชม. ถึง Atlanta เวลา 9.20 am  เวลาที่อเมริกาช้ากว่าเปรู 2 ชม.  ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องอีกทีนี่ เพื่อไป Los Angeles ค่ะ





ท้องฟ้ายามเช้าเหนือ Atlanta สวยมาก ๆ 



Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport -  คราวนี้มาผ่านตรวจคนเข้าเมืองที่นี่่เลย ผู้โดยสารไม่มากเท่า LA ... เจ้าหน้าที่ก็ถามเหมือนเดิมมาจากไหน .. มาทำอะไรที่นี่ .... ก็บอกไปว่า ขอพักที่นี่ 1 คืนเถอะ พรุ่งนี้ก็จะไปต่อแล้ว .. เขาบอกกลับมาว่าวีซ่าจะหมดอายุแล้วนะ  แล้วก็ประทับตราผ่าน ตม. อนุญาติให้อยู่ใน USA ได้ 6 เดือน ....จริง ๆ น่าจะอยู่ต่อเหมือนกันนะ    จากนั้นก็ต่อ Skytrain ไป Concourse ของเดลต้าค่ะ
















 จำไม่ได้แล้วว่า Concourse อะไร  มาถึงก็เห็นจอภาพแสดงเที่ยวบินของ Delta เยอะมาก  ... แสดงที่ละ 10 จอเลย มีแต่ Delta ทั้งนั้น



จากที่มาถึง 9.20 น. ผ่าน ตม. ต่อเครื่องในประเทศไป Los Angeles เวลา 10.45 น. (1 ชม ครึึ่ง)   ถ้าเป็นที่ LA ไม่ทันแน่ ๆ เลย  

เครื่องในประเทศน่าจะเป็น Low Cost เพราะเที่ยวบินจาก LA มา Atlanta ตอนขามาก็ต้องซื้ออาหารเอง  หลังจากบินไปได้สักพัก พนักงานหญิงบนเครื่อง 2 คน  อายุน่าจะ 60 + แน่ ๆ เลย 2 คน ท่าทางเหมือนคุณยายใจดี  ค่อย  ๆ เข็นรถเข็นมา แล้วก็พูดนิ่ม ๆ ว่า Food for purchase  ๆ   ก็มีคนซื้อบ้าง จนเสร็จก็กลับไป ก็เหมือน low cost บ้านเราแหละค่ะ 

แต่ที่ไม่เหมือนก็คือ  สักพักคุณยายก็เข็นรถเข็นมาใหม่ ถามอะไรมาเรื่อย ๆ  แล้วก็มาถามคนที่นั่งด้านใน  ตอนนั้นกำลังงัวเงีย หลับ ๆ ตื่น ๆ ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน ... แล้วก็ส่งน้ำกับขนมให้เขา พอเห็นเราลืมตาขึ้นมาดู   ก็ถามว่าจะเอาอะไรไหม ก็บอกว่า "ไม่ค่ะ ..ขอบคุณ" ...คุณยายถามอีกว่า "Are you sure, you don't want anything?" ก็สงสัยตะหงิดเลยถามว่า "ต้องซื้อใช่ไหม" คุณยายใจดีตอบกลับมาว่า "It's free" ... งง ๆ  แถมบอกว่ามี 3 อย่างให้เลือก ถั่ว คุกกี๊ ขนมอะไรสักอย่าง.. แล้วเอาน้ำอะไร มีน้ำนี้ นี้ นี้ 

สรุปแล้วเที่ยวบินวันนั้น คุณยายเดินแจกน้ำกับขนมให้ผู้โดยสารหลายรอบ เราขอไป 3 รอบ จนอิ่ม กินไม่ไหวแล้ว  ...ดีกว่าบริการแบบไม่ low cost อีก  ไม่รู้เป็นบริการปกติของสายการบิน Delta หรือเปล่า แต่ตอนที่ออกจาก LA ไป Atlanta ขาไป พนักงานขายอาหารเสร็จ ก็ขายสินค้า duty free ต่อเลย ไม่มีอะไรอีก... ขอบคุณคุณยายทั้งสองจริง ๆ .. น่ารักมาก ๆ 

จาก Atlanta - LA ใช้เวลา 4 ชม. พอมาถึงก็สบาย ไม่ต้องต่อแถวยาวผ่าน ตม. อีก   คราวนี้รู้แล้วว่าต้องไปรอรถที่ไหน สายอะไร ลงที่ไหน .. ก็พักใกล้สนามบินไว้ก่อนที่ Inglewood Hotel ค่ะ ดูเหมือนคืนละ U$55 รวมอาหารเช้า คือ โดนัท ซีเรียล นม น้ำส้ม 



ด้วยเวลาน้อยนิด ยังอุตส่าห์ออกไปสำรวจ LA อีก ..ไป Grand central market อีกครั้ง  ตอนมา LA ครั้งก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาแวะตอนกลางวัน ดูคึกคัก คราวนี้คงเย็นไป ...ร้านปิดไปหลายร้านแล้ว เงียบเชียว  







Grand Central Market เปิดมาตั้งแต่ปี 1917 และยังดำเนินการอยู่จนปัจจุบัน ไปหาซื้อของกิน  จากนั้นก็ต่อไปที่สถานียูเนียน ( Los Angeles Union Staion




Los Angeles Union Staion (LAUS)  เป็นสถานีรถไฟหลักใน LA, California มีอาคารผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาตะวันตก  เปิดทำการเดือนพฤษภาคม ปี 1939 เพื่อแทนที่ La Grande Station และ Central Station  ....โครงสร้างของอาคารเป็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco, Mission Revival และ Streamline Moderne 






อาคารกลางของผู้โดยสาร มีพื้นปูด้วยกระเบื้อง ฝังด้วยลายเส้นหินอ่อน .. ลวดลายนี้เป็นลายผ้าห่มของอินเดียนเผ่านาวาโจ (Navajo blanket) .. ส่วนเพดานที่ดูเหมือนทำจากไม้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเหล็กกล้า

ไม่ไกลจาก Union Station เป็น El Pueblo de Los Angesles Historical Monument 




หรือรู้จักกันอีกชื่อว่า Los Angeles Plaza Historic District  เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์กลางพลาซ่าเก่า  ซึ่งอยู่ในเขตที่เก่าแก่ที่สุดของลอสแอนเจลิส  ที่เคยเป็นศูนย์กลางของเมือง ภายใต้การครอบครองของชาวสเปน (ปี 1781-1821)  ชาวเม็กซิกัน (1821-1847)  และสหรัฐอเมริกา (หลังปี 1847 เป็นต้นมา) 








พื้นที่ 44-เอเคอร์นี้ ได้รับการรับรองให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของรัฐ ในปี 1953   และไดัรับการจัดให้อยู่ในทะเบียนสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติ ในปี 1972 .




รุ่งขึ้น..ขึ้นรถประจำทางหน้าที่พัก แล้วไปต่อ free shuttle เข้าสนามบิน



ถึง Terminal B - Tom Bradley Internation Terminal - LAX




 ตอนเช็คอิน ... เจ้าหน้าที่ถามว่าที่นั่งนี้เป็นที่ที่เลือกเอาไว้ใช่ไหม  ก็ไม่ได้สงสัยอะไร  เพราะเลือกที่นั่ง 2 ที่ติดกันริมหน้าต่าง ที่นั่งบนเครื่องเป็นแบบ 2-4-2 

สักพักชักสงสัย มาดูบัตรผ่านขึ้นเครื่อง ได้ที่นั่งคนละแถวตรงกลางที่เป็นแถว 4 คน  แต่ติดทางเดิน ก็กลับไปถามพนักงาน เขาบอกว่ามันลงรายการมาเป็นอย่างนี้  ก็บอกเขาไปว่า เราซื้อตั๋วล่วงหน้าตั้ง 4 เดือน สำรองที่นั่งไว้แล้วเป็นแถวริม  มาเป็นครอบครัว จะไปเลือกที่นั่งคนละแถวทำไม  เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้  บอกว่าคงต้องไปขอเปลี่ยนที่นั่งกับคนอื่นก็แล้วกัน  (China Eastern ไม่มีเช็คอินออนไลน์ .. คิดว่าคนที่มาก่อนคงขอที่นั่่งไป)

ความจริงที่นั่งติดทางเดินก็ยังใช้ได้ แต่พอดีเที่ยวบินจาก LA ไป เซี่ยงไฮ้ เที่ยวนี้ มีเด็กเยอะมาก ๆ ทั้งเด็กเล็กเด็กโต คงเป็นครอบครัวชาวจีนกลับไปเยี่ยมบ้านกัน เพราะได้ยินพูดอังกฤษบ้างจีนบ้าง สลับกัน ...แถวที่นั่งมีเด็กหญิง เขาก็เรียบร้อยดี ...แถวลุงเป็นเด็กชาย ได้ยินเสียงร้องงอแงตลอด เดี๋ยวแม่เดี๋ยวป้าเดี๋ยวลุง เดินเข้าออกผลัดกันมานั่งเป็นเพื่อน ตลอด 13 ชม ... พ่อหนีไปนั่งที่อื่นแล้ว คนที่โทรมที่สุดคือลุง คิดว่าจะได้หลับ เพราะเวลาเปลี่ยนหลายตลบ  กลับไม่ได้หลับเลย คนข้าง ๆ กระทุ้งบ้าง สะกิดเข้าออกตลอดเวลา

อุตส่าห์ชม China Eastern ขาไป ขากลับขอถอนคำพูดนิด ๆ คือพนักงานก็ดูแลผู้โดยสารดี  แต่ผู้โดยสารลำนั้น  ..ทั้งทักทาย คุยกัน เด็กร้อง เดินไปเดินมา วุ่นวายทั้งลำ




ภายในอาคารผู้โดยสารขาออก มี LAX Beach ให้เด็กไปเล่น แต่ สว. ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย







 13 ชั่วโมงผ่านไปด้วยความโทรมสุดขีด ถึงเซี่ยงไฮ้ 5 โมงครึ่ง รอถึง 3 ทุ่ม ขึ้นเครื่องกลับมาสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงเวลาประมาณตี 2 ..ถึงบ้านแล้ว .... สนามบินบ้านเราก็สวยมาก ๆ ด้วย







 หลังจากเช็คอิน (อีกครั้ง) เพื่อต่อเครื่องกลับเชียงใหม่  8 โมงเช้าโดยบางกอกแอร์เวย์ ..พอผ่านเข้าไปอาคาร เห็นห้องน้ำสีสวยสดใส มัน Happy เหมือนที่เขียนไว้หน้าห้องน้ำเลยค่ะ







รอเครื่องออกที่ เลานจ์ของบางกอกแอร์เวย์ ดูอบอุ่น สบาย และอิ่มท้อง







สนามบินสุวรรณภูมิ และทิวทัศน์เหนือสนามบินค่ะ






ถึงเชียงใหม่สลบไปหลายวัน ...... บล๊อคสุดท้ายของการเดินทางในทวีปอเมริกาใต้ค่ะ  

ขอบคุณทุก ๆ คน ที่เข้ามาเยี่ยมเยือน .... ขอบคุณทุก ๆ คน ที่ผ่านมา - ผ่านไป ที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นไปโดยเรียบร้อย โดยเฉพาะลุงที่วางแผนเส้นทางเที่ยวทั้งหมด และพาไปทุก ๆ ที่ โดยเกือบไม่หลงเลย เหมือนมีแผนที่ประจำตัวอยู่ในหัว ทั้งยังเป็นสปอนเซอร์ให้ทุกอย่าง ทุกอย่างจริง ๆ แม้แต่งบซื้อของฝากใคร ๆ ต่อใคร ก็ลุงทั้งนั้น 

ขอบคุณหนังสือทุกเล่ม ... เว็บทุกเว็บ ภาพทุกภาพ ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นข้อมูลทั้งก่อนไป และขณะที่บันทึกความทรงจำครั้งนี้  .... อาจสับสนบ้าง ผิดบ้าง คงมีมั่วบ้าง .. ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ




 

Create Date : 09 กันยายน 2558
1 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2559 10:12:23 น.
Counter : 2821 Pageviews.

 

เป็นบล๊อกที่่น่าอ่าน น่าติดตาม
ได้ความรู้มากๆ สำหรับคนที่ชอบการเดินทางไปเที่ยวด้วยตนเองนะ


 

โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ 13 กันยายน 2558 8:41:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.