แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้านแบบ Buffet

<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
11 กรกฏาคม 2553
 

เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!

เฮอะๆ!! โชคดีที่ผมยังไม่ ไฮโซพอ ..มิเช่นนั้นคงต้องไปซื้อกาแฟ กิโลละ 4 หมื่นกว่าบาท(ของอินโด) มาลิ้มลองเป็นแน่แท้ --จริงๆ ผมเคยดูหนังเรื่องนึงที่มัน ล้อเลียนคนกินกาแฟแพง มันบอก "แร๊คคูณ Shit!!" แต่ตอนนี้มารู้ข้อเท็จจริงว่า กาแฟที่แพงที่สุดในโลก มันคือ "ขี้ชะมด...แหวะ!! จะอวกครับพี่" ..(ไม่ใช่แค่รวยอย่างเดียวนะ จึงจะสามารถกินได้ (ต้องโง่ด้วย ..หุ หุ)!!)

มาย้อนดู ประวัติความเป็นมาของกาแฟ ถือกำเนิดในศตวรรษที่ 6 ในดินแดนเอทิโอเปีย ถือเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้ "เราใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น" เพราะสมันนั้น นักบวชกิน ทำให้สามารถสวดมนต์ได้ทนนาน...หุ หุ (สมัยนั้นวัดความสำเร็จที่ปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ ..หุ หุ งง เลย)

ย้อนใกล้เข้ามาก่อนที่จะมี Starbucks Revolution (มีด้วยรึฟะ Starbucks Revolution เอาเป็นว่ามีละกัน!!)..ก่อนหน้านั้น อเมริกามองกาแฟเป็นของถูก หากินได้จาก ขวด Nescafe เท่านั้น "เครื่องดื่มที่คนขับรถสิบล้อ กินแก้ง่วง ราคาต่ำ" ..สมัยนั้นตาม Diner ต่างๆจะใช้กาแฟเป็น Lost Leader คือ"ถูกแก้วละไม่กี่ เซ็นต์ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้ออย่างอื่นด้วย" --ในที่สุด Starbucks Revolution ก็ถือกำเนิดขึ้น

โดยนาย Howard Schultz พนักงานร้าน Starbucks(เดิมเป็นร้านขายแค่เมล็ดกาแฟคุณภาพ เป็น Niche Market ไม่ได้ขายเครื่องดื่มเหมือนอย่างตอนนี้) คือนาย Schultz เดินทางไป Italy แล้วไปเห็นวัฒนธรรมการกิน Espresso คือเป็น Shotๆ แรงๆ คือ เป็นกาแฟคุณภาพ ไม่ใช่อย่างน้ำล้างเท้า ที่ชาวอเมริกากินกันอยู่ในเวลานั้น --"และแล้ว!! ร้านกาแฟที่เลียนแบบอิตาลีก็เกิดขึ้นในชื่อ เอลจินเจอเนล!!(บ้าบอ..คือชื่อมัน Italy มาก) แต่แปลก .."มันสำเร็จอย่างน่าทึ่ง"

จากนั้นไม่นาน นาย Howard Schultz ก็ระดมทุน ผ่านด่านอุปสรรคต่างๆ จนสามารถซื้อกิจการร้านเมล็ดกาแฟที่ชื่อ Starbucks แล้วก็เปลี่ยนจาก "ร้านขายเมล็ดกาแฟ" มาเป็น "ร้านขายเครื่องดื่ม" ที่ฮิตติดตลาด อย่างในปัจจุบัน

หลายคนถามว่า Starbucks เป็น Innovation Product รึเปล่า!! ..เปล่าเลย!! มันคือ Me too Product ที่ผันตัวมาเป็น Value Added โดยการ "ใส่ราคาเข้าไป 100 เท่า!!ของกาแฟสิบล้อ" ---ถึงจุดนี้หลายคน งง ต่อว่า แล้ว Value โดดเด่นอะไรที่สร้างให้ Starbucks กลายเป็นร้านกาแฟที่โด่งดังอย่างทุกวันนี้

"ราคาแพง" ...อย่างเดียวเลย!!-- บางคนนึกว่า Starbucks โด่งดังเพราะคุณภาพ แต่มันไม่ใช่เลย (ช่วงผมอยู่ Australia ผมถามคน Aussie ว่าทำไมที่นี่ Starbucks ไม่รุ่งเลย --เขาบอก"Duck Shit!!" ..คือ "ห่วยชิบหาย" หลังจากนั้นไม่นานผมก็เริ่มรู้จักกับ Gloria Jean's Coffee ซึ่งเป็น Brand ร้านกาแฟอันดับหนึ่งใน Australia "ร้านกาแฟที่จ้าง Barista ระดับโลกไว้มากจริงๆ")

ความบ้าในคุณภาพ กาแฟของคน Australia ทำให้ทุกๆ หนึ่งตารางกิโลเมตรใน Sydney ต้องมีไม่ต่ำกว่า 5 ร้านกาแฟ (คุณลองไปนับดู ว่าร้านกาแฟใน Sydney มันเยอะขนาดไหน "เอาเป็นว่า 7-11 บ้านเราอาย คุณคิดดูละกัน!!") ..ดังนั้น ถ้าคุณสามารถเปิดร้านกาแฟแล้วอยู่รอดได้ใน Australia คุณจะต้อง เจ๋ง จริงๆ

ช่วงนึงผมบ้ากาแฟ จนไปเรียนเป็น Barista และก็รับเอา Brand "LAVAZZA" เข้่ามาขายในร้านอาหารของผม (โอเค..กลับมาที่เมืองไทย) พอผมมาเมืองไทย ผมสั่ง Espresso มันใส่นม น้ำตาล นมข้น เสร็จ "Espresso บ้านป้า คุณหรือใส่นม !!!" แต่มันก็เกิดจริงๆแล้วที่เมืองไทย ..ฮ่า ฮ่า (คิดในแง่ดีคือเรา Think Globally,Act Locally น่ะ เท่ห์โคตร!!)

"คอกาแฟจริงเขาไม่กินกาแฟเย็น" แต่อยู่เมืองไทย ผมแทบไม่กินกาแฟร้อนเลย "คุณรู้ไหมทำไม" -- กาแฟนี่ต้องตีฟองโดยใช้ Stream --เขาให้ต้องมี เทอร์โมมิเตอร์มาวัด คือความร้อนห้ามเกิน 60 องศา (แต่ขนาด Starbucks บ้านเรามันตีฟองที 100 กว่าองศา "มันจะเอาไปต้มมาม่าหรือ !!" ) สรุปทางเลือกของคอกาแฟ ในบ้านเราจึงต้องปิดประตูแล้วแล้วสั่งไปว่า "เอากาแฟเย็นแก้วนึง!!" เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ไอ้ Espresso , Latte , Americano ที่คุณสั่งในเมืองไทย "มันจะมีหน้าเป็นอย่างที่ ทั่วโลกเขาเข้าใจหรือเปล่า"

(ทุกวันนี้ผมก็ยังคงกิน Starbucks เพราะยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสุด ตอนนี้ในไทย..จำยอมละกัน!!) --- ("แต่!!")

คราวหน้าอย่าลืมนะครับ สั่งว่า "กาแฟเย็นแก้วนึง" ....ฮ่า ฮ่า
เขียนโดย pawawit ที่ //pawawit.blogspot.com


Create Date : 11 กรกฎาคม 2553
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 16:28:35 น. 13 comments
Counter : 616 Pageviews.  
 
 
 
 
ใส่ราคาเข้าไป 100 เท่า!!ของกาแฟสิบล้อ


อ่านแล้ว รู้สึก จุก ๆ ค่ะ แต่ฮา ๆ
 
 

โดย: โสดในซอย วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:50:53 น.  

 
 
 
"เอากาแฟเย็นแก้วนึง" แล้วแต่น้อง barista ค่ะ ฮาฮา ได้ความรู้ดี ขอบคุณค่ะ
 
 

โดย: นภัทรษร วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:44:51 น.  

 
 
 
อยู่เมืองไทยเข้า Starbuck แค่ครั้งเดียว
เพราะแพงเหลือเกิน
แต่ตอนอยู่'เมกา เป็นลูกค้าประจำ
ราคาพอๆ กับกาแฟใน Dunkin Donut
 
 

โดย: สมาชิกใหม่ IP: 192.168.50.132, 124.120.58.119 วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:50:07 น.  

 
 
 
ไม่ใช่ ชะมด ครับ แต่เป็น อีเห็น ชนิดหนึ่งครับ

ที่ว่าแพงเพราะผลิตได้แค่เพียง 230 กก. ต่อปี

เพราะเอ็นไซด์ในกระเพาะ อีเห็น ทำปฎิกริยากับเมล็ดกาแฟ พอถ่ายออกมาเค้าก็ไปเก็บแล้วเอาไปคั่วครับ

ที่ยากก็ตรงไปเก็บล่ะครับ
 
 

โดย: soda_cafe IP: 118.173.179.40 วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:54:44 น.  

 
 
 
ของไทยก็ใช่ย่อย เมื่อก่อนมีร้านโอเลี้ยงทุกมุมถนน ทุกซอย แต่โดนกรมสรรพากรทำลายจนเรียบ เพราะเล่นไปนั่งนับแก้วเก็บภาษีกันเลย
แต่เบื้องหลังคือ ร้านกาแฟสมัยก่อน 14 ตค เป็นที่ชุนนุมของชาวบ้านในกทม และต่างจังหวัด ดูโทรทัศน์ กินกาแฟคุยกัน ทางการกลัวเป็นที่มั่วสุมทางการเมืองเลยทำลายมันซะ ให้อยู่บ้านใครบ้านมัน
 
 

โดย: pp IP: 58.9.112.106 วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:31:50 น.  

 
 
 
ชอบกินกาแฟเหมือนกันครับ แต่ไม่ติด brand ผมมองว่าคนไทยที่รับวัฒนธรรมกากินกาแฟมาส่วนหนึ่งอาจจะไม่ได้หลงไหลในกาแฟ (เห็นด้วยว่ากาแฟ Starbuck ไม่ได้ดีเลิศตามราคา) แต่ส่วนมากใช้ร้านกาแฟเป็นที่พัก ที่ทำงาน ที่นัดพบหรือสังสรรค์ มันดูเป็นสถานที่สบายๆและสามารถใช้ได้หลายสถานการณ์ ต่างจากร้านเหล้าหรือร้านอาหาร

เรื่องกาแฟเมืองไทยมีกาแฟดอยช้างที่มีคุณภาพดี ไม่แน่ใจคุณเคยลองหรือยัง นอกจากคุณภาพดี ยังส่งเสริมเศรษฐกิจกาแฟดอยช้างสามารถสร้างงานและสร้างชื่อให้ประเทศไทยได้ด้วย ไอ้ขี้ชะมดที่คุณว่าผมก็มีโอกาสได้ลองแล้วเป็นขี้ชะมดจากดอยช้าง มันมีรสชาติและความเข้มที่ต่างไป ซึ่งสมราคามันแต่ที่แพงคงเพราะว่าเก็บได้ยากและต้องไปคุ้ยหาตามป่าเขา ปฏิกิรยาการย่อยทำให้เกิดการบ่มของกาแฟนั้นคือมูลค่าเพิ่ม แต่ถ้าคิดว่าเป็นขี้ก็ยากที่จะเปิดใจรับ อย่าว่าแต่ราคาเลยขึ้นว่าขี้คนส่วนมากก็เบนหน้าหนี แต่ถ้าอยู่ในแก้วคุณก็ไม่มีทางแยกได้หรอก

ประเด็นความโง่ของคนที่กินผมว่าไม่ใช่เพื่อนผมที่รวยแต่งกก็ยังหามากินกันเพราะรสชาติของมัน ลองไปหามาชิมสักแก้วนะครับแล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด
 
 

โดย: coffee4you IP: 110.49.168.203 วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:00:33 น.  

 
 
 
ผมสงสัยเหมือนกันว่า
ใครที่คิดเป็นคนแรก
ที่พิเรนนำเมล็ดกาแฟในก้อนอุจฯ
ของชะมด นำมาคั่วกิน
หมอนี่ต้องไม่เต็มแน่ๆ
 
 

โดย: mme IP: 58.9.108.240 วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:28:18 น.  

 
 
 

ผมว่า กาแฟ วาวี .. ก็ใช้ได้ นะครับ ..
 
 

โดย: หมอหมู วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:53:32 น.  

 
 
 
อ่านสนุกและได้สาระดี
ขอบคุณค่ะ
จะคอยติดตามต่อไป :)
 
 

โดย: mild.mind IP: 61.7.218.6 วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:28:34 น.  

 
 
 
กินกาแฟบันลือโลกนี้ที่เมืองไทย โตเกียว วอชิงตันดีซี ลอนดอน ฮ่องกง หรือกัวลาลัมเปอร์ ให้รสชาติเหมือนกันเลยครับ คือมันไม่อร่อยถูกปากเลย สู้กาแฟสดบ้านเราไม่ได้เลย จะเติมนมเติมไซรัปอย่างไรก็งั้นๆ แต่ราคาแพงมากๆ ที่เห็นว่าสัมผัสได้คือหน่าใหญ่ขึ้น โก้มาก เข้าถึงโคตรกาแฟ แต่บอกตัวเองว่าโง่ชิหาย มากินมันทำไมวะ ผมว่าที่บ้านเรานี่แพงกว่าในอเมริกาอีกนะ เทียบเป็นเงินไทยราคา เฉลี่ย 100 - 200 บาท เท่ากัน แต่อย่าลืมว่าค่าครองชีพต่างกันลิบ เมืองไทยเงินเดือน 10,000 บาท แต่ที่อเมริกาเงินเดือน 100,000 บาท ผมว่าเรากินแพงหรือโดนขูดกว่าเมืองนอก 10 เท่า
 
 

โดย: เพลงดาบวันดาวดับ IP: 125.26.70.170 วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:14:00 น.  

 
 
 
วาวี คุ้มดีครับแก้วเดียวอยู่เลยกินไป3วัน
 
 

โดย: jj IP: 125.25.234.121 วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:21:22 น.  

 
 
 
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$




.....................test..............................................




WWWWWWWWWWWWWWWWWWWW8554
 
 

โดย: light@RiversideResort IP: 118.173.9.35 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:45:06 น.  

 
 
 
อ่านแล้วต้องอมยิ้ม เพราะเป็นคอกาแฟเหมือนกัน ขอบคุณ
 
 

โดย: TAMJAI IP: 58.8.126.244 วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:25:09 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pawawit
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




เขียน Blog เกี่ยวกับการลงทุน อยู่ที่
http://pawawit.blogspot.com ก็ใครจะคุยกันก็เข้าไป ดูที่ Blog ของผมได้ มีทั้ง Link ของ Facebook / Twitter หนังสือแกะรอยหยักสมอง (สั่งที่นี่ครับ) หนังสือ(ของผม)แนะนำครับ
[Add pawawit's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com