แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้านแบบ Buffet

<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 กรกฏาคม 2553
 

คนจน ยิ่งจน

ผมว่า ประเด็นคนจน ยิ่งจน เป็นเรื่องของความจริงที่เกิดในประเทศไทย เพราะหลักการสำคัญของการสร้างความั่งคั่ง จริงๆแล้ว คือ ความรู้ --ความรู้ ที่ว่า คือ คุณต้องเข้าใจท่าแท้ ของ ทุนนิยม

"ทุนนิยม" คือ ระบบที่สร้างจากทุนเป็นที่ตั้ง เป็นระบบที่สร้างให้คนรวยยิ่งรวย (เพราะทุกอย่าง ทุกกิจการที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ ต้องมีพื้นฐานจากทุนทั้งสิ้น) ส่วนคนจน ยิ่งจน เพราะถ้าไม่มีทุน ไม่ว่าคุณจะมี Idea ขนาดไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้หากขาดทุน -- ทำให้ช่วงต้นของสังคมไทย เกาะติดอยู่กับตระกูลใหญ่ และครอบครัวที่มั่งคั่ง

"ความเสี่ยง" คือ อีกประเด็นที่เป็นหัวใจของทุนนิยมอีกตัวที่ ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ -- ระบบทุนนิยมมีหลักว่า Hish Risk,Hish Return คือ ความเสี่ยงสูงโอกาสได้ก็สูง แต่จุดนี้ขัดกับความรู้สึกของมนุษย์ที่ ไม่ชอบเสี่ยง ดังนั้น ไม่แปลกที่จะมีคนรวยน้อย แต่คนจนเยอะ

"ความเสี่ยงที่จำกัด" ข้อนี้เป็นหลักการที่ เศรษฐีที่สร้างตัวจากศูนย์เข้าใจ -- แต่ลูกหลานตระกูลใหญ่ๆ ไม่เข้าใจ -- ข้อนี้ผมมองว่า เป็นหลักการมองโอกาส และการสร้างให้ตัวเองเข้าถึงโอกาสนั้น ตัวอย่างของคนที่ทำได้ดี เช่น คุณ เจริญ ที่สร้างตัวจากไม่มีอะไร จุดนี้เองคือ ความเสี่ยงที่จำกัด (เพราะเริ่มจากไม่มีอะไร จึงไม่กลัวที่จะไม่มีอะไร)

จุดนี้เองทำให้เปิดโอกาสของคุณเจริญ กล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า ซึ่ง จุดเด่นนี้ล้วนมีในตัวของอีกหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น คุณ ตัน(โออิชิ), คุณ ทักษิณ , คุณ ทองมา(พฤกษา)

"จังหวะ และโอกาส" จุดนี้เป็นจุดสำคัญมากอีกเช่นกัน คือ โอกาสของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน เช่น ในสมัยของ Internet Boom คนที่มีโอกาสมาก คือ คนที่เรียน Computer ในมหาลัย Stanford เพราะตั้งอยู่ในบริเวณ Silicon Valley

หลายต่อหลายคน ไม่ว่า จะเป็นอาจารย์ อย่าง John Chamber ที่กลายเป็น billionaire , Sergey Brin - Larry Page แห่ง Google หรือ แม้แต่ Packard แม้แต่ Bill Gates หรือ Steve job ก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับโอกาสของยุคทอง Computer

-- ถ้าให้มองไปในอนาคต ผมกำลังมองว่ายุคต่อไป น่าจะเป็น Clean Energy แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า Mainstream ของยุค จะเกิดจากอะไร เพราะถ้าดูให้ดี Clean Energy มาได้จาก วิทยาการหลายแขนงมาก ไม่ว่าจะเป็น Hydrogen , Hybrid หรือ พลังงานทดแทนอย่าง Nuclear ในระยะสั้น

-- สิ่งที่ผมจะพูดก็คือ คุณไม่รู้หรอกว่าอะไรจะมาในอีก 20 ปี ข้างหน้าที่มาแทนน้ำมันและถ่านหิน แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือ การสร้างตัวเองให้ กลายเป็นจุดเชื่อม หรือ เป็นสะพานไปสู่ อุตสาหกรรมใหม่

"สะพาน" ในยุค .Dotcom Boom สะพาน ก็คือ Venture Capital เพราะเป็นเจ้าของเงินทุนที่ Fund เทคโนใหม่ๆ และถ้าให้มองไปข้างหน้า สะพานที่ว่า หรือ แหล่งเงินทุน ก็คงเป็น "สะพาน" เหมือนเดิม แต่ข้อจำกัดของการเป็นสะพาน คือ คุณต้องมีทุน ดังนั้น ถ้าให้มอง ผมฟันธงเลยว่า ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น คนรวยก็จะรวยขึ้น ยกเว้นแต่ในบางประเทศที่รัฐบาล เก่งโคตร คือ เอาเงินของประชาชนมารวมกัน และบริหาร ให้เข้าถึงโอกาสใหญ่ๆได้

"คนเล็ก รวมกันเป็น คนใหญ่" คือ การที่จนทั่วไป เป็นส่วนหนึ่งในกองทุนใหญ่ๆ อย่าง Hedge Fund ทำให้สร้างอำนาจในการลงทุนที่เข้าถึงโอกาสที่ใหญ่กว่า และผลตอบแทนมากกว่า (แต่นั่นรวมถึง ความเสี่ยงที่สูงกว่า)

"คนธรรมดา อย่างคุณและผม" ต้องเข้าใจในวิธีการของการบริหาร การเงินส่วนตัว ผมหมายถึง การเข้าใจในการสร้างให้เงินทำงานด้วยตัวเอง (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย)

ที่พูดมายืดยาว ผมยังคงเชื่อในโอกาสของการบริหาร Port การเงินส่วนตัว ที่เราต้องมีความเข้าใจ เพราะปัญหาของคนส่วนใหญ่ คือ ไม่เข้าใจในการสร้างให้เงินทำงาน ทำให้แทบจะไม่มีโอกาสรวยได้เลย... ตลกจริงๆ

หากรู้จักแค่หาเงิน ข้อจำกัดคือ เวลาที่คุณจะสามารถหาเงิน ว่านานแค่ไหน และเงินที่คุณเก็บได้จริงๆมีเท่าไหร่ (น้อยมาก) และนั้นคือ จุดอ่อนของ ความไม่เข้าใจ "ระบบทุนนิยม" นั่นเอง
เขียนโดย pawawit ที่ //pawawit.blogspot.com


Create Date : 02 กรกฎาคม 2553
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 20:04:38 น. 1 comments
Counter : 384 Pageviews.  
 
 
 
 
แล้วการศึกษาละมันสำคัญที่สุดไม่ใช่เหรอ ทำไหมรัฐบาลถึงไม่ให้การศึกษากับพวกเขาอย่างเต็มที่ มันต้องเท่าเทียบกันก่อนไม่ใช่เหรอ และมันน่าจะเต็มที่ไม่ใช่จำกัดไว้แต่ส่วนกลาง คนจนเลยไม่รู้จะบริหารยังไง แทนที่เข้าจะมีอาชีพดีกว่านี้ มากกว่าการทำนา หรือ ทำเกตกร แน่นอนครับคนรวยย่อมมีโอกาสมากกว่าคนจน
 
 

โดย: 55555555555 IP: 58.9.235.102 วันที่: 10 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:55:46 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pawawit
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




เขียน Blog เกี่ยวกับการลงทุน อยู่ที่
http://pawawit.blogspot.com ก็ใครจะคุยกันก็เข้าไป ดูที่ Blog ของผมได้ มีทั้ง Link ของ Facebook / Twitter หนังสือแกะรอยหยักสมอง (สั่งที่นี่ครับ) หนังสือ(ของผม)แนะนำครับ
[Add pawawit's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com