น้ำตกนี่เป็นไฮไลท์ที่ต้องมาแวะถ่ายรูปเลยล่ะ น้ำกระเด็นมากเดินมาเหนื่อยๆ เจอน้ำนี่อย่างฟินเย็นดี
การมาเดินที่นี่แนะนำให้เอาเป้มาด้วย เพราะมีของช็อปกันตลอดทางตอนซื้อไม่คิดหรอก จะมาคิดอีกทีตอนเดินแบกของ
ระยะทางอันยาวไกลนั่นแหละเริ่มหนักไง
เด็กโตที่นี่จะมีน้องๆ แบกใส่หลังเป็นพร้อบเดินไปไหนมาไหนถึงบอกว่าเด็กเยอะมากหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มดีนะ
ผ้าทอที่นี่ก็ไม่แพงนะลายไม่เหมือนใครด้วย สินค้าทักทอนี่มันขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่นจึงมีลายที่ไม่เหมือนกัน
บ้างทีไม่ให้ต่อเค้าก็จะเขียนป้ายไว้เลย แต่เชื่อไหมว่าพ่อค้าที่นี่พูดภาษาไทยชัดมาก
เค้าบอกว่าคนไทยมาเที่ยวกันเยอะ ตอนแรกต่อเป็นภาษาอังกฤษเค้าพูดไทยสวนกลับมาเลยจ้า เพราะเราพูดไทยกัน
พวกเราเดินไปก็ชมธรรมชาติสองข้างทางกันไป เสน่ห์ของเวียตนามคือธรรมชาติที่คงความเขียวไว้ทั่วทุกมุมเมือง
เด็กที่นี่มีความคุ้ยเคยกับนักท่องเที่ยว เค้ารู้ว่านักท่องเที่ยวจะมีขนมมาแบ่งปันให้เสมอๆ
"Come Back" เห็นป้ายทางกลับบบแล้ววว ดีใจจคือเดินนานมากแล้วว
เอิ่ม.. บันไดไมสูงจังฟ่ะ จขบ.ถึงกับหอบเลยทีเดียวทางราบพี่ไม่หวั่นแต่บันไดนั้นพี่ยอมมม!!
แล้วก็มาถึงสะพานจุดสุดท้ายของหมู่บ้าน Cat Cat ถ้าเห็นสะพานนี้คือหมดแล้ว ตรงนี้จะเป็นที่เรียกรถมอเตอร์ไซค์แล้วล่ะ
จะมีคนมาเสนอราคาว่าเท่าไหร่หากคิดเป็นเงินไทยส่วนใหญ่ไม่เกิน 50 บาท แต่วันนี้เปิดมา 200 บาททำเอาเงิบกันเลย
แล้วเค้าก็เดินตามเพื่อนโอ๋เพราะรู้ว่าโอ๋เป็นคนตัดสินใจ เพื่อนตรูก็ใจแข็งมาก "No" ถ้าไม่ได้ 50 บาทไม่ไป ทำเอาเพื่อนจุ้ยกะ จขบ. หน้าเสีย โอ๋ใจเย็นนะไกลนะเว้ยเฮ้ย ทางจากนี้ขึ้นเขาเลยนะ (นึกในใจ) สบตาเพื่อนโอ๋หนึ่งทีเหมือนรู้กันว่า อยู่เฉยเดี๋ยวเพื่อนจัดการเอง โมเม้นท์นี้ตรูล่ะกลัววินมอไซต์มากก "ถ้าไม่ได้ราคานี้เดินค่ะ" เพื่อนตรูมีความใจเด็ดมากยังคงเดินต่อไป จนวินมอไซต์ยอม 50 บาทท โอ้ยยยย พระเจ้าตรูรอดแล้ววว 555 มีความฮามากที่นี้รู้ยังคนไทยไม่หมูนะเว้ยย
ก่อนจะไปโรงแรมพวกเราเลยแวะหาอะไรทานกันก่อนร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในร้านแนะนำเช่นกัน
"Nature View Restaurant & Bar" สมชื่อคือร้านวิวสวยมาก
กาแฟเย็นไม่ควรพลาด .. ทริปนี้เพิ่งได้กินกาแฟรสชาติเวียตนามแท้ก็แก้วนี้แหละมันใช่มาก
ปอเปี๊ยะที่กินร้านไหนก็อร่อยอาหารหลักที่มาเวียนนามต้องสั่ง
แฟรนฟรายแบบอเมริกันทานกันเพลินๆ
พิซซ่าร้านนี้มีชื่อมากและก็ไม่ผิดหวังมันอร่อยมากจริงๆ ค่าอาหารรวมเครื่องดื่มพวกเราจ่ายไป 370,000 ด่อง
จากนั้นก็กลับไปรอรถที่โรงแรมโดยขากลับพวกเราเปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะนั่งบัสกลับลาวไกล่ แต่ด้วยความที่มีปัญหาเรื่องถนนเราจึงเปลี่ยนใจและตกลงใช้บริการ Private Car ราคาต่างกันอยู่พอสมควรแต่แลกกับความเร็วที่ไม่ต้องรอคนอื่นน่าจะคุ้มกว่า เพราะถนนจากดินถล่มน่าจะยังไม่เรียบร้อย
ออกจากโรงแรมได้ก็เจอสถานการณ์รถติดเพราะรถชน คนขับบอกว่าไม่ค่อยเจอได้บ่อยๆ นะเหตุการณ์แบบนี้
คือไร?? นี่ตรูโชคดีเหรอที่ได้เห็น 555 พอหลุดจากเมืองซาปามาได้สักพักก็เจออีกจ้า อะไรอีก!!
เป็นไปตามคาดเจอรถติดยาวมากและฝนตก ตอนแรกเข้าใจว่ารถติดเพราะฝนตกแต่เปล่าเลยจ้ารถติดเพราะถนนยังซ่อมไม่เสร็จ ตอนแรกที่เค้าบอกว่าพวกเราว่าดินถล่มนิดหน่อย ดูจากสภาพแล้วคงไม่หน่อยแล้วมั้งราวๆ 10 กิโลกันเลยทีเดียวดีนะที่พวกเราเผื่อเวลาไว้ประมาณ 5 ชั่วโมงในการเดินทางกลับลาวไกล่
ดินถล่มหนักมากคิดดูว่าก่อนหน้านี้คือถนนราดยางมะตอยสวยงาม โปรดดูสภาพมันโดนดินถล่มถนนเต็มไปด้วยโคลน
นี่เป็นที่กั้นถนนอีกฟากดูความสูงของดินที่ถล่มลงมา เห็นว่ามีคนตายด้วยจากเหตุการณ์ครั้งนี้
บ้านก็ถูกดินถล่มน้ำนี่เป็นสีแดงดินโคลนเลย
ตลอดระยะทางราว 10 กิโลคนขับต้องค่อยๆ ขับตามๆ กัน ฝนก็โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย นี่โชคดีที่รถยังวิ่งได้เพราะเค้าเอารถมาโกยดินที่ขวางถนนออก ถนนยังคงเปิดให้ใช้เพียงเลนส์เดียวสลับกันขึ้นและลงไม่งั้นคนคงไม่สามารถไปเที่ยวซาปาได้
หลังจากหลุดจากจุดเกิดเหตุรถก็วิ่งได้ปกติจนจะเข้าลาวไกล่รถมาติดอีกรอบเนื่องจากรถที่รอจะขึ้นต้องหยุดรอรอบ ดังนั้นขาขึ้นก็ติดยาวเหยียดเห็นแล้วเครียดแทนเพราะต้องติดนานเลยล่ะ รถลงก็เยอะรถขึ้นก็เยอะ มิน่าเค้าถึงทำทางเลี่ยงเมืองเพิ่มขึ้นอีกเส้น
จำได้ว่าใครมาเที่ยวช่วงนี้ถึงกลับเซ็งกันเลยทีเดียว บ้างส่วนก็ถอดใจกลับลงไป บ้างส่วนที่รอคอยแบบพวกเราก็ได้ไปต่อ ในช่วงที่ จขบ.ไปเป็นช่วงสิงหาคมปีที่แล้ว (ดองรีวิวนานมาก) คนไทยมาติดที่นี่กันเพียบเลยล่ะ เพราะซาปาเป็นหนึ่งในเส้นทางยอดฮิตคนไทยนิยมเดินทางมากัน
โชคดีมากที่เพื่อนโอ๋ใช้บริการ Private Car เป็นรถปาเจโรนั่งสบายเลย มากะเพื่อนโอ๋สบายไป 108
พวกเราจึงไม่ต้องลุ้นว่าจะมาถึงลาวไกล่ทันรถไฟหรือเปล่า พอมาถึงที่ลาวไกล่ก็เอาตั๋วที่เอเจนซี่ให้มาไปเปลี่ยนเป็นตั๋วรถไฟ
จากนั้นก็มานั่งรอรถไฟที่ร้านอาหารข้างในสถานีที่นี่ใหม่และสะอาดห้องน้ำก็ดีด้วยล่ะ รอจนรถไฟมามีปัญหานิดหน่อยคือมีคนมาเปลี่ยนตั๋วพวกเรา พวกเราจองไว้ด้านล่างเค้าจะมานอนข้างล่าง พี่คร้าบพี่พลาดแล้วล่ะเพื่อนโอ๋ก็เจรจาจนได้ที่ของเรากลับคืน เนี่ยแหละหากโดยสารรถไฟมายังซาปาควรมาให้ครบคู่นะจะได้ลงตัวพอดีเพราะห้องหนึ่งนอนได้ 4 คน
ขากลับไม่ได้ถ่ายรูปกันไว้เอารูปขามาแปะให้เพื่อเห็นภาพเผื่อใครไม่ได้ติดตามตั้งแต่ต้นจะรู้ว่ารถไฟซาปามันสุดยอดจริงๆ
นอนสบายหายห่วงไม่ต้องเจอสภาพทีนเหม็นบนรถบัสนะ Sapaly Express สบายมาก
จากลาวไกล่มาถึงฮานอยตอนประมาณหกโมงเช้าตรงเวลามาก พอมาถึงก็เดินหาทางออกจะงงๆ เล็กน้อยเพราะมีหลายทาง
จากสถานีรถไฟพวกเราซื้อบริการรถ Private Car เพื่อไปส่งยังสนามบินเพราะบินไฟล์เช้า
มาถึงก็เช็คอินเรียบร้อยรอเวลาเครื่องออกที่นี่มีเครื่องนวดไว้คอยบริการด้วยเสร็จเรามาแล้วต้องใช้นวดเพลินมาก
เวลายังเหลือพวกเราเลยกินข้าวที่สนามบินกันต่อราคาก็ไม่แพงมาก
อำลาเฝอและปอเปี๊ยะทอดซะหน่อยกินมันทุกมื้อ ปล.ปอเปี๊ยะทุกที่อร่อยยกเว้นสนามบินไม่อร่อยเลยอ่ะ
จากนั้นก็ได้เวลาอำลาฮานอยกันแล้วหวังว่าจะได้มาเที่ยวกันอีกนะ จขบ.เหลือฮาลองเบย์ฮาลองบกเนี่ยแหละ
ขึ้นเครื่องได้ดีนะสั่งข้าวผัดกระเพราไว้ โครตคิดถึงอาหารรสชาตินี้เลย ไปเที่ยวที่ไหนก็กินอะไรไม่อร่อยเหมือนเมืองไทย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฝรั่งถึงชอบมาอยู่เมืองไทย สำหรับทริปนี้ก็ต้องขอบคุณเพื่อนโอ๋และเพื่อนจุ้ยที่จัดทริปอันแสนสบายสุดๆ แม้พวกเราจะกลายเป็นนักท่องเที่ยวตกค้างก็ถือว่ายังสบายอยู่ ทริปนี้หมดไป 8,500 บาท สมาชิก 3 คน เป็นทริปที่สนุกมากสมความตั้งใจที่รอคอยมานาน ไว้เจอกันทริปต่อไปนะค๊าา