"วิถียามเช้าของนักท่องเที่ยว" หากใคร สั่งชุดอาหารเช้าเค้าจะมีขนมปังมาให้เราก็เอาไปปิ้งบนเตาถ่าน น้ำร้อนชงกาแฟก็ต้มใส่หม้อใหญ่ๆ ไว้คอยบริการ เหมือนย้อนเวลาเลยนี่มันเหมือนย้อนอดีต ก่อนจะมี เครื่องปิ้งขนมปังกระติกน้ำร้อนอันแสนสะดวกสบายก็เลยลืมวิถีบ้านๆ แบบนี้ไปเลย คือเคยชินกันเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ชีวิตมาใช้วิถีบ้านๆ แบบนี้ก็เออดีอ่ะเหมือนกลับสู่สามัญ
อาหารเช้าชุดละ 120 บาท ข้าวต้มหมูก็ราคาเท่ากันเลือกสั่งได้ โปรดสังเกตุข้าวต้มหมู คุณพระ!! หมูเยอะมาก ข้าวก็เยอะตามด้วยเช่นกันนี่เราต้องใช้พลังกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย หมูเยอะมันก็โอเคอยู่หรอก แต่ขอหมูติดมันหน่อยได้ม๊ะจะฟินมาก จขบ.อยู่มาหลายวันไม่เจอหมูมันๆ เลยอ่ะ "หมูสามชั้นอยู่ไหนนนน" เออเป็นเรื่องที่แปลกมากเหมือนเค้าไม่ทานหมูติดมันเลยอ่ะ ใครรู้ช่วยบอกหน่อยนะสงสัยจริงๆ
หลังจากเติมพลังงานอันมหาศาลเข้าไปแล้วพวกเราก็ไปเก็บข้าวของเตรียมลงเรือชีวิตแม่งโครตดีอ่ะ กินดำน้ำนอนโครตมีความสุขจริงๆ ที่สำคัญเที่ยววันธรรมดาเพื่อนเค้านั่งทำงานกันงกๆๆ ตรูนี่เช็คอินดำน้ำโครตฟินจริงไรจริง วิถีของภัทรานิตย์สไตล์เที่ยววันธรรมดาลาแม่งโลด
ตอนเรือออกจากฝั่งแดดเปรี้ยงมากด้วยความที่อยู่ที่นี่มาหลายวันแระ สังเกตุคลื่นลมแรงไม่แรงต้องให้เรือพ้นเขตเขาช่องขาดไปก่อน ที่นี่จะรู้แระว่าคลื่นแรงไม่แรงจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ปักพิกัดนั่นคือ "อ่าวเต่า" หลังจากเมื่อวานมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จมาใหม่ค่ะมันต้องมีวันของเราสักวัน แค่ไม่ใช่วันนี้อีกเช่นเคยคลื่นลมแรงเหมือนเดิมเลย
เฮ้ยมันยังไงวะมาสอบรอบไม่ได้ดำสักที น้องเจ้าหน้าที่ก็ถามคำถามเดิมเลย ไอ้เราก็นึกในใจโปรดดูหน้าตรูหน่อยเห็นหน้าตรูถึกๆ ขนาดนี้ตรูว่ายน้ำไม่เป็นเว้ยยเฮ้ยย ให้ไปดำดิ่งในคลื่นลมอันกระหน่ำเช่นนี้นึกสภาพตอนกลับมาขึ้นเรือไม่ออกเลยทีเดียว แม่งเหนื่อยมากอ่ะแลดูตรูไม่น่ารอดหันไปหาสมาชิกที่เหลือต่างก็ลงความคิดเห็นเหมือนเดิมคือ ถอยดีกว่าไม่เอาาาดีกว่า
เปลี่ยนเป้าหมายจ้าหันหัวเรือไปยัง "อ่าวสุเทพ"
VIDEO
"อ่าวสุเทพ" มีปะการังไฮไลท์อยู่หนึ่งกอเวลามันแสงแดดกระทบน้ำลงมาก มันเป็นความตื่นตาตื่นใจมาก
ต้องมาเห็นด้วยตาค่ะเพราะกล้องไม่สามารถบันทึกความงดงามอันนี้ไว้ได้ดังที่ตาเห็นได้มาแค่นี้แหละ
ที่นี่ก็จะเห็นฝูงปลานานาชนิดว่ายวนไปมาตัวใหญ่บ้างเล็กบ้างเพลินมากๆ โดยเฉพาะกอไฮไลท์เนี่ยแหละสวยจริงๆ อีกสักห้าปีถ้ามันได้คืนกลับมามันคงงดงามกว่านี้แน่ๆ ส่วนบริเวณอื่นยิ่งดำดิ่งลึกลงไปก็จะเห็นซากปะการังที่ตายเกลื่อนดูแล้วเสียดายจังเพราะสึนามิเนี่ยแหละที่พัดพาความงามจากไปกว่าจะฟื้นก็อีกหลายสิบปีเลยทีเดียว พอดำน้ำอ่าวสุเทพเสร็จแล้วก็ไปต่อยังหาดไม้งามปะการังที่นี่ก็สวยไม่แพ้เกาะอื่นๆ จขบ.ดันแบตหมดซะก่อนเลยไม่มีรูปมาฝาก
จากนั้นเรือก็เข้าฝั่งกลับไปยังหาดช่องเขาขาดวันนี้พวกเราสั่งไก่ทอดร้านหน้าซาบีน่าทัวร์กับอาหารทะเลจากฝั่งมาทานที่นี่ด้วย พี่ที่ซาบิน่าบอกว่ามากับเรือรอบบ่ายเนี่ยแหละให้พวกเรารอรับได้ ปรากฏว่าเรือมาจนหมดแล้วอาหารที่สั่งก็ยังไม่มีวีแววเดินทางมา ถามเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ก็ไม่มีสุดท้ายพวกเราเลยสั่งอาหารตามสั่งเหมือนเดิม
ระหว่างที่รออาหารก็เห็นชาวมอแกนเค้าทำพิธีอะไรหว่า หมู่เกาะสุรินทร์เนี่ยเคยเป็นที่อาศัยของชาวมอแกนดังนั้นเราจะเห็นชาวมอแกนเดินไปมา เพราะทางอุทยานเค้าจ้างให้ชาวมอแกนมาเป็นคนคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จะเห็นว่ามีเรือของชาวมอแกนแล่นเข้าแล่นออกในตอนเช้าและตอนเย็น เราว่าพวกเราดูเป็นมิตรดีนะน่าจะคุ้นชินกันนักท่องเที่ยว
ที่เห็นอยู่นี่เป็น "พิธีการฉลองเสาวิญญาณบรรพบุรุษ" (เหนียะเอนหล่อโบง) เค้าจะบวงสรวงบูชาวิญญาณให้ปกป้องคุ้มครองโดยในพิธีกรรมจะมีการเสี่ยงทาย การเล่นดนตรี ร้องรำ ทำเพลง และมีการลอยก่าบางจำลองเพื่อเป็นการลอยความทุกข์และโรคภัยไข้เจ็บให้พ้นจากครอบครัว พี่ที่เค้ายืนดูอยู่บอกว่าหาดูได้ยากเพราะชาวมอแกนรุ่นใหม่ไม่ได้เคร่งเหมือนคนเฒ่าคนแก่แล้ว
จขบ.จำได้ว่ามีในเดือนเมษายนของทุกปีชาวมอแกนจะมารวมตัวกันที่หมู่เกาะสุรินทร์เพื่อประกอบ "พิธีลอยเรือ" เพื่อบรวงสรวงผีและวิญญาณบรรพบุรุษ เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของชาวมอแกน ใครมาช่วงนี้ก็จะได้เห็นพิธีนี้แหละ
การทำพิธีเค้าใช้เวลานานมากมีการร้องรำทำเพลงยาวเลยทีเดียว ตอนแรกก็มีไม่กี่คนแป๊บเดียวมากันเต็มเลย จขบ.เลยกลับมารออาหารตามสั่งวันนี้กินราดหน้ากะหมูกระเทียมและผัดพริกสด คาดว่าอีกสองวันที่เราอยู่ที่นี่เราจะกินกันครบทุกเมนูอาหารตามสั่ง
ทุกอย่าง 120 บาท มาเต็มทุกมื้อข้าวแน่นกับแน่นเติมพลังให้หนังท้องตึงหน้าตาหย่อนกันไปเลย กินข้าวเสร็จทีไรง่วงเป็นที่สุดอ่ะ ลมก็พัดเย็นๆ น่านอนมากกว่าดำน้ำอีก แต่มาแล้วไม่มีถอยเว้ยจะดำให้ครบทุกเกาะ
พอทานข้าวกันเสร็จก็ไปนั่งโต๊ะประจำทำเลดีมากหันซ้ายหันขวาไม่มีไรทำสั่งน้ำมะพร้าวกินงี้ ระหว่างนั้นเรือซาบีน่าก็เข้ามามีเจ้าหน้าที่เดินมาคุยกับพวกเรา เพื่อนโอ๋เลยถามถึงอาหารทะเลของเรา พี่เค้าดีมากช่วยประสานงานให้ว่าของอยู่ไหน ด้วยความที่พวกเรารอเรือกันนานมากเค้าเลยถามว่ารออะไรกันอ่ะ เพื่อนโอ๋ตอบว่า "รอเรือมารับไปดำน้ำค่ะ" พี่คนถามก็งงทำไมมันยังมีหลงอยู่อีกหว่า จนในที่สุดพี่เค้าก็ประสานงานให้แล้วไกด์คนเดิมก็ยืนมาในเรือเลยจ้า (ไหนบอกว่าจะไม่เจอกันแล้วไง) ในที่สุดก็กลับมาใช้บริการไกด์คนเดิมดีนะที่เค้าถามว่ารออะไร ไม่งั้นรอไปเหอะบ่ายคงไม่ได้ดำน้ำ ตอนหน้าเค้าจะพาไปอ่าวไข่ไว้มาเล่าให้ฟังต่อตอนหน้านะจ๊ะ
Photo and Story By
Patthanid C .
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
a whispering star Parenting Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
patthanid Travel Blog ดู Blog
มาเจิมโหวตให้ค่ะ