BKK :: ตะลุยชิมทริปอาหารจีน ณ ร้านเปี้ยงกี่โภชนา
หลังจากตอนที่แล้วพาไปชิม ร้านหอยกระทะนายโชว กันมาแล้ว ตอนนี้ก็จะพาไปชิมร้านอาหารจีนอีกสไตล์มีชื่อร้านว่า "เปี้ยงกี่โภชนา" เป็นร้านอาหารจีนแคะที่ตั้งอยู่ในซอยตรอกวัดกุศลสมาคร จากปากซอยเดินเข้าไปไม่ถึงร้อยเมตรก็จะเจอป้ายบอกทางค่ะ เดินตาม จขบ. เข้ามากันเลยค่ะ ทางเข้าร้านอยู่หน้าวัดเลยอ่ะ จขบ. บอกตรงๆ ว่าตอนแรกก็สงสัยว่าทีมงานจะพาเราเข้าวัดหรือไงเนี่ย แต่ก็ไม่น่าใช่ดูแล้วบริเวณนี้ก็ไม่น่าจะมีร้านอาหารนะนั่น แต่ปรากฏว่าเดินเข้ามาก็จะเจอป้ายร้าน "เปี้ยงกี่โภชนา" แปะอยู่ตรงกำแพงวัด ชี้บอกทางเข้าร้าน เอาล่ะเดินตามกันเข้าไปเลยค่ะ ตอนแรกนึกในใจทีมงานนัฟแนงเค้าพาเข้าทางหลังร้านหรือเปล่าฟ่ะ เพราะเห็นตอนรถจอดเหมือนจะหาที่จอดไม่ได้ จขบ. เลยเข้าใจว่าเค้าให้เข้าทางหลังร้านละมั้ง แต่.. ที่ไหนได้ที่เห็นนั้นเป็นหน้าร้านค๊า .. สิ่งที่สงสัยตามมา คนแรกที่มากินเนี่ยรู้ได้ยังไงฟ่ะ ภายในร้านก็มีโต๊ะประมาณ 6 โต๊ะ พวกเรามานั่งร้านก็เต็มแล้วล่ะ ก่อนอื่นเรามารู้จักอาหารจีนแคะกันก่อน จขบ. ก็ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ เท่าที่ค้นข้อมูลจากน้องกูเกิลในวิกิพิเดีย พบว่า "อาหารจีนแคะ" หรือจีนฮากกา เป็นอาหารที่เน้นข้าว เนื้อสัตว์ ผักดองและผักตากแห้ง อาหารที่มีชื่อเสียงคือลูกชิ้นหมูแคะและผักดำต้มหมูสามชั้น มันจะเป็นยังไงหว่าไม่เคยลองเสียด้วยสิ แต่คิดว่าที่นี่น่าจะไม่ธรรมดา เพราะแอบสังเกตุเห็นสิ่งนี้ หม่อมถนัดศรีและเมนูทรงเสวยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาพร้อมลายเซ็นต์เลยเหอะ แสดงว่าอร่อยแน่นอน โชคดีที่วันนี้เรามาเป็นกลุ่มใหญ่เจ้าของร้านเค้าทำอาหารให้ดูกันสดๆ เลย โดยสาธิตการห่อฟองเต้าหูล่ะ มาดูเมนูของที่นี่กันเลยดีกว่าว่าจะน่าทานกันขนาดไหน เมนูแรก "ฟองเต้าหูยัดใส้หมูทอด" ปกติบ้านเราก็จะเห็นแต่ห่อเกี๊ยว แต่ที่นี่ใช้ฟองเต้าหู้มาห่อ เข้าท่าดี จขบ. นึกว่าส่วนใหญ่ฟองเต้าหู้เอามาทำอาหารแนวต้มๆ เสียอีก โดยเมนูนี้มีสองใส้ นั่นคือกุ้งกับหมู จขบ. กลับชอบหมูมากกว่ากุ้งเพราะรสชาติดีกว่า เค้ามีน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ คือแบบซอสรสเปรี้ยวและน้ำจิ้มบ๊วย สองอารมณ์เลยล่ะ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยค่ะ เมนูต่อมาเป็นเมนู "เต้าหู้ยัดใส้หมูน้ำแดง" ดูหน้าตาธรรมดาแต่ขอบอกว่ารสชาติอร่อยค่ะ แต่บอกไว้ก่อนว่า จขบ.เนี่ยชอบทานเต้าหู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วนะคะ เมนูนี้เลยทานได้เรื่อยๆ เลยอ่ะคะ แต่ต้องทานร้อนๆ นะ เพราะเต้าหู้มันจะนิ่มพอดีค่ะ เมนูต่อมามีชื่อว่า "ไฉ้กันโตวบะ" หรือหมูสามชั้นผักดำ เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูทรงเสวยด้วยล่ะ ผักดำที่เห็นเป็นผักโสภณ ต้องนำหมูสามชั่นมานึ่งแล้วทอดจากนั้นนำไปตุ๋นต่ออีก 5 ชั่วโมงจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เรียกว่ากรรมวิธีซับซ้อนมากๆ มิน่าละน้ำถึงมีความเข้มข้น ทานกับข้าวเนี่ยพอดีเลยนะ ต่อด้วยเมนู "ลูกชิ้นหัวผักกาด" ตอนแรกก็งงๆ ลูกชิ้นหัวผักกาดหน้าตาเป็นไงฟ่ะ แต่พอได้เห็นและลองชิม ขอบอกว่าอร่อยมาก เหล่าบรรดา Guru ทั้งหลายต่างก็ลงความเห็นว่าจานนี้เป็นเมนูแนะนำเลยค่ะ ยิ่งทานร้อนๆ อร่อยเชียวแหละ และจานสุดท้าย "ไก่ตุ๋นเหล้าแดง" ใช้ไก่บ้านแต่รสชาติเหมือนไก่เนื้อเลยอ่ะ ตอนแรก จขบ.ก็ทานเพลินๆ อยู่นี่แหละ คุณลุงเจ้าของร้านเนี่ยก็มาบอกว่า มันต้องทานพร้อมกับน้ำด้วยถึงจะอร่อยมากกว่าเดิม แว่บแรกที่ลองชิมได้กลิ่นเลยอ่ะ ว่าเป็นเหล้าแน่นอน ขอบอกว่าเหล้าเนี่ยเค้าทำจากข้าวที่สั่งซื้อจากประเทศจีนเลยนะ แล้วนำมาผ่านกรรมวิธีหมักจนเป็นเหล้า พี่ๆ ที่ได้ลองชิมเหล้าเค้าบอกว่า เหล้ารสชาติดีเลยเค้าแบ่งขายด้วยล่ะขวดละ 300 เสียดายที่ จขบ. มารู้ทีหลังไม่งั้นจัดไปให้เดอะแก๊งค์ลองชิมแระ พลาดเลยงานนี้ เอาล่ะหากผ่านมาแถวๆ นี้ก็ลองแวะทานกันดูนะคะ ทางเข้าอาจจะดูวังเวงไปหน่อย แต่รสชาติอร่อยต่อบอกต่อเลยเหอะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่คุณลุงคุณป้าเค้าทำกันสองคน ก็ใจเย็นๆ กันนิดหนึ่ง ช้าบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา จะทานของอร่อยก็ต้องใจเย็นๆ ค่ะ เพราะเค้าเค้าอาหารให้ทานกันร้อนๆ เลยทีเดียว เรียกว่ามาแล้วไม่อยากให้ผิดหวัง ก่อนกลับ จขบ. ก็ขอแชะกับคุณลุงเค้าหน่อยเพราะอร่อยจริงๆ ค่ะ ออ
Create Date : 26 มิถุนายน 2555 |
|
3 comments |
Last Update : 26 มิถุนายน 2555 1:11:36 น. |
Counter : 8997 Pageviews. |
|
|
|
ทำอาหารอร่อยครับ
แต่ก่งก๊งเนี่ยแหะๆ
รสชาติเหมือนกินซีอิ๊วไงก็มิรุ แง่บๆ