|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
โลกร้อน...เกี่ยวข้องกับชีวิตเราอย่างไร
โลกร้อน-ทะเลทรายแล้ง ยูเอ็นเตือน-อีก50ปีอยู่ไม่ได้ ภูมิอากาศโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ภาวะขาดแคลนน้ำที่รุนแรงมากขึ้นและแม้แต่การท่องเที่ยว ล้วนสร้างความกดดันให้กับระบบนิเวศวิทยาทะเลทรายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
แต่ทะเลทรายซึ่งปัจจุบันกินพื้นที่ 1 ใน 4 ของผิวหน้าโลกและถูกมองว่าเป็นที่ดินไร้ค่า จะกลายเป็นแหล่งตักตวงผลประโยชน์มหาศาลในอนาคตได้ หากมีการจัดการที่ดีพอ
รายงาน "Global Deserts Outlook" ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ชี้ว่า ภายใน 50 ปีข้างหน้า ระบบนิเวศวิทยาทะเลทรายจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านชีววิทยา เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
ปัจจุบันพืชและสัตว์ทะเลทราย คือแหล่งทรัพยากรมีคุณค่าสำหรับผลิตยาและธัญญาหารใหม่ๆ ที่ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำและยังมีช่องทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เช่น การทำฟาร์มกุ้งและบ่อปลาในทะเลทรายรัฐอาริโซนาและทะเลทรายเน เจฟในอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม ทะเลทรายที่มีอยู่ 12 แห่งทั่วโลก กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ไม่ใช่เรื่องการขยายตัว แต่เป็นความแห้งแล้งเนื่องจากโลกร้อน ธารน้ำแข็งซึ่งส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงทะเลทรายในอเมริกาใต้กำลังละลาย น้ำใต้ดินเค็มขึ้น รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งหากไม่มีการลงมือป้องกันอย่างทันท่วงที ระบบนิเวศวิทยาและสัตว์ป่าในทะเลทรายจะสูญหายไปภายใน 50 ปีข้างหน้า
ในอนาคตประชากร 500 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายทั่วโลกจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป เพราะอุณหภูมิสูงขึ้นและน้ำถูกใช้จนหมดหรือเค็มจนดื่มไม่ได้ ซึ่งประเทศที่มีทะเลทรายอย่างสหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่จำนวนประชากรในรัฐทะเลทรายเพิ่มมากขึ้นก็เริ่มพบภาวะขาดแคลนแหล่งน้ำแล้ว
ความฝันทันสมัยของนักคิดในศตวรรษที่ 20 ที่จะสร้างสีเขียวให้ทะเลทรายด้วยการเปลี่ยนทางน้ำและการทำทางน้ำใต้ดิน จะกลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน
แต่รายงานก็เสนอว่า ในศตวรรษหน้า ทะเลทรายซึ่งเป็นแหล่งรับพลังงานแสงอาทิตย์จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าขนาดยักษ์ เช่น ทะเลทรายสะฮารา แค่เพียง 496 ตารางกิโลเมตรของเนื้อที่ทั้งหมด 640,000 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งรับพลังงานสุริยะที่เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าป้อนคนทั้งโลก
ส่วนภาวะน้ำใต้ดินเค็มเกิดขึ้นแล้วในจีน อินเดีย ปากีสถานและออสเตรเลีย โดยในลุ่มแม่น้ำทาร์มของจีนสูญเสีญพื้นที่ทำนาเนื่องจากดินเค็มไปแล้วมากกว่า 8,000 ตารางกิโลเมตร ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
รายงานแนะว่า ประเทศในตะวันออกกลางอย่างซาอุดีอาระเบียซึ่งใช้น้ำจากทะเลทรายอย่างไม่เหมาะสม โดยใช้น้ำไปกับการเพาะปลูกข้าวสาลีและมะเขือเทศ ซึ่งเป็นอาหาารหลักของประชาชน ควรจะใช้น้ำเฉพาะกับสิ่งที่ให้มูลค่าสูงอย่างการปลูกอินทผลัมและการทำบ่อปลาเท่านั้น
แต่ปัญหาใหญ่ที่คุกคามคนและสัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลทรายคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีผลกระทบใหญ่หลวงต่อพื้นที่ทะเลทรายมากกว่าภูมิประเทศอื่นๆ
โดยทะเลทรายดาชติ คบีร์ ในอิหร่านมีปริมาณฝนลดลง 16% ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ทะเลทรายคาลาฮารี ลดลง 12% ทะเลทรายอัตตาคามาในชิลีลดลง 8%
ทะเลทรายส่วนใหญ่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 5-7 องศาเซลเซียส ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ขณะที่ปริมาณน้ำฝนจะลดลง 10-20% ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเพิ่มปริมาณการระเหยและพายุทรายมากขึ้นและจะส่งผลให้ทะเลทรายเคลื่อนเข้าใกล้ชุมชนที่คนอาศัยอยู่มากขึ้นด้วย
"โลกร้อน"น้ำทะเลอันดามันสูงผิดปกติ
นักวิทย์ส่งสัญญาณเตือนระวังภัยพิบัติ
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.มณทิพย์ ศรีรัตนา ทาบูกานอน รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวในเวทีสาธารณะเรื่อง ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : วิกฤตหรือโอกาส ซึ่งจัดโดยกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่า จากการคาดประมาณอุณหภูมิผิวโลกในอีก 100 ปีข้างหน้า หรือประมาณปี 2643 พบว่า อุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 4.5 องศาเซลเซียส เนื่องจากคาดการณ์ว่า จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 63 และก๊าซมีเทนร้อยละ 27 ของก๊าซเรือนกระจก สำหรับประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียส ในช่วง 40 ปี อย่างไรก็ตาม หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส จะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทาง เกิดความรุนแรงและมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ในอนาคต นอกจากนี้ ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง
ดร.มณทิพย์กล่าวอีกว่า ทส.ได้ร่างยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศในการรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในภาวะปัจจุบันและอนาคต และหาแนวทางลดก๊าซเรือนกระจก โดยแบ่งเป็น 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1.รับมือและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2.สร้างความพร้อมของประเทศเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 3.การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกสาขา 4.เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรและบุคลากร โดยให้การศึกษาและเสริมสร้างการมีส่วนร่วม 5.ผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ
ผศ.ดร.กัณฑรีย์ บุญประกอบ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า จากข้อมูลของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC ได้ประเมินความเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 คืออุณหภูมิเฉลี่ยที่ผิวโลกเพิ่มขึ้น 1.4-5.8 องศาเซลเซียส ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 0.09-0.88 เมตร ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้ช่วงวันที่ร้อนเพิ่มขึ้น ขณะที่วันที่หนาวลดลง ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ร้อยละ 90-95 นอกจากนี้ ในเอเชียยังมีโอกาสร้อยละ 66-90 ที่อาจเกิดฝนกระหน่ำและมรสุมอย่างรุนแรง รวมถึงเกิดความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนาน ทั้งนี้ ในปี 2532-2545 ประเทศไทยเกิดความเสียหายจากอุทกภัย พายุ และภัยแล้ง คิดเป็นมูลค่าเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 70,000 ล้านบาท
ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า ล่าสุดระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น 1-2 มิลลิเมตรต่อปี ยังอยู่ในระดับปกติ แต่ที่น่าสนใจ คือ ระดับน้ำทะเลในฝั่งอันดามันสูงขึ้นถึง 8-12 มิลลิเมตรต่อปี มีผลอย่างมากต่อการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากที่ผ่านมาปริมาณของระดับน้ำทะเลที่สูงเพียง 50 เซนติเมตร สามารถกัดเซาะชายฝั่งได้อย่างรุนแรง จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในแต่ละภาคส่วน อาทิ ต้องมีระบบพยากรณ์ระยะกลาง แม้ปัจจุบันกรมอุตุนิยมวิทยาจะมีข้อมูลที่ไม่จำเพาะแต่สามารถพัฒนาได้ เพื่อช่วยให้ประชาชนเตรียมรับมือได้ทัน นอกจากนี้ ต้องมีระบบการประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศ และระบบการกระจายความเสี่ยง
ด้านดร.ลีออนชิโอ อะมาโดเร นักวิทยาศาสตร์ด้านบรรยากาศ ประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงส่งผลให้เกิดพายุฝน และความแห้งแล้งในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะความแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งก่อให้เกิดพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในปี 2518-2545 มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 593 รายต่อปี และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่า 83 ล้านเหรียญสหรัฐ เสียหายต่อภาคเกษตร 55 ล้านเหรียญสหรัฐ และน่าวิตกว่าประเทศในภูมิภาคนี้ยังไม่มีความสามารถในการรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ
น้ำท่วม กับ โลกร้อน โดยคุณbeeman ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
(อีก 50 ปี น้ำจะท่วมเกาะอังกฤษ)
ขอแสดงความรู้สึกเห็นใจกับผู้ที่ต้องรับชตากรรม "น้ำท่วม" ในหลายจังหวัดขณะนี้ เชียงใหม่ 1 ปี น้ำท่วม 3 รอบ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และ น้ำที่ปล่อยจากเขือนกิ่วลมเข้าท่วมลำปาง
ก่อนหน้านี้ มีคนเล่าให้ผมฟังว่า นักวิทยาศาสตร์อังกฤษ บอกนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่แบลร์ ว่า อีก 50 ปี น้ำจะท่วมบางส่วนของเกาะอังกฤษ ซึ่งโทนี่แบลร์ ก็พยักหน้ารับทราบ เพราะน้ำไม่ได้ท่วมเกาะอังกฤษเพียงแห่งเดียวแต่ท่วมทั่วโลกครับ
คนที่อยู่ในวงการคงทราบครับ แต่ผมขอเล่าให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการได้ทราบบ้าง ว่า ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ปรากฎการณ์เรือนกระจก Green House Effect" ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาไหม้พวกไฮโดรคาร์บอน (มีธาตุคาร์บอน หรือ C เป็นองค์ประกอบ) ได้ก่อให้เกิดชั้นในบรรยากาศ ซึ่งเปรียบเหมือนกระจก คอยกั้นไม่ให้ความร้อนจากการแผ่รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ สะท้อนกลับออกจากโลกได้ง่าย ๆ ผลก็คือทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีของผิวโลกร้อนขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ภูเขาน้ำแข็งรวมทั้งธารน้ำแข็งที่มีอยู่ทั่วโลกเริ่มละลาย ทำให้น้ำในทะเลและมหาสมุทรเพิ่มขึ้น (ให้คิดง่ายๆ ว่าน้ำแข็งเบากว่าน้ำ ตอนเป็นน้ำแข็งบางส่วนลอยอยู่เหนือน้ำ) คิดง่าย ๆ ว่าธารน้ำแข็งซึ่งอยู่บนภูเขาต่าง ๆ หลอมละลายตัวมาเพิ่มปริมาตรของน้ำในทะเลและมหาสมุทร ทีนี้เกาะแก่งต่างๆ พื้นที่จะลดลง ที่ร้ายหน่อยก็คือบางประเทศที่เคยเป็นเกาะจะหายไปจากแผนที่โลกเลยละครับ
จากภาวะที่โลกร้อน จะทำให้พายุต่างๆ ในโลกนี้ เช่น เฮอริเคน ไต้ฝุ่น จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นดังที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ ภัยภิบัติต่างๆ จะเกิดกับมนุษย์มากขึ้น ฝนจะตก น้ำจะท่วม และจะมีคนตายปีละนับหมื่น นับแสน จนถึงนับล้าน ทุกปี จากเหตุน้ำท่วม (อุทกภัย) แผ่นดินไหว ลมพายุ (วาตภัย) คลื่นยักษ์สึนามิ
ขอให้ทุกคนจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทนะครับ อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็รีบทำเสียนะครับ เวลาทุกคนบนโลกนี้เหลืออยู่ไม่มากแล้วครับ
Create Date : 28 มีนาคม 2550 |
|
9 comments |
Last Update : 28 มีนาคม 2550 16:28:16 น. |
Counter : 1023 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ป้ามด 30 มีนาคม 2550 10:43:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: pattapon 30 มีนาคม 2550 13:05:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: PPalone 1 เมษายน 2550 9:56:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิฐมอญ 1 เมษายน 2550 20:16:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมีเซอะ 10 กรกฎาคม 2550 15:55:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: nanoguy 23 กรกฎาคม 2550 21:58:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Due_n 9 สิงหาคม 2550 14:57:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|