"กลุ่มพัฒนาเด็กและเยาวชน พัฒนาคนพัฒนาชาติ"
Group Blog
ประวัติกลุ่มพัฒนาเด็กและเยาวชน
กิจกรรมที่ผ่านมา
กิจกรรมในอนาคตและข่าวแจ้ง
เว็บบอร์ดของกลุ่ม
บันทึกการเดินทาง
ธันวาคม 2549
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 ธันวาคม 2549
อุ้มผาง ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนที่ 3
อุ้มผาง ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนที่ 2
อุ้มผาง ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนที่ 1
ทริปทุ่งใหญ่-ถ้ำน้ำตก ตอนที่ 2
ทริปทุ่งใหญ่-ถ้ำน้ำตก ตอนที่ 1
ถ้ำเสาหิน การผจญภัยแห่งความทรงจำ
All Blogs
อุ้มผาง อุ้มไพร เมื่อธารน้ำใจไหลจากที่ราบต่ำสู่ที่ราบสูง ตอนที่ 1
อุ้มผาง อุ้มไพร เมื่อธารน้ำใจไหลจากที่ราบต่ำสู่ที่ราบสูง ตอนที่ 2
อุ้มผาง อุ้มไพร เมื่อธารน้ำใจไหลจากที่ราบต่ำสู่ที่ราบสูง ตอนที่ 3
อุ้มผางในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนเก็บตก
อุ้มผาง ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนที่ 3
อุ้มผาง ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนที่ 2
อุ้มผาง ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตอนที่ 1
ทริปทุ่งใหญ่-ถ้ำน้ำตก ตอนที่ 2
ทริปทุ่งใหญ่-ถ้ำน้ำตก ตอนที่ 1
ถ้ำเสาหิน การผจญภัยแห่งความทรงจำ
ทริปทุ่งใหญ่-ถ้ำน้ำตก ตอนที่ 2
วันรุ่งขึ้น คณะเราออกเดินทางไปถ้ำน้ำตก ถ้ำน้ำตกนี้เป็นหนึ่งในสามถ้ำมหัศจรรย์ของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำนางแอ่น และถ้ำน้ำตก ซึ่งแต่ละถ้ำนั้นมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ถ้ำน้ำตกนั้นโดดเด่นในเรื่องความสวยงามจับใจ จนติดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งของสามถ้ำ คือความยากในการเข้าถึง
ในการเดินทางไปถ้ำเสาหินของคณะเราวันนี้ ค่อนข้างจะมีอุปสรรคพอสมควร หนึ่งคือสองสามวันที่ผ่านมามีฝนตกลงมา ทำให้การจะเข้าไปขออนุญาติอุทยานเพื่อเข้าไปเที่ยวนั้น มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้รับอนุญาต เพราะถ้าฝนตกแล้วจะมีอันตรายในการเดินทางไปยังตัวถ้ำ
สองคือถ้าไม่ได้ไปขออนุญาต แอบเข้าไปเอง เราจะไม่มีชูชีพใส่ ซึ่งอันตราย เพราะระหว่างทางไปถ้ำ ต้องผ่านธารน้ำที่ค่อนข้างลึก
แต่ในที่สุดผู้นำคณะของเรา พรานตุ๋ย ก็ตัดสินใจที่จะพาเราเข้าไป
เมื่อตัดสินใจดังนี้แล้วทำให้เราต้องพบอุปสรรคอีกอย่าง นั่นก็คือทางที่จะไปถ้ำนั้นอยู่ในที่ส่วนบุคคล เมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานนำมา คณะเราจึงไม่กล้าที่จะขับรถเข้าไปเอง จึงจำใจต้องเดินเท้าเป็นระยะทาง 6 กม.
ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ คณะเราไม่มีใครปริปากบ่น เพราะอยากไปกันทุกคน
ทางเดินก็เป็นธรรมชาติสวยดี เป็นป่าไผ่สลับกับไม้ประเภทอื่น
ทางเดินจะยากลำบากขึ้นเรื่อย ๆ เส้นทางไปถ้ำนั้น มีให้เลือก 2 ทาง ไม่ล่องไปตามน้ำก็เดินป่า พรานตุ๋ยเล่าให้ฟังว่า ส่วนมากพวกที่มาเที่ยวจะใช้เรือยางล่องไปกัน สำหรับคณะเราที่ไม่มีอะไรเลย ทั้งเรือทั้งชูชีพ ก็คงต้องใช้ทางบกอย่างช่วยไม่ได้
เดินมาได้สักพัก ก็ถึงจุดที่ไม่สามารถจะใช้เส้นทางบกต่อไปอีกได้ ต้องลงน้ำ ซึ่งไม่ลึกมาก พอจะล่องไปได้
เจอแพของใครก็ไม่รู้ เอามาพายเล่นเสียเลย
การมาเดินป่าที่ดีต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมครับ เสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน เป้กันน้ำบรรจุสัมภาระจำเป็นสะพายหลัง รองเท้าที่เหมาะกับการลุยน้ำ
แล้วเราก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำ ที่นี่เราพักกินข้าวกัน ก่อนจะเดินทางต่อเข้าไปในตัวถ้ำ แต่ละคนยังไม่เหนื่อยมากเท่าไร ยังลุยต่อได้อีกเยอะ
ชักรูปกันก่อนครับ เผื่อไม่ได้มีชีวิตรอดออกมา จะได้ไว้ให้ชนรุ่นหลังดู
ระหว่างนี้ก็เป็นการเดินทางภายในถ้ำของเรา ซึ่งค่อนข้างจะทุลักทุเล ผ่านน้ำ ผ่านช่องทางของถ้ำที่แคบมาก ๆ เดินลำบากมาก ๆ และเป็นที่น่าเสียดายว่าผมและชาวคณะคนอื่น ๆ ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้เลย เพราะในถ้ำมืดมาก กล้องของพวกเราไม่มีประสิทธิภาพมากขนาดนั้น และเหตุผลอีกอย่างคือ การเดินทางภายในถ้ำไม่เปิดโอกาสให้ถ่ายรูปได้เลย ลำพังจะเอาตัวรอดก็ลำบากแล้ว
อย่างไรก็ดี เพื่อให้ blog นี้มีอรรถรสครบถ้วน ผมจึงได้ขออนุญาตินำรูปของคุณ "AJAKE" แห่งพันธ์ทิพย์มาลงไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน ต้องขอขอบคุณคุณ AJAKE มากสำหรับรูปและขออภัยด้วยที่ไม่ได้ขออนุญาติให้เป็นกิจลักษณะครับ
เป็นถ้ำที่สวยงามมาก บาวช่วงงดงามอลังการเกินคำบรรยายอย่างที่เห็น
ศิลปะกรรมที่งดงามที่สุด ก็คือศิลปะที่ธรรมชาติสร้าง
นี่คือจุดไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของถ้ำ เวลาเราเดินต้องระวังอย่าไปสัมผัสหินงอกหินย้อยพวกนี้ เพราะมันจะไม่เจริญเติบโตต่อไปอีก ต้องช่วยกันครับ สิ่งเหล่านี้จะได้อยู่ให้ลูกหลานเราดูไปนาน ๆ
ภาพข้างล่างคือน้ำตกที่อยู่ภายในถ้ำ ซึ่งอยู่ท้ายถ้ำ น่าเสียดายว่าคณะของเราไม่สามารถเข้าไปถึงขนาดนั้นได้ เพราะเวลาล่วงเลยมาเย็นมากแล้ว อีกทั้งชาวคณะแต่ละคนก็อ่อนล้ามาก ถ้ายังฝืนเข้าไปอีก เกรงว่าออกมาจะมืดเกินไป จนเดินทางกลับลำบาก ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะเมื่อออกมาภายนอกถ้ำนั้นฝนตกค่อนข้างแรง และถ้าฝนตกเช่นนี้ ระดับน้ำในถ้ำจะขึ้นเร็วมาก เพราะน้ำจากข้างนอกระบายเข้าไป ถ้าขืนยิ่งช้าระดับน้ำจะขึ้นจนมิดหัว น่ากลัวและอันตรายมาก ๆ
เมื่อเราออกมาข้างนอกถ้ำนั้นฝนตกค่อนข้างแรง และอากาศเริ่มมืดแล้ว การจะเดินทางทางบกนั้นทำได้ค่อนข้างยาก เพราะดินลื่น เดินได้ช้า พรานตุ๋ยเกรงว่าจะมืดมากกว่านี้ เลยต้องผูกแพขึ้นเพื่อให้ชาวคณะล่องแพกันไป
ปรากฎว่าล่องไปได้สักพัก สายฝนยิ่งเทลงมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ระดับน้ำสูงขึ้นและเชี่ยวมากขึ้นเรื่อย ในตอนแรกนั้นผมไม่ได้เกาะแพไป เพราะแพค่อนข้างเล็กและจำนวนคนที่มาก ผมกะจะเดินล่องน้ำไปเรื่อย ๆ แต่ระดับน้ำที่สูงและเชี่ยวทำให้เกือบเอาชีวิตไม่รอดครับ เกือบจะถูกกระแสน้ำพัดพาไป เคราะห์ดีที่บริเวณใกล้เคียงมีโขดหินให้พอเกาะได้ และชาวคณะได้ย้อนแพกลับมารับ
เกือบตายแล้วครับ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกถึงความใกล้ตาย
เราจึงต้องเกาะแพรวมกันไปเรื่อย ๆ สิบกว่าคน สักพักเห็นท่าจะไม่ไหว เพราะคนมากเกินไป แพพาไปไม่ไหว ทำท่าจะล่มเอา พรานตุ๋ยก็ไม่อยู่ (แกล่วงหน้าเอาสัมภาระทั้งหมดไปทางบก เพราะคิดว่าพวกผมคงไปกันได้) เราจึงตัดสินใจแบ่งสมาชิกส่วนหนึ่งซึ่งยังพอจะเดินไหว ขึ้นไปทางบก ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นการเดินเท้าที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตผม สภาพทางเดินที่ลื่นมหาลื่นและสูงชัน กว่าจะผ่านแต่ละจุดมาได้ใช้เวลานานมาก บางจุดนั้นผมลื่นแล้วลื่นอีกเป็นสิบครั้งกว่าจะปืนขึ้นได้ ระยะทางเดินป่าแค่กิโลกว่า ๆ เราต้องใช้เวลาถึงชั่วโมงกว่าจะมาสบทบกับพวกที่มาแพณจุดนัดพบบรเวณกลางทาง ซึ่งพบว่าพวกเขามาถึงก่อนเรานานแล้ว
นี่เป็นภาพที่หน่วยกล้าตายของเราจับไว้ได้ครับ จากภาพจะเห็นแต่คนไม่เห็นแพเลย เพราะน้ำหนักของคนกดให้แพจมลงไปในน้ำ
แต่เราก็รอดกันออกมาได้ กว่าจะถึงก็ดึกดื่นสี่ห้าทุ่ม ในระหว่างนี้ไม่มีใครมีอารมณ์ที่จะถ่ายภาพแล้ว มืดก็แสนมืด หิวก็แสนหิว หนำซ้ำยังต้องเดินผ่านสถานที่ซึ่งล่ำรือกันว่าบอปดุอีก เล่นเอาขนหัวลุกกันไปเลย
กลับมาเจอที่นอนอันแสนจะอุ่นของบ้านพรานตุ๋ยแล้วค่อยยังชั่ว
ลืมบอกไปว่า หลวงพี่ตี๋ของเราถูกตะขาบกัดในระหว่างทางกลับด้วยครับ ปวดและทรมานมาก แต่ท่านก็ใจสู้เหลือหลาย อดทนเดินกลับมาได้ถึงรถยนต์
ขอบคุณพรานตุ๋ยผู้นำทางที่ยอดเยี่ยมและเอื้อเฟื้อที่พัก
ขอบคุณพี่แตนกับอาหารทุกมื้อที่แสนอร่อย
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่หน่วยมหาราชที่ติดรถมากับเรา และช่วยเราฝ่าฝันอุปสรรคจนออกจากทุ่งใหญ่มาได้
ขอบคุณคุณ AJAKE แห่งพันธ์ทิพย์ที่เอื้อเฟื้อรูปถ้ำน้ำตก
ขออภัยเจ้าหน้าที่อุทยานลำคลองงูและเจ้าของที่ดินทางผ่านถ้ำน้ำตกที่เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
Create Date : 12 ธันวาคม 2549
Last Update : 15 ธันวาคม 2549 9:19:12 น.
9 comments
Counter : 2583 Pageviews.
Share
Tweet
เราผ่านมากันได้ยังไงเนี่ย !!
โดย: อนิจจัง IP: 58.136.50.26 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:19:17:49 น.
เห็นแล้วเสียวแทนเลย
โดย: คนผ่านมา IP: 58.10.71.48 วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:9:19:40 น.
โดย: ก้านหลิว IP: 58.10.21.50 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:42:21 น.
แล้วเก็บภาพประทับใจมาฝากอีกนะ จะติดตามทริปต่อไปคะ
โดย: สุดขอบฟ้า IP: 58.10.21.50 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:47:01 น.
โดย: นุ IP: 203.118.105.110 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:17:20:26 น.
อยากถามพี่ๆเหลือเกินว่าเมื่อไหร่จะไปทะเล
โดย: นุ้ย IP: 203.118.105.110 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:17:22:12 น.
5555+ดูแล้วฮามากเลย
บ้านเราเองปัยกันดั้ยงัยก่อมั้ยหรุ
ถ้านึกดั้ยคงมั้ยปัยโน๊ะ!!!!!!!--*
โดย: เปนต่อ IP: 110.164.49.162 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:21:10:16 น.
แย่จังนะคะ เข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่น่าทำแบบนี้เลย
โดย: ws IP: 203.144.174.21 วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:50:25 น.
asdddddzxsadxzdad
โดย: mark IP: 27.130.6.163 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:32:51 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เจ้าเมืองไคฟง
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
ระแนงไม้
Webmaster - BlogGang
[Add เจ้าเมืองไคฟง's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.